หน้าโทรม
กู้หน้าโทรม! แบบเร่งด่วน! นอนน้อย หน้าหมองคล้ำ แก้ไขได้
“หน้าโทรม” ไม่สดใส ปัญหาผิวหน้าที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ในบางครั้งก็เลี่ยงได้ยากครับ ทั้งหน้าโทรมจาก ผิวหมองคล้ำ สิวขึ้น มีฝ้า กระ มีริ้วรอยจุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าแห้ง ซึ่งมีที่มาจากหลายสาเหตุ
แน่นอนว่า พอหน้าโทรมก็ยิ่งดูแก่ขึ้นครับ ใครที่กำลังกังวลใจ และอยากแก้ไขบำรุงหน้าโทรมให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ในบทความนี้หมอได้อธิบายแนวทางแก้ไข พร้อมบอกสาเหตุของปัญหาหน้าโทรม ว่าเกิดจากอะไร เพื่อวางแผนเข้ารับการแก้ไขได้ตรงจุดครับ
สารบัญ หน้าโทรม
- หน้าโทรม เกิดจากสาเหตุอะไร
- วิธีแก้ไขปัญหาหน้าโทรมไม่สดใส
- บอกลาหน้าโทรม ด้วย “เมโสหน้าใส”
- “ฉีดโบท็อก” ลดริ้วรอย แก้ปัญหาหน้าโทรม
- Hifu ยกกระชับหน้าแก้หน้าโทรม
- “ฉีดฟิลเลอร์” ปรับรูปหน้า แก้ปัญหาหน้าโทรม
- ทรีทเม้นท์ แก้ปัญหาหน้าโทรม บำรุงผิวล้ำลึก
- PRP หน้าใส แก้ปัญหาหน้าโทรมด้วยเกล็ดเลือดตัวเอง
- เลเซอร์หน้าใส แก้ปัญหาหน้าโทรม เผยผิวกระจ่างใส
- วิตามิน แก้หน้าโทรม บำรุงผิวล้ำลึกจากภายในสู่ภายนอก
- มาสก์หน้า แก้ปัญหาหน้าโทรม บำรุงผิวอิ่มน้ำในข้ามคืน
- แต่งหน้า แก้ปัญหาหน้าโทรม
- ผลัดเซลล์ผิวหน้า แก้ปัญหาหน้าโทรม ลดจุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
- ครีมบำรุงผิว/เซรั่ม แก้ปัญหาหน้าโทรม บำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี
- วิธีกู้หน้าโทรมง่าย ๆ แบบเห็นผลยั่งยืน มีวิธีไหนบ้าง ?
- วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
หน้าโทรม เกิดจากสาเหตุอะไร
- แสงแดด : เป็นตัวการสำคัญในการทำหน้าโทรม ทำร้ายผิวให้หมองคล้ำเกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ สิวขึ้น และทำร้ายลึกถึงโครงสร้างผิวชั้นใน คอลลาเจนและความชุ่มชื้น จนโครงสร้างผิวชั้นในเสียสมดุลใครที่ออกแดดบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ผิวหน้าโทรมเร็ว มีความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย แก่ก่อนวัย
- นอนน้อยหน้าโทรม ไม่สดใส : คนไหนที่นอนน้อย นอนดึกเป็นประจำ นอกจากจะรู้สึกไม่สดชื่นแล้ว ระวังผิวหน้าโทรมเร็วครับ เพราะการนอนน้อย นอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายเสียสมดุลการนอนหลับอย่างเพียงพอ ช่วยให้ร่างกายมีเวลาสร้างคอลลาเจน และขณะเดียวกันหากเรานอนหลับอย่างมีคุณภาพ หลับลึก ร่างกายเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ซึ่งข้อดีของโกรทฮอร์โมนคือช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวส่วนที่สึกหรอให้กลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้น ไม่หมองคล้ำ
- สิวขึ้นหน้าโทรม :ปัญหา สิวขึ้น ผิวแพ้ง่าย อาจเกิดสิวที่ฮอร์โมน ความเครียด กรรมพันธุ์ หรือการแพ้เครื่องสำอาง หรือการขัดหน้า รบกวนผิวหน้าบ่อยๆ โดยทั่วไปสิวสามารถหายเองได้ แต่บางครั้งเมื่อหายแล้ว อาจทิ้งรอยดำไว้ ทำให้ใบหน้าไม่สดใส
- ความเครียด : เมื่อเราเผชิญกับความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนCortisol ออกมาครับ ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากจนทำให้เกิดสิวขึ้น ซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวหน้าโทรม ผิวหมองคล้ำ
- สภาพแวดล้อมและอากาศ: อากาศที่หนาวเย็นจะดูดซับความชุ่มชื้นไปจากผิว ในที่นี้หมายรวมถึงการอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานานด้วยครับ ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้ง และแตกเป็นขุยได้ ส่งผลให้หน้าหมองคล้ำ ผิวหน้าโทรมลงได้
- ดื่มน้ำไม่เพียงพอ : น้ำช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น หากร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ จะทำให้ผิวแห้งกร้าน หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส นอกจากทำหน้าโทรมแล้วยังอาจเกิดอาการอื่นๆ ตามมา เช่น ปวดศีรษะ ไม่มีสมาธิ ดูไม่มีชีวิตชีวา
- อายุมากขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้นก็จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงได้ครับ จึงดูผิวหน้าโทรม เพราะผิวหน้าเริ่มมีริ้วรอย ไม่กระชับ เกิดความหย่อนคล้อย บางรายมีฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำลง รวมถึงโครงสร้างกระดูกเกิดการทรุดตัว ทำให้เกิดปัญหาเบ้าตาลึก ขมับตอบลงได้
วิธีแก้ไขปัญหาหน้าโทรมไม่สดใส
ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยปัญหาผิวหน้าโทรม ให้กลับมาสดใส มีทั้งวิธีกู้หน้าโทรมแบบธรรมชาติ และวิธีกู้หน้าโทรมด้วยหัตถการทางการแพทย์ ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะกับสาเหตุที่มาของปัญหาหน้าโทรมในแต่ละบุคคล ดังนี้
1.“เมโสหน้าใส” บอกลาหน้าโทรม
เมโสหน้าใส คือ ทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก มาทำให้สามารถฉีดเข้าในชั้นผิวได้โดยตรง และออกฤทธิ์ไวขึ้น จากปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือน ทำให้แก้ปัญหาหน้าโทรมได้เร็ว โดยเริ่มเห็นผลได้ใน1อาทิตย์หลังฉีดครับ ผิวหน้าจะขาวใสและเรียบเนียนขึ้น
เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง
- นอนน้อย ทำงานหนัก
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพผิว เช่น มีปัญหาสิวขึ้นเรื้อรัง ผิวแพ้ง่าย ผิวไม่แข็งแรง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งไม่ชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง เป็นต้น
เมโสหน้าใสเป็นหัตถการมีความปลอดภัยครับ เนื่องจากตัวยาที่ฉีดเข้าไปเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผิว จำพวกวิตามินช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใส
ในกรณีที่ผิวมีปัญหาผิวหน้าโทรมมากๆ และต้องกู้ผิวหน้าแบบเร่งด่วนก็สามารถฉีดถี่ขึ้น 3 วัน/ครั้งได้ด้วย ซึ่งแนะนำว่าก่อนฉีดควรปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นของตนเองกับแพทย์ เพื่อประเมินก่อนว่าเหมาะกับการใช้ยาตัวไหน สูตรใดครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใสคืออะไร? อันตรายหรือไม่? ข้อควรรู้ก่อนทำเมโสหน้าใส [ อัพเดท 2024 ]
โปรแกรม เมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน
Mobile
2. “ฉีดโบท็อก” ลดริ้วรอย แก้ปัญหาหน้าโทรม
ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เป็นอีกต้นเหตุของปัญหาหน้าโทรมครับ ในคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไปคอลลาเจนและไขมันเริ่มลดลง จึงเกิดริ้วรอยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้ง ยิ่งผิวแห้งมาก รอยยับจากการแสดงอารมณ์สีหน้า ยิ่งเกิดขึ้นได้ง่ายครับ ทั้งริ้วรอยหางตา, รอยขมวดคิ้ว, หน้าผาก ซึ่งจุดพวกนี้ล้วนทำให้ดูหน้าโทรม และหน้าแก่ก่อนวัยครับ
(ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ แก้ปัญหาผิวหน้าโทรม)
ถ้าอยากลดริ้วรอย การฉีดโบท็อก จะช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ลดรอยเหี่ยวย่นทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส แก้ปัญหาหน้าโทรมได้ สามารถฉีดปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยได้ทั้งหน้าผาก หางตา รอยขมวดคิ้วและลดกราม โดยหลังฉีดโบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีด 3-4 วัน ก็จะเริ่มตึงและตึงเต็มที่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ คงอยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือนครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อก คืออะไร ? เห็นผลคุ้มค่าหรือไม่? มีข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจฉีด?
3.Hifu ยกกระชับหน้าแก้หน้าโทรม
Hifu Macrofocus ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามากจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อย จึงแก้ไขปัญหาผิวหน้าโทรมได้อีกทางหนึ่งครับ เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยเล็กๆ และกลัวเข็มมาก ไม่อยากฉีดโบท็อกหรือฟิลเลอร์ Hifu สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุเกิน 20 ปี ก็สามารถทำได้แล้วครับข้อดีของ Hifu Macrofocus คือ จะช่วยกระตุ้น Collagen กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวยกกระชับ รูขุมขนดีขึ้น ผิวเนียนนุ่มขึ้น ลดปัญหาหน้ามีริ้วรอยก่อนวัย ยิ่งทำยิ่งเห็นผลดีขึ้น ใบหน้าดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม hifuคืออะไร hifuราคาเท่าไร hifu ดีไหม 9 ข้อควรรู้ในการทำ Hifu
โปรแกรม Hifu
Mobile
4.ฉีดฟิลเลอร์ แก้ปัญหาหน้าโทรม
การฉีดฟิลเลอร์ สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ช่วยเติมเต็มในชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งผิวหนังของคนเราจะมีใยคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำหน้าที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแก่ผิว แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นใยคอลลาเจนเหล่านี้จะค่อยๆ ลดจำนวนลง ทำให้ผิวบาง เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ดูแก่หน้าโทรม สามารถฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทดแทนใยคอลลาเจนที่หายไปได้เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปร่องริ้วรอยจะตื้นขึ้น หน้าดูเด็กลง เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าโทรมได้เป็นอย่างดี สามารถเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า อย่างริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยร่องมุมปาก ร่องลึกใต้ตา ที่ล้วนแล้วทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแก่ครับ
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถช่วยปรับรูปหน้า ในเคสที่มีปัญหาขมับตอบ แก้มตอบ สามารถใช้ฟิลเลอร์เข้ามาช่วยเติมเต็ม ทำให้ใบหน้าอิ่มขึ้น สดชื่น ดูไม่โทรมได้ครับ
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์: มีปัญหาหน้าโทรม หน้าตอบ แก้มตอบ หน้าตอบ แก่กว่าวัย แก้ได้ง่ายๆ ทำอะไรบ้างมาดูกัน
บทความฟิลเลอร์เพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ? เหมาะสำหรับใคร ? การฉีดฟิลเลอร์ควรรู้อะไรบ้าง แนะนำให้อ่าน !
โปรแกรม ฟิลเลอร์
Mobile
ทรีทเม้นท์ แก้ปัญหาหน้าโทรม คือการเติมวิตามิน หรือเติมอาหารผิวแบบขั้นสุดโดยการใช้เทคโนโลยีการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวเพื่อเติมความชุ่มชื้น กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แก้ปัญหาหน้าโทรม รูขุมขนกว้างได้อย่างเห็นผล ขณะทำจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่จะรู้สึกยิบๆ เล็กน้อยบนใบหน้า หากต้องการเห็นผลที่ชัดเจน หมอแนะนำให้ทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง 6-8 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
PRP หน้าใส Platelet Rich Plasma (PRP) คือการฟื้นฟูผิวด้วยเกล็ดเลือดตัวเอง โดยการนำเลือดประมาณ 15-20 CC ไปทำการปั่นแยกเกล็ดเลือด หลังจากที่ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้นข้นสูงมากแล้ว หมอจะนำมาฉีดทั่วบริเวณใบหน้าเพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน บำรุงผิวล้ำลึก คืนความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ การทำ PRP หน้าใส ถือได้ว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นการนำเลือดของตัวคนไข้เองมาฉีด จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองครับ
เลเซอร์หน้าใส คือหัตถการที่ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ กำจัดเม็ดสีเมลานิน เผยผิวใสขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยีเลเซอร์ได้มีการพัฒนาให้อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น สามารถทำได้ต่อเนื่องโดยไม่ทำให้หน้าบาง เครื่องเลเซอร์หน้าใสที่นิยม คือ Fractional, Q-Switch, ND-Yag , Dual Yellow Laser ทั้งนี้การทำเลเซอร์หน้าใสก็ยังมีผลข้างเคียงครับ เช่น มีการตกสะเก็ด ผิวแห้งลอก ผิวไวต่อแสง หลังทำจะต้องพักฟื้น เลี่ยงแสงแดด ดูแลแผลที่ตกสะเก็ดอย่างน้อย 3 วัน จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้หน้าเลย
วิตามิน แก้หน้าโทรม ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมครับ แต่จะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการเห็นผลเร่งด่วน ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไป ถึงจะเห็นผล เพราะเป็นการฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิว ควรเลือกทานวิตามินที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดหน้าโทรม วิตามินที่นิยมคือ วิตามินซี, Grape Seed, Lycopene, CoQ10, Astaxanthin
แต่หมอต้องบอกก่อนว่าก่อนเลือกทานวิตามิน ควรปรึกษาหมอหรือเภสัชก่อนเสมอ เพราะคนไข้บางรายเลือกทานวิตามินโดยไม่หาข้อมูลก่อนว่าวิตามินช่วยเรื่องอะไร? ทานเวลาไหนถึงจะเหมาะสม และวิตามินตัวไหนที่ทานคู่กันได้หรือไม่ได้บ้าง หรือบางคนที่มีโรคประจำตัว ห้ามกินวิตามินตัวไหนบ้าง ดังนั้นเพื่อให้ไม่มีผลข้างเคียงจึงควรปรึกษาแพทย์และเภสัชก่อนครับ
มาสก์หน้า แก้ปัญหาหน้าโทรม เป็นวิธีบํารุงหน้าโทรมที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน และมีราคาที่ไม่แพง สูตรที่นิยมเลยคือ มาสก์หน้าด้วยแตงกวา, มาสก์หน้าด้วยว่านหางจระเข้ และมาสก์หน้ามะเขือเทศ หรือใครจะใช้แผ่นมาสก์หน้าสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาดก็ได้ครับ แนะนำให้ใช้สูตรที่เน้นความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว สูตรนี้สามารถมาร์คหน้าทุกวันได้ครับ เพราะจะช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ใบหน้าก็จะดูฟูอิ่มน้ำ ดูสดใสขึ้น
การแต่งหน้า ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าโทรมแบบเร่งด่วน ซึ่งนอกจากนี้เทรนด์การแต่งหน้าใสจะช่วยให้หน้าดูอ่อนกว่าวัยได้ด้วยเช่นกัน อย่างการแต่งหน้าอ่อน ๆ แต่งหน้าแบบธรรมชาติ แต่งหน้าใส ๆ แต่งหน้าเน้นงานผิว หรือที่เราเรียกกันว่า Makeup no Makeup ที่เป็นการเน้นปรับสภาพผิว ให้ผิวดูสุขภาพดี เผยผิวใส หน้าดูเด็ก ซึ่งการแต่งหน้าแนวนี้สามารถแต่งได้ทั้งในชีวิตประวันหรือแม้กระทั่งวันทำงานครับ
การผลัดเซลล์ผิวหน้า คือการกู้หน้าโทรมโดยใช้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนสุดของชั้นหนังกำพร้า ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของคนเรามีการผลัดผิวทุก ๆ 30 วัน เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่สำหรับใครที่ต้องการผลัดผิวเร่งด่วน สามารถใช้วิธีการผลัดผิวเพื่อเร่งผลัดเซลล์ผิวให้ไวขึ้น วิธีที่นิยม เช่น การใช้กรดเอชเอ (Alpha Hydroxy Acids: AHAs) , บีเฮชเอ (ฺbha) , กรดวิตามินเอ เรตินอยด์ (Retinoid), หรือใช้วิธีธรรมชาติ เช่น พอกหน้าด้วยมะขามเปียก, พอกหน้าด้วยขมิ้น, พอกหน้าด้วยไข่ขาว, พอกหน้าด้วยโยเกิร์ต เป็นต้น
ทั้งนี้ควรผลัดเซลล์แค่ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ก็เพียงพอแล้วครับ เพราะถ้าหากผลัดเซลล์ผิวทุกวันจะส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน ผิวระคายเคืองได้ ที่ควรระวังเลยคือ หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรระมัดระวังในการผลัดเซลล์ผิว โดยเฉพาะการใช้สารเคมีอย่างวิตามินเอ ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ได้
ครีมบำรุงผิว แก้หน้าโทรมเป็นหนึ่งตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของใครหลายคน เพราะหาซื้อง่ายตามท้องตลาดอย่างที่เรารู้จักกันดีอย่างครีมซองในเซเว่น เช่น ครีมซองเซเว่นหน้าใส บำรุงหน้าโทรม, เซรั่มหน้าใส ที่เป็นครีมซองยอดนิยมและมีราคาถูก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วครีมบำรุงผิวหน้าโทรม มักจะมีส่วนผสมของวิตามินซี (ascorbic acid) ,ไวเทนนิ่ง ที่มีส่วนช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ แก้ปัญหาหาผิวหมองคล้ำ ลดจุดด่างดำ ทั้งนี้ต้องใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ถึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำ 8-10 ต่อวัน จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น มีความสมดุล แก้ปัญหาหน้าโทรม ไม่สดใสได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีและเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเฟรซ สดชื่นขึ้น
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียดเลือด ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส เลือดลมสูบฉีด แต่ก็ไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหมเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายล้า ไม่สดใสครับ ควรออกอย่างน้อยวัน 30-50 นาที ก็เพียงต่อการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง
- พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นวิธีกู้หน้าโทรมที่เห็นผลแบบยั่งยืนครับ เพราะเป็นการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้มีความสมดุล และขณะหลับร่างกายของเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมผิว จึงทำให้ผิวดูสดใส ไม่โทรม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็ง ควบคุมน้ำหนักได้แล้ว ยังส่งผลต่อผิวพรรณอีกด้วย อย่างอาหารจำพวกวิตามิน เกลือแร่ โปรตีนจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วครับ
- ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ การทาครีมกันแดดเป็นการปูพื้นฐานผิวให้แข็งแรง หากใครที่เริ่มกู้ผิวโทรม ควรเริ่มจากการทาครีมกันแดดเป็นอันดับแรกครับ เพราะแสงแดดเป็นตัวการหลักทำร้ายผิว ทำให้หน้าโทรม และควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า spf 50 ขึ้นไป เพื่อการป้องกันแสงแดดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
ในปัจจุบันมีคลินิกที่ดูแลผิวหน้าจำนวนมากครับ แต่ใช่ว่าจะเข้ารับบริการที่ไหนก็ได้ คนไข้ควรพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานปลอดภัยและคุ้มค่า ดังนั้นสำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาผิวหน้าโทรม สิวขึ้นเรื้อรัง รูขุมขนกว้าง ที่ไหนดี หมอมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
- เลือกคลินิกได้มาตรฐาน
ต้องมีใบอนุญาต ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสถานประกอบการอย่างถูกต้อง อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องที่ใช้มีคุณภาพ สะอาดปลอดเชื้อ ถ้าอุปกรณ์ไม่มีความสะอาดมากพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและเกิดผลข้างเคียงได้
-
- แพทย์มีประสบการณ์
(หมอที่มีประสบการณ์จะสามารถวางแผนการทำได้ตามความเหมาะสมกับปัญหาคนไข้)
- มีการติดตามผลหลังทำหัตถการ
คลินิกที่ดีควรมีการนัดติดตามผลหลังทำเสมอ แพทย์ต้องให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อน – หลัง ทำหัตถการอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการมีช่องทางออนไลน์ไว้ติดต่อ เช่น Facebook หรือ Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสของตัวเองได้โดยตรงครับ
- รีวิวของคลินิก
สำหรับการหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจ แก้ปัญหาหน้าโทรมที่ไหนดี การดูรีวิวที่ถูกต้องนั้น ไม่ควรจะดูรีวิวที่คลินิกโพสเพียงฝ่ายเดียว เพราะอาจจะคัดมาเฉพาะเคสที่สวยๆ แต่ของจริงอาจจะมีเคสหลุดเยอะ ทางที่ดีควรดูรีวิวจากที่คนไข้มาโพส feedback ในแหล่งที่เป็นกลาง (เป็นกลาง ในที่นี้หมายถึงแหล่งที่หากมีเคสหลุดมาโพสแล้วทางคลินิกไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวในเฟสบุ๊ค รีวิวติดดาวใน google map รีวิวตาม website ต่างๆ เช่น wongnai pantip)
- บรรยากาศและสถานที่ตั้ง
ที่ตั้งของคลินิกควรสังเกตเห็นได้ง่าย ไม่ทึบ อับ แคบ หรืออยู่โซนที่ลับตา สามารถเดินทางไปใช้บริการได้สะดวก
สุดท้ายเพื่อให้การแก้ไขปัญหาผิวหน้าโทรม ดูแก่กว่าได้ ให้กลับมอ่อนเยาว์ สดใสอีกครั้ง หมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาประเมินใบหน้า เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมตรงจุดให้ครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส