ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ มีคนไข้เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ค่อนข้างเยอะครับ เพราะเริ่มมีการเผยแพร่ข้อมูลการรักษาวิธีนี้มากขึ้น ส่วนใหญ่จะถามถึงประสิทธิภาพหลังการรักษา เห็นผลได้มากแค่ไหน เหมาะกับใครบ้าง มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร ?
ด้วยเหตุผลนี้หมอจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวมาแนะนำพร้อมวิธีการรักษาแบบต่าง ๆ เพื่อไว้เป็นข้อมูล และแนวทางตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษาหลุมสิวครับ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร ?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คือ การใช้ ฟิลเลอร์ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) แบบเดียวกับฟิลเลอร์ยกหน้า หรือฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าครับ โดยฉีดเข้าไปบริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น เป็นการแก้ปัญหาหลุมสิวแบบเร่งด่วน หลังทำเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ทิ้งรอยแผล และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ผิวอิ่มเต็ม กระชับและเรียบเนียนได้อย่างเป็นธรรมชาติครับ
วิธีการใช้ฟิลเลอร์แก้ปัญหาหลุมสิว เป็นเทคนิคเฉพาะที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ เพราะในแต่ละเคสหมออาจใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว เช่น ในเคสที่มีหลุมสิวเล็กน้อย ไม่ลึกมากสามารถใช้ฟิลเลอร์ฉีดบริเวณหลุมสิวได้เลย
ส่วนอีกเทคนิคเหมาะสำหรับผู้ที่เคยมีปัญหาสิวอักเสบรุนแรง จนกลายเป็นหลุมสิวลึก ที่อาจจะเติมฟิลเลอร์ทันทีไม่ได้ จะต้องทำการเซาะพังผืดที่รั้งผิวหนังออกก่อน ถึงจะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มให้ผิว อิ่ม ฟู เต็มขึ้น ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญและความพิถีพิถันของแพทย์เป็นอย่างมาก ในการใช้เข็มเซาะพังผืดพร้อม ๆ กับฉีดเติมฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และหลุมสิวดูตื้นขึ้นในทันทีครับ
กระบวนการทำงานของการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว โดยการใช้สารไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic acid) ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำในผิว เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณหลุมสิว จึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นพร้อมทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน และไม่ต้องการเสียเวลาพักฟื้น
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูใบหน้า
- ผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในขั้นตอนการดูแลตัวเอง
- ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวไม่มาก หรือมีบางจุดบนใบหน้า
- ผู้ที่มีปัญหารอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส(Chickenpox) หรือจากการบาดเจ็บ
ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเหมาะกับผู้มีปัญหาหลุมสิวไม่มาก หรือเป็นจุด ๆ โดยสามารถรักษาได้ดีในกลุ่มผู้มีปัญหาหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) ส่วนผู้มีปัญหาหลุมสิว ระดับรุนแรง (Ice pick scar ) สามารถรักษาได้เช่นกัน แต่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคนิคการใช้เข็มเพื่อตัด เซาะ เลาะผิวพังผืด (Subcision) ใต้ผิวหนังออกก่อนเพื่อเติมเต็ม ในจุดที่มีหลุมสิวเพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดี หมออาจแนะนำให้ทำควบคู่กับหัตถการอื่น ๆ ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลุมสิว (Atrophic Scars) เกิดจากอะไร ? มีกี่แบบ ?
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวแตกต่างจากการรักษาสิวแบบอื่นอย่างไร ?
ข้อดีของการรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวคือ หลังทำสามารถเห็นผลได้ทันทีประมาณ 70% และยังเป็นการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื่นขึ้น รูขุมขนกว้างก็จะแคบลง แตกต่างจากวิธีอื่น ๆ คือไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่เกิดรอยแผล สามารถใช้หน้าได้เลย
อีกทั้งยังสามารถทำควบคู่ไปกับหัตถการรักษาหลุมสิววิธีอื่น ๆ ทั้งวิธีทางการแพทย์ และวิธีทางธรรมชาติ ที่หมอจะกล่าวถึงต่อจากนี้ได้ด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยวิธีการรักษาหลุมสิวอื่น ๆ ได้แก่
เลเซอร์รักษาหลุมสิว (Laser)
การทำเลเซอร์หลุมสิว (Laser) เป็นการรักษาหลุมสิวที่ค่อนข้างได้รับความนิยม โดยมีทั้งเลเซอร์ชนิดลอกผิว และไม่ลอกผิว จุดเด่นคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สร้างเซลล์ใหม่ ผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวชั้นบนเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้น ควรทำ 4-6 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยเว้นระยะห่างในการรักษาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ชั้นผิวมีระยะเวลาการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่มาทดแทนผิวที่เสียหาย โดยชนิดของเลเซอร์ที่นิยมใช้ได้แก่ Fractional Co2 Laser, Fraxel, Fine Scan, Fractional, Pico Laser, e-matrix เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจทำเลเซอร์ต้องวางแผนให้ดี เพราะหลังทำจะมีผลข้างเคียงคือ ผิวแดงมีการตกสะเก็ด ผิวแห้งลอก ต้องอาศัยระยะเวลาในการพักฟื้น เลี่ยงการออกแดดจัด และทาครีมกันแดดทุกครั้ง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าได้เลย
ตัดพังผืดหลุมสิว (Subcision)
การตัดพังผืดหลุมสิว หรือที่หลายคนคุ้นหูกับคำว่า subcision หลุมสิว วิธีการนี้คือใช้เข็มขนาดเล็กตัดเลาะพังผืดใต้ผิวหนังออก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวมานาน และกระจายเต็มผิวหน้า เป็นหลุมสิวชนิด rolling scar และ box scar หรือแผลเป็นที่มีขอบชัดและมีขนาดลึก
หลังทำสามารถเห็นเปลี่ยนแปลงได้ระดับหนึ่งทันทีหลังทำ แต่จะเห็นผลชัดเจนเมื่อทำติดต่อกัน 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะในการทำแต่ละครั้ง 3–6 สัปดาห์ ครับ เพื่อให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่เข้าไปในช่วงว่างที่ตัดพังผืดออกแล้ว จึงเติมเต็มให้รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้น และลดน้อยลงด้วยครับ สามารถทำรวมกับการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวได้เช่นกัน เพื่อให้เห็นเร็วขึ้น ข้อระวังของวิธีนี้คือ หลังทำอาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการบวม เขียว ช้ำ และหากคนไข้ดูแลรักษาแผลไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อใต้ผิวหนังได้ครับ
กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion หรือ MD)
การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีเป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ที่มีขนาดเล็กสามารถใช้กับหลุมสิวชนิด Rolling scar หรือ box scar ได้เมื่อเกร็ดอัญมณีกระทบกับผิวจะขัดผิวหนัง ส่วนขี้ไคลและหนังกำพร้าส่วนบนหลุดลอกออกเร็วกว่าปกติจากนั้นจะมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ รอยแผลสิว รอยหลุมสิว รอยแผลเป็น รวมถึงจุดด่างดำจากสิวบนใบหน้าลดเลือนลง และสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น
โดยทั่วไปต้องทำต่อเนื่อง 8-10 ครั้งขึ้นอยู่กับปัญหา แต่ข้อควรระวังคือในบางเคสอาจ มีการระคายเคืองผิว และอาจมีรอยแดงเรื่อๆ เกิดขึ้นได้ หรือไวต่อแสงแดดได้
การศัลยกรรมหลุมสิว
การผ่าตัดหลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวชนิด Ice pick scar หรือแผลเป็นหลุมที่มีปากหลุมขนาดเล็กไม่เกิน 3 มิลลิเมตร เป็นการผ่าตัดยกหลุมสิวให้เสมอกับผิวปกติ เช่น หลุมสิวชนิด box scar ที่มีขนาดเล็ก ด้วยการตัดหลุมสิวแล้วเย็บปิดด้วยไหมขนาดเล็ก การรักษาต้องอาศัยความชำนาญและความพิถีพิถันของแพทย์เป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นตามมาหลังการผ่าตัด
ยาแต้ม-ยาทารักษาหลุมสิว
- กรดไตรคลอโรอะเซติก ถูกพูดถึงกันว่ามีคุณสมบัติลอกฝ้า กระ จุดด่างดำ แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยการแต้มหลุมสิวด้วยกรดไตรคลอโรอะเซติกขนาดความเข้มข้นสูงจะได้ผลดีในหลุมสิวชนิดปากหลุมแคบ Ice pick scar แต่ก็สามารถใช้รักษาหลุมสิวชนิดอื่นได้ด้วยเช่นกัน ข้อควรระวังคือไม่ควรหาซื้อกรดชนิดนี้มาใช้เอง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงทำให้หน้าพังตามมาได้ครับ
- Retinoids คือการรักษาหลุมสิวด้วยการใช้ยากลุ่มวิตามินเอ หรืออนุพันธุ์วิตามินเอ เช่น Retin A (เรตินเอ), Retinoid (เรตินอยด์), Retinol (เรตินอล) ที่มีคุณสมบัติเด่น คือช่วยปรับโครงสร้างผิวชั้นบน (ผิวหนังชั้นเคราติน) ให้เรียบเนียน ลดสิวอุดตันหรือการอุดตันของเคราตินในรูขุมขน ลดการอักเสบของสิว ลดรอยสิว ผลัดเซลล์ผิวเก่า สร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังเพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เช่น ผิวแห้ง แสบ หน้าแดง ผิวลอก ทำให้ผิวระคายเคืองจึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัช และผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้ เพราะจะทำให้เด็กในครรภ์เกิดอันตรายได้ครับ
PRP หลุมสิว
PRP (PLATELET RICH PLASMA) คือ การนำเลือดของตัวเองมาปั่นเพื่อแยกชั้นของพลาสมา (Plasma) ซึ่งมีลักษณะเป็นสีเหลืองใสออกมา และในพลาสมาประกอบด้วยเกล็ดเลือด แพทย์จะสกัดเอาเกล็ดเลือดจากชั้นที่มีความเข้มข้นสูงที่สุดมาใช้ ฉีดเข้าไปที่หลุมสิว หรืออาจใช้ร่วมกับการรักษาหลุมสิววิธีอื่น เพื่อให้แผลที่เกิดจากการรักษาหายเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้เนื้อเยื่อสามารถสร้างขึ้นได้ดี ฟื้นฟูรอยหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้
เมโสรักษาหลุมสิว
เมโสหลุมสิว เป็นการฉีดตัวยาฉีดเมโส ที่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ที่ช่วยกระชับรูขุมขน ลดรอยสิว อย่างเมโสหน้าใส ยี่ห้อ มาเด้คอลลาเจน ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เซลล์ผิวใหม่ และช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการอักเสบของสิว ในอนาคต จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวที่มีความรุนแรงไม่มาก ต้องการให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น อิ่มน้ำ ฟูเด้ง เรียบเนียนขึ้น
- Rejuran รักษาหลุมสิว
Rejuran (รีจูรัน) คือการฉีดเมโสหน้าใสรูปแบบหนึ่งครับ ตัวยาส่วนประกอบหลักจาก Polynucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์) หรือ PN บริสุทธิ์ ความเข้มข้น 2% สกัดจากดีเอ็นเอปลาแซลมอน (Salmon DNA) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์ เมื่อนำมาฉีดในผิวชั้นหนังแท้ จะช่วยซ่อมแซมถึงระดับเซลล์ผิว ให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดี ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ปรับสภาพผิวให้ดูอิ่มน้ำ ผิวฉ่ำวาวแบบเร่งด่วน รักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้น (หลุมสิวไม่เกินขนาด 4-5 มม.) ลดขนาดรูขุมขนให้ดูเล็กลงได้ครับ
อ่านความที่เกี่ยวข้อง
- เผยเคล็ดลับจากแพทย์ วิธีทำให้หน้าขาวใส ไร้สิวอยากหน้าเนียน ทำยังไง ?
- นอนน้อย หน้าโทรม ไม่สดใส ผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง แก้ไขได้ไม่ยาก
การเตรียมตัวฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หลุมอย่างละเอียด การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอที่มี เทคนิคในการทำ รวมไปถึงรู้วิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย ไม่เจอฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน เพิ่มความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า
- แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำกับแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- เตรียมงดยาและวิตามินบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน น้ำมันปลา วิตามินอี ฯลฯ เนื่องจากทำให้เลือดออกง่าย และเกิดรอยบวมช้ำได้ง่ายครับ
- ควรงดขัดหน้า หรือ การผลัดเซลล์ 3 วันก่อนทำหัตถการ
- หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนทำฟิลเลอร์หลุมสิว
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ โดยควรงด 24 ชม. ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด Cardio
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ไม่ยุ่งยากครับ ไม่ได้ไปจากการฉีดฟิลเลอร์จุดอื่นบนใบหน้า ซึ่งมีขั้นตอนที่ควรรู้ดังนี้
- หลังจากปรึกษาแพทย์และวางแผนการรักษาแพทย์จะแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีดให้
- ในวันฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คนไข้สามารถแต่งหน้ามาได้ครับ ทางคลินิกจะมีการทำความสะอาดผิวก่อนฉีด
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถข้อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้
- ก่อนฉีดจะมีการประคบเย็นรวมถึงแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ใน 30 นาที หมอเริ่มฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว โดยในเคสที่ต้องเซาะ เลาะพังผืดแพทย์จะทำการเลาะพังผืดออกก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ
การดูแลรักษาหลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 14 วัน
- ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้ครับ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
- อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยครับ
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาเท่าไหร่ ?
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ รวมถึงลักษณะความรุนแรงของหลุมสิวที่ต้องอาศัยความชำนาญของหมอ ค่าฝีมือหมอก็อาจสูงขึ้นตาม โดยทั่วไปฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาเริ่มต้นที่ 14,000 บาท ต่อ 1 CC ครับ ส่วนจะใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แพทย์จะช่วยประเมินปัญหาและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ ราคา เท่าไหร่ ? โปรโมชั่นฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวอยู่ได้นานไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นหัตถการที่ไม่อยู่ถาวรการฉีด 1 ครั้งจะให้ผลลัพธ์นานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับอายุของยี่ห้อที่เลือกใช้ร่วมด้วย เมื่อฟิลเลอร์จะสลาย สามารถกลับมาฉีดเพิ่ม เพื่อคงผลลัพธ์ได้ครับ
หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น การดูแลตัวเองของคนไข้ก็มีส่วนสำคัญครับ โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายไว เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ตากแดดจัดเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม :ฟิลเลอร์ไหล คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใด อันตรายแค่ไหน ก่อนฉีดต้องรู้ !
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวใช้กี่ CC ?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับลักษณะหลุมสิวของคนไข้ครับ ในเคสที่มีหลุมสิวเล็กน้อยเป็นจุด ฟิลเลอร์ 1 CC ก็เพียงพอ หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีโดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมได้แก่ Restylane และ Juvederm ครับ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวต้องทำบ่อยแค่ไหน หายขาดไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยให้หลุมสิวดูตื้น และเรียบเนียนขึ้น แต่ฟิลเลอร์ไม่ใช้หัตถการที่อยู่ได้ถาวร โดยทั่วไปคงผลลัพธ์ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ หรือทำร่วมหัตถการอื่นก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์ซ้ำบ่อย ๆ ครับ หรือหากกลับมาฉีดซ้ำก็จะใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่น้อยลงครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ
สรุปฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวดีไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ปัญหาหลุมสิวดีขึ้น และยังเป็นหัตถการที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว ไม่ทำให้เกิดแผล ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถใช้หน้าได้เลย รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวยังทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ดี สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้นครับ
สำหรับใครที่สนใจ เบื้องต้นหมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิก เลือกแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ และมีเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสวยงาม และมีความปลอดภัยได้มากที่สุดครับ
เอกสารอ้างอิง
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ