ถาม-ตอบเกี่ยวกับร้อยไหม กับ ทีมแพทย์ V Square Clinic
เลือกอ่าน
- จริงหรือไม่ ? ที่ร้อยไหมช่วยแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
- ร้อยไหมดึงร่องแก้มได้ไหม ?
- ร้อยไหมตรงเหนียงได้ไหม ?
- จริงหรือไม่ ? ที่ร้อยไหมอยู่ได้ 3-5 ปี
- เมื่อไหมละลายหมดแล้วคนไข้อยากร้อยไหมสามารถทำได้เลยหรือไม่ ?
- ร้อยไหมตรงส่วนไหนเห็นผลดี เห็นการเปลี่ยนแปลงชัด ?
- ร้อยไหมอะไร ชนิดไหน ? ด้วยเทคนิคอะไรที่เห็นผลดีและเห็นการเปลี่ยนแปลงชัด
Q : จริงหรือไม่ ? ที่ร้อยไหมช่วยแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
A : ไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับโครงหน้าคนไข้มากกว่า ไหมละลายจะมีอยู่ 2 แบบ ก็คือ
ภาพเปรียบเทียบไหมเรียบ(mono)เส้นบน กับไหมก้างปลา(barb)เส้นล่าง การร้อยไหมmonoในสมัยก่อนไม่ค่อยเห็นผลเนื่องจากไหมmonoไม่มีเงี่ยงที่ช่วยในการดึงผิวที่หย่อนคล้อย
1.ไหมเรียบ(mono) ซึ่งเส้นไหมจะเรียบๆ บาง สั้นๆ ไม่ยาวมาก ถ้าเราเห็นตอนหมอร้อยส่วนมากจะยาวไม่เกิน 6 ซม. ใช้ร้อยเพื่อให้ผิวดูฟูขึ้น หลักการคล้ายๆ ฟิลเลอร์ คือร้อยไปเพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระตุ้นการสร้างอีลาสติน แต่ข้อเสียคือถ้าเราร้อยซ้ำกันถี่มากเกินไป (ใช้จำนวนเส้นเยอะ และการที่ทำบ่อยเกินไป) ก็จะเกิดเป็นพังผืด เพราะไหมเป็นวัสดุ PDO ซึ่งก็ถือว่าเป็นไหมละลายจะทำให้เกิดอีลาสตินขึ้นมา ถ้าเรามาใช้แทนฟิลเลอร์ เช่น ร้อยเติมร่องแก้ม ร้อยเติมใต้ตา ก็จะเกิดอีลาสตินค่อนข้างเยอะ ทำให้โครงสร้างผิวในอนาคตมีปัญหา จะติดเป็นพังผืด
เพราะฉะนั้น เราก็จะมาใช้ในจุดที่จำเป็นจริงๆ เช่น ในจุดที่เติมฟิลเลอร์ไม่ได้ บางคนจะมีริ้วรอยเวลายิ้มตรงมุมปากคล้ายๆ ลักยิ้ม เราสามารถใช้ไหม PDO เส้นเรียบๆ วางขั้นเพื่อให้ผิวหนาขึ้น และจะพับยากขึ้น ตรงนี้จะเป็นตำแหน่งที่ใช้ หรือบางเคสที่ดื้อโบท็อกซ์ มีปัญหาหางตา แต่ว่าไปเผลอฉีดของปลอมมาจนดื้อโบท็อกซ์ เราสามารถใช้ไหมเส้นเล็กๆ ร้อยเก็บริ้วรอย บริเวณหน้าผาก หางตาได้ แต่ถ้าไม่ได้ดื้อโบท็อกซ์ก็ควรจะใช้โบท็อกซ์มากกว่า พูดง่ายๆ ว่าการร้อยไหมจะช่วยในส่วนที่ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เข้าไม่ถึงมากกว่า
2.ไหมอีกแบบจะเส้นใหญ่ และยาวขึ้น มีตะขอไว้เกี่ยวผิว เส้นหนาขึ้นมา มีเงี่ยงคล้ายๆ ก้านกุหลาบหรือก้างปลาอยู่ที่ผิวของเส้นไหม ไหมนี้จะใช้ในการดึง ก็คือเราจะเข้าเข็มบริเวณขมับส่วนบน ลงมาที่แก้มส่วนล่าง แล้วก็ปล่อยเส้นไหมตามแนวยาวตั้งแต่แก้มจนถึงขมับ และดึงขึ้น ไหมจะมีตัวล็อคคล้ายๆ กิ๊บติดผมเป็นเงี่ยงสองด้านเอาไว้ล็อค ดึงขึ้นไปปุ๊ปมันก็จะล็อคเอาไว้ ทำให้แก้มส่วนล่างถูกดึงขึ้นไปข้างบน ซึ่งจะเห็นผลทันที แล้วถ้าใช้เทคนิคที่ถูกต้อง รวมไปถึงการประเมินของแพทย์ที่เหมาะสม หน้าก็จะไม่ค่อยบวม หรืออาจจะมีจุดที่บวมได้บ้าง แต่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะเข้าที่ ทำให้หน้ายกขึ้นทันทีครับ
Q : ร้อยไหมดึงร่องแก้มได้ไหม ?
A : ได้ครับ แต่ว่าผลออกมาจะไม่ค่อยสวย
เพราะว่าเนื้อบริเวณร่องแก้มที่เราดึงไปจะไปอยู่บริเวณตรงโหนกแก้ม แล้วทำให้หน้าดูเหลี่ยมขึ้น โหนกใหญ่ขึ้น ทำให้ดูไม่สวย ร่องแก้มที่ดีคือการเติมฟิลเลอร์มากกว่า อันนี้คือไหมเงี่ยงที่ใช้ดึง พอเราดึงแก้มส่วนล่าง ผิวที่ดีขึ้นอีกส่วนหนึ่งก็คือเหนียง
Q : ร้อยไหมตรงเหนียงได้ไหม ?
A : สามารถทำได้ครับแต่ต้องไม่ร้อยจำนวนเส้นเยอะเกินไปหรือร้อยตื้นเกินไป
ไหมละลายสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้าง elastin ทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยเกิดการหดกระชับได้ และถ้าร้อยในชั้นไขมันจะช่วยเร่งการสลายไขมันได้ครับ ซึ่งสำหรับการร้อยไหมบริเวณเหนียง สามารถช่วยให้ไขมันน้อยลงและกระชับขึ้นได้จริง แต่ไม่ควรร้อยจำนวนเส้นเยอะเกินไป หรือร้อยตื้นเกินไปจะทำให้ elastinซ้อนทับกันมากเกินไปจนกลายเป็นผังผืดได้ เนื่องจากตรงเหนียงชั้นผิวหนังจะบางกว่าที่ใบหน้าถ้าเกิดผังผืดจะเห็นได้ชัด
Q : จริงหรือไม่ ? ที่ผลจากการร้อยไหมอยู่ได้ 3-5 ปี เซลล์บางคนบอกว่าอยู่ได้ถาวร?
A : ไม่จริงครับ
ตามสเป็กของไหมละลายแบบปลอดภัยที่มีอยู่ในปัจจุบันทุกชนิดละลายสลายหมดไม่เกิน 2 ปี ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ผลในการร้อยไหมจะอยู่ได้ 3-5 ปี ตามที่เซลล์ของบางคลินิกโฆษณา (วัสดุPDOละลายหมดใน 4-6 เดือน, วัสดุ PLLA ละลายหมดใน 12-18 เดือน, วัสดุ PCL ละลายหมดใน 18-24 เดือน) และในบางเคสถึงแม้ว่าเส้นไหมจะยังละลายไม่หมด แต่ผิวของคนไข้ในบางเคสที่ขาดคอลลาเจน-อีลาสติน ก็สามารถหลุดออกจากเส้นไหมได้ก่อนที่ไหมจะละลาย ก็ยิ่งทำให้ผลอยู่ได้สั้นลงอีก
ดังนั้นจึงไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริงของเซลล์บางคนที่บอกว่าร้อยไหมรุ่นพิเศษได้ผลอยู่นานเกิน 3 ปีครับ(เซลล์บางคนอ้างว่าอยู่ได้ 5-10 ปี) ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้(ปี 2019) แม้ว่าจะใช้ไหมชนิดที่ละลายช้าที่สุด เทคนิคที่ดีที่สุด 80% ของทุกเคสก็ให้ผลอยู่ได้แค่ 6-12 เดือน มีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะอยู่ได้เกิน 1 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นกับอีลาสตินในเนื้อเยื่อของคนไข้และการปฏิบัติตัวของคนไข้ด้วย อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การร้อยไหมอยู่ได้นานขึ้นคือ อีลาสตินที่เนื้อเยื่อของคนไข้สร้างขึ้นจากการร้อยไหม คล้ายๆกับกาวที่ยึดเกาะทำให้เนื้อที่ถูกดึงไม่หย่อนลงมาแม้ว่าไหมจะละลายไปแล้วก็ตาม ซึ่งกาวที่ว่านี้ส่วนมากจะอยู่ได้ 3-6 เดือนหลังจากที่ไหมละลาย
เซลล์บางคนอ้างว่ามีการร้อยไหมที่อยู่ได้ถาวร อันนี้ยิ่งต้องระวังอยากมากเลยครับ เพราะไหมที่ใช้จะเป็นไหมชนิดที่ไม่ละลาย(ทำจากซิลิโคน) เมื่อผ่านไป 2 ปี ผิวหนังจะเริ่มผิดรูปจากผังผืดที่เกิดจากไหมชนิดนี้ ในกรณีนี้จะแก้ไขได้ยากมาก ดังนั้นควรศึกษาชนิดของไหมที่ร้อยให้ดีก่อนตัดสินใจทำครับ
วัสดุที่ใช้ ร้อยไหมก้างปลา เป็นไหมละลายที่ใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย เช่นใช้ในการผ่าตัดเย็บหัวใจ ได้แก่ PDO PLLA และ PCL ในขณะที่ไหมละลายจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมกระชับขึ้นแข็งแรงขึ้นด้วย
Q : เมื่อไหมละลายหมดแล้วคนไข้อยากเติมต่อสามารถทำได้เลยหรือไม่ ?
A : ประมาณ 3-4 เดือนก็ทำได้แล้วครับ
ถ้าเห็นว่าเริ่มตก หรือว่าอยากให้กระชับเพิ่มขึ้นก็ทำได้ 3-4 เดือนถือว่าเป็นระยะที่เหมาะสม เพราะว่าไหมเดิมก็ละลายหมดแล้ว แต่ส่วนมากที่เห็นคนไข้มาทำซ้ำก็ประมาณ 6-12 เดือน เพราะว่ายังรู้สึกว่าหน้ายังยกกระชับอยู่ครับ
Q : ร้อยไหมอะไร ชนิดไหน ? ด้วยเทคนิคอะไรที่เห็นผลดีและเห็นการเปลี่ยนแปลงชัด
A : คำว่าร้อยไหมส่วนมากคนไข้ก็ต้องการเรื่องความกระชับครับ
ก็ต้องเป็นไหมก้างปลา ด้วยเทคนิคดึงแก้ม อย่าไปดึงร่องแก้ม อย่าไปดึงใต้ตา เพราะผลที่ออกมาจะทำให้โหนกใหญ่ขึ้น ไม่สวย ดึงแก้มที่ห้อยตกขึ้น แบบนี้ดีแล้วครับ ส่วนเทคนิคนั้นแต่ละคลินิกเทคนิคจะไม่เหมือนกัน อย่าเชื่อรีวิวที่เป็นภาพถ่าย ควรดูจากรีวิวที่เป็นคลิปก็จะเห็นของจริงว่าแต่ละคลินิกร้อยไหมแล้วผลออกมาแตกต่างกันอย่างไร คนไข้ก็สามารถพิจารณาเลือกคลินิกได้ตรงตามความต้องการครับ
รีวิว ร้อยไหม PCL 4 เส้น+ฟิลเลอร์ใต้ตาร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น+ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 6 เส้น+ฟิลเลอร์ยกหน้า 2 CC
*ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
Collagen Biostimulator คืออะไร ? มีกี่ประเภท กี่ยี่ห้อ ? ช่วยเรื่องอะไร ? เหมาะกับใคร ?
Reading Time: 6 minutes- Collagen Biostimulator คืออะไร ? - ประเภทของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator ทำงานอย่างไร ? - ประโยชน์ของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator มีอะไรบ้าง ยี่ห้อไหนดี ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? อยากคงผลลัพธ์ได้นาน ควร...
Reading Time: 2 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน เช็ก! - รู้สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายเร็ว - ฉีดฟิลเลอร์ปากทำอย่างไรให้อยู่ได้นานขึ้น - ฉีดฟิลเลอร์ปากหลาย CC อยู่ได้นานขึ้นไหม ? - สรุปฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? ฉีดแบบไหนคุ้ม
คนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ทำไมไม่ควรฉีด ระหว่างตั้งครรภ์ดูแ...
Reading Time: 2 minutes- คนท้องฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? - มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ ? - การดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ - สรุปคนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? ดูแลอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที...
Reading Time: 3 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? - การดูแลช่องปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก - คำถามที่พบบ่อย - สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ...
Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย
ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?