Radiesse filler
เจาะลึก Radiesse Filler ช่วยอะไร ? เทียบกับหัตถการงานผิวอื่น ๆ
เทรนด์งานผิวสุขภาพดีในปัจจุบัน ไม่ใช่มองแค่ภายนอกแล้วผิวจะต้องฉ่ำวาว ดูโกลว์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผิวมีคุณภาพที่ดี แข็งแรงถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึกอีกด้วยครับ
Radiesse filler เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมความงามที่ช่วยให้ผิวมีคุณภาพที่ดีจากภายในได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ มอบ 3 ผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าที่เคย ทั้ง Healthier Younger และ Longer ตอบโจทย์เทรนด์งานผิวที่ใครหลาย ๆ คนโหยหาและต้องการมากที่สุด นั่นก็คือ การคงสภาพผิวให้ดูเด็กลง กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
สารบัญ Radiesse filler
Radiesse filler คืออะไร ?
Radiesse filler คือ นวัตกรรมฟื้นฟูสุขภาพและโครงสร้างผิวที่จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ครับ แต่ตัว Radiesse filler จะมีความพิเศษกว่าตรงที่ไม่ได้มีไฮยาลูรอน เป็นส่วนประกอบหลัก แต่จะเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) ซึ่งเป็นสารที่คิดค้นและวิจัยโดย Merz Aesthetics ได้รับความไว้วางใจในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 มียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก
จุดเด่นของ Radiesse filler คือ จะเป็นการฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator ครับ เป็นการรักษาเชิงเวชศาสตร์ที่เน้นฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycan นอกจากนี้ยังมอบ 3 ผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าที่เคยได้แก่
- Healthier ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ผิวมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
- Younger ริ้วรอยลดลง ยกกระชับขึ้น ผิวดูเด็กลงอีกครั้ง
- Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนานขึ้น
CaHA
CaHA (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์) เป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกายครับ โดยจะพบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน แต่ CaHA ที่เป็นส่วนประกอบประกอบหลักของ Radiesse จะผลิตด้วยวิธีการสังเคราะห์ ทำให้ได้ CaHA microsphere (คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์ ) ที่เหมือนกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน
ในทางการแพทย์ CaHA มีใช้มานานกว่า 25 ปีแล้วครับ มีข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัย ซึ่งถูกเผยแพร่ทางสิ่งตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 250 ฉบับ ได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงในยุโรป (CE) จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน และสามารถสลายไปตามธรรมชาติ
“ ข้อควรรู้ : Radiesse Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรองรับถึง 3 อย. ด้วยกัน คือ EU,US และ THFDA รวมถึงผ่าน อย.ในด้านการฉีดมือโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ ”
หลักการทำงานของ Radiesse filler
หลักการทำงานของ Radiesse filler หมอจะฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นระนาบใต้ผิว เมื่อตัวยาเข้าไปในผิวแล้ว จะกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (ไฟโบรบลาส) ที่เป็นเซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนในผิวให้มีจำนวนมากขึ้น
ภาพแสดงการสะสมของคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่ในช่วง 4-78 อาทิตย์หลังฉีด
หลังจากนั้นอนุภาค CaHA จะก่อตัวเป็นโครงสร้าง และเกิดการกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตคอลลาเจนรอบ ๆ โครงสร้าง หรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ทําให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว เสริมความแข็งแรงถึงโครงสร้างรอบเซลล์ผิวในผิวชั้นลึก หลังฉีดผิวจะถูกเติมเต็มได้ทันที อิ่มฟูขึ้น
นอจากนี้ CaHA ยังเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้าง Elastin ในชั้นผิวสูงถึง 250% ทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ
Radiesse filler มีกี่รุ่น ?
Radiesse filler มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นครับ คือ Radiesse Filler ® และ Radiesse ® (+) โดยต่างกันที่ Radiesse Filler ® เป็นรุ่นที่ไม่มียาชา ส่วน Radiesse ® plus จะมีส่วนผสมของยาชา เพื่อลดความเจ็บขณะฉีดครับ
Radiesse filler เหมาะกับใคร ?
- คนที่ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ไม่มีวอลลุ่ม
- คนที่มีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปาก
- คนที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- คนที่มีผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น มีรูขุมขนกว้าง
- คนที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหลังมือ ลำคอ
- คนที่มีผิวหนังยุบลง มีรอยแผลเป็น มีรอยบุ๋ม หรือมีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก
- คนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป มีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ต้องการมีผิวเด็ก อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว
Radiesse filler ไม่เหมาะกับใคร ?
- คนที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- คนที่มีประวัติแพ้แบบรุนแรงหรือประวัติภาวะช็อกจากการแพ้อยาางรุนแรง
- คนที่มีประวัติแพ้ยาชา หรือแพสารที่เป็นองค์ประกอบใน Radiesse
- คนที่มีผิวหนังมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูนหรือคีย์ลอยด์สูง
- คนที่มีการอักเสบของผิวหนังหรือการติดเชื้อใกล้บริเวณที่ทําการรักษา
- คนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
Radiesse filler ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
Radiesse filler สามารถฉีดแก้ไขรอยพับและร่องลึกบริเวณใบหน้า เช่น
- ใบหน้า
- หน้าแก้ม
- ร่องแก้ม ร่องนํ้าหมาก
- หลังมือ
ทั้งนี้ไม่แนะนาให้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา ร่องระหว่างคิ้ว จมูก ปาก และรอบปาก ซึ่งถ้าหากคนไข้มีปัญหาผิวและมีความกังวลในจุดนี้ก็สามารถเลือกทำหัตถการอื่น ๆ แทนได้ครับ อย่างการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ก็จะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า เช่น
- ฟิลเลอร์ยกหน้า แก้ปัญหาหน้าตก เติมเต็มบริเวณร่องแก้มและร่องใต้ตาให้ฟูและตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับและดูเด็กลง
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ลดขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ลดถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย เติมเต็มเบ้าตาลึก ตาโหล ช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้ง
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึก และส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูก หากมีเทคนิคฉีดไล่ตั้งแต่เส้นของร่องแก้มบริเวณปากไล่ขึ้นมา จะช่วยยกมุมปากขึ้นได้ด้วย
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเติมเต็มขมับลึก ขมับตอบ ปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูสมดุลได้สัดส่วนมากขึ้น โหนกแก้มดูเด่นน้อยลง รวมถึงช่วยปัญหาแก้ริ้วรอยหางตาให้ดูตื้นขึ้น ผิวบริเวณช่วงขมับกลับมาเต่งตึง เปล่งปลั่ง ใบหน้าโดยรวมดูหวานขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ มีร่องลึก รอยบุ๋มที่หน้าผาก ช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วน หน้าดูหวานขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปาก ให้ปากอวบอิ่มขึ้น แก้ปัญหาปากบาง ปากแห้งลอก ปากไม่เป็นทรง รูปปากคว่ำ ดูหน้าบึ้ง ให้กลับมาดูยิ้มแย้มสดใสขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ช่วยปรับรูปหน้า และเสริมคางให้เรียวสวย ใบหน้าวีเชฟขึ้น
“ ข้อควรรู้ : การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง จะใช้จำนวน CC รุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ต่างกัน ดังนั้นก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี หมอจะเป็นผู้แนะนำว่าผิวของเราเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน เพื่อให้ผลการฉีดฟิลเลอร์ออกมาดีที่สุดตามที่แต่ละคนต้องการครับ ”
คุณสมบัติของ Radiesse filler ช่วยอะไรบ้าง ?
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I +150% ทําให้ผิวมีโครงสร้างแข็งแรง (Strong Structural Skin) เปรียบเสมือนเป็นเสาเข็มให้เซลล์ผิวใหม่มายึดเกาะ ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type III +130% ฟื้นฟูถึงในระดับคอลลาเจนและอิลาสติน ที่อยู่ใต้ผิวหนังในบริเวณเนื้อเยื่อให้มีการจัดเรียงใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความกระชับ ริ้วรอยลดลง มีวอลลุ่มมากขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสติน +260% เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
- ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดขนาดเล็กทําให้มีสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิว (Angiogenesis)
- กระตุ้นการสร้างนํ้าหล่อเลี้ยงผิวทําให้ผิวชุ่มชื้น (Proteoglycan) ยืดหยุ่น และคืนตัวได้ดี
Radiesse filler ราคาเท่าไหร่ ?
Radiesse ราคาแต่ละคลินิกจะต่างโปรโมชันในช่วงนั้น ๆ รวมถึงปริมาณ CC ที่ใช้ครับ สำหรับที่ V Square Clinic จัดโปร Radiesse 2 กล่อง 5x,xxx.- ก่อนฉีดคนไข้สามารถเข้ามาให้หมอประเมินปัญหาผิวหน้าก่อนได้ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ Radiesse กับหัตถการงานผิวอื่น ?
ปัจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องงานผิวที่เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนหลายยี่ห้อครับ ที่นิยมก็จะมี Radiesse Sculptra และ Gouri ส่วนหัตถการงานผิวอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็จะมีการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว รวมถึงการฉีด Rejuran และ Exosome หนึ่งในกลุ่มเมโสที่ช่วยฟื้นฟูผิวถึงระดับผิวชั้นในได้
Radiesse
- Radiesse filler เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการเพิ่มวอลลุ่มของใบหน้า
- มีส่วนประกอบหลัก คือ CaHA ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกาย จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย ไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน และสามารถสลายไปตามธรรมชาติ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycan
- เหมาะกับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ไม่มีวอลลุ่ม มีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ต้องการมีผิวเด็ก อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว
- หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรกจะเริ่มเห็นผลว่าผิวกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือน
- คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
Sculptra
- Sculptra เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวเดิม
- มีส่วนประกอบหลัก คือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
- ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน Type 1 ขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติได้ถึง 66.5% ทำให้ผิวแน่นกระชับ อิ่มฟู ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว และยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย รวมถึงจะช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้นได้
- เหมาะกับคนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ต้องการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวภายใน ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากการแก่ของผิว และรักษาใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ไว้ได้นานขึ้น
- หลังฉีดตัวยา Sculptra ประมาณ 5 วัน PLLA จะเริ่มเข้าไปออกฤทธิ์ มีกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน
- คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
Gouri
- Gouri เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นฟื้นฟู และแก้ไขผิวที่เสื่อมสภาพตามวัยให้มีคุณภาพดีขึ้น
- มีส่วนประกอบหลัก คือ สาร PCL (Polycaprolactone) ที่มาในรูปแบบของเหลว (Fully Liquid)
- ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวที่เสื่อมโทรม แห้งกร้านกลับมาดูสุขภาพดีขึ้น อิ่มน้ำ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง มีความแน่นฟู กระชับ และเรียบเนียน
- เหมาะกับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีริ้วรอยแห่งวัย ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว และป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต รวมถึงคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้า แต่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์
- หลังฉีด Gouri เห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
- คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
Rejuran
- รีจูรัน (Rejuran) จัดอยู่ในกลุ่ม Skin Booster ที่เน้นฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูอิ่มน้ำ ผิวฟู ดูฉ่ำวาว ผิวกระจก (glass skin)
- มีส่วนประกอบหลัก คือ Polyneucleotide (พอลินิวคลิโอไทด์) หรือ PN ที่ได้มาจาก DNA จากปลาแซลมอน (Salmon DNA)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินรวมถึงเส้นใย fibroblast ในการฟื้นฟูผิวได้ ผิวจึงแข็งแรงจากภายใน ชุ่มชื้น แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีผิวแห้งกร้าน ผิวเสื่อมโทรม ขาดการบำรุง ต้องการปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยสิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง สุขภาพดีขึ้นแบบเร่งด่วน
- หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 2-5 วัน และเริ่มเห็นผลชัดเจนประมาณ 4 สัปดาห์
- คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวของแต่ละคน
exosome
- การทำ Exosome จัดอยู่ในกลุ่ม Skin Booster ที่เน้นปรับสภาพและฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์
- มีส่วนประกอบหลัก คือ สารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด ที่จะช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ เช่น Protein, Nucleic Acid, Lipids
- ช่วยฟื้นฟูผิวแข็งแรงจากภายใน รักษาสิว ลดผิวอักเสบ ผิวแพ้ง่าย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ยืดหยุ่น เต่งตึง และเรียบเนียน
- เหมาะกับคนที่เป็นสิวบนใบหน้า มีหลุมสิวตื้น ๆ รอยสิว รอยแผลเป็น มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ใบหน้าโทรมไม่สดใส
- หลังทำ exosome สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ใน 3-7 วัน
- หากทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวเดิมของคนไข้
ฟิลเลอร์ skin booster
- ฟิลเลอร์ skin booster เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าสู่ชั้นผิว เน้นงานผิวโดยเฉพาะ
- มีส่วนประกอบหลัก คือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HA (ยกเว้นฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่มีส่วนประกอบเป็น Hyaluronic Acid + Glycerol )
- มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volite, ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Vital Light และ ฟิลเลอร์ Belotero รุ่น Revive
- ช่วยปรับสภาพผิวทั่วใบหน้า ฉีดเพื่อเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ทำให้ผิวเรียบเนียน ฉ่ำวาว
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ดูไม่สดใส ต้องการกระชับรูขุมขน เติมเต็มหลุมสิว ปรับใบหน้าเรียบเนียน และยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนของผิว มีริ้วรอยร่องลึก เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ร่องใต้ตา ร่องมุมปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ skin booster จะเห็นผลทันที เห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์
- คงผลลัพธ์ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังฉีด
จะเห็นว่าแต่ละหัตถการจะมีส่วนประกอบ จุดเด่น ผลลัพธ์ ระยะเวลาเห็นผล และยังเหมาะกับการแก้ปัญหาที่ต่างกันด้วย ดังนั้นหากคนไข้ไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับหัตถการไหน ในเบื้องต้นแนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนครับ เพื่อแพทย์จะได้ประเมินปัญหาผิว และเลือกหัตถการที่เหมาะสม แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการใช้ผลิตภัณฑ์ผ่านการเทรนจากบริษัทนำเข้า Merz Aesthetic Thailand มาแล้วเท่านั้น เพราะก่อนฉีดจะต้องรู้เทคนิคการเตรียมและการผสมยาอย่างถูกต้อง รวมถึงควรฉีดฟิลเลอร์ Radiesse กับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ โดยคนไข้สามารถพิจารณาจาก
- คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีชื่อคลินิกชัดเจนและเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขติดไว้ในที่เห็นได้ และมีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ Radiesse ของแท้ คนไข้สามารถตรวจสอบวิธีดู Radiesse ของแท้ ได้ตามนี้ครับ
วิธีเช็ก Radiesse ของแท้
- มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ
- มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Rediesse ของแท้หรือไม่
- เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน
- มีใบรับประกัน Skin Rejuvenetioon Card หรือ Radiesse Club Card
- โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse
การดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse
- หลังฉีด Radiesse อาจมีอาการบวมได้เล็กน้อย เป็นอาการปกติและจะหายเองได้ 72 ชั่วโมงแนะนำให้เลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด
- งดแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
- งดการทําหัตถการที่มีความร้อนสูง งดซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หากรู้สึกว่ามีก้อนใต้ผิวหนัง สามารถกดนวดในบริเวณที่เป็นก้อนเพื่อลดอาการได้
- หากบริเวณที่ฉีดมีรอยชํ้า ซึ่งพบได้เป็นปกติเนื่องจากการฉีดเป็นการฉีดกระจายทั่วหน้า
- หากพบว่าผิวมีลักษณะแดง ๆ แนะนําประคบเย็น ทาและรับประทานยาที่ช่วยลดอาการชํ้า
- หากผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว แนะนําประคบอุ่น (ตามคําแนะนําของแพทย์)
- หากพบความผิดปกติอื่น ๆ แนะนําพบแพทย์
- หากมีการตรวจรักษาร่างกายอื่น ๆ ในบริเวณที่ฉีด Radiesse ให้แจ้งแพทย์ที่ทําการรักษา
ข้อควรระวังหลังฉีด ฟิลเลอร์ Radiesse
ข้อควรระวังหลังฉีด ฟิลเลอร์ Radiesse ไม่ได้มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษครับ คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แนะนำให้เลี่ยงการจับ เกา ถู นวดหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อจากรูเข็มที่ยังไม่ปิดสนิท หรือหากพบว่าผิวบริเวณที่ฉีดมีลักษณะแดง ๆ แนะนําประคบเย็น ทาและรับประทานยาที่ช่วยลดอาการชํ้า หากผ่าน 24 ชม.ไปแล้วแนะนําประคบอุ่น (ตามคําแนะนําของแพทย์)
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse
หลังฉีด Radiesse filler อาจมีรอยแดงจากเข็มหรือรอยเขียวช้ำ ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ครับ จะหายได้เองใน 1-3 วัน ส่วนผลข้างเคียงอย่างอื่น เช่น ผิวเปลี่ยนสี ผิวบริเวณที่ฉีดซีดลง กรณีนี้เป็นผลข้างที่ไม่ปกติ แนะนำไปพบแพทย์ในทันที เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมครับ
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse อยู่ได้นานไหม ?
หลังฉีด Radiesse จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปีครับ ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีด และการดูแลตัวเองเพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse กี่วันเห็นผลลัพธ์ ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ โดยใน 1 เดือนแรกจะเริ่มเห็นผลว่าผิวกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง จากนั้นใน 3-6 เดือน Radiesse จะเริ่ม
ออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทําให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงจนเห็นผลชัดเจนเต็มที่ว่าผิวยกกระชับ มีความยืดหยุ่น ใบหน้ามีวอลลุ่มมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
หากต้องการเห็นผลเต็มที่และอยู่ได้นาน หมอแนะนำให้ฉีด Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้งครับ โดยเว้นห่างอย่างน้อย 1 เดือน หมอจะประเมินเป็นรายเคส ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผิวคนไข้แต่ละบุคคล
Radiesse filler 1 กล่อง มีกี่ CC ?
Radiesse filler ตัวยาจะมาในรูปแบบเจลที่อยู่ในสภาพพร้อมฉีด (Pre-filled syringe) มีอายุในการเก็บรักษา 2 ปี สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ 15-25° C โดยไม่ต้องเก็บในตู้เย็น โดย 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ ซึ่งจะเท่ากับ 1.5 CC ครับ ใน 1 ไซริงค์ จะประกอบด้วย
- แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ไมโครสเฟียร์ (CaHA) 30% ลักษณะทรงกลมขนาด 25-45 ไมครอน
- เจลคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (CMC) 70%
สรุป
Radiesse filler เป็นหัตถการงานผิวที่ไม่ใช่แค่ช่วยปรับสภาพผิวในระดับผิวชั้นตื้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวจนถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก ทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ การฉีด Radiesse filler จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการลดอายุผิว คงความอ่อนเยาว์ มีผิวเด็กโดยไม่ต้องผ่าตัด
ทั้งนี้ก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติและการทำงานของ Radiesse filler ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ ตลอดจนถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse filler เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้ครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ควรกิน ควรเลี่ยง
Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย
ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?
ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสียอย่า...
Reading Time: 6 minutes- ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?
ไขมันช่องท้อง อันตราย! แนะนำวิธีลดไขมันช่องท้อง เพื่อหุ่น...
Reading Time: 4 minutes- ไขมันช่องท้อง เกิดจากอะไร? - การวัดค่าไขมันในช่องท้อง - ไขมันในช่องท้องเยอะ อันตรายไหม? - วิธีลดไขมันในช่องท้องด้วยตัวเอง - วิธีลดไขมันในช่องท้อง เร่งด่วน
ulthera prime รุ่นใหม่ เทียบกับรุ่นเก่าต่างกันอย่างไร ? เ...
Reading Time: 3 minutes- ulthera prime คืออะไร ? - ulthera prime ช่วยอะไรได้บ้าง ? - ulthera prime ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - ขั้นตอนการทำ ulthera prime - ulthera prime กี่วันเห็นผล ?
5 อาการหลังทำ HIFU ผลข้างเคียง เจ็บ บวม ช้ำ ปกติหรือไม่ ด...
Reading Time: 2 minutes- หลัง HIFU ผลข้างเคียง มีอะไรบ้าง? - วิธีดูแลตัวเองหลังทำ hifu เพื่อคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น - เลือกคลินิกทำ hifu ที่ไหนปลอดภัย เห็นผล
