ฉีดเมโสแฟต ( meso fat )
เมโสแฟต คืออะไร ? อันตรายไหม ต่างจากโบท็อกซ์อย่างไร ?
เมโสแฟต คืออะไร ? จริง ๆ แล้ว เมโสแฟตเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดสัดส่วนต่าง ๆ บนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ทำหน้าเรียว ฉีดลดแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก ไขมันในบางจุดที่ถึงแม้จะออกกำลังกาย คุมอาหารแล้วก็ยังลดยาก ลดไม่ค่อยลง
เราสามารถใช้เมโสแฟตเป็นตัวช่วยเร่งลดสัดส่วนให้ไวขึ้นได้ หรือในบางคนที่ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา หรือยกน้ำหนัก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางจุดที่ใหญ่ขึ้นแล้วไม่สวยเราไม่ชอบ ก็สามารถใช้โบท็อกช่วยลดได้ครับ
ถ้าเป็นไขมันก็จะใช้เมโสแฟต ถ้าเป็นกล้ามเนื้อก็ใช้โบท็อก ในแต่ละจุดก็จะมีวิธีในการเลือกใช้แตกต่างกัน ซึ่งจะอธิบายต่อไปครับ
สารบัญ เมโสแฟต
- เมโสแฟต คืออะไร ?
- เมโสแฟต ช่วยเรื่องอะไร ?
- เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร ?
- เมโสแฟตอันตรายไหม ?
- เมโสแฟต ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?
- เมโสแฟต ข้อดี
- เมโสแฟต ข้อเสีย
- เมโสแฟต vs ดูดไขมัน จุดที่เหมาะกับการทำและข้อควรระวัง
- อาการหลังฉีดเมโสแฟต
- ฉีดเมโสแฟตลดเหนียง บวมกี่วัน ?
- เมโสแฟต ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
- เมโสแฟตอยู่ได้นานกี่เดือน ?
- ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?
- ฉีดเมโสแฟตราคา
- Q & A ฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต คืออะไร ?
meso fat คือ การฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน เป็นวิธีการลดไขมันและลดเซลลูไลท์เฉพาะจุดแบบไม่ต้องผ่าตัด เพื่อช่วยลดและกระชับสัดส่วนให้ได้รูปตามต้องการ
หลักการทำงานของการฉีดสลายไขมันเมโสแฟต คือการใช้ตัวยาช่วยให้ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง
โดยมีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ คือ
Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์
Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholessterol ในเนื้อเยื่อ
L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)
เมโสแฟตที่มี L-carnitine จะดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน
- triglyceride ช่วยเพิ่มการย่อยสลาย triglyceride
- Tyrosine เพิ่ม fat metabolism ทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลง และถูกขับออก
- Aesculus hippocastanum (horse chestnut) ลดการบวมน้ำ
- Juglans regia (Walnut) เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เพิ่มการเผาผลาญ ลดอาการบวมน้ำ
- Nicotiana tabacum กระตุ้น catecholamine ทำให้เกิด lipolysis
จากภาพ แสดงให้เห็นขั้นตอนการทำงานของเมโสแฟต
หลังฉีดจะช่วยให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย
ทำให้ปริมาณไขมันส่วนเกินลดลงเร็วขึ้น
เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร ?
เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร? เมโสแฟตจะช่วยสลายไขมัน ส่วนโบท็อก เป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งานสักระยะนึง จะฝ่อหดเล็กลงชั่วคราวประมาณ 6-8 เดือน ทำให้เนื้อยุบล ทั้งเมโสแฟต และ โบท็อก สามารถทำให้สัดส่วนของร่างกายบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลงได้จากทั้ง ไขมันและกล้ามเนื้อที่เล็กลง ซึ่งแพทย์ก็จะช่วยประเมินว่าในบริเวณที่เราต้องการจะลด เป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อมากกว่ากัน ทำให้เลือกแก้ไขได้ตรงจุด แต่เราก็สามารถเลือกทำทั้ง 2 อย่างคู่กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไวขึ้นได้อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อก คืออะไร ? botox เห็นผลคุ้มค่าหรือไม่ ? มีข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจฉีด ?
เมโสแฟต อันตรายไหม ที่ อย.ประกาศเตือนว่าอันตรายหมายถึงอะไร ?
เมโสแฟตสูตรที่อันตรายมี 2 ชนิด คือ
-
สเตียรอยด์
ปกติแพทย์ผิวหนังจะใช้ในการฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ ใช้ในปริมาณที่น้อยจะปลอดภัย แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี มักผสมสเตียรอยด์ปริมาณมากในเมโสแฟตที่ไม่ผ่าน อย. เพราะต้นทุนต่ำ เห็นผลไว แต่ เมื่อฉีดหลายๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่ายกาย
ลักษณะตัวยาสเตียรอยด์ที่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี
สเตียรอยด์ที่ผสมในเมโสแฟตจะมีทั้งแบบสีขาวขุ่นและขาวใส ทางที่ดีควรขอดูยี่ห้อเมโสแฟต ก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ
-
ยาสลายฟิลเลอร์ ชื่อว่า Hyaluronidase
Hyaluronidase ปกติจะใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการฉีดปริมาณมาก ๆ ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมเนื่องจาก ต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้ง จะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนลงเนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลง
อ่านบทความเพิ่มเติม : [เจาะลึก] ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใต้ตา คาง ควรเลือกใช้รุ่นไหน ?
ตัวยา hyaluronidase ที่ไว้ใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์ถูกนำมาใช้แบบผิดวิธี
เมโสแฟตที่นิยมขายตามอินเทอร์เน็ต แท้จริงแล้วคือยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase) ที่นำมาใช้ผิดวิธี
เนื่องจากเมโสแฟตกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งฉีดลดแก้ม ลดเหนียงและวิธีการฉีดเมโสแฟตนั้นไม่ยาก คนไข้บางกลุ่มจึงนิยมฉีดกับหมอกระเป๋าเพราะราคาถูก
หมอกระเป๋าจะไม่สามารถซื้อยาแท้ที่ผ่าน อย. ได้ เพราะมีกฏหมายยาควบคุม ดังนั้นยาที่หมอกระเป๋าใช้จึงมักไม่ปลอดภัย เป็นยาหิ้ว ยาปลอม ที่มีส่วนผสมที่อันตราย และไม่สะอาด จึงทำให้มีการอักเสบติดเชื้อหลายเคสจากตัวยาที่ไม่ปลอดภัยและวิธีการฉีดที่ไม่สะอาด ดังที่ อย. ออกมาเตือนครับ
สำหรับคนที่กำลังมองหาว่าควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ที่คลินิกไหนดี ควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. อย่างถูกต้อง และฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และ ขอดูยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีดทุกครั้ง
เพื่อจะได้มั่นใจว่าส่วนผสมไม่มีอันตราย และสามารถตรวจสอบแหล่งผลิต บริษัทผู้นำเข้าได้ชัดเจน ไม่เสี่ยงต่อยาหิ้วยาปลอมที่อันตรายครับ
เมโสแฟตอันตรายไหม ? ฉีดแล้วหน้าบวมแก้อย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
เมโสแฟตสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้หลายจุดดังภาพตัวอย่าง
เมโสแฟต สามารถฉีดสลายไขมันได้หลายจุดครับ ที่นิยมคือการฉีดลดไขมันหน้า ฉีดสลายไขมันแก้ม ใต้คาง เหนียง จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น และจุดอื่นๆ ที่สามารถฉีดสลายไขมันได้เช่นกัน ได้แก่ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก
สามารถฉีดเมโสแฟตร่วมกับการฉีดโบท็อกได้ครับ ช่วยลดไขมันและกล้ามเนื้อ เพื่อให้ได้รูปหน้าและรูปร่างที่สวยงาม ดูกระชับมากยิ่งขึ้น
ลักษณะไขมันบนใบหน้า แก้ม กระพุ้งแก้ม
การฉีดเมโสแฟต จะเป็นการฉีดลดไขมันหน้า ในจุดที่มีหมายเลข 1 ตามรูปและจุดที่ 3 ได้ แต่จะหวังผลได้ไม่แน่นอน เพราะการลดลงและเพิ่มขึ้นของเซลล์ไขมัน ขึ้นกับหลายปัจจัยเช่น การกินของหวาน การออกกำลังกาย การกินมื้อดึกซึ่งจะหวังผลได้ประมาณ 60-70%
ตัวอย่างรีวิวเมโสแฟต ฉีดสลายไขมันแก้ม
หน้ากลมแก้มเยอะ อยากลดแก้มทำอย่างไร ? วิธีลดแก้ม ลดเหนียง แบบเร่งด่วน
โบท็อกกราม กรณีในเคสที่ต้องการลดแก้ม ถึงแม้จะเป็นตำแหน่งหมายเลข 1 แต่หากมีกล้ามเนื้อกราม (ลองจับแก้มแล้วกัดฟัน,กรามจะเด้ง) หมอก็จะแนะนำให้ทำโบท็อกกราม เนื่องจากโบท็อกหวังผลได้เกือบ 100% และในการทำให้กล้ามเนื้อกรามในจุดที่ 2 ยุบลง ก็จะทำให้เนื้อแก้มในจุดที่ 1 ยุบลงด้วยเพราะ เนื้อแก้มในจุดที่ 1 กับ 2 เบียดกันอยู่ครับ
เคสนี้คนไข้มีปัญหาที่กรามและแก้ม สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวโดยการฉีดเมโสแฟตสลายไขมันแก้ม ควบคู่กับการฉีดโบท็อกลดกราม จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเข้ารูปอย่างเป็นธรรมชาติครับ
การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะเป็นการผ่าตัดเอาไขมัน (buccal fat pad) ที่มีหมายเลข 3 ออก หวังผลได้เกือบ 100% แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง เพราะถ้าประเมินไม่ดี ตัดออกมากเกินไป จะยุบลามไปถึงขมับ และทำให้แก้มตอบและหน้าห้อยได้
การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะไม่สามารถตัดไขมันในส่วนที่ 1 (superficial fat pad) ซึ่งเป็นจุดที่คนไข้ส่วนใหญ่ต้องการลดได้ เพราะเป็นไขมันที่อยู่ตื้นติดกับชั้นผิวหนัง อาจจะใช้การดูดไขมันแทนแต่การดูดไขมันในส่วนที่ 1 ไม่ควรทำเพราะเสี่ยงต่อการโดนเส้นประสาททำให้ปากเบี้ยวได้มาก
ดังนั้นการลดไขมันในบริเวณหมายเลข 1 จึงแนะนำโบท็อกและเมโสแฟตเป็นหลักครับ เนื่องจากปลอดภัยและตรงจุดมากกว่า
อ่านบทความเพิ่มเติม : รีวิว เมโสแฟตแก้ม หลังฉีดแฟตสลายไขมัน ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยเข้ารูป เพิ่มความมั่นใจ
หลังการฉีดเมโสแฟตลดเหนียงสามารถลดเซลล์ไขมันลงประมาณ 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรก โดยช่วยลดเหนียงได้บางส่วนครับ แนะนำให้ทำควบคู่กับโบท็อกลิฟ จะทำให้เหนียงยุบลงและกระชับขึ้นด้วย
หลังฉีดเมโสแฟต เหนียงมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
อ่านบทความเพิ่มเติม : วิธีลดเหนียง ไขมันใต้คางเยอะ หายภายใน 1 สัปดาห์
ตัวอย่างรีวิวผลของการทำ โบท็อก Nefertiti Lift
Hifu Ultraformer III สามารถลดเหนียงได้ผลดีและเน้นในเรื่องการยกกระชับ Hifu ราคาสูงกว่าการฉีดเมโสแฟต แต่อยู่ได้นานครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : 9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ V Square Clinic
ดูดไขมันเหนียง จะบวมช้ำค่อนข้างมาก เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ และหากมีเลือดออกมากจะเสี่ยงต่อการกดทับหลอดลมได้ หากต้องการทำ แนะนำให้ควรทำใน รพ.เท่านั้นครับ
ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง
ฉีดลดไขมันหน้าท้อง ด้วยเมโสแฟต จะช่วยลดไขมันส่วนเกินและลดสัดส่วนบริเวณหน้าท้อง แต่การฉีดเมโสแฟตต้องทำควบคู่กับการดูแลสุขภาพครับ ทั้งเรื่องของอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้ใหม่
หากต้องการเห็นผลแน่นอนและคงผลลัพธ์ได้นาน แนะนำให้ทำ CoolSculpting ซึ่งเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น เซลล์ไขมันจะตายและลดจำนวนลงแบบถาวรครับ แต่จะมีราคาสูงกว่าเมโสแฟต
อ่านบทความเพิ่มเติม : CoolSculpting สลายไขมัน ไม่ฉีด ไม่ผ่าตัด กำจัดเซลล์ไขมันถาวรด้วยความเย็น
ฉีดเมโสแฟต ต้นแขน ต้นขา
ในการลดต้นแขน ต้นขา ต้องดูว่าจุดที่คนไข้ต้องการลดเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมันครับ สามารถใช้ได้ทั้งโบท็อกและเมโสแฟต
สำหรับต้นแขนหากเป็นไขมันก็แนะนำให้ใช้เมโสแฟตครับ ถ้าเป็นกล้ามเนื้อแนะนำใช้โบท็อกเพื่อลดกล้ามเนื้อ
ในการฉีดโบท็อกลดต้นแขน จะช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วยครับ เพราะช่วยลดความกว้างของบ่า
ส่วนบริเวณต้นขาจะเป็นไขมัน หากมีไขมันสะสมเยอะมากๆ ไม่คุ้มกับการฉีดเมโสแฟตครับ หมอจะแนะนำการดูดไขมัน หรือทำ CoolSculpting (สำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด) ช่วยสลายไขมันบริเวณต้นแขน ต้นขา ทำให้สัดส่วนเล็กลงได้ครับ
ปกติโบท็อกน่องถ้าจะให้ยุบลงหมด จะใช้ยาเยอะมากครับ ข้างละ 300-400 ยูนิต แต่ร่างกายเรารับได้แค่ 300 ยู ในระยะ 3 เดือนครับ และถ้าฉีดครั้งเดียวเยอะเกินไปจะยืนไม่ได้ครับ แนะนำทยอยฉีดครั้งละ 200 ยู
โดยทางคลินิกจะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยาต่อหน้าจนหมด เอากล่องและขวดกลับบ้านได้ครับ เพื่อความมั่นใจว่าของแท้และได้ยูนิตตามราคาที่จ่ายครับ
เมโสแฟต ข้อดี
- หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น
- บวมช้ำน้อย (อาจบวมเป็นปริมาณยาได้ ใน 3 - 4 ชั่วโมงแรก)
- ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน
- เห็นผลเร็ว
- ปลอดภัยสูง
- ราคาไม่แพง
เมโสแฟต ข้อเสีย
ข้อเสีย ของการฉีด Meso fat คือ ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
และเมโสแฟตไม่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันมากๆ อาจต้องฉีดประมาณ 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินว่าปริมาณไขมันในจุดนั้นเหมาะกับการฉีดเมโสแฟตหรือไม่
นอกจากนี้ตัวยา Meso fat หลายตัวยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย และยังไม่มีผลวิจัยใดๆ รับรองว่าสารเหล่านั้นจะสามารถสลายไขมันให้ร่างกายได้จริง เพื่อความปลอดภัยควรเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรองจากอย.แล้วเท่านั้นครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี เลือกคลินิกแบบไหนถึงปลอดภัย ! ที่นี่มีคำตอบ
เส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญที่ต้องระมัดระวัง
ในบริเวณแก้มและลำคอมีเส้นเลือดเส้นประสาทที่สำคัญอยู่มาก การทำเมโสแฟตจึงปลอดภัยกว่าการดูดไขมันครับ
แต่ในบริเวณที่มีไขมันปริมาณมากๆ เช่น ต้นขา หน้าท้อง การทำเมโสแฟตจะต้องใช้ยาปริมาณมาก และราคาสูง แนะนำการดูดไขมันจะคุ้มกว่า แต่ก็จะบวมช้ำค่อนข้างเยอะ และต้องพักฟื้นครับ
ข้อปฏิบัติและข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟตแก้ม/เหนียง
- หลังทำแฟตแก้มไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
- หลังทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลังจากทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดแฟตแก้ม ข้อห้าม และข้อปฎิบัติ ที่คนอยากหน้าเรียวทันใจ ไม่ควรพลาด
เมโสแฟต ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
ฉีดเมโสแฟตในครั้งแรก จะเห็นผลว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มยุบลงภายใน 5-7 วัน ครับ หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ครับ
สามารถกลับมาฉีดเมโสแฟตซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมาก อาจฉีด 4-5 ครั้ง และการฉีดต่อเนื่องจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
-
เมโสแฟต สูตร Phytobella
- 6 CC ราคา 2,000.- (5 ครั้งเหลือเพียง 9,000.-)
- 12 CC ราคา 3,500.- (5 ครั้งเหลือเพียง 15,000.-)
- 18 CC ราคา 5,000.- (5 ครั้งเหลือเพียง 20,000.-)
- เหมาขวด 10 CC ราคา 3,200.-
- เมโสแฟต สูตรเร่งไว 2 ยี่ห้อ คือ FNC / BABI
-
เมโสแฟต สูตร FNC
- 6 CC 1 ครั้ง ราคา 2,500.-
- 6 CC (ปกติ 5 ครั้ง รับเพิ่มฟรี 1 ครั้ง ) 6 ครั้ง 9,900.-
- 12 CC (ปกติ 5 ครั้ง รับเพิ่มฟรี 1 ครั้ง ) 6 ครั้ง 18,000.-
- 18 CC (ปกติ 5 ครั้ง รับเพิ่มฟรี 1 ครั้ง ) 6 ครั้ง 25,000.-
- เหมาขวด 10 CC ราคา 4,000.-
-
เมโสแฟต สูตร Babi Neo One
- 6 CC 1 ครั้ง ราคา 2,800.-
- 6 CC (ปกติ 5 ครั้ง รับเพิ่มฟรี 1 ครั้ง ) 6 ครั้ง 11,000.-
- 12 CC 1 ครั้ง ราคา 5,000.-
- 12 CC (ปกติ 5 ครั้ง รับเพิ่มฟรี 1 ครั้ง ) 6 ครั้ง ราคา 20,200.-
- 18 CC 1 ครั้ง ราคา 7,300.-
- 18 CC (ปกติ 5 ครั้ง รับเพิ่มฟรี 1 ครั้ง ) 6 ครั้ง ราคา 28,100.-
- เหมาขวด 10 CC ราคา 4,500.-
-
เมโสแฟตตัว สูตร Neobella
- 2 ขวด (16CC) ราคา 5,000.-
- 4 ขวด (32CC) ราคา 9,000.-
- 10 ขวด (80CC) ราคา 20,000.-
- 12 ขวด (96CC) ราคา 24,000.-
-
เมโสแฟตตัว สูตร FNC
- 30 CC (3 ขวด) ราคา 9,900 .-
- 60 CC (6 ขวด) ราคา 18,000.-
- 90 CC (9 ขวด) ราคา 25,000.-
-
เมโสแฟตตัว สูตร BABI
- 30 CC (3 ขวด) ราคา 11,000 .-
- 60 CC (6 ขวด) ราคา 20,200.-
- 90 CC (9 ขวด) ราคา 28,100.-
อ่านบทความเพิ่มเติม : เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดลดเหนียง ลดแก้มแตกต่างกันไหม ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
Q : เมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?
A :
หลังจากฉีดแฟต สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ไขมันเริ่มสลายตัว 10-15% และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ทั้งนี้หลังฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผลนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย หากอยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ประเมินใบหน้าของแต่ละบุคคลครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ลดเหนียง ลดแก้ม เพื่อหน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
Q : ซื้อเมโสแฟต ฉีดเองได้ไหม ?
A :
ไม่แนะนำให้ซื้อตัวยาเมโสแฟตมาฉีดเอง เพราะตัวยาที่ขายตามอินเทอร์เน็ต อาจเป็นเมโสแฟตปลอม ปกติแล้วตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตฐาน ผ่าน อย. จะมีเฉพาะแพทย์เท่านั้นที่สามารถสั่งซื้อได้ครับ
นอกจากนี้การฉีดเมโสแฟต ผู้ฉีดต้องมีความรู้ด้านกายวิภาคโครงสร้างใบหน้า และร่างกาย ความตื้นลึกก็มีส่วนสำคัญในการฉีดเมโสแฟต ซึ่งเป็นเรื่องของเทคนิคเฉพาะตัวและความละเอียดอ่อนในการวิเคราะห์ครับ เพราะคนไข้แต่ละคนมีกล้ามเนื้อและไขมันมากน้อยไม่เหมือนกัน
สรุป เมโสแฟตดีไหม ?
เมโสแฟตเป็นวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ช่วยสลายไขมันได้รวดเร็ว แต่การจะฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ต้องใช้เมโสแฟตของแท้ ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีการคำนวณปริมาณตัวยาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคสครับ
สำหรับใครที่ต้องการฉีดเมโสแฟต หมออยากให้คำนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
Ultraformer III ควรทํากี่ช็อต (ไลน์) เห็นผล แต่ละตำแหน่งเท่ากันไหม ?
Reading Time: 4 minutes- Ultraformer III ควรทํากี่ช็อต ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี - ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดจำนวนไลน์การยิง Hifu Ultraformer III - Ultraformer III ควรทํากี่ช็อต (ไลน์) ในแต่ละตำแหน่ง
ฟิลเลอร์น้องสาว ฉีดตำแหน่งไหน ? ช่วยเติมความชุ่มชื้น เพิ่...
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์น้องสาว คืออะไร ฉีดตรงไหน ? - ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ทำได้จริงหรือทฤษฎี ? อันตรายไหม ? - การฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ช่วยอะไรบ้าง ? - การฉีดฟิลเลอร์น้องสาว เหมาะกับใคร ?
ไขมัน คืออะไร ? รู้จักไขมันส่วนเกิน พร้อม 10 วิธีลดไขมันใ...
Reading Time: 4 minutes- ไขมัน คืออะไร ? รู้จักไขมันในร่างกาย มีกี่ประเภท ? - ไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกาย เกิดจากอะไร ? - การสะสมของ ไขมัน ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร ? - 4 วิธีลดไขมันแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็ว - 6 วิธีลด ไขมัน ด้วยตัวเอง แบบธรรมชาติ
หลังฉีดเมโสหน้าใส ดูแลตัวเองอย่างไร ? เช็กผลลัพธ์ได้เมื่อ...
Reading Time: 3 minutes- รู้จักเมโสหน้าใส เพื่อเตรียมพร้อมดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างดี - หลังฉีดเมโสหน้าใส เช็กผลลัพธ์ได้เมื่อไหร่ ? - ผลลัพธ์หลังฉีดเมโสหน้าใสครั้งแรก - อาการหลังฉีดเมโสหน้าใส มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
Oligio คืออะไร ? ยกกระชับผิว ลดไขมัน ความย่อนคล้อย เห็นผล...
Reading Time: 3 minutes- Oligio คืออะไร ? - Oligio ทำงานอย่างไร ? - Oligio ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - Oligio เหมาะกับใครบ้าง ? - Oligio กับ Thermage อยากหน้าเด็ก ต้องรู้ก่อนเลือก
Jawline ผู้ชาย เป็นแบบไหน ? 14 วิธีสร้างกรอบหน้า ให้คมชัด...
Reading Time: 7 minutes- ลักษณะ Jawline ผู้ชาย ที่สวยงาม และมีเสน่ห์เป็นแบบไหน ? - ทำความรู้จักโครงหน้าของผู้ชาย ที่ส่งผลต่อความคมชัดของ Jawline - Jawline ไม่สมส่วน กรอบหน้าไม่ชัด เกิดจากอะไร ? - สร้าง Jawline ผู้ชายด้วยตัวเองได้ไหม ? - สร้าง Jawline ผู้ชายให้คมชัดแบบเร่งด่วนด้วยวิธีทางการแพทย์