Sculptra vs Rejuran
Sculptra vs Rejuran เลือกอันไหนดี ?
หลายคนที่มองหา Skin Booster ฟื้นฟูและเสริมเกราะให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี แก้ปัญหาริ้วรอย หลุมสิว ปรับผิวให้เรียบเนียน อาจยังลังเลระหว่าง Sculptra และ Rejuran อยู่ครับ
ในบทความนี้หมอได้เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างของทั้ง 2 หัตถการ พร้อมตอบคำถาม Sculptra vs Rejuran ฉีดตัวไหนดีกว่า ? ฉีดร่วมกันได้ไหม ?
สารบัญ Sculptra vs Rejuran
ทำความรู้จัก Sculptra หัตถการงานผิวจากอเมริกา
Sculptra เป็นนวัตกรรมฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก ด้วยการฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือ Collagen Stimulator ที่สกัดจาก PLLA (Poly-L-Lactic acid) เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว จะทำงานผ่านระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ดึงเม็ดเลือดขาว Macrophage เข้ามาเหนี่ยวนำให้เซลล์ Fibroblast รวมตัวและเพิ่มจำนวน เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในโครงสร้างผิวอย่างต่อเนื่อง ช่วยเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- เสริมเกราะให้ผิวแข็งแรง ในโครงสร้างผิวมี Collagen เป็นส่วนประกอบมากถึง 75% ครับ การฉีด Sculptra จึงช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพ และเสริมเกราะให้ผิวแข็งแรงจากภายใน
- เพิ่มคุณภาพผิว Sculptra กระตุ้นให้เกิดการสร้าง Collagen Type I ถึง 66.5% ซึ่งเป็นประเภทที่พบมากในชั้นผิวที่อ่อนวัย ทำให้ผิวอิ่มฟู ยืดหยุ่น และแน่นกระชับ
- ยกกระชับใบหน้า Sculptra ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาเต่งตึง แก้ปัญหาแก้มและเหนียงใต้คางห้อยย้อย รวมถึงช่วยให้ผิวอิ่มฟู เติม Volume ให้ใบหน้าในเคสที่ขมับตอบ แก้มตอบ
- ลดเลือนริ้วรอย Sculptra ช่วยเติมเต็มผิวหนังที่เกิดริ้วรอยตามช่วงวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องใต้ตา คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
- ชะลอการเกิดริ้วรอย หลัง Sculptra สลายหมดแล้ว เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่เคยสร้างขึ้นยังคงอยู่ครับ จึงช่วยยกพยุงโครงสร้างผิว ให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว เกิดรอยพับและริ้วรอยได้ยาก
สาร PLLA ใน Sculptra ผ่านกระบวนการผลิตที่จดสิทธิบัตรเฉพาะของบริษัทกัลเดอร์มา ได้เป็นอนุภาค PLLA-SCA ที่ฉีดเข้าชั้นผิวได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ สามารถฉีดได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย โดยจะเน้นในจุดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น หน้าแก้ม ขมับ และกรอบหน้า ไม่แนะนำให้ฉีดตรง T-Zone ครับ
หลังฉีด Sculptra จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 2-3 สัปดาห์ ในช่วงแรกหมอแนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง เว้นห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อปรับสภาพผิวครับ เมื่อผิวสร้างคอลลาเจนเต็มที่แล้ว จะอยู่ได้นาน 2 ปี แต่ถ้าฉีดครั้งเดียว ไม่ฉีดซ้ำ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-4 เดือน
ทำความรู้จัก Rejuran หัตถการงานผิวจากเกาหลีใต้
Rejuran จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับฉีดเมโสหน้าใสครับ เป็นนวัตกรรมฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว ด้วย Polynucleotide หรือ PN ซึ่งเข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ หลังฉีดจะเข้าไปแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ Fibroblast โดยตรง ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ คอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย Rejuran ช่วยลดการอักเสบของผิว และแทนที่เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากสารเคมีหรือแสงแดด กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย รอยแดง และรอยคล้ำ
- เพิ่มความยืดหยุ่น เมื่อผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยเพิ่มกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น อิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวหน้าแห้ง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิว
- สร้างผิวกระจก Rejuran ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้สีผิวกระจ่างใสขึ้น รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง และกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียน ฉ่ำโกลว์ Glass Skin
- ปกป้องผิว เซลล์ผิวที่สร้างขึ้นมาใหม่ นอกจากทำให้ชั้นผิวหนา แข็งแรง และอิ่มฟูแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากมลภาวะ สารเคมี และแสงแดดมากขึ้นครับ
- เติมหลุมสิว Rejuran ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อได้ดีและรวดเร็ว นิยมใช้รักษาหลุมสิว ปรับให้ผิวเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขน ควบคุมความมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบได้อีกด้วย
สารสกัด PN สกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอนในทะเลธรรมชาติ ซึ่งมีลำดับเบสใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ จึงฉีดได้อย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ นิยมฉีดที่ใบหน้ามากที่สุด แต่ก็สามารถฉีดลำคอ และหลังมือได้ครับ ในการฉีด Rejuran จะฉีดในผิวชั้นหนังแท้เช่นเดียวกับการฉีดมาเด้หน้าใส ฉีดเมโสหลุมสิว กระจายเป็นจุด ๆ ในบริเวณที่ผิวมีปัญหา
หลังฉีด Rejuran จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3-5 วัน หมอแนะนำให้ฉีดจำนวน 4 ครั้ง เว้นห่างกัน 2-3 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 6-12 เดือนครับ หลังจากนั้นสามารถเว้นระยะเป็น 3-6 เดือนต่อครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์
Sculptra vs Rejuran เหมือนกันอย่างไร ?
Sculptra และ Rejuran เป็นหัตถการงานฉีด นวัตกรรมช่วยฟื้นฟูผิว (Skin Rejuvenation) เหมือนกัน เด่นในการกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง กระชับ แก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดี
Sculptra vs Rejuran ต่างกันอย่างไร ? เทียบให้ชัด!
แม้จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน และได้รับความนิยมทั้งคู่ แต่ Sculptra และ Rejuran ก็มีความแตกต่างกันอยู่หลายจุด หมอเปรียบเทียบให้ดูครับ
Sculptra vs Rejuran ฉีดตัวไหนดี ?
ทั้ง Sculptra และ Rejuran มีจุดเด่นและใช้แก้ปัญหาที่แตกต่างกัน การเลือกว่าตัวไหนให้ผลลัพธ์ดีกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ครับ ว่ากังวลในเรื่องใด สามารถปรึกษาและประเมินสภาพผิวกับหมอก่อนได้ เพื่อแนะนำวิธีที่เหมาะสม และตรงกับงบประมาณ
Sculptra vs Rejuran ฉีดร่วมกันได้ไหม ?
Sculptra และ Rejuran สามารถฉีดร่วมกันได้ครับ แต่ควรเว้นระยะให้เหมาะสม เพราะฉีดคนละชั้นผิว และให้ผลลัพธ์ผิวที่แตกต่างกัน Sculptra จะเน้นในเรื่องผิวอิ่มฟู กระตุ้นคอลลาเจน เติม Volume ให้ผิว ส่วน Rejuran ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียน อิ่มน้ำ
หากต้องการฉีดร่วมกัน สามารถแจ้งหมอในระหว่างประเมินใบหน้าครับ เพื่อเรียงลำดับหัตถการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา
หัตถการงานผิวตัวไหนที่ได้รับความนิยมอีกบ้าง ?
สำหรับใครที่มีปัญหาผิวแห้ง หมองคล้ำ ผิวแพ้ง่าย เป็นสิว หรือริ้วรอย ใช้สกินแคร์และเรตินอลแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ในปัจจุบันมีหัตถการกลุ่มงานผิวอีกหลายตัวที่ช่วยฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลชัดเจนและรวดเร็วกว่าการทาครีม ซึ่งแต่ละตัวจะใช้สารและช่วยแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน เช่น
ราคาโปรโมชันฉีด Sculptra และ Rejuran
ที่ V Square Clinic ให้บริการทั้ง Sculptra และ Rejuran ใช้ตัวยาของแท้ ตรวจสอบได้ หมอแกะยาใหม่ให้ดูทุกเคส
Sculptra ราคาต่อ 1 ขวด ฉีดได้ 10 CC เริ่มต้นที่ 2x,xxx บาท รายละเอียดโปรโมชัน ดังนี้
Rejuran Healer ราคาต่อ 1 หลอด บรรจุ 2 CC เริ่มต้นที่ 9,xxx บาท รายละเอียดโปรโมชัน ดังนี้
สรุปเกี่ยวกับ Sculptra vs Rejuran
Sculptra vs Rejuran เลือกอันไหนดี ? ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ที่คนไข้กังวลใจครับ Sculptra เหมาะกับผู้ที่ผิวย้วย ขาดความกระชับ ต้องการผิวเฟิร์ม ปรับผิวให้อิ่มฟู ส่วน Rejuran เหมาะกับผู้ที่รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ ต้องการเพิ่มความกระจ่างใส ปรับผิวให้เรียบเนียน ฉ่ำวาว งานผิวกระจก
ที่ V Square Clinic ให้บริการทั้ง 2 หัตถการครับ หากต้องการฉีดร่วมกัน หรือเลือกตัวใดตัวหนึ่ง สามารถเข้าประเมินใบหน้าที่สาขาใกล้บ้าน ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หมอจะช่วยวางแผนและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดครับ
อ้างอิง :
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/38564382/
- https://journals.lww.com/md-journal/fulltext/2024/03150/application_of_plla__poly_l_lactic_acid__for.36.aspx
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7984045/
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC10423761
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ