วิธีรักษารอยสิว ลดรอยแดง ให้หน้าใส วิธีไหนเห็นผล เลือกหัตถการทางการแพทย์วิธีไหนดี ?

Reading Time: 4 minutes

ลดรอยสิว

ลดรอยสิว

ปัญหารอยสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว รอยแผลเป็น เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการรักษา เพื่อให้ผิวกลับมาใสและเรียบเนียน ซึ่งมีหลายวิธีในการลดรอยสิว วิธีรักษารอยดำ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมลดรอยสิว การสครับ การใช้หัตถการทางการแพทย์แบบต่าง ๆ ที่มีข้อดีแตกต่างกันไป สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเรื่องการลดรอยสิว หมอมีแนะนำในบทความนี้ พร้อมสรุปว่าวิธีไหนดีอย่างไร ลดรอยสิวอย่างไรให้เห็นผลเร็ว

สารบัญ ลดรอยสิว


รอยสิว รอยแผล และรอยหลุมสิว เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

รอยสิว เกิดขึ้นอย่างไร

รอยสิว รอยแผล หรือรอยหลุมสิว มีสาเหตุมาจากเมื่อเป็นสิวแล้วรักษาด้วยการกด บีบ จะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อถูกทำลาย เส้นเลือดฝอยบนผิวหนังแตกออก เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ผิวหน้ายังเป็นจุดที่โดดแสงแดดได้ง่าย หากไม่มีการทาครีมกันแดดป้องกัน บริเวณที่เป็นสิวก็อาจจะเกิดรอยดำได้ครับ โดยสามารถแบ่งรอยสิวเป็น 3 รูปแบบ

  1. รอยสิวและรอยแผลเป็นจากสิว ประเภทนี้เกิดจากสิวอุดตันที่มีหัวสิวอักเสบ เป็นสิวหนอง สิวหัวช้าง ซึ่งจะกินเนื้อลึกถึงผิวชั้นใน เมื่อสิวหายจึงเกิดเป็นรอยแผลเป็น โดยเฉพาะในคนที่ผิวคล้ำ ผิวในจุดที่อักเสบจะกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีผิว หลังสิวหายจึงยังเห็นเป็นรอยดำ รอยแดงจากสิวทิ้งไว้ (จุดด่างดำ หรือ post-inflammatory hyperpigmentation)
  2. รอยสิวที่เป็นรอยแดงและรอยดำ จะมีลักษณะเป็นจุดด่าง ๆ บนใบหน้า เกิดจากการแกะหรือกดสิวจนผิวเป็นรอย เมื่อร่างกายเริ่มซ่อมแซมผิวจะมีการผลิตเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้จุดที่เป็นสิวมีสีเข้มขึ้นเป็นรอยดำ
  3. รอยสิวหลุมลึก เกิดจากสิวที่อักเสบอย่างรุนแรง ส่งผลให้เอนไซม์ทำลายชั้นผิวหนังบริเวณชั้นผิวที่อักเสบ ทำให้เกิดเป็นหลุมลึกบนผิว ซึ่งการรักษาต้องใช้เวลานาน บางคนที่เป็นสิวอักเสบซ้ำซาก อาจทำให้เป็นแผลหลุมสิวถาวรได้ โดยหลุมสิวมีกี่แบบ รอยหลุมสิวลึกแบ่งได้เป็น 5 ลักษณะ ดังนี้
    • Rolling Scars เป็นจุดหลุมบนผิวหนัง หรือเป็นหลุมสิวตื้น ๆ
    • Ice-pick Scars เป็นรอยหลุมสิวแบบจุดหลุมลึก
    • Atrophic Scars เป็นรอยหลุมยุบลงไป แต่รอยนั้นมีความแบนและบาง
    • Boxcar Scars เป็นรอยหลุมกว้างขนาดใหญ่ และมีขอบ หลุมชัดเจน
    • Hypertrophic หรือ Keloid Scars เป็นรอยแผลเป็นนูนขึ้นมาบนผิวหนัง

15 วิธีรักษารอยสิว หลุมสิว รอยแผลที่เกิดจากสิว

ปัจจุบันมีหลายวิธีครับที่สามารถรักษารอยดำ รอยแดงจากสิว หลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว หมอรวบรวมวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีที่ต้องใช้หัตถการทางการแพทย์ มีดังนี้

การทาครีมลดรอยสิว

ทาครีมลดรอยสิว

เมื่อเป็นสิวแล้วควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ และดูแลผิวอย่างต่อเนื่องหลังจากสิวหาย โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดเลือนปัญหารอยสิว ที่มีส่วนประกอบของวิตามินซี, คอร์ติโซน (Cortisone), กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid), อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic Acid), เซราไมด์ (Ceramide), วิตามินบี 3, ไนอะซิน (Niacin) มีประโยชน์ในการช่วยลดภาวะอักเสบของผิวหนัง และทำให้รอยสิวจางลง แต่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ รวมไปถึงควรปรึกษาเภสัชก่อนใช้ยา เพื่อให้เหมาะกับผิวและปัญหาของแต่ละคนมากที่สุด

เซรั่มลดรอยสิว

สกินแคร์ลดรอยสิว รอยแดงจากสิว มีหลายประเภท เซรั่มจะเป็นเนื้อน้ำที่มีความบางเบากว่าครีม มีโมเลกุลเล็กกว่าครีม จึงซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย สบายผิวกว่า มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) ที่ช่วยลดรอยสิว เช่น ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), กรด AHA หรือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (Hydroxy Acid) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยสิว แต่ต้องใช้ระยะเวลาครับ กว่าจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

เจลลดรอยสิว

เจลลดรอยสิว เป็นคนละอย่างกับเจลแต้มสิว หรือยาแต้มสิว เพราะเป็นเจลที่ทาไว้เพื่อรักษาแผลสิว เป็นวิธีรักษารอยดำ ลดรอยดำ รอยแดงโดยเฉพาะ ก่อนเลือกใช้ต้องดูส่วนผสมครับ เช่น อัลลานโทอิน (Allantoin), วิตามิน B3, สารมิวโคโพลีแซคคาไรด์ (Mucopolysaccharide), AlphaArbutin (อัลฟ่าอาร์บูติน) ซึ่งช่วยให้ความชุ่มชื้น ฟื้นฟูการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ ระยะเวลาเห็นผล ขึ้นอยู่กับปัญหา สภาพผิว และความถี่ในการใช้

วิตามินอาหารเสริม ลดรอยสิว

วิตามินลดรอยสิว

ปัจจุบันคนนิยมรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องผิวกันมากขึ้น เช่น วิตามินกินลดสิว ลดรอยสิว ปรับผิวกระจ่างใสขึ้น เช่น (ซิงค์), Zinc วิตามินซี (Vit C), เกรปซีด (Grape Seed) แต่ควรศึกษาข้อดี ข้อเสีย วิธีการกินและปริมาณที่เหมาะสม วิตามินแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย หรือน้อยเกินไปอาจไม่เห็นผล ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินอย่างเต็มที่ เห็นผลและปลอดภัยครับ

สบู่ลดรอยสิว

คนที่มีรอยสิว เช่น รอยสิวที่หลัง ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำความสะอาดผิวได้ไม่ดีพอ ทำให้เกิดสิวซ้ำ ๆ ในขณะที่สิวเก่าที่ทิ้งรอยไว้ยังไม่หาย การเลือกใช้สบู่ลดรอยสิว เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดปัญหาสิว ลดรอยสิวให้จางลง และช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น แต่ไม่เหมาะกับทุกสภาพผิวครับ โดยเฉพาะผิวแห้ง ผิวบอบบาง อาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย

สเปรย์ลดรอยสิว

สเปรย์ลดรอยสิว นิยมใช้กับรอยสิวหลัง หน้าอก ลำคอ แขน ช่วยลดรอยสิว เร่งผลัดเซลล์ผิวให้เรียบเนียน เวลาฉีดลงบนผิวจะให้ความรู้สึกเย็น ส่วนใหญ่ส่วนผสมจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ และสารที่ออกฤทธิ์ช่วยลดรอยแดงจากการอักเสบของสิว เช่น Salicylic Acid (ซาลิไซลิก แอซิด) Centella Asiatica (เซนเทลล่า เอเชียติก้า) แต่อาจจะเห็นผลช้า และต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ

การฉีดเมโสหน้าใส วิตามินผิว

เมโสลดรอยสิว โดย หมอเอก

เมโสหน้าใส เป็นการฉีดตัวยาที่มีวิตามินต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ เข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง ในผิวชั้นกลาง (Dermis) เป็นชั้นผิวหนังแท้ จะประกอบไปด้วยคอลลาเจน อิลาสติน Hyaluronic Acid เนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นกับผิว เมื่อบำรุงผิวในจุดนี้จะทำให้สารบำรุงต่าง ๆ แสดงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ทำให้เห็นผลไวกว่าการทาครีม

เมโสหน้าใสช่วยฟื้นฟูผิว

การฉีดเมโสหน้าใส ทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยลดรอยสิวให้หายเร็วขึ้น อาจจะไม่ได้ช่วยลดรอยสิวเร่งด่วน หรือรักษารอยดําจากสิวเร่งด่วน แต่จะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสม ทำให้ผิวแข็งแรง ส่วนปัญหาหลุมสิว สามารถฉีดเมโสหลุมสิว แต่จะไม่ได้เหมาะหลุมสิวทุกประเภท จะเหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น ๆ หลังฉีดตัวยาจะช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวระดับเซลล์ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

ตัวยาในกลุ่มเมโสมีให้เลือกหลายตัว เช่น ฉีดมาเด้คอลลาเจน (Made Collagn), Neo Glutanex Glow, Filorga, Revs หมอจะเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิวครับ

หลังฉีดจะค่อย ๆ เห็นผลใน 7-14 วัน และควรฉีดเมโสหน้าใสอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก สัปดาห์ละครั้ง เมื่อเริ่มเห็นผลชัดเจน และผลลัพธ์คงที่ ก็สามารถเว้นระยะเวลามาฉีดได้ตามความเหมาะสมครับ

นอกจากฉีดหน้าแล้ว บางคนเป็นรอยสิวบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น รอยสิวที่คอ รอยสิวหลัง สามารถฉีดวิตามินผิวขาว (Aura White) บำรุงผิวให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดี

ใช้เลเซอร์ลดรอยสิว

เลเซอร์ลดรอยสิว

สำหรับคนที่มีปัญหาสิว เช่น สิวที่คาง สิวที่หน้าผาก สิวที่แก้ม เมื่อสิวหายแต่ทิ้งรอยสิวไว้ วิธีแก้ไขส่วนใหญ่ที่นิยมคือการทำเลเซอร์ลบรอยสิว เช่น Q-Switch, Vbeam, Pico Laser วิธีนี้จะใช้การยิงแสงเลเซอร์เข้าไปบริเวณผิวหนังที่เป็นรอยสิว จะช่วยกำจัดผิวชั้นนอกที่เสียทิ้งไป และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในผิวชั้นกลาง โดยหลังเลเซอร์แล้วจะต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายวัน ต้องระวังไม่ให้ผิวหน้าโดนแสงแดด ผิวจะค่อย ๆ ฟื้นฟูและกลับมาเรียบเนียนเสมอกัน เริ่มเห็นได้ชัดประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังเลเซอร์ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล

สครับหน้าลดรอยสิว

สครับหน้าลดรอยสิว

การสครับหน้าจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และช่วยให้ผิวมีความสม่ำเสมอกันมากขึ้น แต่ควรเลือกสูตรสครับหน้าที่ไม่ทำร้ายผิว หรือกัดผิวมากจนเกินไป ใช้ส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเข้าไปด้วย จะทำให้หลังสครับหน้าผิวไม่แห้ง ช่วยลดความระคายเคืองต่าง ๆ ได้ เช่น น้ำตาลทรายแดง โยเกิร์ต น้ำมะนาว การสครับหน้าไม่ควรทำบ่อยเกินไป โดยระยะที่เหมาะสมคืออาทิตย์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอครับ

ใช้ยาทาแผลเป็น

ยาลดรอยแผลเป็น

หลังรักษาสิวและกำจัดหัวสิวออกไปแล้ว อาจมีแผลเป็นที่หลงเหลืออยู่ การรักษารอยดําจากสิวสามารถใช้ยาทาแผลเป็น ยาแต้มลดรอยสิว เพื่อลบรอยสิวช่วยได้ ลักษณะจะเป็นเนื้อครีม หมั่นทาบ่อย ๆ นอกจากช่วยลดรอยสิว ยังช่วยลดเลือนหลุมสิว รอยดำจากสิว รอยแดง ลดอาการอักเสบจากสิว ช่วยปลอมประโลมผิวไม่ให้เกิดอาการระคายเคือง ในส่วนผสมของยาทาแผลเป็นบางยี่ห้อยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใสได้

ทาว่านหางจระเข้ลดรอยสิว

ว่านหางจระเข้ลดรอยสิว

ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยสมานแผล รักษาความสมดุลของผิว ลดอาการอักเสบของผิว รักษาปัญหาสิว รอยแผล จุดด่างดำ สำหรับคนที่มีปัญหารอยสิวสามารถนำว่านหางจระเข้มาปั่นให้ละเอียด หรือฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้มาสก์หน้าเป็นประจำ ช่วยปรับสภาพผิวหน้า ทำให้รอยสิวจางลงได้ สามารถทำควบคู่กับการรักษารอยดําจากสิวด้วยวิธีอื่นเพื่อช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้นได้ครับ

มาสก์หน้าด้วยสมุนไพร

มาสก์หน้าลดรอยสิว

รักษารอยแดงจากสิวธรรมชาติด้วยสมุนไพรไทย ซึ่งหลายชนิดมีคุณสมบัติในการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวกระจ่างใส และเพิ่มความชุ่มชื้นได้ เช่น มะขามเปียก น้ำผึ้ง มะนาว มะเขือเทศ ผสมกับนมสดหรือโยเกิร์ต แล้วนำมาพอกหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควบคู่กับการทาครีมหรือยาทาแผลเป็น จะช่วยลดรอยสิว รอยแดง จุดด่างดำ รอยดำจากสิวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ทำ Hifu ลดรอยสิว

ทำ Hifu ลดรอยสิว

Hifu Ultraformer III เป็นเครื่องมือที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว จะไม่ใช่การลดรอยดํารอยแดงจากสิวโดยตรง แต่จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง มีน้ำมีนวลและชุ่มชื้นมากขึ้น การทำ Hifu เป็นการบำรุงผิวจากภายใน ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ที่พัฒนามาจากการอัลตราซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นโดยตรง นอกจากช่วยเรื่องคุณภาพผิวยังช่วยเรื่องการกระชับผิว เป็นอีกวิธีที่สามารถทำร่วมกับการทาครีม หรือการบำรุงวิธีอื่น ๆ

การศัลยกรรมรักษาหลุมสิว

การศัลยกรรมรักษาหลุมสิว

ศัลยกรรมหลุมสิว เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัด ซึ่งจะมีหลายเทคนิค เช่น ตัดรอยหลุมสิวออก จากนั้นก็เย็บแผลให้ติดกัน, ยกเนื้อบริเวณหลุมสิวขึ้นมาให้เท่ากับเนื้อผิวหน้าปกติ จากนั้นก็เย็บเนื้อที่ยกขึ้นมาให้ติดกับเนื้อผิวโดยรอบ, กรีดหลุมสิวให้เป็นวงรี ก่อนจะเย็บแผลให้ติดกัน, ใช้เนื้อบริเวณอื่นมาปิดที่หลุมสิว และเย็บปิดเพื่อให้เนื้อเยื่อเติบโตจนเติมเต็มหลุมสิว ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน ซึ่งวิธีลดรอยสิวอื่น ๆ ไม่สามารถรักษาได้

ฟิลเลอร์หลุมสิว

ฟิลเลอร์หลุมสิว

สำหรับคนที่มีปัญหารอยหลุมสิว แต่ไม่อยากแก้ไขด้วยการผ่าตัดหรือเลเซอร์ สามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว (Hyaluronic Acid) หรือฟิลเลอร์ Skin Booster ช่วยเติมใต้ชั้นผิวเพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ มีหลายยี่ห้อครับ เช่น Belotero Revive, Juvederm Volite, Restylane Vital Light ฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเจลเนื้อละเอียด ฉีดแล้วเบลนด์ไปกับผิว แพทย์จะใช้เทคนิคการฉีดเพื่อให้ผิวเต็มขึ้นมาเท่าผิวเดิมให้ได้มากที่สุด หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อยู่ได้นานไหม ? ใช้กี่ CC ? ราคาเท่าไหร่ ?

VSqare Tips (VSQ Tips)

ข้อควรรู้ : ปัจจุบันมีหลายหัตถการที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมผิวจากภายใน เช่น Rejuran ฟื้นฟูผิว ลดรอยแดง รอยแผลเป็น กระชับรูขุมขน ปรับสภาพผิว สีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น หรือทำ Exosome ลดรอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือถ้าทำร่วมกับเลเซอร์ จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น


วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว โดย หมอเอก

เพื่อให้เกิดรอยสิวน้อยที่สุด เมื่อเป็นสิว ควรปฏิบัติตัวดังนี้

  1. อย่าแคะ แกะ หรือบีบสิว – เมื่อเป็นสิวไม่ควรพยายามบีบ แกะ หรือสัมผัสบริเวณที่เป็นสิวโดยไม่จำเป็น เพราะมือและเล็บมักมีสิ่งสกปรกติดอยู่ รวมถึงจะเป็นการรบกวนผิว ทำให้เกิดการระคายเคืองมากกว่าเดิม นำไปสู่การเป็นสิวอักเสบได้
  2. ปกป้องผิวจากแสงแดด – การป้องกันผิวจากแสง UV ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เราไม่ควรให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง รังสี UV จากแดดจะทำให้ผิวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ ยิ่งถ้าเป็นสิวซึ่งผิวบอบบางกว่าจุดอื่น ก็จะทำให้เกิดรอยดำได้ง่าย จึงควรทาครีมกันแดดเสมอ
  3. ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ – การดื่มน้ำมาก ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น สุขภาพดี ลดการเกิดสิว เนื่องจากเมื่อผิวแห้งมาก ๆ จะมีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จนไปสาเหตุนำไปสู่การเกิดสิว นอกจากนี้การดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ยังช่วยเรื่องขับสารพิษ และทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น สุขภาพผิวก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
  4. รับประทานอาหารเสริม ช่วยบำรุงผิว – ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน รวมถึงการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป เน้นความเร็วมากกว่าคุณประโยชน์ อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เมื่อเจอกับมลภาวะต่าง ๆ ทำให้เกิดสิวหรือปัญหาผิวได้ง่ายขึ้น การทานวิตามินบำรุงผิวก็จะช่วยทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปได้ เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, วิตามินบี ฯลฯ

สรุป

การลดรอยสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว นอกจากการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญคือการป้องกัน และลดโอกาสการเกิดรอยสิวในช่วงที่เป็นสิวครับ ทั้งนี้สำหรับใครที่อยากหาวิธีลดรอยสิวเร่งด่วน ต้องเข้าใจก่อนว่า การรักษารอยสิวไม่สามารถทำให้รอยหายไปได้ใน 1 หรือ 2 วัน ต้องค่อย ๆ ใช้เวลาให้เซลล์ผิวได้ฟื้นฟูครับ แต่ถ้าหมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้รอยสิวลดลงได้เร็วขึ้น


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?

Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?

November 19, 2024 อ่านต่อ

9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...

Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?

โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...

Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย

ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...

Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?

[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...

Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...

Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า