ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี 2024
โบท็อก คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) นำมาใช้ในการเสริมความงาม เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (neurotoxin) โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว
Botulinum Toxin Type A ในบทความนี้ ขอเรียกสั้น ๆ ว่า โบท็อก และอาจมีข้อมูลวิชาการบางจุดที่เข้าใจยาก แต่ก็เพื่ออธิบายว่า โบท็อกช่วยอะไร โบท็อกมียี่ห้ออะไรบ้าง แต่ละยี่ห้อนั้นต่างกันอย่างไร ควรเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี เพื่อเป็นข้อมูลให้คนไข้ตัดสินใจในการเลือกยี่ห้อ ก่อนฉีดโบท็อกนะครับ
สารบัญโบท็อก
- โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ?
- Botox Allergan (โบท็อกอเมริกา)
- Dysport (โบท็อกอังกฤษ)
- Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)
- Nabota (โบท็อกเกาหลี)
- Botulax (โบท็อกเกาหลี)
- Aestox (โบท็อกเกาหลี)
- โบท็อก 1 ขวด มีกี่ยูนิต
- เทคนิคการฉีดโบท็อก dermolift vs nefertiti lift แตกต่างกันอย่างไร ?
- ข้อควรระวังของ โบท็อกแต่ละยี่ห้อ
- โบท็อกหิ้วจากต่างประเทศ/โบท็อกที่ขายตามอินเตอร์เน็ต
- ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ?
หมอจะขออธิบายคุณสมบัติที่ทำให้โบท็อกเกิดความแตกต่างกันมากที่สุด โดยเรียงตาม A. B. C. ดังนี้
Molecule Complex ของโบท็อก ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
- Accessories protein (750kDa) = ส่วนที่ 1 (หน่วยปกป้อง) ทำหน้าที่นำพาและปกป้องโบท็อกส่วนที่ 2, 3 จากจุดที่ฉีดให้โบท็อกแพร่ไปยังปลายเส้นประสาท ได้อย่างปลอดภัย ไม่ถูกทำลาย
- Heavy chain (100kDa) = ส่วนที่ 2 เป็นกุญแจให้โบท็อกส่วนที่ 3 สามารถเข้าสู่เซลล์เส้นประสาท
- Light chain (50kDa) = ส่วนที่ 3 เป็นโบท็อกส่วนตัวที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ
ความสำคัญของโบท็อก ส่วนที่ 1 คือ
- ถ้าออกแบบให้โบท็อกกระจายตัวแคบ (Botox Allergan แคบที่สุด > Botulax)
ข้อดี จะทำให้สามารถควบคุมการฉีดให้ออกมาแม่นยำ ตรงจุด เหมาะกับการฉีดโบท็อกที่กล้ามเนื้อโดยตรงและข้อดีอีกอย่างคือ จะทำให้ส่วนที่ 3 มีความเข้มข้นสูง จึงอยู่ได้นานขึ้น ข้อเสีย การจะฉีดโบท็อกชนิดนี้ให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มิฉะนั้นจะเกิด คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบ ได้
- ถ้าออกแบบให้โบท็อกกระจายตัวกว้าง (Dysport กว้างที่สุด > Xeomin > Nabota > Botulax) จะช่วยให้ผลการฉีดโบท็อกดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป เหมาะกับเทคนิค dermolift
- ข้อดี คือออกฤทธิ์ไวเหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกหน้ากระชับแบบเร่งด่วน และเหมาะกับการฉีดลดต้นแขน ลดน่องในบริเวณกว้าง
- ข้อเสีย คือจะทำให้ โบท็อกส่วนที่ 3 ที่ทำงานระงับกล้ามเนื้อในแต่ละเซลล์ มีความเข้มข้นโบท็อกลดลง ระยะเวลาอยู่ได้สั้นลง และถ้าแพทย์ที่ฉีดไม่ชำนาญพอ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด ตาตก ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด
B.ความบริสุทธิ์ของตัวยาโบท็อก และ Protein Complex
โบท็อก คือ protein ชนิดนึง เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายจะสลายได้หมด 100% โดยไม่เกิดอันตราย แต่ในร่างกายบางคนจะสร้างภูมิต้านทาน(antibody)ขึ้นมา ทำให้ดื้อโบท็อกได้ถ้าดื้อโบท็อกแล้ว antibody ของร่างกายจะจับกับโบท็อกแทน ทำให้โบท็อกที่ฉีดเข้าไปไม่ออกฤทธิ์
การดื้อโบท็อกสามารถเกิดได้จากทั้ง protein ส่วนที่ 1,2,3 ตามข้อ A ส่วนที่ 3 ของโบท็อกจะคล้ายกันทุกยี่ห้อ เพราะเป็น botulinum toxin type A เหมือนกัน แตกต่างกันที่สายพันธ์เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนที่ 1,2 ของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ จะแตกต่างกันดังนี้
Botox Allergan เป็นบริษัท original ของโบท็อก มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย (since 1989) จึงน่าเชื่อถือได้ว่า protein complex ส่วนที่ 1, 2 นี้ผ่านการพัฒนามาเพื่อทำให้โอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ
โบท็อกอเมริกาจะให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด ยากระจายตัวแคบที่สุด หมอจะสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
เหมาะกับการฉีดโบท็อก lift หน้า ด้วยเทคนิค Nefertiti lift การฉีดโบท็อกอเมริกาเข้ากล้ามเนื้อ เพื่อให้อยู่ได้นาน และผลออกมาดูเป็นธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มิฉะนั้นจะเกิดผลข้างเคียง เช่น คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบ ได้
Dysport จะเน้นการพัฒนาแต่ protein ในส่วนที่ 2 เท่านั้น โดยเชื่อว่า การลด protein ในส่วนที่ 1 จะทำให้โอกาสในการดื้อโบท็อกน้อยลง และช่วยให้โบท็อกในส่วนที่ 3 ออกฤทธิ์ได้ไวขึ้นครับ
จุดเด่นคือ จะทำให้โบท็อกกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ เหมาะกับการฉีดโบท็อกด้วย เทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้า สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติจะตึงประมาณ 50% และเหมาะกับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่องครับ
โบท็อกอังกฤษนั้นมีกระจายตัวกว้าง ทำให้การฉีดต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความระมัดระวังในการฉีดสูงเนื่องจากการที่ยากระจายตัวกว้าง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่างๆ เช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว ได้ครับ
(ในความเห็นส่วนตัวของผม หาก protein ในส่วนที่ 1 ถ้าถูกออกแบบมาดีพอก็จะมีโอกาสดื้อโบท็อกน้อย และประโยชน์ของส่วนที่ 1 คือเป็นเหมือนพาหนะที่จะช่วยให้โบท็อกส่วนที่ 2,3 แพร่จากจุดที่ฉีด ไปยังปลายเส้นประสาทได้อย่างปลอดภัย ไม่โดนร่างกายเราย่อยก่อน ทำให้เราใช้จำนวนยูนิตของโบท็อกส่วนที่ 3 น้อยลง โอกาสที่ดื้อโบท็อกก็จะน้อยลงครับ)
Xeomin (โบท็อกเยอรมัน) เน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกันโดยคุณสมบัติต่าง ๆ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างอเมริกากับอังกฤษ คือมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป (Xeomin Botox ราคาเท่ากับ Allergan Botox)
ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป และยังมีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
Nabota (โบท็อกเกาหลี)
Nabota Botox (โบท็อกเกาหลี) เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
จุดเด่นอยู่ที่เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว จากประสบการณ์ของหมอในการใช้ พบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อยครับ เหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกแบบเร่งด่วน
โบท็อก Botulax พยายามพัฒนาให้เหมือน โบท็อก Allergan (โบท็อกอเมริกา) จากประสบการณ์การใช้ พบว่าจะออกฤทธิ์ไวกว่าเล็กน้อย ระยะเวลาอยู่ได้สั้นกว่าเล็กน้อย แต่ราคาถูกเท่าตัว
นิยมใช้ลดริ้วรอย ทำหน้าใส ช่วยให้หน้าเรียวเล็กลง กรอบหน้าชัดเจน รักษาริ้วรอยตีนกาที่มีความรุนแรงปานกลางถึงมาก หลังฉีดใบหน้าไม่แข็งตึง ซึ่งปัจจุบันโบท็อก Botulaxไม่ถูกนำมาใช้แล้วครับ
โบท็อกแท้ ทุกยี่ห้อ ควรจะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยา ให้คนไข้ดูต่อหน้าจนหมด ให้คนไข้เอากล่องและขวดกลับบ้านได้ครับ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ (บางคลินิกจะอ้างว่าต้องผสมยาในห้องปลอดเชื้อ หรือไม่สามารถเปิดเผยสูตรยาได้ อันนี้ไม่เป็นความจริง ต้องระวังครับ)
โบท็อก 1 ขวด มีกี่ยูนิต ?
ยูนิต คือ หน่วยปริมาณท็อกซินที่อยู่ในขวดยา โบท็อก 1 ขวด มีหลายขนาด เช่น 50, 100, 200 ยูนิต เป็นต้น ในกรณีซื้อเหมาขวด ต้องตรวจสอบด้วยว่า ราคาเหมาขวด 50 ยูนิต หรือเหมาขวด 100 ยูนิต
นอกจากนี้ จุดที่ควรระวังคือ การนับยูนิต ของโบท็อกอังกฤษ (dysport) จะต่างจากโบท็อกยี่ห้ออื่น 250 ยูนิต ของ โบท็อกอังกฤษ จะเทียบเท่ากับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ 100 ยูนิต ซึ่งมีบางคลินิกนำไปโฆษณาว่า dysport botox ราคาถูก (100 ยูนิต) แต่แท้จริงแล้วคือเทียบเท่าแค่ 40 ยูนิต ครับ
สองเทคนิคนี้ เป็นหลักการการฉีดโบท็อกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
- Dermolift คือการฉีดโบท็อกลงในชั้นผิวหนัง จะทำให้เกิดฤทธิ์ของ dermotoxin ทำให้ผิวหนังหดตัว โดยจะฉีดในแนวจุดสีดำตามรูป เพื่อดึงหน้าขึ้น ผลจาก dermolift จะอยู่ได้แค่ 1-2 เดือน ควรทำเฉพาะเวลาที่ต้องการผลเร่งด่วน ไม่ควรทำบ่อยๆ เพราะจะเพิ่มโอกาสในการดื้อโบท็อก โบท็อกที่เหมาะกับเทคนิคนี้คือ Dysport/Nabota ครับ
- Nefertiti lift จะแบ่งกล้ามเนื้อใบหน้าออกเป็น ส่วนที่ดึงขึ้นกับส่วนที่ดึงลง ปกติ 2 ส่วนนี้จะต้านกันไว้เหมือนชักเย่อ เราฉีดโบท็อกไปในส่วนที่ดึงลง(จุดสีขาวในรูป) จะทำให้ส่วนที่ดึงขึ้น มีแรงมากกว่า และทำให้หน้ายกกระชับ ผลจากการทำโบท็อก nefertiti lift จะอยู่ได้ 3-4 เดือน
ปกติที่ V Square Clinic เราจะเน้น ทำ Nefertiti lift ให้คนไข้มากกว่า Dermolift เพราะอยู่นานกว่า ใช้ยูนิตโบท็อกน้อยกว่า แต่หากคนไข้ต้องการผลเร่งด่วน ก็สามารถทำ Dermolift คู่กับ Nefertiti lift ในครั้งเดียวกันได้ครับ
โปรโมชั่นโบท็อกลดกราม + หน้าเรียว
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 6,999.-/ 100 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Aestox | ราคา 6,999.-/ 100 unit |
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport | ราคา 13,900.-/ 300 unit |
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan | ราคา 15,999.-/ 100 unit |
โบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin | ราคา 14,900.-/ 100 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox | ราคา 6,999.-/ 100 unit |
โปรโมชั่นโบท็อกลดริ้วรอย + หน้าเรียว ( ฉีดทั่วหน้า )
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 9,000.-/ 100 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 12,000.-/ 150 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Aestox | ราคา 7,500.-/ 100 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Aestox | ราคา 10,500.-/ 150 unit |
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan | ราคา 10,000.-/ 50 unit |
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan | ราคา 17,999.-/ 100 unit |
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport | ราคา 6,900.-/ 100 unit |
โบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin | ราคา 14,900.-/ 100 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox | ราคา 7,500.-/ 100 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox | ราคา 10,500.-/ 150 unit |
โบท็อกเฉพาะจุด ลดเหงื่อ / รักแร้
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 9,000.-/ 100 unit | อยู่ได้ 3 เดือน |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 12,000.-/ 150 unit | อยู่ได้ 4-5 เดือน |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 16,000.-/ 200 unit | อยู่ได้ 5 เดือน |
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport | ราคา 13,900.-/ 300 unit | อยู่ได้ 3 เดือน |
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport | ราคา 23,000.-/ 500 unit | อยู่ได้ 5 เดือน |
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Xeomin | ราคา 28,000.-/ 200 unit | อยู่ได้ 5 เดือน |
*ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
โบท็อก ต้นแขน / น่อง
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox / Aestox | ราคา 10,500.-/ 150 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox / Aestox | ราคา 14,000.-/ 200 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 12,000.-/ 150 unit |
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota | ราคา 16,000.-/ 200 unit |
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport | ราคา 23,000.-/ 500 unit |
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan | ราคา 32,000.-/ 200 unit |
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Xeomin | ราคา 28,000.-/ 200 unit |
- Allergan (โบท็อกอเมริกา)
ในกรณีที่ต้องการฉีดโบท็อกไม่ถึง 50 ยู/100 ยู หมอแนะนำให้หาเพื่อนมาแชร์ยูนิตให้ครบ 50 ยู/100 ยู ดีกว่าครับ จะได้เปิดขวดใหม่เพื่อความมั่นใจ เพราะมีหลาย ๆ คลินิกขายโบท็อกอเมริกา เป็นยูนิตถูกๆ (หรือบางคลินิกขายแพงแต่ใช้ของปลอมก็มีครับ)
แต่ใช้ของโบท็อกเกาหลีธรรมดาใส่ขวด Allergan มาฉีดให้ก็ได้ผลใกล้เคียงกันครับ (ไม่ได้เปิดขวดใหม่) คนไข้ก็แยกไม่ออกครับ เพราะตึงเหมือนกัน ต่างกันที่ระยะเวลาและโอกาสในการดื้อยา ซึ่งเรื่องการดื้อยาเป็นอะไรที่ต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญนะครับ
โบท็อกอเมริกา ควรจะเปิดขวดใหม่ ผสมต่อหน้า เพื่อความมั่นใจว่าของแท้ตามราคาที่จ่ายครับ
หลังฉีดควรจะเก็บขวดและกล่องกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อไว้ตรวจสอบว่าเป็นยาแท้จริงๆ ครับ วิธีตรวจสอบโบท็อกแท้ยี่ห้อต่างๆตามนี้ครับ วิธีดูโบท็อกแท้และฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ
- Botulax (โบท็อกเกาหลี)
เจอยาปลอม ยาหิ้วเยอะมากครับ บางคลินิกเอายาปลอมมาใส่ขวด โบท็อกเกาหลีแท้ แล้วเอามาฉีดให้ พอไม่ได้ผล ก็อ้างว่าเป็นเพราะคนไข้เลือกของเกาหลี แล้วก็แนะนำให้ใช้ของอเมริกา พอคนไข้จ่ายเพิ่ม ถึงจะเอาโบท็อกเกาหลีแท้ใส่ขวดโบท็อกอเมริกา มาฉีดให้ครับ คนไข้ก็จะไม่รู้
หรือถ้าเจอยาปลอมบางชนิด จะได้ผลดีในครั้งแรกๆ พอฉีดครั้งต่อๆไปจะเริ่มดื้อยา หมดฤทธิ์ไวมาก จนสุดท้ายผ่านไป 2-3 รอบ จะดื้อถาวร ฉีดโบท็อก ไม่ได้ผลไปตลอดชีวิตครับ (ยังไม่มีวิธีรักษาการดื้อโบท็อกและยังไม่มีเคสที่สามารถหายจากการดื้อโบท็อกได้เลยครับ)
การฉีดโบท็อกทุกครั้งควรจะเปิดขวดใหม่ ผสมยาต่อหน้า หลังฉีดควรจะเก็บขวดและกล่องกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อไว้ตรวจสอบว่าเป็นโบท็อกแท้จริงๆครับ
- Nabota (โบท็อกเกาหลี)
บางคลินิกจะโฆษณาว่า Nabota เห็นผลทันทีหลังฉีด ซึ่งไม่จริงครับ ที่ฉีดแล้วตึงทันทีเป็นอาการบวมเข็มจากน้ำเกลือ ซึ่งโบท็อกยี่ห้ออื่นๆก็เกิดผลหลังฉีดทันทีคล้าย ๆ กันครับ
โบท็อกหิ้วจากต่างประเทศ/โบท็อกที่ขายตามอินเตอร์เน็ต
สำหรับกรณี โบท็อกแท้จากต่างประเทศ แต่ลักลอบหิ้วหนีภาษีเข้ามาฉีด โดยปกติกระบวนการเก็บโบท็อก ต้องเก็บที่อุณหภมิ 2-8 °C ตลอดเวลา แต่ในกระบวนการหิ้วโบท็อกหนีภาษีจากต่างประเทศ ไม่สามารถแช่เย็นตลอดเวลาได้ ต้องขนส่งหลายต่อ จากบริษัท-พ่อค้า-คนไข้-หมอที่รับฉีด อาจทำให้โบท็อกเสื่อมคุณภาพครับ
นอกจากนี้ คนที่ซื้อมาขายต่อต้องซื้อยาในปริมาณมากๆ เพื่อให้ราคาถูก ทำให้ต้องเก็บยาไว้นาน (สังเกตจากวันผลิตหมดอายุ) จะทำให้คุณภาพยาไม่ดีครับ หรือบาง lot เป็นที่โบท็อกเสื่อม โดนความร้อน ก็ถูกนำมาปล่อยขายออกโดยผ่านวิธีแบบนี้ก็มีครับ ไม่มีบริษัทโบท็อกรับประกัน ฉีดโบท็อกแล้วจะอยู่ได้ไม่นานครับ และทำให้ดื้อยาครับ
แต่ถ้าฉีดโบท็อกที่คลินิก ก็ส่งแค่ บริษัท-หมอ โดยขนส่งแบบถูกกฏหมาย สามารถแช่เย็น 2-8 °C ตลอดเวลา โบท็อกจะไม่เสื่อมอยู่ได้นานและปลอดภัยกว่าครับ
สำหรับคนไข้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ให้ดูจากความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก และสามารถดูได้จาก
1.มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ โดยดูจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งรีวิวที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอก่อน-หลังทำเพิ่มเติม จะทำให้สามารถเปรียบเทียบผลการรักษาได้อย่างชัดเจน
2.ราคาย่อมเยาว์ ไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่นๆมากเกินไป ซึ่งความแตกต่างของราคานั้นมักจะขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์
3.ดูเคสรีวิวของแพทย์แต่ละคน แพทย์ต้องมีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด
4.ต้องแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และให้กล่องคนไข้กลับบ้านได้เพื่อให้คนขั้นสามารถเช็คกับบริษัทที่นำเข้าได้
5.มีการนัดดูผล ติดตามผลการรักษา และมีช่องทางให้สอบถามข้อมูลได้อย่างสะดวก
สรุป
ถ้าถามว่า โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด ? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อดีและจุดเด่นที่แตกต่างกันครับ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการแก้ปัญหาจุดใด แพทย์ผู้ทำหัตถการที่มีประสบการณ์จะช่วยวางแผนการรักษา ประเมินปริมาณตัวยา และงบประมาณให้ได้ครับ
หากต้องการผลลัพธ์ที่ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ คนไข้ต้องมั่นใจว่าโบท็อกแต่ละยี่ห้อที่ใช้เป็นโบท็อกแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ
เอกสารอ้างอิง
*บทความนี้เป็นผลการเปรียบเทียบโดยอ้างอิงจากงานวิจัย และประสบการณ์การใช้โบท็อก ยี่ห้อต่างๆ ที่ V Square clinic ทั้ง 19 สาขา โดยในปี 2015-2019 ทางคลินิกมียอดการใช้งานสูงอันดับต้น ๆ ทุกยี่ห้อครับ
*การเปรียบเทียบ Xeomin, Nabota, Botulax ยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจน ในที่นี้จึงอ้างอิงจากประสบการณ์การใช้ของทีมแพทย์ ที่ V Square Clinic เป็นหลักครับ
เอกสารอ้างอิง 1
1. Naumann et al., 2010. Meta-Analysis of Neutralizing Antibody Conversion with OnabotulinumtoxinA (BOTOX1) Across Multiple Indications. Movement Disorders. 2010: 25 ( 13) : 2211–2218
2. Wenzel R, Jones D, Borrego JA. Comparing two botulinum toxin type A formulations using manufacturers’ product summaries. J Clin Pharm Ther. 2007; 32(4): 387–402.
3. Almeida A, Marques E, Cuncha T et al. Pilot study comparing the diffusion of two formulations of botulinum toxin type A in patients with forehead hyperhidrosis. Dermatol Surg 2007 Jan; 33(Suppl1); S37-43.
4. Cliff SH, Judodihardjo H & Eltringham E. Different Formulations of Botulinum Toxin Type A have Different Migration Characteristics: Double-Blind, Randomized Study. J Cosmet Dermatol. 2008; 7: 50-54.
5. Beer KR, et al. Rapid Onset of Response and Patient-reported Outcomes After Onaboutulinumtoxin A Treatment of Moderate-to-Severe Glabellar Lines. 2011; 10 (1): 39-44
6. Lowe NJ, Lask G, Yamaguchi P et al. Bilateral, double-blind, randomized comparison of 3 doses of botulinum toxin type A and placebo in patients with crow’s feet. J Am Acad Dermatol. 2002; 47(6): 834-840.
7. Carruthers A, Carruthers J, Lowe NJ et al. One-year, randomised, multicenter, two period study of the safety and efficacy of repeated treatments with botulinum toxin type A in patients with glabellar lines. J Clin Res. 2004; 7: 1-20.
8. Wu Y, Zhao G, Li H et al. Botulinum Toxin Type A for the Treatment of Glabellar Lines in Chinese: A Double-Blind, Randomized, Placebo-Controlled Study. Dermatal Surg 2010; 36: 102-108.
เอกสารอ้างอิง 2
9. Kawashima M, Harii K et.al. An open-label, randomized, 64-week study repeating 10- and 20-U doses of botulinum toxin type A for treatment of glabellar lines in Japanese subjects. Int J Dermatol 2009; 48: 768–76.
10. Stotland MA, Kowalski JW, Ray BB et.al. Patient-Reported Benefit and Satisfaction with Botulinum Toxin Type A Treatment of Moderate to Severe Glabellar Rhytides: Results from a Prospective Open-Label Study. Plast Reconstruct Surg. 2007; 120(5): 1386–1393.
11. De Boulle K. Patient Satisfaction with Different Botulinum Toxin Type A Formulations in the Treatment of Moderate to Severe Upper Facial Rhytids. J Cosmet Laser Ther 2008; 10: 87-92.
12. Fagien S, Sue Ellen Cox, Finn JC et al. Patient-reported outcomes with botulinum toxin type A treatment of glabellar rhytids: A double-Blind, randomized,placebo-controlled study. Dermatol Surg 2007 ;33(suppl 1): S2-9.
13. Nussgens Z and Roggenkamper P. Graefes. Comparison of two botulinum-toxin preparations in the treatment of essential blepharospasm. Arch Clin Exp Ophthalmol. 1997; 235: 197-9
14. Brin et al. Safety and tolerability of onabotulinumtoxin A in the treatment of facial lines: A meta-analysis of individual patient data from global clinical registration studies in 1678 participants. J Am Acad Dermatol 2009;61(6):961-70
15. Lietzow MA. et al. Subunit Stoichiometry of the Clostridium botulinum Type A Neurotoxin Complex Determined Using Denaturing Capillary. Protein J. 2008; 27: 420-425
16. Carruthers A and Carruthers J. Introducing A Novel Botulinum Toxin Preparation. Dermatologic Surgery 2013; 39 issue 1 part II: 149-178
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส