ฟิลเลอร์สะโพก แก้สะโพกบุ๋ม เว้า
ฟิลเลอร์สะโพก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแก้ปัญหาสะโพกบุ๋มหรือปรับแต่งรูปทรงสะโพกให้สวยงามตามความต้องการได้ครับ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หรือศัลยกรรมสะโพกเป็นการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากในฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการให้สะโพกผาย ดูเป็นทรงเวลาใส่ชุดรัดรูป
จริง ๆ แล้วการมีสะโพกบุ๋มเป็นเรื่องปกติของร่างกายมนุษย์ครับ จากการที่กระดูกเชิงกรานมีความโค้งเข้าไปเล็กน้อยบริเวณสะโพก ทำให้เห็นเป็นรอยบุ๋ม แต่สำหรับใครที่กังวล อยากแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ต้องเลือกหัตถการที่มั่นใจและดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในบทความนี้หมอมีข้อแนะนำมาฝากครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์สะโพก
ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ?
ฟิลเลอร์สะโพก (Hip Fillers) คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณสะโพกเพื่อเพิ่มขนาด และปรับรูปทรงสะโพกให้สวยงามโดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์สะโพกเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างสะโพก เช่น แก้ไขสะโพกบุ๋ม (Hip Dip) หรือเพิ่มความโค้งเว้าของสะโพกให้ดูสมส่วนมากขึ้น
ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
การฉีดฟิลเลอร์สะโพกสามารถทำได้อย่างปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม ในคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ สำหรับข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดสะโพกได้แก่
- ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย.
- ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย
- ฟิลเลอร์ไม่ถาวร อยู่ได้ประมาณ 1 ปี (ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่ใช้)
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะฉีดฟิลเลอร์สะโพกใช้หลาย CC
- ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ เช่น อาการบวมช้ำ การฉีดฟิลเลอร์โดนเส้นเลือด
บริเวณสะโพกจะมีเส้นประสาท Sciatic Nerve ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ใหญ่และยาวที่สุดในร่างกาย มีความสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวและรับความรู้สึกของขา ในการฉีดฟิลเลอร์สะโพกแพทย์ต้องระมัดระวังในการฉีดจุดนี้ เพื่อไม่ให้โดนเส้นประสาทสำคัญและทำให้เกิดอันตรายกับคนไข้
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? คำถามที่ทำให้หลายคนยังลังเลจะฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ?
ก่อนอื่นมาดูสาเหตุหลักที่ทำให้สะโพกบุ๋มกันก่อนครับ
- โครงสร้างกระดูก : เกิดจากลักษณะของกระดูกเชิงกรานและกระดูกต้นขา ซึ่งส่งผลให้บริเวณนี้มีช่องว่างหรือรอยบุ๋มตามธรรมชาติ
- การกระจายตัวของไขมัน : ปริมาณไขมันใต้ผิวหนังในบริเวณสะโพกอาจมีน้อย ทำให้มองเห็นรูปร่างกระดูกที่เด่นชัดขึ้น
- กล้ามเนื้อ : การมีกล้ามเนื้อในบริเวณต้นขาและสะโพกที่แข็งแรงมาก อาจมีผลต่อการมองเห็นสะโพกบุ๋มมากขึ้น
จะเห็นว่าสาเหตุของสะโพกบุ๋มจะมาจากการเกิดช่องว่างของกระดูกและปริมาณไขมันที่น้อย ทำให้เห็นเป็นรอยเว้า ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวเข้าไปก็จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายนี้ได้
โดยการฉีดฟิลเลอร์สะโพก จะฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีรอยบุ๋มหรือจุดที่ต้องการเพิ่มปริมาณ เพื่อสร้างความโค้งเว้าให้สมส่วนขึ้น เช่น แก้ไขสะโพกบุ๋มให้ดูเต็ม เรียบเนียน และยังสามารถเพิ่มขนาดของสะโพกตามความต้องการได้ครับ
แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน
การฉีดฟิลเลอร์สะโพกเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและปรับรูปทรงสะโพกให้มีความโค้งเว้ามากขึ้น โดยแพทย์จะฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าไปในบริเวณที่เว้า เพื่อให้สะโพกดูเต็มและเนียนขึ้น
Hip Dip คือ ลักษณะของสะโพกที่มีรอยบุ๋มหรือเว้าด้านข้างระหว่างกระดูกสะโพก (Pelvis) กับต้นขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากโครงสร้างกระดูกและการกระจายตัวของไขมันในร่างกาย คนที่มี Hip Dip จะมีช่วงเอวและสะโพกที่ไม่เชื่อมต่อกันทำให้ดูเหมือนมีรอยเว้าเกิดขึ้น บางคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจในการแต่งตัว โดยเฉพาะเวลาสวมกางเกงรัดรูปหรือบิกินี่
ลักษณะของ Hip Dip ไม่ได้เกิดจากไขมันส่วนเกินหรือความอ้วน แต่ขึ้นอยู่กับโครงสร้างกระดูกเชิงกรานของแต่ละบุคคล การออกกำลังกายแม้จะช่วยเสริมกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาและสะโพกให้แข็งแรง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดรอยเว้าหรือ Hip Dip ได้ทั้งหมด ทำให้การ ฉีดฟิลเลอร์สะโพก ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตก และกำลังถูกพูดถึงมากขึ้นในประเทศไทยเช่นกันครับ
ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
- สะโพกบุ๋ม สะโพกเว้า
- สะโพกแบน ไม่มีวอลลุ่ม
- สะโพกไม่สมมาตร
- สะโพกหย่อนคล้อย
- ก้นแบน ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง
ฟิลเลอร์สะโพก เหมาะกับใครบ้าง ?
ฟิลเลอร์สะโพก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาสะโพกบุ๋มหรือเพิ่มความโค้งเว้าให้สะโพกดูสมส่วน รูปร่างสวยงามขึ้น โดยที่ไม่ต้องการผ่าตัดและพักฟื้นนาน รวมถึงต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์สะโพกต้องใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผล ?
การฉีดฟิลเลอร์สะโพก เป็นจุดที่ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ค่อนข้างมากครับ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 10-30 CC ต่อข้าง หรืออาจมากถึง 400 cc ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคน ถ้ามีปัญหาสะโพกบุ๋มมาก ๆ ก็ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากขึ้นครับ
ฟิลเลอร์สะโพก vs การผ่าตัดเสริมสะโพก ข้อแตกต่างที่ควรรู้
เมื่อพูดถึงการปรับรูปทรงสะโพกให้ดูโค้งเว้าและสมส่วน หลายคนอาจลังเลระหว่าง การฉีดฟิลเลอร์สะโพก กับ การผ่าตัดเสริมสะโพก ซึ่งทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกันครับ ดังนั้น การเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาตามความต้องการ งบประมาณ และความพร้อมของร่างกายเป็นหลัก
ฟิลเลอร์สะโพก | ผ่าตัดเสริมสะโพก |
---|---|
|
|
การเลือกระหว่าง ฟิลเลอร์สะโพก และ การผ่าตัดเสริมสะโพก ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล หากต้องการปรับรูปทรงสะโพกให้เป็นธรรมชาติและไม่ต้องพักฟื้น ฟิลเลอร์สะโพกก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากต้องการเพิ่มขนาดสะโพกในระยะยาวและไม่กังวลเรื่องการพักฟื้น การผ่าตัดเสริมสะโพกก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมครับ
นอกจากฟิลเลอร์สะโพกและการผ่าตัดเสริมสะโพก ยังมีการฉีดไขมันสะโพกซึ่งเป็นการใช้ไขมันจากร่างกายของคนไข้เองมาฉีดเติมเต็มบริเวณสะโพก ช่วยลดความเสี่ยงจากการแพ้ แต่ก็นับเป็นการผ่าตัดที่ต้องพักฟื้นครับ คนไข้ต้องมีปริมาณไขมันเพียงพอสำหรับดูดมาใช้ และไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจสลายไม่สม่ำเสมอ ทำให้ทรงสะโพกไม่สวยครับ
ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผลหลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก ?
หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพกเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ สะโพกจะดูเต็มและมีความโค้งเว้ามากขึ้น อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด เป็นเรื่องปกติและจะค่อย ๆ ลดลงไปเอง เข้าที่ 100% ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ (ระหว่างนี้ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ฟูขึ้น และเข้ารูปทรงตามที่หมอได้ออกแบบไว้)
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ฉีดกี่วันเห็นผล และควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์สะโพกแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์สะโพกจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองของคนไข้ หากรู้สึกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลายสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ครับ
ข้อดี-ข้อเสีย ฟิลเลอร์สะโพก
ข้อดีของฟิลเลอร์สะโพก | ข้อเสียของฟิลเลอร์สะโพก |
---|---|
|
|
สำหรับราคาฟิลเลอร์สะโพก จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้และเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ ปกติแล้วในจุดที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงก็จะมีราคาสูงขึ้น สามารถดูราคาฟิลเลอร์คร่าว ๆ ในที่บทความ ฟิลเลอร์ ราคา เท่าไหร่ ? โปรโมชั่นฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ
มีผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์สะโพกหรือไม่ ?
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์สะโพกหมอจะแบ่งเป็น 2 แบบครับ คือผลข้างเคียงที่พบได้ปกติและผลข้างเคียงที่อันตราย
ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์สะโพก เช่น อาการบวม รอยช้ำ รอยเข็ม ผิวแดง รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองเล็กน้อย
ส่วนผลข้างเคียงที่อันตราย จะเกิดจากการใช้ฉีดฟิลเลอร์สะโพกที่ไม่ถูกต้อง อาจฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ใช่หมอจริงหรือหมอไม่มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ เช่น การติดเชื้อจากกระบวนการฉีดไม่ถูกต้องตามหลักสุขอนามัย ฟิลเลอร์ไหล สะโพกไม่สมมาตรหรือผิดรูป หรือเกิดการอุดตันของเส้นเลือด ทำให้เกิดอันตรายได้ หากพบปัญหาเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันทีครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์สะโพก เจ็บไหม ?
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์สะโพกจะไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ แต่ก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวระหว่างฉีดได้ครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความไวของผิวแต่ละคน และ ทักษะของแพทย์ โดยปกติก่อนฉีดฟิลเลอร์สะโพกหมอจะมีการฉีดยาชาให้ก่อน ดังนั้นคนไข้ไม่ต้องกลัวเจ็บครับ
ฟิลเลอร์สะโพกเหมาะสำหรับแก้ปัญหาก้นหย่อนคล้อยหรือไม่ ?
เมื่อพูดถึงปัญหาก้นหย่อนคล้อย (Sagging Buttocks) หลายคนอาจสงสัยว่าฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน ? คำตอบคือขึ้นอยู่กับระดับความหย่อนคล้อยและสาเหตุของปัญหา
หากก้นหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือขาดความกระชับเนื่องจากไขมันลดลงตามอายุหรือการลดน้ำหนัก ฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มวอลลุ่มและยกกระชับสะโพกได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ที่มีก้นหย่อนคล้อยอย่างชัดเจนจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว ฟิลเลอร์อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเต็มที่ครับ
สำหรับคนไข้ที่สนใจแก้ปัญหาก้นหย่อนคล้อยด้วยการฉีดฟิลเลอร์ก้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนครับ เพราะแต่ละคนอาจจะมีสาเหตุของปัญหาที่แตกต่างกัน และเหมาะกับวิธีที่แตกต่างกัน
สรุป ฟิลเลอร์สะโพกคือทางเลือกที่ดีที่สุดจริงไหม ?
ฟิลเลอร์สะโพก ถือเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงสะโพกอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่าหรือแก้ปัญหาสะโพกหย่อนคล้อยอย่างถาวร อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่นร่วมด้วยครับ ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาให้ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล