หน้าหมองคล้ำ
สำหรับคนที่มองหาวิธีแก้ผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแพ้ง่าย ต้นเหตุปัญหาทำหน้าโทรม ไม่สดใส ในบทความนี้หมอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงแนวทางการรักษา แก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ทั้งวิธีธรรมชาติ และวิธีทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ “ฉีดเมโสหน้าใส” ที่คนไข้ถามถึง ดีอย่างไร? ช่วยอะไรได้บ้าง? ทำไมถึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
หรือใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำจากแดด จากมลภาวะหรือสารเคมีในเครื่องสำอาง มีปัญหาผิวแพ้ง่าย สิวขึ้นบ่อย ๆ ก็สามารถติดตามอ่านได้ เพื่อทราบแนวทางการแก้ไขปัญหา วิธีไหนเห็นผลเร็ว วิธีไหนแก้ได้ตรงจุด ติดตามอ่านได้เลยครับ
7 สาเหตุของหน้าหมองคล้ำ เกิดจากอะไร ?
ก่อนที่จะรู้วิธีการแก้ไข หมออยากให้คนไข้รู้สาเหตุหลักของปัญหาผิวโทรม หน้าหมองคล้ำไม่มีราศี ว่าจริง ๆ แล้วเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง เพื่อที่จะแก้ไขได้อย่างตรงจุด สามารถดูแลฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดีขึ้นได้ โดยไม่กลับมาหมองคล้ำซ้ำ ๆ จนเสียความมั่นใจ พร้อมแนะนำวิธีแก้หน้าหมองคล้ำแบบธรรมชาติ ที่คนไข้สามารถปฎิบัติตามได้ง่าย ๆ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงครับ
1. ผิวหน้าหมองคล้ำจากแดด
สาเหตุแรกและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ คือ ผิวหมองคล้ำจากแดด ที่ทำให้ใบหน้าและผิวพรรณดูโทรม ไม่สดใส เนื่องจากผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวจากการได้รับแสงแดดมากเกินไป รวมถึงรังสี UV ที่ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาล ทำให้หน้าคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
จากการซักประวัติคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาเรื่องผิวหน้าหมองคล้ำ พบว่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยทาครีมกันแดดกันครับ หรือทาแค่ครั้งเดียวตอนแต่งหน้าออกจากบ้าน ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการปกป้องผิวจากรังสีUV เพราะครีมกันแดดส่วนมากจะปกป้องผิวได้ในช่วง 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้น
ดังนั้นหากต้องออกแดดระหว่างวัน หมอแนะนำให้ทาครีมกันแดดครับ หากไม่สะดวกแบบครีม ปัจจุบันมีกันแดดแบบสเปรย์ เป็นอีกตัวช่วย ป้องกันปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ปัญหาฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และริ้วรอยได้อีกทางหนึ่งครับ
2. อายุที่เพิ่มขึ้นทำผิวเสื่อมสภาพ หมองคล้ำ
อายุที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำครับ จากการเสื่อมสภาพของผิว ทั้งคอลลาเจนและอีลาสติน รวมไปถึงผิวเริ่มผลัดเซลล์ช้าลง ส่งผลให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยและฝ้า และผิวเริ่มหย่อนคล้อยมากขึ้นด้วย
โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนช่วงอายุ 30 ปี ขึ้นไป หากใครที่อยู่ในช่วงวัยนี้ และต้องเผชิญกับแสงแดด แต่ป้องกันผิวได้ไม่ดีพอ ก็จะมีโอกาสเสี่ยงเกิดฝ้าได้ง่ายครับ
เพื่อชะลอริ้วรอยก่อนวัย ลดความหมองคล้ำ ในช่วงวัยนี้หมอแนะนำเรื่องการยกกระชับหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการเวียนโลหิตให้ดีขึ้น ช่วยให้ดูอ่อนวัยลง และควรดูแลเอาใจใส่ทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะเรื่องของการรับประทานอาหาร
อ่านบทความเพิ่มเติม : ยกกระชับใบหน้าง่าย ๆ ด้วย 3 วิธี แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย หมองคล้ำตรงจุด
3. ดื่มน้ำน้อย ไม่รับประทานผักผลไม้
การดื่มน้ำและรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ การดื่มน้ำไม่เพียงพอและรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์มาก ๆ รวมถึงไม่รับประทานผักผลไม้ จะทำให้เกิดปัญหาผิวมากมาย เช่น หน้าคล้ำ โทรม ผิวขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน ผิวเหี่ยวย่น ไม่สดใส โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ฝรั่ง มะละกอ สับปะรด เป็นต้น
4. นอนดึก นอนไม่เป็นเวลา ทำผิวโทรม
ใครนอนดึก พักผ่อนที่ไม่เพียงพอ มีผลทำให้ผิวโทรม และหมองคล้ำได้ครับ เพราะร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมน Melatonin (ฮอร์โมนที่ช่วยในการซ่อมแซมและดูแลร่างกาย) ในช่วงเวลาที่เราหลับสนิท โดยเฉพาะในช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. หากคนไข้นอนดึก อดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลาในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนทำงาน ก็จะทำให้ผิวไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่สดใส ผิวหมองคล้ำ ตาคล้ำ แลดูแก่ก่อนวัยได้ครับ
5. สภาพอากาศ
สภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียได้ โดยเฉพาะสภาพอากาศที่หนาวเย็นหรือแห้งมาก เช่น การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ในห้องมีความชื้นต่ำ จะทำให้ผิวแห้ง แตก เป็นขุย หน้าคล้ำลง รวมไปถึงปัญหาผิวลอก แพ้ง่ายและผิวหนังอักเสบครับ
ดังนั้นในช่วงฤดูหนาว หรือต้องอยู่ในสภาพอากาศเย็น ๆ ควรงดผลิตภัณฑ์ประเภทการผลัดเซลล์ผิว แล้วมาเน้นที่การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเป็นหลักแทนครับ โดยเลือกใช้ครีมที่เน้นการอุ้มน้ำในผิว เช่น กลีเซอรีน (Glycerine) โจโจ้บาออยล์ (Jojoba oil) หรือ เซรามายด์ (Ceramide) เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ และแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งระคายเคืองมากขึ้น
6. ไม่สครับผิวหน้า หรือ ผลัดเซลล์ผิว
ปัญหาผิวหมองคล้ำส่วนหนึ่งอาจมาจากมีเซลล์ผิวเก่าตกค้างบนผิว จนเกิดการสะสม ทำให้ผิวหมองคล้ำ หยาบกร้าน รูขุมขนกว้าง และดูดซึมครีมบำรุงได้ไม่ดี การสครับผิวหน้าจึงเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ผิวหน้าจึงดูสดใสขึ้น และเป็นการเปิดทางให้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึมซาบเข้าสู้ผิวได้ดีขึ้นครับ
แนะนำให้สครับผิวสัปดาห์ละครั้งครับ แต่มีข้อควรระวังคืออย่าขัดถูแรง หรือทำบ่อยจนเกินไป เพราะอาจเป็นการทำร้ายผิว ทำผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากเกินไป
นอกจากการสครับผิวแล้ว คนไข้อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ที่มีผสมของ Vitamin C หรือ AHA ก็จะช่วยให้ใบหน้าขาวใส ไม่หมองคล้ำครับ แต่ต้องระวังอีกเช่นกัน โดยควรระวังผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีอันตรายบางอย่างที่เป็นส่วนผสมครับ อาจมีสรรพคุณช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริง แต่หากใช้ปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยไหม้ รอยแดง ผื่นแพ้ และหน้าคล้ำ
รายชื่อสารที่อย. ประกาศห้ามใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ได้แก่
- สารปรอท
- สารไฮโดรควิโนน
- สเตียรอยด์
- กรดเรติโนอิก
7. ความเครียด
ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองมาก หน้าโทรม ผิวคล้ำ ที่หลายคนมักมองข้ามครับ ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงเมื่อมีความเครียด จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตไขมันออกมามากขึ้น เป็นสาเหตุของการเกิดสิว เกิดจุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ แนะนำให้พยายามลดความเครียดลง หาวิธีผ่อนคลายสมอง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่หมอแนะนำคือการนอนครับ
เมื่อรู้ถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ใบหน้าคล้ำ ไม่มีราศี ดูโทรมแล้ว หมออยากให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว และหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น โดยหมอมี 6 วิธีแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใสได้เร็วขึ้น มาแนะนำเพิ่มเติมครับ
วิธีที่ 1. ทำความสะอาดผิวหน้า
การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด เป็นวิธีพื้นฐานแต่มีความสำคัญมาก ห้ามละเลยเด็ดขาด ต่อให้กลับจากทำงานเหนื่อยแค่ไหน ก็ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอนครับ และจากที่หมอได้พูดคุยกับคนไข้หลาย ๆ คนที่เข้ามาปรึกษา พบว่ามีการแต่งหน้า ลงรองพื้น ทุกวันครับ ดังนั้นหากไม่ทำความสะอาด จะส่งผลให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า รวมถึงทิ้งสิ่งสกปรกลงบนหมอนที่นอน เมื่อสะสมนานวันเข้า ก็จะเกิดสิวและการอุดตันของรูขุมขน ตัวการทำผิวหน้าหมองคล้ำครับ
วิธีทำความสะอาดผิวหน้าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางโดยตรงครับ จากนั้นถึงล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง และควรใช้โทนเนอร์เช็ดผิวเพื่อลดความแห้งตึงของผิว หมอแนะนำให้ใช้โทนเนอร์ที่ไม่แอลกอฮอล์ จากนั้นค่อยทาครีมบำรุงครับ
วิธีที่ 2. ทาครีมบำรุงผิวหน้า
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี และบำรุงผิวเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้นได้ แนะนำให้เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ได้มาตรฐาน ผ่านการทดสอบและได้รับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้วว่าปลอดภัยกับผิว โดยเฉพาะครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA , Vitamin C หรือ Retinoid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าดูสว่างครับ
วิธีที่ 3. พอกหรือมาส์กหน้า
การมาส์กหน้า หรือพอกหน้า เป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวหน้า ที่สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัน ช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดี ผิวหน้าจึงดูสว่างใสขึ้น สามารถทำได้ทั้งสูตรธรรมชาติ ที่มีการแชร์ข้อมูลอย่างกว้างขวาง ทั้งน้ำผึ้ง แตงกวา มะเขือเทศ โยเกิร์ต ใช้ได้หมดครับ ข้อดีคือช่วยคืนความสดชื่นให้ผิวได้ทันทีหลังทำ ส่วนใครที่มีเวลาน้อย ต้องการความสะดวกสบาย ปัจจุบันมีแผ่นมาส์กหน้า หรือครีมมาส์กวางขาย หลายหลายยี่ห้อ แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของโคลนเบนโทไนท์ที่มีคุณสมบัติขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอกสุดได้ด้วย
วิธีที่ 4. วิตามินอาหารเสริม
การรับประทานวิตามินอาหารเสริม มีผลช่วยให้ผิวดูขาวใสได้ครับ โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งกระจ่างใสขึ้น
นอกจากนี้ยังมีวิตามินในกลุ่มบำรุงผิวเช่น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape seed extract) คอลลาเจน (collagen) โคเอนไซม์คิวเทน (coenzyme q 10) เป็นต้น โดยควรเลือกรับประทานยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมี อย. ที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น
ส่วนวิตามินจากอาหารก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะวิตามินซีจาก ผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น ส้ม มะละกอ สตรอเบอร์รี่ มันเทศและมะพร้าว เป็นต้น ใครต้องการบริโภควิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ดีก่อนเสมอ รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
วิธีที่ 5. ลอกหน้าด้วยเลเซอร์
ลอกหน้าด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการรักษาผิวหน้าที่ค่อนข้างรุนแรงกว่าวิธีอื่น ๆ โดยแพทย์จะใช้เลเซอร์ลอกผิวหน้าเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน โดยความร้อนจากเลเซอร์ จะทำให้มีการลอกผิวหนังชั้นกำพร้าและส่วนบนของหนังแท้ใหม้หลุดออกไป และเกิดจากหดตัวของ collagen fiber ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ทั้งรอยย่น รอยหลุม จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ ดูจางลง จึงช่วยให้ผิวหน้าที่โทรมและหมองคล้ำกลับมาสดใสอีกครั้ง
วิธีที่ 6. ฉีดเมโสหน้าใส
การแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำด้วย “เมโสหน้าใส” เมโสหน้าใสเป็นทางลัดที่ช่วยนำสารบำรุงต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ ให้เข้าสู่ชั้นผิวได้โดยตรง ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ไวขึ้น เห็นผลชัดเจนขึ้น แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ หน้าโทรม ผิวแห้ง แพ้ง่าย ต่างจากการบำรุงด้วยครีมหรือสครับเพียงอย่างเดียวที่กว่าจะเห็นผล ต้องใช้เวลาเป็นเดือนและต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการดูแลตัวเองครับ
- สูตรเน้นหน้าขาว แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ
ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำจากแดด มลภาวะหรือสารเคมี มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆ ที่ทำให้หน้าขาวขึ้น เช่น vitamin ABCE, Transamin, Glutatione
- สูตรเน้นหน้าใส
เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน และโคเอนไซม์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวฟูขึ้น กระชับรูขุมขน หน้าสดใส ไม่โทรม
- สูตรเน้นลดสิว-แก้ผื่น
สูตรนี้จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก แก้ปัญหาผิวแพ้ง่าย เพิ่มคอลลาเจนที่ช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง จึงลดสิวได้ และเมโสยี่ห้อที่มีจุดเด่นด้านนี้ คือ มาเด้ คอลลาเจนครับ
หากตัดสินใจฉีดเมโสหน้าใสเพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าแล้ว ไม่ควรเลือกฉีดสุ่มสี่สุ่มห้า ควรปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ว่าอยากแก้ปัญหาอะไร อยากแก้เรื่องหน้าคล้ำ ผิวแพ้ง่าย สิวหรือรูขุมขน เพื่อให้แพทย์ประเมินและเลือกสูตรเมโสหน้าใส ที่เหมาะกับผิวของคนไข้มากที่สุดครับ
บทความเพิ่มเติม
โปรแกรม เมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน
Mobile
ฉีดเมโสหน้าใส รักษาหน้าหมองคล้ำที่ไหนดี ?
การฉีดเมโสหน้าใส ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นเหมือนการให้อาหารผิวโดยการฉีดสารบำรุงที่มีประโยชน์ ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดความหมองคล้ำได้เป็นอย่างดี
จึงมีคนขายตัวเมโสหน้าใส ในอินเตอร์เน็ต หรือรับฉีดเมโสหน้าใสราคาถูก โดยไม่ใช่แพทย์ ซึ่งอันตรายมาก ๆ ครับ เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ตัวยา ติดเชื้อ อักเสบรุนแรง เสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นถาวรได้ครับ
ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดเมโสหน้าใส รักษาใบหน้าหมองคล้ำที่ไหน หมออยากให้ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ราคาสมเหตุสมผล ควรตรวจสอบตัวยาและกล่องยาก่อนฉีดทุกครั้ง
สำหรับที่ V Square Clinic มีการสั่งซื้อตัวยาอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ 5-10 ปี สามารถประเมินผิวหน้าและเลือกสูตรเมโสหน้าใสเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมครับ
บทความแนะนำ
ราคาเมโสหน้าใส แต่ละสูตร ที่ V Square Clinic
-
มาเด้ คอลลาเจน (MADE )
1 ครั้ง ราคา 2,500.-
คอร์ส 5 ครั้งเหลือเพียง 9,900.- -
Filorga (Fillmed)
1 ครั้ง ราคา 9,000.-
คอร์ส 5 ครั้งเหลือเพียง 39,000.- -
Revs
1 ครั้ง ราคา 6,000.-
คอร์ส 5 ครั้งเหลือเพียง 25,000.- -
Neo Glutanex Glow /Tensonez / Alpha arbutin
1 ครั้ง ราคา 3,500.-
คอร์ส 5 ครั้งเหลือเพียง 15,000.-
ราคาวิตามินฉีดผิวขาวที่ V Square Clinic
- รายครั้ง ครั้งละ 2,500.-
- ชุดการรักษา 5 ครั้ง ราคา 9,900.-
สรุป
หน้าหมองคล้ำอาจเป็นปัญหากวนใจที่มักเกิดขึ้นหลังผิวหน้าเผชิญกับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ เช่น แสงแดด หรืออากาศหนาว หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่นในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด การสูบบุหรี่ หรือความเครียด อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอ หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ทางการแพทย์ในปัจจุบันอาจช่วยแก้ไขปัญหาหน้าหมองคล้ำให้ผิวหน้ากลับมาขาวใสได้อีกครั้ง
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส