ซิลิโคนจมูก
การเสริมจมูกเป็นการศัลยกรรมโดยการใส่ซิลิโคนจมูก เพื่อเสริมให้จมูกโด่งขึ้น คมขึ้น ช่วยปรับรูปหน้าให้มีมิติ ซิลิโคนจมูกในปัจจุบันก็มีหลายประเภท หมอแต่ละคนก็จะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของทรงจมูกที่ต้องการ เพื่อให้คนไข้มีข้อมูลเกี่ยวกับซิลิโคนจมูกแต่ละแบบก่อนตัดสินใจเสริมจมูก หมอมีข้อมูลมาแนะนำในบทความนี้ครับ
สารบัญ ซิลิโคนจมูก
ซิลิโคนจมูก คืออะไร ?
วัสดุสำหรับเสริมจมูกมีทั้งกระดูกอ่อน เนื้อเยื่อของตัวเอง และการใช้ซิลิโคนจมูก ซึ่งได้รับความนิยมที่สุด
ซิลิโคนจมูก คือ วัสดุที่ผลิตมาจากพลาสติกสังเคราะห์ สามารถเหลา ปรับแต่งรูปทรง และใส่เข้าไปเสริมให้จมูกโด่งขึ้นโดยไม่เป็นอันตราย ซิลิโคนจมูกความจริงแล้วอยู่ได้นานหลายปี หรือตลอดชีวิตครับ หากใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง สะอาด ใช้วัสดุที่ปลอดภัย แต่หลาย ๆ ครั้งก็จะเห็นข่าวจมูกเบี้ยว เอียง อักเสบ หรือต้องแก้จมูกหลายครั้ง ดังนั้นสิ่งสำคัญในการเสริมจมูกที่คนไข้ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัย ต้องรู้จักเลือกซิลิโคนจมูก แหล่งผลิต ที่มา ลักษณะและรูปแบบ
ซิลิโคนจมูก อันตรายไหม ?
ซิลิโคนจมูกที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมจมูกที่ดีที่สุด ควรเป็นเกรดสำหรับปลูกฝังในร่างกาย (Implant grade) มีความบริสุทธิ์สูง สามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต ซิลิโคนประเภทนี้นอกจากนำมาทำซิลิโคนจมูก ยังถูกนำไปผลิต ซิลิโคนหน้าอก ลิ้นหัวใจเทียม ฯลฯ สามารถอยู่ในร่างกายได้โดยไม่เกิดการต่อต้าน และผ่านการทดสอบสารก่อมะเร็ง รวมถึงค่าความเป็นพิษสะสมในระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีซิลิโคนเกรดอื่น ๆ เช่น Medical grade มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า Implant grade สามารถใช้ในการเสริมจมูกได้ แต่ไม่มีการทดสอบเกี่ยวกับสารก่อมะเร็ง และค่าความเป็นพิษสะสม รวมถึงซิลิโคน Medical grade บางชนิดที่ไม่ได้ถูกผลิตเพื่อให้อยู่ในร่างกายเกิน 30 วัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ควรศึกษาเรื่องซิลิโคนจมูกแต่ละประเภท เพื่อความมั่นใจว่าเป็นซิลิโคนที่ปลอดภัย
ทั้งนี้การจะบอกว่าเสริมซิลิโคนจมูกอันตรายไหม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเดียวครับ การใช้ซิลิโคนจมูก Implant grade อาจรับรองได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับเทคนิค ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการผ่าตัดร่วมด้วยครับ
ซิลิโคนจมูก มีกี่แบบ ?
ซิลิโคนจมูกสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ
ซิลิโคนจมูกสำเร็จรูป
สะดวกต่อการใช้งาน ถูกทำให้เป็นรูปทรงมาแล้ว แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน แพทย์มีการเหลาปรับเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับรูปจมูกแต่ละคน มีโอกาสเบี้ยวเอียงน้อย
ซิลิโคนจมูกแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง
แพทย์ต้องนำมาเหลาขึ้นรูปเอง เพราะจะมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ข้อดีคือจะได้ทรงที่เหมาะกับใบหน้าแต่ละคน แยกย่อยได้อีกตามความอ่อนแข็ง คือ แข็ง (Hard) แข็งปานกลาง (Medium) นุ่ม (Soft) และนุ่มมาก (Ultra Soft)
ข้อแตกต่างของซิลิโคนจมูกแต่ละแบบ
- ซิลิโคนแบบแข็ง สามารถคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกหนาเพื่อป้องกันการทะลุ หมอจึงนิยมเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง (Medium) เพื่อทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
- ซิลิโคนแบบนิ่ม เมื่อเสริมจมูกแล้วจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบแข็ง และเหมาะกับคนที่เนื้อจมูกบาง เนื้อน้อย แต่ถ้าใช้ซิลิโคนแบบนุ่มมาก อาจทำให้เนื้อยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
นอกจากนี้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้น เทคนิคใหม่ที่ได้รับความนิยมในการเสริมจมูกปัจจุบันคือการใช้กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อเสริมจมูกเป็นหลักแทนซิลิโคน หรือนำมาใช้รองปลายจมูกที่เสริมด้วยซิลิโคนเพื่อป้องกันปัญหาจมูกทะลุได้
ซิลิโคนจมูกมีของประเทศอะไรบ้าง ?
หลัก ๆ แล้วมีซิลิโคนจาก 3 ประเทศที่ได้รับความนิยม ดังนี้
- ซิลิโคนจมูกอเมริกา (USA Silicone)
เป็นซิลิโคนที่ผลิตด้วยมาตรฐานพิเศษ ลักษณะเนื้อซิลิโคนมีสีขาว เนียนละเอียด ความนิ่มปานกลาง คุณภาพดี และมีความปลอดภัยสูง
- ซิลิโคนจมูกเกาหลี (Korea Siliocone)
เป็นซิลิโคนที่ผลิตด้วยมาตรฐานพิเศษ ลักษณะเนื้อซิลิโคนมีสีเหลือง และสีน้ำตาลแดง มีความยืดหยุ่นสูง โดยส่วนโคนจมูกและปลายจมูกจะมีความนิ่มมาก ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
- ซิลิโคนจมูกญี่ปุ่น (Japan Silicone)
เป็นซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา ลักษณะเนื้อซิลิโคนมีสีเหลือง แข็งปานกลาง ข้อดีคือราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับซิลิโคนอเมริกา และซิลิโคนเกาหลี
วิธีการเลือกซิลิโคนจมูกให้รับกับใบหน้า
การเลือกซิลิโคนจมูกหมอจะดูที่ลักษณะผิวของคนไข้เป็นหลักครับ จุดที่ต้องประเมินคือสันจมูกและปลายจมูก
หากเป็นผู้ที่มีเนื้อสันจมูกเยอะ หนา เมื่อดึงจะยืดออกมาได้เยอะ เนื้อมีแรงรัดมาก จะไม่เหมาะกับซิลิโคนเนื้อนิ่ม เพราะทำให้โดนรัดจนซิลิโคนเบี้ยวเอียงในอนาคตได้ ควรใช้ซิลิโคนที่มีความแข็ง หรือแข็งปานกลาง เนื้อจมูกที่หนาจะทำให้ไม่เห็นสันขอบของซิลิโคน สามารถเสริมจมูกให้โด่งมาก ๆ ได้
หากเป็นผู้ที่มีเนื้อสันจมูกน้อย บาง เมื่อดึงเนื้อตรงสันจมูกจะไม่ยืดขึ้นมา ไม่ควรใช้ซิลิโคนเนื้อแข็งเพื่อป้องกันการทะลุ ควรใช้ซิลิโคนเนื้อนิ่ม หรือใช้ซิลิโคนร่วมกับการร้องปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน, เนื้อเยื่อ จะช่วยให้จมูกโด่งดูเป็นธรรมชาติ
ในการประเมินซิลิโคนจมูกที่เหมาะสม ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ หากเลือกซิลิโคนไม่เหมาะกับผิว หรือฝืนทำให้จมูกโด่งมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง หรือทะลุในอนาคตได้
สำหรับการปรับแต่งทรงจมูก เนื่องจากโครงสร้างจมูกเดิมของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่แพทย์ควรพิจารณาก่อนออกแบบทรงจมูกให้คนไข้ คือความเหมาะสมตามสัดส่วนใบหน้าของแต่ละคน ที่ Masterpiece Hospital มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ให้การดูแล สามารถวิเคราะห์สภาพปัญหา และให้คำแนะนำในการเสริมจมูก ทั้งเทคนิคเสริมจมูกแบบเปิด และเสริมจมูกแบบปิด ได้เป็นรายบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และเข้ากับใบหน้าเดิมของคนไข้มากที่สุด
ซิลิโคนจมูกทรงต่าง ๆ
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซิลิโคนจมูกแบบไหนดี หรือเลือกจมูกทรงไหนดี หมอยกตัวอย่างทรงซิลิโคนสำเร็จรูปมาอธิบาย ดังนี้
- ซิลิโคนแมนทิส (Mantis Silicone) หรือซิลิโคนทรงตั๊กแตน เป็นซิลิโคนสำเร็จรูปที่ออกแบบให้มีปีกทั้งสองข้างสำหรับครอบสันจมูกไว้ ขอบแกนบาง และปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย ข้อดีคือจะช่วยลดปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง ทะลุ
- ซิลิโคนบาร์บี้ (Barbie Silicone) เป็นทรงที่มีสันค่อนข้างกว้าง สโลป แต่ไม่โด่งมาก รูปแบบเหมาะกับคนที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความโด่งขึ้นเล็กน้อย
- ซิลิโคนบราว (Brown Silicone) เป็นรูปทรงคล้ายกับทรงตั๊กแตนผสมทรงบาร์บี้ มีความโด่งแต่สันจมูกสโลป เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อจมูกน้อยหรือผิวบาง
- ซิลิโคนซินเดอเรลล่า (Cinderella Silicone) ลักษณะรูปทรงคล้ายทรงบาร์บี้ แต่เนื้อฐานซิลิโคนบริเวณสันจมูกจะค่อนข้างหนา เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกแบน ต้องการเพิ่มความโด่ง
หากใครต้องการออกแบบทรงเฉพาะให้เหมาะกับใบหน้าตัวเอง แพทย์อาจพิจารณาใช้ซิลิโคนแบบแท่งหรือแบบเหลาเอง เพื่อจัดทรงให้ออกมาสวยงามรับกับใบหน้า และตรงกับความต้องการของคนไข้
วิธีการดูแลหลังใส่ซิลิโคนจมูก
- 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ควรประคบเย็นด้วยคูลแพ็คบริเวณหน้า โดยเว้นตรงแผลเอาไว้ (สันจมูกด้านซ้ายและขวา สันจมูกตรงกลางด้านบน ระหว่างคิ้ว) เพื่อช่วยเพื่อให้เลือดหยุดไหล และยุบบวมไวขึ้น
- หลัง 72 ชั่วโมง แผลจะเริ่มสนิทกัน ให้เปลี่ยนมาใช้การประคบอุ่นเพื่อลดรอยเขียว ช้ำ ม่วง
- ไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก ลดการสัมผัสให้ได้มากที่สุด
- เวลานอนควรใช้หมอนรองคอให้ศีรษะสูง เพื่อให้เลือดไม่คั่งในโพรงจมูก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
- งดล้างหน้า เพื่อไม่ให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นล้างหน้าได้ตามปกติ
- หากรู้สึกคันบริเวณจมูกให้ใช้คอตตอนบัดหรือสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดอย่างเบามือ
- หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหนัก ๆ การวิ่ง, การว่ายน้ำ, การมีเพศสัมพันธ์, การสั่งน้ำมูก, การขยี้จมูก, ก้มหน้านาน ๆ และยกของหนัก เนื่องจากเนื้อจมูกยังไม่เข้าที่ดี
- หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการไอหรือจาม
- ควรรับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็ง เหนียว
- งดรับประทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัด ที่ส่งผลต่อการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายช้า
- งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหยุดการสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือน หลังทำจมูก เนื่องจากมีผลต่อการสมานแผล
- หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ซิลิโคนจมูก อยู่ได้นานเท่าไหร่ ?
หากใช้ซิลิโคน Implant grade เสริมจมูกได้ตลอดชีวิตครับ สามารถใช้ทดแทนชิ้นส่วนหรืออวัยวะภายในร่างกายของมนุษย์ได้โดยไม่มีผลกระทบ
ซิลิโคนจมูกไหลทำอย่างไร ?
ปัญหาหลังเสริมซิลิโคนจมูกที่พบได้บ่อย ๆ คือหลังเสริมจมูกแล้วซิลิโคนไม่แนบติดกับจมูก มีการลอย หรือไหลไม่ตรงกับสัน สามารถทดสอบได้จากการใช้นิ้วชี้แตะไปที่กลางจมูก แล้วเลื่อนนิ้วซ้ายขวาไปมา หากซิลิโคนเคลื่อนหรือเลื่อนไหลไปตามนิ้ว แสดงว่ามีอาการซิลิโคนลอย หรือไหล
สาเหตุที่เกิดซิลิโคนไหล อาจมาจากการบิดจมูกบ่อย ๆ หรือได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง เนื่องจากมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าการบิดจมูกได้หลังเสริมซิลิโคนเป็นเรื่องปกติ แต่ความจริงแล้วหลังเสริมจมูกไม่ควรบิดจมูก หรือให้จมูกกระทบกระเทือนรุนแรงครับ โดยเฉพาะในช่วง 1 ปี แรกหลังทำ
นอกจากนี้สาเหตุยังเกิดได้จากการเหลาซิลิโคนของแพทย์ที่ไม่พอดีกับแกนจมูกของคนไข้, ไม่ได้วางซิลิโคนให้ครอบแกนจมูก, ไม่ได้วางซิลิโคนอยู่ภายใต้เยื่อหุ้มกระดูก หรือผ่าตัดทำช่องใส่ซิลิโคนกว้างไปหรือแคบไป ทำให้ตัวซิลิโคนหลุดลอยออกมาจากช่อง
สำหรับใครที่กังวลกับปัญหาซิลิโคนไหล ซิลิโคนลอย หากซิลิโคนไม่ได้แหลมหรือทิ่มออกมาทางปลายจมูก อาจยังไม่จำเป็นต้องแก้ไขทันทีครับ แต่ส่วนใหญ่คนไข้จะรู้สึกไม่มั่นใจ จึงต้องการแก้ไขเพื่อทำให้รูปทรงจมูกกลับมาสวย โดยการถอดซิลิโคนเก่าออกและเสริมใหม่ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : 7 ข้อควรรู้ เสริมจมูกที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ผลลัพธ์สวยยาวนาน
ใส่ซิลิโคนจมูกแล้วถอดออกได้ไหม ?
สำหรับใครที่เสริมจมูกไปแล้วรู้สึกมีปัญหา ทะลุ เบี้ยว เอียง หรืออยากแก้ทรง สามารถถอดซิลิโคนจมูกออกได้ครับ หากเป็นการเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนอย่างเดียว หรือการเสริมจมูกแบบปิด ไม่ได้ตะไบเนื้อกระดูก ไม่ได้เอาส่วนอื่น ๆ เช่นกระดูกหลังหู เนื้อเทียม ใส่เข้าไปในจมูก เมื่อถอดซิลิโคนจมูกออกแล้วจะได้จมูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นระยะหนึ่ง
แต่หากในเคสที่ใช้เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด มีการตอกกระดูก เอาเนื้อส่วนอื่นมาเสริม เมื่อถอดซิลิโคนจะทำให้รูปทรงจมูกไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะกระดูกตรงที่ตอกออกไปไม่สามารถเอาคืนมาให้นูนเต็มได้ครับ
นอกจากนี้หากมีปัญหาการติดเชื้อ ซิลิโคนทะลุ หรือใส่ ๆ ถอด ๆ ซิลิโคนไปแล้วหลายรอบ จะทำให้เนื้อเยื่อเกิดกระบวนการซ่อมแซมแก้ไขตัวเองหลายครั้ง จนเกิดพังผืดในเนื้อเยื่อของจมูกได้ ยิ่งแก้มากการเกิดพังผืดก็ยิ่งมากขึ้นหนามากขึ้นตามไปด้วย หลังถอดซิลิโคนอาจเกิดรอยบุ๋ม หรือทำให้จมูกผิดรูปได้
สรุป
การเสริมซิลิโคนจมูก เป็นทางเลือกในการผ่าตัดศัลยกรรมที่ความจริงแล้วมีความปลอดภัย และมีความเสี่ยงน้อยครับ หากเลือกคลินิก เลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แพทย์เป็นผู้เชี่ยวชาญ และใช้ซิลิโคนจมูกที่มีคุณภาพ แต่ด้วยในปัจจุบันที่มีคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก คนไข้ควรพิถีพิถันในการหาข้อมูล ดูรีวิว และตรวจเช็กอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม
ที่ Masterpiece Hospital มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ให้การดูแล สามารถวิเคราะห์สภาพปัญหา และให้คำแนะนำในการเสริมจมูกครับ หมอจะเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกซี่โครง หรือเสริมจมูกเนื้อเยื่อเทียม โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาการเกิดซิลิโคนทะลุ และใช้วิธีการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด หรือเสริมจมูกโอเพ่น ส่วนในเคสที่ไม่อยากผ่าตัด ก็ยังมีวิธีเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ ที่สามารถเสริมจมูกสโสปปลายพุ่งได้ออกมาสวยและดูเป็นธรรมชาติ หมอจะประเมินเป็นรายบุคคลครับ