ร้อยไหม คืออะไร อันตรายหรือไม่ ? เจาะลึก 15 ข้อที่ควรรู้ เกี่ยวกับร้อยไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

Reading Time: 5 minutes
ร้อยไหม

ร้อยไหม

การร้อยไหม คือ การใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้าย ๆ ตะขอเกี่ยว สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ร้อยไหมจมูก

รีวิว ร้อยไหมหน้าเรียว

ในบทความนี้จะกล่าวถึง ข้อดี-ข้อเสีย ขั้นตอนการร้อยไหม ประโยชน์ของการร้อยไหม ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และการเลือกชนิดเส้นไหมให้เหมาะกับหน้าของแต่ละคน สำหรับคนที่กำลังหาว่าจะร้อยไหมที่ไหนดี แนะนำให้อ่านบทความนี้ครับ

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น(1)
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 6 เส้น

ภาพเปรียบเทียบ ก่อน-หลัง ร้อยไหม จะเห็นว่าใบหน้ายกกระชับขึ้นทันที

สารบัญ ร้อยไหม


ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

การร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันมานานครับ โดยสามารถช่วยได้หลายเรื่อง ได้แก่

  • ร้อยไหมหน้าเรียว ปรับรูปหน้า
  • ร้อยไหมยกกระชับ แก้ปัญหาแก้มหย่อน
  • ร้อยไหมจมูก เสริมจมูกให้โด่งสวย
  • ร้อยไหม Foxy Eye แก้ปัญหาหนังตาตก ยกหางตาเฉี่ยว
  • ร้อยไหมช่วยลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว

การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง ?

การร้อยไหม เหมาะกับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย อยากยกคิ้ว ยกหางตาตก ปรับรูปทรงจมูก โดยไม่ต้องผ่าตัด และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วครับ

จุดที่ร้อยไหม เพื่อดึงแก้มหย่อน
จุดที่ร้อยไหม เพื่อดึงแก้มหย่อน

ในการร้อยไหม จะมีจุดที่ดึงบริเวณแก้มส่วนล่างและจุดที่ยึดอยู่บริเวณขมับดึงเข้าหากันจึงสามารถดึงแก้มที่หย่อนขึ้นได้ทันที

หลังการร้อยไหม จะทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมเข้าไป เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน และทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวหนังมากขึ้น ช่วยให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน

นอกจากนี้การร้อยไหม ยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อก หรือ Hifu โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกันครับ


ร้อยไหม อันตรายไหม ?

ร้อยไหม ไม่อันตรายครับ ถ้าหากร้อยด้วยวิธีที่ถูกต้อง และใช้ไหมละลายที่ผ่านการรับรองจาก อย. รวมไปถึงเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ

โดยทั่วไปจะประคองผิวได้ประมาณ 4 เดือน ถึง 1 ปี (ขึ้นกับชนิดของไหมที่ร้อย) เมื่อเวลาผ่านไป เส้นไหมก็จะละลายไปโดยไม่เป็นอันตราย การร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินช่วยประคองผิว คล้ายเส้นเอ็นที่มีอยู่ตามธรรมชาติของร่างกายครับ


ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม ที่ควรรู้ ?

ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้

  • มีอาการบวม หรือเขียวช้ำ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7-14 วัน
  • ขณะทำจะรู้สึกถึงเส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไปบนใบหน้า
  • อาจมีเลือดออกบริเวณที่แทงเข็มเข้าไป

สำหรับผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น ไหมทะลุ ไหมขาด เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ติดเชื้อ ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดจากการร้อยไหมกับหมอเถื่อน คลินิกเถื่อน ไม่ได้ใช้ไหมที่ปลอดภัย ดังนั้นก่อนตัดสินใจร้อยไหม ควรพิถีพิถันในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ


ข้อห้ามในการร้อยไหม มีอะไรบ้าง ?

  • ในผู้ที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะร้อยไหม
  • เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัสดุเส้นไหม ที่วินิจฉัยว่าแพ้โดยแพทย์ หากมีอาการข้างเคียง (Side Effect) อื่น ๆ ไม่ได้ถือว่าเป็นการแพ้ (Allergy)
  • มีประวัติแพ้ยาชา (หากคนไข้ไม่เคยฉีดยาชาทำฟันมาก่อน ควรแจ้งแพทย์เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาชา)
  • มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding Disorder) แพทย์จะพิจารณาว่าสามารถร้อยไหมได้หรือไม่ ตามดุลยพินิจ
  • ห้ามร้อยไหมในผู้ที่ตั้งครรภ์
  • ในกรณีให้นมบุตรควรปรึกษาสูติแพทย์ที่ดูแลก่อนร้อยไหม

ร้อยไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

No.ข้อดี
1.เงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที หลังร้อยไหมเห็นผลได้ทันที
2.เส้นใยดังกล่าว ถ้าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง และชั้นผิวที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยประคองผิว กระชับผิว คล้าย ๆ เส้นเอ็นที่อยู่บนใบหน้าตามธรรมชาติ
3.ไหมละลายที่ปลอดภัยสำหรับการร้อยไหมในปัจจุบันทำจากวัสดุ 3 ชนิด1.PDO (Polydioxanone)2.PLLA (Polylactate)3.PCL (Polycaprolactone)ซึ่งวัสดุทั้ง 3 ชนิดนี้ ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยในการเย็บแผลครับ
4.ไหมละลายในปัจจุบัน ไม่มีส่วนผสมของโลหะ สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา โดยไม่มีสารตกค้าง จะเหลือเพียงเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งช่วยประคองผิว
5.ในคนที่แก้มตอบบางเคสสามารถใช้ไหมดึงไขมันขึ้นมาเติมแก้มได้ แก้มล่างยุบและแก้มบนเต็มขึ้น(ต้องมีเนื้อแก้มส่วนล่างให้ดึงนะครับ ถ้าไม่มีเนื้อก็ต้องใช้ฟิลเลอร์)
6.หากร้อยไหมกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ก็จะลดความเสี่ยงในการบวมช้ำลงได้มาก
7.การร้อยไหมเส้นเล็ก ๆ สามารถแก้ริ้วรอยในบางจุดได้ เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณมุมปากที่คล้าย ๆ ลักยิ้ม หรือริ้วรอยหางตา, หน้าผาก ในเคสที่ดื้อโบท็อก
No.ข้อเสีย
1.บนเส้นไหมจะมีเงี่ยงที่ทำหน้าที่คล้ายตะขอสำหรับดึงผิวไปในทิศที่ต้องการ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป จะเกิดรอยบุ๋มขึ้นตามแนวที่ร้อยไหมได้
2.เส้นไหมจะกระตุ้นให้ fibroblast (เซลล์สร้างคอลลาเจน) เกิดการสร้างเส้นใย collagen และ elastin แต่ถ้าซ้อนทับกันมากเกินไป และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องก็จะเรียกว่า พังผืด (fibrosis) ถ้าอยู่ในผิวชั้นตื้นเกินไป ก็จะดึงรั้งผิวให้ผิดรูปได้
3.ไหมละลายมีอายุ 4 เดือน-1 ปี ขึ้นกับชนิดของเส้นไหม แต่ถึงแม้ไหมจะยังละลายไม่หมด ในคนส่วนมาก เมื่อเวลาผ่านไป 6-8 เดือน ผิวก็จะหลุดออกจากเส้นไหมได้ก่อน ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าตามที่โฆษณาและไหมละลายบางชนิดที่อยู่ได้นาน แต่ขาดความยืดหยุ่น เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการเคลื่อนตัวและทะลุโผล่ออกมานอกผิวหนังได้
4.หากเป็นไหมยุคโบราณ ที่มีส่วนผสมของโลหะ เช่น ทองคำ โลหะจะดูดความร้อนจากการทำ X-ray, MRI, เครื่องสแกนต่าง ๆ และจะทำให้ผิวไหม้ได้
5.ในทรงหน้าของบางเคสที่โหนกแก้มเด่น หากร้อยไหมจะยิ่งทำให้โหนกแก้มเด่นขึ้น และไม่สวยแนะนำให้ปรับรูปหน้าด้วยวิธีอื่นแทนเช่น ฟิลเลอร์แก้มตอบ
6.ในการร้อยไหม มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน
7.บางคลินิกใช้การร้อยไหมเติมแทนฟิลเลอร์ อันนี้ไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะการเติมเต็มใต้ตาร่องแก้มต้องใช้ปริมาณเส้นไหมจำนวนมาก (เป็นร้อย ๆ เส้น) จะทำให้เกิดพังผืด และเกิดปัญหาในอนาคตครับ
ในคลิปจะเห็นว่าการร้อยไหมสามารถดึงแก้มให้ยกขึ้นได้ทันที

ร้อยไหมแล้วหน้าบวม 14 วัน เกิดจากอะไร ?

เกิดได้จาก 4 สาเหตุหลัก ๆ ครับ

1. เนื้อแก้มเยอะ หรือดึงเยอะเกินไป

วิธีร้อยไหมที่หน้าในคนที่มีเนื้อแก้มเยอะ หมอแนะนำให้ทำเมโสแฟต ให้แก้มน้อยลงก่อนครับ จะทำให้สามารถดึงไหมได้เยอะขึ้นเพราะประโยชน์ของการร้อยไหมไม่ได้ช่วยลดไขมันบนใบหน้าครับ

ถ้าคนที่ใจร้อนก็สามารถร้อยไหมได้ แต่ก็จะดึงได้น้อยลง ถ้าดึงเยอะเนื้อแก้มก็จะไปกองด้านบน ทำให้ดูเหมือนหน้าบวมได้ครับ ซึ่งในกรณีแบบนี้จะบวมนานเกิน 1 เดือน ต้องรอให้ไหมเริ่มคลาย 2-3 เดือนถึงจะเริ่มดีขึ้น

ในบางเคสที่เนื้อแก้มเยอะ การร้อยไหมจะช่วยให้เนื้อแก้มน้อยลงได้ครับ โดยผ่านกระบวนการ fat-reposition (การดึงไขมัน) ด้วยการร้อยไหม แต่จะต้องใช้เวลาหลายเดือน และต้องร้อยไหมหลายครั้งครับ

2. การดึงไหมผิดแนว

ถ้าร้อยไหมเพื่อดึงร่องแก้ม จะทำให้โหนกแก้มเนื้อเยอะขึ้นและทำให้หน้าดูบวมได้ครับ ปกติการร้อยไหมจะเน้นแก้ไขความหย่อนของแก้มในบริเวณใกล้ ๆ มุมปาก ร้อยไหมกรอบหน้ามากกว่าครับ

ร้อยไหมแล้วหน้าบวม 14 วัน เกิดจากอะไร(1)

จะเห็นว่าการร้อยไหมนั้นต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญในการประเมินทรงหน้าของแพทย์ด้วยครับ จึงจะทำให้ผลในการร้อยไหมออกมาสวยและเข้ารูป

3. การอักเสบติดเชื้อ

ปกติหลังร้อยไหม ในช่วง 3-4 วันแรกจะมีอาการบวม และหลังจากนั้นอาการบวมจะเริ่มยุบลงจนเข้าที่ใน 14 วัน แต่ถ้าหลังจาก 4 วันแล้วยังบวมแดงมากขึ้น ปวดมากขึ้น ต้องรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินและให้ยากินเพิ่มครับ

4. บวมเลือด, บวมน้ำ

  • บวมเลือด คือ มีเลือดออกในชั้นผิว (hematoma)
  • บวมน้ำ คือ มีน้ำคั่งในชั้นผิวจากการอักเสบ (edema)

ซึ่งทั้ง 2 กรณี จะยุบหายไปเองในระยะ 2-3 อาทิตย์ โดยไม่มีอันตราย

ร้อยไหมแล้วหน้าบวม 14 วัน เกิดจากอะไร

ในการร้อยไหม จะใช้เข็มเพื่อนำเส้นไหมเข้าสู่ผิว ซึ่งเข็มที่ใช้จะมีลักษณะแตกต่างกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมเลือดและบวมน้ำได้ครับ


เข็มร้อยไหมแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร ?

เข็มร้อยไหมแต่ละแบบ
เข็มที่ใช้ในการร้อยไหมมีดังนี้ : เข็ม L, เข็มทู่, เข็มตัด, เข็มแหลม ตามลำดับ

A. เข็มแหลม มีโอกาสเกิดการ บวมเลือด > บวมน้ำ

จะตัดผ่านเนื้อคล้าย ๆ การใช้มีดคม ๆ ตัด จะเจ็บน้อยกว่า บวมน้ำน้อยกว่า เส้นเลือดเล็ก ๆ ที่โดนตัดผ่านจะสมานได้ไวกว่าการใช้เข็มทู่ แต่ถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่ก็จะมีโอกาสบวมเลือดได้ครับ ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์

B. เข็มทู่ มีโอกาสเกิดการ เกิดการ บวมน้ำ > บวมเลือด

จะผ่านเนื้อโดยการฉีกออกคล้าย ๆ การใช้มีดทื่อ ๆ ตัด จะเจ็บมากกว่า บวมน้ำเยอะกว่า สามารถหลบเส้นเลือดใหญ่ ๆ ได้ แต่เส้นเลือดเล็ก ๆ ก็ยังโดนฉีกขาดอยู่ดีครับ ยังมีเลือดออกได้ ในการร้อยไหมเข็มทู่ที่ใช้จะใหญ่กว่าเข็มทู่ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ครับ จึงบวมช้ำเยอะกว่าฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ถ้าใช้เข็มแหลม ผลที่ออกมาจะสวยกว่าเข็มทู่ครับ แต่เสี่ยงเข้าหลอดเลือด ฟิลเลอร์จึงจำเป็นต้องใช้เข็มทู่ แต่สำหรับการร้อยไหมหมอบางท่านจะถนัดเข็มแหลมมากกว่า เพราะสามารถควบคุมความแม่นยำได้ดีกว่าครับ

C. เข็มตัด เป็นกึ่งแหลมกึ่งทู่ครับ

ปลายเข็มมีลักษณะคล้ายหลอด มีความคมแต่ไม่ได้แหลมเท่าเข็มแหลม

D. เข็ม L พัฒนาต่อจากเข็มตัดอีกขั้นหนึ่งครับ

เข็มแต่ละประเภทไม่สามารถระบุได้ว่าชนิดไหนดีที่สุดครับ ขึ้นกับการประเมินเนื้อเยื่อของคนไข้และความถนัดของหมอแต่ละคนครับ เช่น ถ้าคนไข้เคยเป็นสิว และมีพังผืดเยอะ การใช้เข็มทู่ก็จะบวมช้ำมากกว่าเข็มแหลมครับ ที่ V Square Clinic จะมีเข็มทุกแบบ ซึ่งหมอจะประเมินและเลือกใช้ให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคนครับ


ทำไมร้อยไหม 3-4 เดือน ก็คลายแล้ว ?

การที่ไหมจะดึงผิวไว้ได้ มี 3 ปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้ครับ

1. Elastin ในเนื้อของคนไข้

เมื่อร้อยไหมยกกระชับหน้า จะใช้เส้นไหมที่มีเงี่ยงใช้เกี่ยวเนื้อคล้าย ๆ ตะขอ แต่หากเนื้อเยื่อที่เกี่ยว เกิดความเสื่อมสภาพ เงี่ยงก็จะไม่สามารถเกาะอยู่ได้นานครับ เนื้อจะหลุดออกจากเส้นไหม ก่อนที่ไหมจะละลายเสียอีก โดยเฉลี่ยอายุของ elastin ในผิวคือ 6 เดือนครับ

Elastin ในเนื้อ

การร้อยไหมในคนอายุเยอะ ผลที่ได้จะอยู่ได้สั้นลงครับ เพราะในผิวขาด elastin แต่เมื่อร้อยเพิ่มหลาย ๆ ครั้งจะอยู่ได้นานขึ้นเพราะการร้อยไหมจะช่วยกระตุ้นการสร้าง elastin ครับ

2. การสร้าง elastin

แม้เส้นไหมจะละลายไป แต่หากเนื้อเยื่อมีการสร้าง elastin ขึ้นมาเยอะ (คล้าย ๆ แปะกาว) ความกระชับก็ยังคงอยู่ได้ครับ

3. อายุของเส้นไหม

วัสดุที่ใช้ร้อยไหม

วัสดุที่ใช้ร้อยไหมได้ปลอดภัยมี 3 ชนิดคือ PCL / PLLA / PDO เรียงในรูปตามลำดับ

  • PCL (Polycaprolactone) ละลายหมดภายใน 12 เดือน เส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด เส้นใหญ่ที่สุด
  • PLLA (Polylactate) ละลายหมดภายใน 12 เดือน เส้นสีขาวใส ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย
  • PDO (Polydioxanone) จะละลายหมดภายใน 4-8 เดือน เส้นสีน้ำเงิน มีความยืดหยุ่นสูง เป็นที่นิยมมากที่สุด
คลิปเปรียบเทียบความยืดหยุ่น และคุณสมบัติของไหมแต่ละชนิดที่ใช้ในการร้อยไหม

ร้อยไหมอะไรดีที่สุด ?

ในการร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมยกกระชับหน้า คลินิกต่าง ๆ จะมีชื่อเรียกไหมแต่ละชนิดมากมาย เช่น ไหมกุหลาบ, ไหมปิรันย่า, ไหมทับทิม, ไหมทอนาโด ฯลฯ เป็นชื่อที่ไม่เป็นสากลครับ คลินิกต่าง ๆ ตั้งชื่อกันขึ้นมาเองเพื่อให้คนไข้ไม่สามารถเช็กราคาร้อยไหมเทียบกับคลินิกอื่น ๆ ได้ครับ

*เราสามารถสอบถามทางคลินิกเพิ่มเติมได้ครับว่าร้อยไหมชนิดไหน โดยดูตามลักษณะเส้นไหมด้านล่างนี้ครับ

แท้ที่จริงแล้วเราแยกชนิดไหมหลัก ๆ ได้ดังนี้ครับ

  • ตามชนิดวัสดุ PDO, PLLA, PCL
  • ตามลักษณะเส้นไหม
ลักษณะเส้นไหม

ในรูปนี้คือวัสดุ PDO จะเป็นสีน้ำเงินครับ ถ้า PLLA จะเป็นสีขาวใส, PCL จะสีขาวขุ่น ซึ่งจากประสบการณ์พบว่าไหมที่ดึงหน้าได้ดีที่สุดคือไหมเงี่ยงใหญ่ครับ เป็นที่นิยมใช้ในทุกคลินิก แล้วแต่ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร และตั้งราคาร้อยไหม ต่างกันเท่านั้นเอง

ฟังคำตอบจากคุณหมอ ร้อยไหมอะไรดีที่สุด

ข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ร้อยไหม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น

ก่อนร้อยไหม

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อวางแผนการรักษา
  • เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าพร้อมก็สามารถร้อยไหมได้เลยครับ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E)
  • 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • ทางคลินิกจะมีการฉีดยาชาให้ก่อนร้อยไหม

การดูแลตัวเอง หลังร้อยไหม

  • หลังร้อยเสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ ในจุดที่ร้อยไหมได้เป็นปกติ หายไปเองใน 2-3 วัน ห้ามแกะ เกา หรือกดนวด
  • ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้
  • ช่วง 3 วันแรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ อาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
  • งดยิงเลเซอร์ร้อน และหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 2 เดือน

ในการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ข้อสำคัญคือควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดครับ โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อนและควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสัมผัสใบหน้า


ร้อยไหม vs ฟิลเลอร์ vs โบท็อก vs Ulthera/Hifu ควรทำอะไรดี ?

แบ่งได้ง่าย ๆ ตามนี้ครับ
  • ร้อยไหม เหมาะสำหรับคนที่แก้มหย่อนมาก ๆ จะเห็นผลได้ชัดเจน โดยที่ราคาไม่แพง
  • Ulthera / Hifu เหมาะสำหรับคนที่แก้มหย่อนไม่มาก เห็นผลไม่ชัดเจนเท่าร้อยไหม และราคาค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม
  • ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับคนที่หน้าหย่อนคล้อยจากร่องใต้ตาร่องแก้มที่ลึก
  • โบท็อก สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามเยอะ (กัดฟันแล้วกรามเด้งเยอะ) ร่วมกับมีริ้วรอยบริเวณหางตา-หน้าผาก

หลาย ๆ หัตถการสามารถทำร่วมกันได้ครับ หมอจะประเมินให้ครับว่าควรทำหัตถการไหนก่อน-หลัง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา + ร้อยไหมยกกระชับ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม + ร้อยไหมยกกระชับ

ร้อยไหมแต่ละชนิด ราคาเท่าไหร่ ?

การร้อยไหม ราคาจะแตกต่างกันไปตามชนิดของไหม วัสดุ และจำนวนเส้นไหมที่ใช้ครับ สำหรับที่ V Square Clinic ร้อยไหม ราคาเริ่มต้นประมาณ 8,900.- ใช้เส้นไหม PCL และ PDO ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยครับ

Promotion ร้อยไหม

ร้อยไหมราคา

ร้อยไหมทั้งหน้าต้องใช้ไหมกี่เส้น ?

จำนวนเส้นไหมที่นำมาใช้เพื่อร้อยไหมทั้งใบหน้า หมอจะประเมินใบหน้าของคนไข้ก่อนครับ แต่ละเคสอาจใช้จำนวนเส้นไหมที่แตกต่างกันได้ โดยปกติแล้วผิวหน้าหย่อนคล้อย ร้อยไหมจะใช้ข้างละ 3-10 เส้น โดยพิจารณาจาก 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ขนาดเนื้อแก้มของคนไข้ ความหนาแน่นของผิว และคนไข้ต้องดึงในจุดไหนบ้างครับ

ร้อยไหม 10 เส้น กับ 20 เส้น ต่างกันไหม ?

เมื่อใช้จำนวนเส้นไหมมากขึ้น ย่อมทำให้ความแข็งแรงในการดึงมากขึ้นและคงระยะเวลาการดึงในนานมากขึ้นครับ

ถ้าคนไข้แก้มหย่อนเยอะ การยกแก้มให้ตึง ดึงหน้าให้อยู่ได้นาน จำเป็นต้องใช้เส้นไหมที่แข็งแรง และใช้จำนวนหลายเส้น การร้อยไหม PDO 10 เส้น กับ 20 เส้น จึงให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน การจะตัดสินใจว่าควรใช้ไหมกี่เส้นดีที่สุด หมอจะเป็นผู้ตรวจประเมินและพิจารณาครับ


รีวิว ร้อยไหมยกกระชับหน้า

ตัวอย่างผลการร้อยไหม โดยทีมแพทย์ V Square Clinic
(รูป After คือรูปหลังทำทันที)

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม 2 CC

ก่อนทำ ในเคสนี้ มีปัญหาแก้มหย่อนไม่กระชับ มีร่องแก้มลึกและถุงใต้ตา
หลังทำทันที ร่องแก้มและถุงใต้ตาหายไป ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC

ก่อนทำ ในเคสนี้ มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มีรอยใต้ตาและขอบตาดำ
หลังทำทันที ผิวยกกระชับขึ้น รูปหน้าเรียวสวย รอยใต้ตาจางลง

รีวิวร้อยไหมก้างปลา
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC

ก่อนทำ ในเคสนี้มีปัญหาหน้าตอบ แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที ส่วนที่ตอบลงไปกลับมาอิ่มเอิบ แก้มยกกระชับ ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูป

รีวิวเพิ่มเติม

*ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล


Q&A ร้อยไหม

ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ?

การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า จะเห็นผลทันทีหลังทำ และเห็นผลชัดเจน สวยเข้ารูปใน 1 เดือน ครับ หากมีอาการบวม จะหายไปเองใน 14 วัน

ร้อยไหม เจ็บไหม ?

หลายคนถามหมอว่าร้อยไหม เจ็บไหม ? ระหว่างร้อยไหม คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บครับ เพราะก่อนทำจะมีการฉีดยาชาให้ก่อน อาจจะรู้สึกตอนที่หมอกำลังร้อยไหมเข้าไป เป็นเรื่องปกติครับ

ร้อยไหม ต้องใช้ยาชาหรือไม่ ?

การร้อยไหมต้องฉีดยาชาทุกครั้ง โดยที่คลินิกจะมีการทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะร้อยไหมให้ก่อนครับ

ร้อยไหม ใช้เวลานานหรือไม่ ?

การร้อยไหมใช้เวลา 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมที่ใช้ร้อย และเทคนิคของแพทย์ด้วยครับ

ถ้าไม่ร้อยไหมซ้ำ ทำให้หน้าเหี่ยวจริงไหม ?

ไม่จริงครับ เมื่อไหมละลายไปแล้วก็ยังเหลือเส้นใย elastin ที่จะช่วยประคองผิวไว้ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะทำให้ผิวกระชับกว่าก่อนร้อยแน่นอนครับ

ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน ร้อยไหมช่วยได้ไหม ?

ช่วยได้ครับ ในเคสที่หน้าไม่เท่ากันจากการที่แก้มย้อยหรือแก้มหย่อน สองข้างไม่เท่ากัน โดยหมอจะใช้แรงดึงไหมทั้งสองข้างตามปัญหา ข้างที่แก้มหย่อนกว่าก็จะใช้แรงมากกว่า เพื่อให้ใบหน้าทั้งสองข้างเท่ากันครับ

สรุป ร้อยไหม ยกหน้าเรียว ปลอดภัย เห็นผลทันที

การร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์รวดเร็วครับ ช่วยแก้ปัญหาแก้มหย่อน แก้มย้อย ผิว กรอบหน้าไม่กระชับ คิ้วตก หนังตาตก เสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด

ที่ V Square Clinic หมอมีประสบการณ์สูงด้านการปรับรูปหน้า ผ่านการฝึกอบรม อาทิ Thread Lift Training, Advanced Thread Lifting, Hand-on Barbed Thread Lift Rejuvenation จากทั้งในต่างประเทศและต่างประเทศ ประเมินใบหน้าอย่างละเอียดทุกเคส เลือกชนิดเส้นไหมและจำนวนไหมที่เหมาะสม มั่นใจได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยครับ


เอกสารอ้างอิง

1.Cosmetic Surgery Today, Threadlift, 2012. (Access October 30, 2012, at http://www.cosmeticsurgerytoday.com/threadlift /)

2.American academy of aesthetic medicine: hands-on Korean thread lifting master course. http://cbbmed.com/newsview.php?title=Different_PDO_Threads_in_Thread_Lifting&id=19


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน
บทความแนะนำ

Collagen Biostimulator คืออะไร ? มีกี่ประเภท กี่ยี่ห้อ ? ช่วยเรื่องอะไร ? เหมาะกับใคร ?

Reading Time: 6 minutes- Collagen Biostimulator คืออะไร ? - ประเภทของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator ทำงานอย่างไร ? - ประโยชน์ของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator มีอะไรบ้าง ยี่ห้อไหนดี ?

December 23, 2024 อ่านต่อ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? อยากคงผลลัพธ์ได้นาน ควร...

Reading Time: 2 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน เช็ก! - รู้สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายเร็ว - ฉีดฟิลเลอร์ปากทำอย่างไรให้อยู่ได้นานขึ้น - ฉีดฟิลเลอร์ปากหลาย CC อยู่ได้นานขึ้นไหม ? - สรุปฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? ฉีดแบบไหนคุ้ม

คนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ทำไมไม่ควรฉีด ระหว่างตั้งครรภ์ดูแ...

Reading Time: 2 minutes- คนท้องฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? - มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ ? - การดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ - สรุปคนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? ดูแลอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที...

Reading Time: 3 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? - การดูแลช่องปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก - คำถามที่พบบ่อย - สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ...

Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย

ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า