Hifu คืออะไร ?
Hifu คือ เครื่องมือยกกระชับ ที่ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากทำ เพราะเป็นการยกกระชับใบหน้า โดยที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด เป็นคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีตั้งแต่ครั้งแรก ไม่มีอันตรายต่อผิว
Hifu (ไฮฟู่) ถือเป็นตัวเลือกที่ง่ายในการยกกระชับ ทั้งบริเวณ ใบหน้า เหนียง คอ แม้แต่ต้นแขน และต้นขา ยิ่งสำหรับคนที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด จึงเป็นตัวเลือกที่ดี และการดูแลหลังทำ Hifu ก็ไม่ยุ่งยากครับ
สำหรับผู้ที่สนใจทำ Hifu เพื่อยกกระชับผิว คืนความอ่อนเยาว์ หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำ Hifu มาแนะนำว่า ไฮฟู่ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? หลังทำกี่วันเห็นผล ? Hifu เหมาะกับใครบ้าง ? Hifu อยู่ได้นานไหม? ควรเลือกทำที่คลินิกไหนดี ? และต้องเลือกใช้เครื่องยี่ห้อไหนจึงจะได้ผลคุ้มค่า หาคำตอบได้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ Hifu
หลักการทำงานของ Hifu
Hifu เป็นนวัตกรรมความงามที่ให้ผลทางด้านลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้าและร่างกาย
โดยเครื่องรุ่นที่ดีและมีความคุ้มค่าที่สุด คือ Hifu Macrofocus (Hight intensity focus ultrasound Macrofocus) มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น เพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัวเสมือนกับการเย็บที่เนื้อ ซึ่งเป็นการดึงหน้า ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น
Hifu Macrofocus มีความปลอดภัยสูง และไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก (เพราะไม่ใช่ laser และไม่ใช่คลื่นแสง) อีกทั้งคลื่นเสียงนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตาครับ จึงสามารถช่วยเน้นกระชับผิวบริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง
ทำ Hifu ช่วยอะไรบ้าง ?
จุดเด่นการทำHifu คือช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาแน่นกระชับ จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
รู้หรือไม่ว่า ? เมื่ออายุมากขึ้นกลไกการหย่อนคล้อยของใบหน้าเราทุกคน เกิดจากการยืดออกของอีลาสตินและคอลลาเจน ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
Hifu Macrofocus จึงถูกออกแบบมาให้สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นของผิว กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ หลัก ๆ คือเซลล์ Fibroblasts โดยเนื้อเยื่อที่สร้างใหม่นี้จะแน่นกว่าของเดิม กระชับกว่า ทำให้ผิวยกกระชับ รูขุมขนดีขึ้น ผิวเนียนนุ่มขึ้น หน้าเรียบเนียนใสและอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
อีกจุดที่ Hifu ช่วยได้คือการกระชับไขมันเหนียง ลดริ้วรอยที่คอ เห็นผลได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ นอกจากนี้การทำ Hifu จะช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคตได้ครับ
Hifu เหมาะกับใครบ้าง ?
Hifu เป็นเครื่องมือยกระชับที่เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่มีปัญหาผิวเหล่านี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็กน้อย มีร่องใต้ตา ร่องแก้มไม่ลึกมาก
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว แบบไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีด
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
- ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำต้องใช้หน้าได้เลย ไม่มีรอยแผล
สามารถปรึกษาแพทย์ประเมินสภาพผิวก่อนทำหัตถการได้ครับ
อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ?
อย่างที่หมออธิบายไว้ข้างต้น ว่าเมื่อเราอายุมากขึ้น หรืออายุเกิน 20 ปีขึ้นไป 90 % ผิวของเราจะเริ่มหย่อนคล้อยในทุก ๆ คนครับ Elastin เริ่มยืดออก ทำให้เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม และถ้าปล่อยให้ยืดออกเรื่อย ๆ ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนลงแบบทวีคูณ (เปรียบเทียบคล้ายๆการที่เราต้องใส่ยกทรงเพื่อไม่ให้หน้าอกหย่อน ก็ควรเริ่มใส่ตั้งแต่วัยรุ่น) ดังนั้นเราควรทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่อายุน้อย ๆ
หากปล่อยไว้ไม่ทำให้กระชับก็จะหย่อนเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
ในคนที่เริ่มทำ Hifu Macrofocus ตั้งแต่อายุน้อย จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ซึ่งถ้ามีร่องพวกนี้เกิดขึ้น จะทำให้ดูโทรม ดูแก่ และมีอายุครับ โดยอายุ 25 ปี หรือ อายุ 20 ปีกว่า ก็สามารถเริ่มทำ Hifu ได้ โดยไม่ส่งผลเสียครับ
อีกทั้ง Hifu ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด รวมถึงการยกกระชับใบหน้าหรือยกแนวคิ้วให้ยกขึ้น และผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น
Hifu ทำส่วนไหนได้บ้าง ?
Hifu สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้ผิวยกกระชับขึ้น เช่น รอบดวงตา ใต้ตา ร่องแก้ม มุมปาก กรอบหน้า คิ้ว หางตา คาง ลำคอ รวมถึง ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้องเป็นต้น เนื่องจาก มีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ
ที่ V Square Clinic จะใช้เครื่อง Hifu Ultraformer III และ Hifu Ultraformer MPT ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดรองมาจาก Ulthera SPT และ Ulthera Prime โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีหัวยิงพิเศษ Cherry Pink เฉพาะเครื่อง Hifu Ultraformer III รุ่น Top ที่มีหัวยิง ความลึก 2.0 mm ที่ให้ความร้อนสะสมได้สูงถึง 8 เท่า และด้วยรูปทรง Narrow shape เล็ก เรียว บาง สามารถแก้ไขทุกปัญหาได้อย่างตรงจุด พลังงานสูงขึ้น แต่ลดการเกิดผลข้างเคียง และสามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุก ๆ 1 เดือนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
Hifu มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ?
เครื่อง Hifu ที่ได้รับความนิยมจะมี 2 รุ่น คือ Hifu Ultraformer III และ Ultraformer MPT ทั้งสองรุ่นเป็นนวัตกรรมเดียวกันครับ เพียงแต่ Ultraformer MPT เป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงเหมือนกัน และ Ultraformer MPT มีหัวยิงหลากหลายมากขึ้น ครอบคลุมหลายชั้นผิว
รีวิวทำ Hifu ใต้ตา
การทำ Hifu ใต้ตา สามารถช่วยลดริ้วรอยใต้ตา และรอบดวงตาได้อย่างปลอดภัย สามารถใช้หัวยิงเก็บรายละเอียดรอยเล็ก ๆ ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น
ในบางเคส อาจทำไฮฟู่ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วใช้ Hifu ใต้ตา เก็บรายละเอียดเพิ่มเติม หรือทำร่วมกับการฉีดโบท็อก เมโสแฟต เพื่อปรับให้ภาพรวมของใบหน้าดูสดชื่น สดใสยิ่งขึ้น
รีวิวผลลัพธ์หลังทำ Ultraformer III 600 Line ร่วมกับหัตถการอื่น
*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
รีวิวผลลัพธ์หลังทำ Ultraformer III 600 Line ร่วมกับหัตถการอื่น
*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
ถ้าฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูก และหมอมีความชำนาญในการยิง Hifu ก็จะไม่ทำให้ฟิลเลอร์ละลาย ทำควบคู่กันเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ครับ
รีวิว Hifu ลดแก้ม
การทำ Hifu สามารถยกแก้ม ลดไขมันแก้ม ยกแก้มหย่อน เก็บกรอบหน้าให้หน้าเรียววีเชฟ พร้อมกับกระตุ้นร่างกายให้สร้างคอลลาเจนใหม่ที่แข็งแรง ส่งผลให้ผิวยกกระชับขึ้นได้
(พญ.ชญานิษฐ์ ศรีทองดี เลข ว.47214)
(พญ.สุจินันท์ เรืองชยจตุพร เลข ว. 63495)
ในกรณีที่คนไข้มีแก้มหย่อนเยอะ หมออาจจะแนะนำให้ร้อยไหมช่วยครับ ซึ่งในทุก ๆ เคสที่เข้ามาที่คลินิก หมอจะต้องประเมินใบหน้า ปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ก่อน ถ้าคนไข้ต้องการยกกระชับใบหน้า ก็ต้องดูครับว่าปัญหาความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นอยู่ระดับไหน ควรทำควบคู่กันหรือไม่ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รีวิว Hifu ลดเหนียง
ผู้ที่มีปัญหาเหนียง คางสองชั้น เพราะมีไขมันส่วนเกินใบบริเวณใต้คางและไขมันส่วนเกินบนใบหน้าเยอะเกินไป Hifu จะใช้ได้ผลดี ในการลดเหนียงที่เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิวครับ ช่วยให้เหนียงกระชับขึ้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว
Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
Hifu สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้กระชับขึ้นครับ โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ จุดที่ยิงแล้วเห็นผลชัดเจนแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- ใบหน้า – เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า
- ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง และสะโพก
นอกจากนี้ Hifu ยังช่วยยกกระชับบริเวณคอ ร่องมุมปาก หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง ได้ด้วยครับ
ข้อดีการทำ Hifu
Hifu Macrofocus เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อย ๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มไม่ลึกมาก เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ กับราคาก็ถือว่าเป็นหัตถการที่มีความคุ้มค่า
Hifu ข้อดีมีอะไรบ้าง ?
- ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด
- ไม่มีรอยแดงช้ำ
- ไม่ต้องรอการพักฟื้นนานๆ
- มีความปลอดภัยต่อผิวสูง ไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอยและสลายไขมันได้บางส่วน
- ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง
- ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ Hifu ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้
อาการหลังทำ Hifu ที่ควรรู้
อาการหลังทำ Hifu Macrofocus อาจมีรอยแดงบ้างหลังการทำ และจะหายไปได้เองภายใน 1 – 2 ชั่วโมงครับ คนไข้สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ
บางคลินิก พนักงานเซลล์เมื่อเจอเคสที่ใต้ตาหรือร่องแก้มลึก ๆ ก็ยังแนะนำ Hifu / Ulthera SPT ว่าสามารถแก้ไขร่องพวกนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะราคาแพงกว่าฟิลเลอร์ได้ค่าคอมมิชชันเยอะกว่า ซึ่งในความจริงแล้ว ถ้าร่องลึกมาก ๆ ควรทำฟิลเลอร์ จะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด เห็นผลชัดเจนทันทีและประหยัดเงินมากกว่าครับ
ในทางทฤษฎี Textbook แนะนำให้ทำ Hifu ก่อนการทำฟิลเลอร์แต่ในทางปฏิบัติ การจ่ายเงิน 2-3 หมื่นบาท เพื่อทำ Hifu ก่อน และได้ผลการรักษา แค่ 10-20% จากที่วางแผนไว้ คนไข้รับไม่ได้ครับ (คือจ่ายแพงแต่ได้ผลน้อย) คนไข้ส่วนใหญ่พอใจกับการทำ ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก่อน เพราะได้ผลก่อน 80-90% ในจำนวนเงินที่จ่าย 2-3 หมื่นบาท เท่ากัน แล้วถ้ามีงบเหลือ ค่อยแนะนำให้ทำ Hifu เพื่อเก็บรายละเอียดครับ
Hifu สามารถใช้เก็บรายละเอียดในเคสที่เติมฟิลเลอร์แล้วได้ครับ ถ้าฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกและหมอมีความชำนาญในการยิง Hifu ก็จะไม่ทำให้ฟิลเลอร์ละลายครับ
แต่ในเคสที่กลัวการฉีด ก็สามารถเริ่มต้นด้วยการทำ Hifu Macrofocus / Ulthera SPT ได้ครับ เมื่อทำต่อเนื่อง ก็สามารถได้ผลใกล้เคียงฟิลเลอร์แต่ต้องทำหลายครั้ง และใช้งบประมาณสูงครับ
ควรเลือก ทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนคุ้ม มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญดังนี้
1. ยี่ห้อเครื่อง Hifu สำคัญที่สุด
การทำ Hifu จะได้ผลดี เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนและอยู่ได้นานนั้น ขึ้นกับคุณภาพของเครื่องที่ใช้เป็นหลักนะครับ
ข้อเสียของเครื่องเกรดต่ำ
- พลังงานจะไม่คงที่บางไลน์แรงมาก บางไลน์เบามาก หมอจึงไม่กล้าใช้พลังงานสูง เพราะไลน์ที่แรงเกินไปอาจจะทำให้ผิวไหม้หน้าบวมและอาจโดนเส้นประสาทและทำให้หน้าเบี้ยวได้ การที่หมอใช้พลังงานต่ำลงทำให้ยิงแล้วไม่เจ็บ อาจเห็นผลบ้างแต่ก็จะอยู่ได้ไม่นาน
- จุดของพลังงานจะไม่ focus บางจุดร้อนตรงกลาง บางจุดไม่ร้อน ไม่มีความสม่ำเสมอ ทำให้เห็นผลน้อยลง
- รอบประมวลผลในการปล่อยพลังงานต่ำใช้เวลาในการยิงนานขึ้น จะเจ็บมากขึ้นโดยที่ได้ผลเท่าเดิม
- ใน 1 หัวยิง สมมุติว่ามี 20,000 line ไลน์ที่ยิงออกมาแรกๆ จะพลังงานสูงไลน์ท้ายๆ พลังงานจะต่ำลงทำให้ได้ผลน้อยลง
2. Hifu ราคา สมเหตุสมผล
จะเห็นว่าแต่ละคลินิกมีการตั้งราคาไฮฟูแตกต่างกัน ก็ต้องย้อนกลับไปดูยี่ห้อเครื่องที่ใช้ครับว่าเป็นเกรดไหน โดยเฉพาะกรณีไม่จำกัด line ก็ต้องถามรายละเอียดเงื่อนไขให้ดี เพราะเครื่องเกรดดี ๆ ย่อมมีต้นทุนหัวยิงและต้องเปลี่ยนหัวเมื่อไลน์หมด การทำ Hifu บุฟเฟ่ อาจโดนจำกัดด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้
- จะอ้างว่าหมอจะเป็นผู้พิจารณาเท่านั้นว่าควรใช้กี่ line คนไข้ไม่มีสิทธิ์เลือก
- หมออาจจะเกี่ยงว่าถ้ายิงเยอะกว่านี้หน้าจะบวม ผิวจะไหม้ แก้มจะตอบ หรืออาจจะบอกว่ายิงให้แค่เห็นการเปลี่ยนแปลง
- การนับ line Hifu จะยิงออกมา line ละประมาณ 15-25 จุด ซึ่งบางคลินิกจะนับ 1 จุด = 1 line อันนี้ก็ควรระวังครับ
3. ทำ Hifu กับแพทย์หรือผู้ที่มีประสบการณ์
การทำ Hifu มีรูปแบบการยิงที่ชัดเจน มีเทคนิคพิเศษบ้างในบางจุดเช่น ถุงใต้ตา แก้หนังตาตก ยกมุมปาก แม้เป็นเทคนิคที่ไม่ซับซ้อนเท่าการทำ โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม แต่ก็ต้องเข้าใจกายวิภาคบนใบหน้าครับ
4. การดูแลหลังการรักษา
ข้อนี้ก็สำคัญเพราะเคสส่วนมากที่ผิดหวังกับการทำ Hifu เกิดจากการคาดหวังผลที่เกินจริง อาจจะเป็นเพราะคำโฆษณาจากเซลล์ หรือรูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ
ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทำ ถามให้ชัดเจนว่าจะได้ผลประมาณไหน อาการหลังทำ Hifu มีอะไรบ้างและแนะนำข้อควรปฏิบัติหลังทำ Hifu อย่างละเอียด เพราะหมอทุกคนย่อมมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบครับ
แต่บางคลินิกไม่มีการเปิดโอกาสให้คนไข้ปรึกษาหมอ ให้คุยกับเซลล์เสร็จก็เข้าห้องทำเลย หมอก็ไม่มีโอกาสอธิบายคนไข้ จึงเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และเกิดความผิดหวังในผลการรักษาตามมา ซึ่งในกรณีนี้ หากเป็นคลินิกที่มีความรับผิดชอบ ย่อมสามารถแก้ไขให้คนไข้พึงพอใจได้ โดยสามารถดูได้จากรีวิวตามสื่อต่าง ๆ ที่เป็นกลางครับ
Hifu กี่ Line (ไลน์) เห็นผล ?
การทำ Hifu กี่ไลน์ถึงจะเห็นผล ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคนครับ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณไขมัน ความหย่อนคล้อยและสภาพผิว ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกับผลการรักษา จึงต้องปรึกษากับหมอให้ช่วยประเมินก่อนทำ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดครับ
สำหรับใครที่อยากได้จำนวนไลน์คร่าว ๆ หมอแนะนำประมาณนี้ครับ
- แก้ม หรือ เหนียง ประมาณ 100 line
- แก้ม และ เหนียง ประมาณ 300 line
- ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 line
- ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 600 line
- ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 line
Hifu เจ็บไหม ?
หลาย ๆ คนยังมีข้อสงสัย ทําไฮฟู่เจ็บไหม และเรามักจะเห็นจากโฆษณาหลาย ๆ ที่ว่า การทำ Hifu/Ulthera SPT เห็นผลทันทีและไม่เจ็บ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
ถ้าถามว่าการทำ Hifu เจ็บไหม ขอตอบว่าเจ็บครับ การทำ Hifu ที่ได้ประสิทธิภาพนั้น ขณะทำต้องมีความรู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ บริเวณใต้ชั้นผิวแต่จะไม่แสบร้อน แสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อความยกกระชับ
อาการหลังทำ Hifu คือบวมเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเองครับ ผลการทำ Hifu Macrofocus อยู่ได้ 6 เดือน และสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปี แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม Hifu/Ulthera SPT จึงมักมีคำกล่าวว่า ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย
ที่บางคลินิกโฆษณาว่าไม่เจ็บ เป็นเพราะเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการปรับใช้พลังงานที่ไม่สูง ผลที่ได้จะน้อยลง และระยะเวลาอยู่ได้สั้นลงครับ
Hifu กี่วันเห็นผล ?
ทําไฮฟู่กี่วันเห็นผล ? หลังทำ Hifu จะเห็นผลทันทีประมาณ 20% ชั้นผิวจะหดจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว 60°C-70°C โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน ไม่ทำให้ผิวไหม้ หลักการคล้ายกับเนื้อที่เราวางลงบนกระทะร้อน ๆ เนื้อจะหด ผลการทำ Hifu Macrofocus จะเห็นผลเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน
Hifu อยู่ได้กี่เดือน ?
ไฮฟู อยู่ได้นานแค่ไหน ? โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 5-6 เดือนและสามารถ มีระยะเวลาถึง 1 ปีขึ้นอยู่กับคนไข้สามารถทนเจ็บได้หรือไม่ รวมไปถึงการดูแลหลังทำ hifu ด้วยครับ
Ulthera vs Hifu Macrofocus vs Hifu บุฟเฟ่ ที่ราคาถูกมาก ๆ
อัลเทอร่า เอสพีทีกับไฮฟู แตกต่างกันอย่างไร ? Ulthera SPT และ Ulthera Prime เป็นเครื่อง Original ซึ่งพลังงานจะสูงกว่า Hifu Macrofocus 2 เท่าครับ ทำให้อยู่ได้นานกว่า 2 เท่าครับ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บ 2 เท่าเช่นกัน ถ้ายิง Ulthera แล้วไม่เจ็บ เป็นได้ 2 กรณี
- หมอใช้พลังงานต่ำลง
- ใช้การฉีดยาชา (ยาชาเป็นน้ำซึ่งมีความหนาแน่นต่างจากชั้นผิว จึงทำให้ความแม่นยำในการยิงลดลง)
ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ จะทำให้ผลจากการทำคลื่นเสียง Ulthera ได้ผลน้อยกว่าปกติครับ (no pain no gain) อีกจุดเด่นนึงของเครื่อง Ulthera SPT คือ จะมีหน้าจอเพื่อระบุความลึกของการยิง เพื่อให้ยิงพลังงานลงในชั้น SMAS ได้แม่นยำมากขึ้น
แต่ในทางปฏิบัติแล้ว แพทย์ที่ใช้เครื่อง Ulthera SPT จะต้องละสายตามามองหน้าจอในทุก Line ที่จะยิง และต้องปรับความลึกโดยการกดมือ Line ต่อ Line ซึ่งจะใช้เวลาต่อ Line ประมาณ 5-6 วินาที เพื่อให้ได้ผลตามทฤษฎี ซึ่งในความจริง แพทย์ส่วนน้อยที่จะยอมเสียเวลามองจอในทุก Line ที่จะยิง 600-1000 Line โดยที่ต้องใช้เวลา 60-90 นาที/เคส (ทั้งทรมานสายตา และเมื่อยมาก ๆ ครับ)
แพทย์ส่วนมากที่ชำนาญแล้ว จะไม่มองหน้าจอ หรือมองหน้าจอแค่บางจุด และอาศัยความชำนาญในการยิง ก็จะลดเวลาในการทำลงได้เหลือ 40-60 นาที/เคส
อัลเทอร่ากับไฮฟูแตกต่างกัน แต่ถ้าเทียบความคุ้มค่าและราคา Hifu Macrofocus จะคุ้มค่าคุ้มราคากว่าเมื่อเทียบ Line ต่อ Line
Hifu บุฟเฟ่ คืออะไร ?
Hifu บุฟเฟ่ คืออะไร ทำไมถึงราคาแตกต่างกันมาก บางที่ถูกมาก บางที่แพงมาก ในปัจจุบันจะเห็นโปรโมชั่น hifu แบบถูกมากๆ ตามสื่อต่างๆ เช่น 3,999 บาทไม่จำกัด line ?
แต่ข้อเท็จจริงคือหัวที่ยิง Hifu นั้นมีต้นทุนราคาตามจำนวน line ที่ใช้ (เช่นเมื่อยิงครบ 20,000 line ก็ต้องทิ้งแล้วซื้อหัวใหม่) จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ ทํา Hifu ราคา ถูกๆ แล้วจะได้หัวยิงที่คุณภาพดีๆ
การที่ราคาต่ำมากๆนั่นหมายถึง เกรดของเครื่องที่ด้อยลงตามราคาและหัวยิงที่พลังงานไม่คงที่ จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหลายๆ คนไปทำ Hifu มาแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงหรืออยู่ได้ไม่นาน
Hifu มีกี่แบบ ?
เครื่อง Hifu ก็มีหลายเกรดไล่ตามลำดับ ยี่ห้อที่ดีที่สุดคือ Ulthera SPT รองลงมาคือ Ultraformer3 (Ultraformerเป็น Hifu ที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera SPT เนื่องจาก พลังงานเป็น macrofocus และมีรอบพลังงานไวที่สุดจึงเจ็บน้อยลง ใช้พลังงานได้สูง และหัวยิงให้พลังงานคงที่), exilis, smazlift, … ไปจนถึง hifu เกรดต่ำลงไปอีกหลายยี่ห้อ
ดังนั้นก่อนทำ จึงควรจะหาข้อมูลก่อนทำว่าโปรโมชั่นนั้นๆ ของคลินิกใช้เครื่องยี่ห้ออะไร คุณภาพดีไหม ที่บอกว่าไม่จำกัด line มีเงื่อนไขอย่างไร เพื่อให้ได้ผลคุ้มค่าตามราคาที่จ่าย และไม่ผิดหวังครับ
ทำ Hifu ดีไหม ?
สรุป ทำ Hifu ข้อเสีย ข้อดี ผลข้างเคียงของการทำมีอะไรบ้าง ? Hifu Macrofocus เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อย ๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มไม่ลึกมาก และไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก ทำได้บ่อยครั้ง และหลังการทำ Hifu ยังสามารถทำร่วมกับการรักษาอย่างอื่นๆ ได้อีก
หากกลัวเจ็บก็สามารถใช้ยาชาทาช่วยลดความเจ็บลงได้ หลังทำผู้ที่เข้ารับการบริการสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นครับ
ในส่วนอาการข้างเคียงหลังการทำ Hifu Macrofocus อาจมีรอยแดงบ้างหลังการทำ แต่จะหายไปได้เองภายใน 1 – 2 ชั่วโมงครับ
ดังนั้นใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวหน้าไม่กระชับ อยากปรับรูปหน้าให้เรียว หรือมีกรอบหน้าชัดขึ้น การทำ Hifu ตอบโจทย์ครับ ถือว่ามีความคุ้มค่า เพราะราคาไม่แรงมากนัก
Promotion Hifu Ultraformer III ที่ V Square Clinic
Hifu Ultraformer III และ Hifu Ultraformer MPT เป็นเครื่อง Hifu ที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera เนื่องจาก เป็นระบบ Macrofocus รอบพลังงานไวที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ สามารถใช้พลังงานได้สูงเต็มที่ และระหว่างยิงพลังงานจะคงที่ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป ที่ V Square Clinic จะใช้เครื่อง 2 รุ่นนี้เป็นหลักครับ รวมถึงมีให้บริการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Ulthera SPT และ Ulthera Prime
Promotion Ulthera SPT และ Ulthera Primeที่ V Square Clinic
วิธีการดูแลตัวเองก่อนทำ Hifu และข้อปฏิบัติหลังทำ Hifu
ก่อนทำ Hifu ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
- ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
(เพราะจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่ให้เป็นไปได้ด้วยดียิ่งขึ้น)
ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Hifu หลังทำ Hifu ห้ามทำอะไรบ้าง ?
- สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว
- หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ
- ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HIFU
1. หัตถการที่สามารถทำร่วมกับ Hifu ได้ มีอะไรบ้าง ?
การยกกระชับใบหน้า ในแต่ละครั้งเราไม่จำเป็นต้องเลือกทำได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำแค่ Hifu อย่างเดียว แต่เราสามารถทำ Hifu ควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฟิลเลอร์ เมโสแฟต เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ครับ
2. ร้อยไหมแล้วทำไฮฟูได้ไหม ?
สามารถทำได้ครับแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อประเมินและเรียงลำดับการทำได้อย่างถูกต้อง เห็นผลมากที่สุด และปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทีมแพทย์ V Square Clinic ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
3. หลังทําไฮฟู นวดหน้าได้ไหม ?
หลีกเลี่ยงการสตรีมซาวด์น่า นวดหน้าด้วยความร้อน และไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ หลังทำครับ หลังทำ 2 สัปดาห์
4. ทํา Hifu กินเหล้าได้ไหม ?
ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะจะไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างตัวใต้ผิวหนังครับ
5. หลังทํา Hifu ออกกําลังกายได้ไหม ?
สามารถออกกำลังกายเบาๆได้ครับ แต่ไม่ควรออกกำลังกายในที่ร้อน เหงื่อออกมาก หรือมีการเช็ดหน้า หรือถูหน้าแรงๆ ครับ
6. Hifu 100 line เห็นผลไหม ?
Hifu 100 line เห็นผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัญหาและจุดที่ใช้ครับ ถ้าปัญหาไม่มาก Hifu 100 line สามารถเก็บริ้วรอย รอบดวงตาได้ครับ
7. คนท้องทําไฮฟู่ได้ไหม ?
ไม่แนะนำครับ ควรรอคลอดก่อนครับ
สรุป Hifu ตัวช่วยยกกระชับผิว คืนความอ่อนเยาว์
การทำ Hifu ถือเป็นตัวช่วยในการยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย ที่ได้ผลดีโดยไม่ต้องผ่าตัดครับ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก หลังทำไม่ต้องพักฟื้น
หากใครกำลังมองหาคลินิกทำ Hifu ที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย ที่ V Square Clinic เราเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาหรือส่งรูปหน้าให้หมอช่วยประเมินก่อนได้ครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ