เมโสแฟต คืออะไร? อันตรายไหม? ต่างจากโบท็อกอย่างไร? อันไหนดีกว่า?

Reading Time: 3 minutes

เมโสแฟต

เมโสแฟต

เมโสแฟต คืออะไร ? อันตรายหรือไม่ ? ต่างจากโบท็อกอย่างไร ?

เมโสแฟต เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดสัดส่วนต่าง ๆ บนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ทำหน้าเรียว ลดแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก ไขมันในบางจุดที่ถึงแม้จะออกกำลังกาย คุมอาหารแล้วก็ยังลดยาก ลดไม่ค่อยลง เราสามารถใช้เมโสแฟตเป็นตัวช่วยเร่งให้สามารถลดสัดส่วนได้ไวขึ้นได้ครับ 

หรือในบางคนที่ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา หรือยกน้ำหนัก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางจุดที่ใหญ่ขึ้นแล้วไม่สวยเราไม่ชอบ ก็สามารถใช้โบท็อกช่วยลดได้ครับ ถ้าเป็นไขมันก็จะใช้เมโสแฟต ถ้าเป็นกล้ามเนื้อก็ใช้โบท็อก ในแต่ละจุดก็จะมีวิธีในการเลือกใช้แตกต่างกัน ซึ่งจะอธิบายต่อไปครับ

สารบัญ เมโสแฟต


1. เมโสแฟต คืออะไร ต่างจากโบท็อกอย่างไร ?

  • เมโส หมายถึง ทางลัดในการนำตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวด้วยการฉีด
  • เมโสแฟต หมายถึง การฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน โดยมีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ คือ

Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะ์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ต้องการลดเซลลูไลท์

Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholessterol ในเนื้อเยื่อ

L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)

เมโสแฟต L-carnitine

เมโสแฟตที่มี L-carnitine จะดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน

  • Theophylline ช่วยเพิ่มการย่อยสลาย triglyceride
  • Tyrosine เพิ่ม fat metabolism ทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลง และถูกขับออก
  • Aesculus hippocastanum (horsechesnut) ลดการบวมน้ำ
  • Juglans regia (Walnut) เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เพิ่มการเผาผลาญ ลดอาการบวมน้ำ
  • Nicotiana tabacum กระตุ้น catecholamine ทำให้เกิด lipolysis

ส่วนโบท็อก เป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งานสักระยะนึง จะฝ่อหดเล็กลงชั่วคราวประมาณ 6-8 เดือน ทำให้เนื้อยุบลง

ทั้งเมโสแฟต และ โบท็อก สามารถทำให้สัดส่วนของร่างกายบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลงได้จากทั้ง ไขมันและกล้ามเนื้อที่เล็กลง ซึ่งแพทย์ก็จะช่วยประเมินว่าในบริเวณที่เราต้องการจะลด เป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อมากกว่ากัน ทำให้เลือกแก้ไขได้ตรงจุด แต่เราก็สามารถเลือกทำทั้ง2 อย่างคู่กัน เพื่อให้ได้ผลไวที่ขึ้นได้


2. เมโสแฟตอันตรายไหม ที่ อย.ประกาศเตือนว่าอันตรายหมายถึงอะไร ?

เมโสแฟตสูตรที่อันตรายมี 2 ชนิด คือ

2.1 สเตียรอยด์

ปกติแพทย์ผิวหนังจะใช้ในการฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ ใช้ในปริมาณที่น้อยจะปลอดภัย แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี มักผสมสเตียรอยด์ปริมาณมากในเมโสแฟตที่ไม่ผ่าน อย. เพราะต้นทุนต่ำ เห็นผลไว แต่ เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่ายกาย

ลักษณะตัวยาสเตียรอยด์ที่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี

สเตียรอยด์ที่ผสมในเมโสแฟตจะมีทั้งแบบสีขาวขุ่นและขาวใส ทางที่ดีควรขอดูยี่ห้อเมที่โสแฟต ก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ

2.2 ยาสลายฟิลเลอร์ ชื่อว่า Hyaluronidase

ปกติจะใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการฉีดปริมาณมาก ๆ ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลง

อย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมเนื่องจาก ต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้ง จะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนลงเนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลง

Hyaluronidase

เมโสแฟตที่นิยมขายตามอินเตอร์เนต แท้จริงแล้วคือยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase) ที่นำมาใช้ผิดวิธี

เนื่องจากเมโสแฟตกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้นอย่างมาก และวิธีการฉีดเมโสแฟตนั้นไม่ยาก คนไข้บางกลุ่มจึงนิยมฉีดกับหมอกระเป๋าเพราะราคาถูก แต่แท้จริงแล้ว หมอกระเป๋าจะไม่สามารถซื้อยาแท้ที่ผ่าน อย. ได้ เพราะมีกฏหมายยาควบคุม ดังนั้นยาที่หมอกระเป๋าใช้จึงมักไม่ปลอดภัย เป็นยาหิ้ว ยาปลอม ที่มีส่วนผสมที่อันตราย และไม่สะอาด จึงทำให้มีการอักเสบติดเชื้อหลายเคสจากตัวยาที่ไม่ปลอดภัยและวิธีการฉีดที่ไม่สะอาด ดังที่ อย. ออกมาเตือนครับ

สำหรับคนที่กำลังมองหาว่าควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ที่คลินิกไหนดี ควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. อย่างถูกต้อง และฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และขอดูยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าส่วนผสมไม่มีอันตราย และสามารถตรวจสอบแหล่งผลิต บริษัทผู้นำเข้าได้ชัดเจน ไม่เสี่ยงต่อยาหิ้วยาปลอมที่อันตรายครับ


3. การลดเนื้อในจุดต่าง ๆ เช่น แก้ม ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก เลือกทำเมโสแฟตหรือโบท็อก อันไหนดีกว่ากัน ?

การลดแก้ม ปรับหน้าเรียว

ไขมันบนใบหน้า
  • เมโสแฟต vs โบท็อกกราม vs ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

เมโสแฟตจะลดไขมันในจุดที่มีหมายเลข 1 ตามรูปและจุดที่ 3 ได้ แต่จะหวังผลได้ไม่แน่นอน เพราะการลดลงและเพิ่มขึ้นของเซลล์ไขมัน ขึ้นกับหลายปัจจัยเช่น การกินของหวาน การออกกำลังกาย การกินมื้อดึกซึ่งจะหวังผลได้ประมาณ 60-70%

ตัวอย่างผลการทำเมโสแฟต

ตัวอย่างผลการทำเมโสแฟต

ตัวอย่างผลการทำเมโสแฟต

ตัวอย่างผลการทำเมโสแฟต

โบท็อกกราม ในเคสที่ต้องการลดแก้ม ถึงแม้จะเป็นตำแหน่งหมายเลข 1 แต่หากมีกล้ามเนื้อกราม(ลองจับแก้มแล้วกัดฟัน,กรามจะเด้ง) หมอก็จะแนะนำให้ทำโบท็อกกราม เนื่องจากโบท็อกหวังผลได้เกือบ 100% และในการทำให้กรามเนื้อกรามในจุดที่ 2 ยุบลง ก็จะทำให้เนื้อแก้มในจุดที่1 ยุบลงด้วยเพราะ เนื้อแก้มในจุดที่ 1 กับ 2 เบียดกันอยู่

ไขมันบนใบหน้า

การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะเป็นการผ่าตัดเอาไขมัน (buccal fat pad)ที่มีหมายเลข3 ออก หวังผลได้เกือบ 100% แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง เพราะถ้าประเมินไม่ดี ตัดออกมากเกินไป จะยุบลามไปถึงขมับ และทำให้แก้มตอบและหน้าห้อยได้ และการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะไม่สามารถตัดไขมันในส่วนที่ 1 (superficial fat pad) ซึ่งเป็นจุดที่คนไข้ส่วนใหญ่ต้องการลดได้ เพราะเป็นไขมันที่อยู่ตื้นติดกับชั้นผิวหนัง อาจจะใช้การดูดไขมันแทนแต่การดูดไขมันในส่วนที่ 1 ไม่ควรทำเพราะเสี่ยงต่อการโดนเส้นประสาททำให้ปากเบี้ยวได้มาก

ดังนั้นการลดไขมันในบริเวณหมายเลข 1 จึงแนะนำโบท็อกและเมโสแฟตเป็นหลักครับ เนื่องจากปลอดภัยและตรงจุดมากกว่า

การลดเหนียง

  • เมโสแฟต vs โบท็อกลิฟ vs Hifu vs ดูดไขมันเหนียง

เมโสแฟตช่วยลดเหนียงได้บางส่วนครับ แนะนำให้ทำควบคู่กับโบท็อกลิฟ จะทำให้เหนียงยุบลงและกระชับขึ้นด้วย

ผลของการทำ โบท็อก Nefertiti Lift

ในภาพคือตัวอย่างผลของการทำ โบท็อก Nefertiti Lift

รีวิว Hifu เหนียง

Hifu ก็ได้ผลดีในการลดเหนียงตามภาพนี้ครับ แต่ราคาค่อนข้างสูง และต้องเจ็บถึงจะได้ผลและอยู่ได้นานครับ

ในการดูดไขมันที่เหนียง จะบวมช้ำค่อนข้างมาก เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ และหากมีเลือดออกมากจะเสี่ยงต่อการกดทับหลอดลมได้ หากต้องการทำ แนะนำให้ควรทำใน รพ.เท่านั้นครับ

การลดน่อง

  • เมโสแฟต vs โบท็อกลดน่อง

บริเวณน่องของเคสส่วนมากจะเป็นกล้ามเนื้อครับ มีไขมันน้อยมาก พบในคนที่ชอบปั่นจักรยาน วิ่ง ชอบใส่ส้นสูง และเดินเยอะ สามารถใช้โบทอกลดน่องได้ครับ

ปกติโบทอกน่องถ้าจะให้ยุบลงหมด จะใช้ยาเยอะมากครับ ข้างละ 300-400 ยูนิต แต่ร่างกายเรารับได้แค่ 300 ยู ในระยะ 3 เดือนครับ และถ้าฉีดครั้งเดียวเยอะเกินไปจะยืนไม่ได้ครับ แนะนำทยอยฉีดครั้งละ 200 ยู

โดยทางคลินิกจะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยาต่อหน้าจนหมด เอากล่องและขวดกลับบ้านได้ครับ เพื่อความมั่นใจว่าของแท้และได้ยูนิตตามราคาที่จ่ายครับ

รีวิวลดน่องด้วยโบท็อก

สำหรับน่องไม่แนะนำให้ทำเมโสแฟตครับ แนะนำโบท็อกจะเห็นผลชัดเจนกว่าครับ

การลดต้นแขน, ต้นขา

ในการลดต้นแขน ต้องดูว่าจุดที่คนไข้ต้องการลดเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมันครับ สามารถใช้ได้ทั้งโบท็อกและเมโสแฟต สำหรับต้นแขนหากเนื้อไขมันเยอะมากก็แนะนำให้ดูดไขมันครับ

ในการฉีดโบท็อกลดต้นแขน จะช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วยครับ เพราะช่วยลดความกว้างของบ่าลงครับ

ในการลดต้นขา ส่วนมากจะเป็นไขมัน และปริมาณเยอะมาก จะไม่คุ้มในการฉีดเมโสแฟต นอกจากจะต้องการลดแค่บางจุดเล็ก ๆ สำหรับต้นขาแนะนำการดูดไขมัน หรือการลดน้ำหนัก จะเห็นผลชัดเจนกว่าครับ

การลดหน้าท้อง สะโพก

ส่วนมากต้องอาศัยการดูดไขมัน จึงจะเห็นผลชัดเจนครับ ถ้าเนื้อไขมันเยอะไม่แนะนำให้ทำเมโสแฟต เพราะต้องใช้ปริมาณยาเยอะและราคาสูงกว่าการดูดไขมัน


4. เมโสแฟต vs ดูดไขมัน จุดที่เหมาะกับการทำและข้อควรระวัง

ในจุดที่มีเส้นเลือดเส้นประสาทที่สำคัญเยอะ เช่นใบหน้า ลำคอ ไม่แนะนำให้ดูดไขมันครับ เพราะมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมาก แนะนำให้ทำเมโสแฟตหรือเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ จะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า และปลอดภัยกว่าครับ

ในบริเวณแก้มและลำคอมีเส้นเลือดเส้นประสาทที่สำคัญอยู่มาก

ในบริเวณแก้มและลำคอมีเส้นเลือดเส้นประสาทที่สำคัญอยู่มาก การทำเมโสแฟตจึงปลอดภัยกว่าการดูดไขมันครับ

แต่ในบริเวณที่มีไขมันปริมาณมาก ๆ เช่น ต้นขา หน้าท้อง การทำเมโสแฟตจะต้องใช้ยาปริมาณมาก และราคาสูง แนะนำการดูดไขมันจะคุ้มกว่า แต่ก็จะบวมช้ำค่อนข้างเยอะ และต้องพักฟื้นครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

Collagen Biostimulator คืออะไร ? มีกี่ประเภท กี่ยี่ห้อ ? ช่วยเรื่องอะไร ? เหมาะกับใคร ?

Reading Time: 6 minutes- Collagen Biostimulator คืออะไร ? - ประเภทของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator ทำงานอย่างไร ? - ประโยชน์ของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator มีอะไรบ้าง ยี่ห้อไหนดี ?

December 23, 2024 อ่านต่อ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? อยากคงผลลัพธ์ได้นาน ควร...

Reading Time: 2 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน เช็ก! - รู้สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายเร็ว - ฉีดฟิลเลอร์ปากทำอย่างไรให้อยู่ได้นานขึ้น - ฉีดฟิลเลอร์ปากหลาย CC อยู่ได้นานขึ้นไหม ? - สรุปฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? ฉีดแบบไหนคุ้ม

คนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ทำไมไม่ควรฉีด ระหว่างตั้งครรภ์ดูแ...

Reading Time: 2 minutes- คนท้องฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? - มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ ? - การดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ - สรุปคนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? ดูแลอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที...

Reading Time: 3 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? - การดูแลช่องปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก - คำถามที่พบบ่อย - สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ...

Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย

ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า