ฉีดวิตามินผิว
ฉีดวิตามินผิวดีไหม ? ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ดูขาวขึ้นจริงหรือ ? ในปัจจุบันการฉีดวิตามินบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส กำลังเป็นที่นิยมขึ้นอย่างมากทั้งคนที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน หลายคนจึงเลือกวิธีที่เห็นผลเร็ว คือ ทำให้ผิวขาวใสด้วยการ “ฉีดวิตามินซี”
ซึ่งเชื่อว่าให้ผลค่อนข้างชัดเจน สามารถเปลี่ยนความคล้ำเสียของผิวให้กลับมาขาวใสเรียบเนียนได้ในระยะเวลาอันสั้น
ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำหัตถการดังกล่าว เราควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้ทราบว่าการฉีดวิตามินผิวนั้นมีอันตรายอะไรหรือไม่ ? ฉีดแล้วผิวจะดีขึ้นจริงไหม ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ? ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ? หมอมีคำตอบให้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ ฉีดวิตามินผิว
- การฉีดวิตามินผิวใสคืออะไร ?
- ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำเกิดจากอะไร ?
- การฉีดวิตามินผิวใส เหมาะกับใคร ?
- ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว
- ฉีดวิตามินผิวใส บริเวณไหนได้บ้าง ?
- การฉีดวิตามินผิวใส อันตรายไหม ?
- ฉีดวิตามินผิว มีผลข้างเคียงไหม ?
- การฉีดวิตามินผิวใส ไม่เหมาะกับใคร ?
- หลังฉีดวิตามินผิวใส กี่วันเห็นผล ?
- ฉีดวิตามินผิวใส ดีไหม ?
- ฉีดวิตามินผิวแล้วดูกระจ่างใสขึ้นจริงไหม ?
- ฉีดวิตามินผิวใสกี่ครั้งเห็นผล ?
- ก่อนฉีดวิตามินผิว เตรียมตัวอย่างไร ?
- ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว
- หลังฉีดวิตามินผิว ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ?
- ฉีดวิตามินผิวใสที่ไหนดี ?
- ฉีดวิตามินผิว ดื่มแอลกอฮอลล์ได้ไหม ?
- ฉีดวิตามินผิว ราคาเท่าไหร่ ?
- รีวิว ฉีดวิตามินผิวใส
การฉีดวิตามินผิวใส คืออะไร ?
การฉีดวิตามินผิวใส คือ การฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เข้าไปในผิว วิตามินผิวใสที่นิยมทำกันในปัจจุบันนั้น ตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักเป็น วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก
เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง
อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ป้องกันหวัด ป้องกันแสงแดด ฉีดวิตามินผิวแต่ละคลินิกอาจมีสูตรยาเฉพาะ ใช้ตัวยาแตกต่างกันได้ครับ สำหรับ V Square Clinic หมอจะฉีดวิตามินผิวใส aura white เป็นตัวยาล้วน ไม่ผสมน้ำเกลือครับ
ตัวยาประกอบด้วย Vit C megadose + Vit B รวม + Glutamine + Amino + Nac รวม 50 cc โดยสามารถปรับสูตรได้ตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการของคนไข้
- แสงแดดและมลภาวะ ส่งผลให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
- ความเครียด ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ไขมันผลิตมากขึ้น ทำให้เกิดการอุดตัน เป็นสาเหตุของการเกิดสิว หน้าหมอง หน้าโทรม
- สารเคมีจากเครื่องสำอาง เนื่องจากเครื่องสำอางและสกินแคร์ มีส่วนผสมของน้ำหอม และไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) หากใช้ปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดผดผื่น สิวอุดตัน รอยแดงได้
- การรับประทานอาหาร ที่ไม่มีประโยชน์หรือการดื่มน้ำไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิว เช่น หน้าคล้ำ โทรม ไม่สดใส นอกจากนี้ผิวที่ขาดน้ำจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
- ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้นให้ผิว
- ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวใส
- เสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
- กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการหวัด โรคภูมิแพ้
- ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย
- เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว
โดยปกติแล้วเราจะรับวิตามินต่าง ๆ จากการรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ การทานอาหารเสริม ซึ่งถ้าเทียบกับการฉีดวิตามินผิวแล้ว จะเห็นผลช้ากว่าและน้อยกว่าครับ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการฉีดวิตามินผิวใสจึงได้รับความนิยม และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และต้องการฟื้นฟูร่างกายในระยะอันเร่งด่วน
ส่วนวิตามินผิวสำหรับบำรุงผิวหน้าโดยเฉพาะ จะเรียกว่าการฉีดเมโสหน้าใสครับ
บทความแนะนำ
ฉีดวิตามินผิวใส อันตรายไหม ?
การฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม ? ในความเป็นจริงแล้วการฉีดวิตามินผิวใสไม่อันตรายครับ เนื่องจากตัวยาที่ฉีดเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และเป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากสำหรับคนที่อยากฉีดเติมวิตามินให้ผิวขาวใส ก็คือ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไปฉีดวิตามินผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน
อาจพบว่ามีสถานพยาบาลบางแห่งทำการฉีดสารกลูตาไธโอน (Glutathione) เข้าสู่ร่างกายให้คนไข้โดยตรง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่รวดเร็ว แต่ตัวยาดังกล่าวยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่งการฉีดยาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือมีอาการแพ้และเป็นผื่นได้ครับ
การฉีดวิตามินผิวใสที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินซีควรหลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับ/โรคไต, คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกินเพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้
ทางที่ดีควรเลือกคลินิกฉีดวิตามินผิวที่น่าเชื่อถือที่ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐานและใช้ของแท้ที่ปลอดภัยเท่านั้นครับ
การฉีดวิตามินผิวใส ไม่เหมาะกับใคร ?
- หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตต่ำ โรคหัวใจที่ต้องรักษาด้วยยาหลายชนิด
- ผู้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำเป็นต้น
- คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency)
- คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกิน เพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้
- คนที่มีประวัติแพ้ยา หรือวิตามินที่เป็นรูปแบบการฉีด
ซึ่งบุคคลต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อห้ามแบบชัดเจน บางเคสสามารถทำได้ ขึ้นกับภาวะต่าง ๆ ในแต่ละเคส โดยหมอจะเป็นผู้ประเมินครับ
ฉีดวิตามินผิวใส ดีไหม ?
ฉีดวิตามิน ผิวดีไหม ? ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนครับ การฉีดวิตามินผิวใสด้วยตัวยาในกลุ่มวิตามินซีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในเรื่องความขาวใสของผิว ความขาวที่ได้รับหลังการฉีดวิตามินซีเข้าไปสามารถเป็นไปได้จริง ด้วยหลักการทำงานของวิตามินซีที่มีส่วนช่วยลดการเกิดขึ้นของเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ
เมื่อได้รับปริมาณวิตามินอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ผิวดูขาวมากขึ้นกว่าผิวเดิม แต่ระดับความขาวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มากจนเลยระดับผิวหนังเดิมของตัวเองไปแต่อย่างใด
การฉีดวิตามินผิวใสจะให้ผลที่ดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะเห็นผลไว บางคนอาจจะเห็นผลช้า เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมกันแดด การทำงานกลางแจ้ง หรือปล่อยให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดและความร้อนโดยตรงเป็นเวลานานหรือไม่ รวมถึงความสม่ำเสมอในการฉีดด้วย
ส่วนความใสของผิวหน้าหลังจากที่ฉีดวิตามินซีก็มีส่วนที่ช่วยทำให้ใสขึ้นได้เช่นเดียวกัน เพราะวิตามินซีจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น และไปลดจุดด่างดำด้วยการทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ผิวจะดูเรียบเนียนเป็นสีเดียวกันจึงทำให้ผิวดูใสมีสุขภาพดีมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยขับสารพิษที่ตกค้าง ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันหวัดและป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้ดีขึ้นด้วยครับ
ฉีดวิตามินผิวแล้วดูกระจ่างใสขึ้นจริงไหม ?
หลายคนสงสัยว่าการฉีดวิตามินผิวขาวจริงไหม ? สำหรับการฉีดวิตามินผิวที่ใช้ในการเสริมความงามนั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของ Vit C, Vit B, NAC, Amino, Antioxidant หรือ Collagen ล้วนเป็นสารที่ให้ประโยชน์กับผิวของเรา
โดยที่ NAC (N-Acetyl Cysteine) เป็นโครงสร้างที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพและช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione ออกมาตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
ซึ่งการฉีดสารต่าง ๆ เหล่านี้ จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปตามปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคลครับ จุดเด่น คือ จะช่วยสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวทำให้เซลล์แข็งแรง
เมื่อเซลล์แข็งแรง ผิวก็จะมีคุณภาพดีขึ้นจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล การฉีดวิตามินผิวจะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นโดยอาศัยกลไกทางอ้อมครับ
ฉีดวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล ?
ในการฉีดวิตามินผิวใส กระตุ้นผิวให้แลดูเปล่งปลั่ง จะมีสารบางตัวที่สามารถเปลี่ยนสีผิวเราให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น เป็นสารจำพวกวิตามินซี กลุ่มสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และสารต้านอนุมูลอิสระ
ระยะเวลาที่จะเห็นผลอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความถี่ในการฉีด ในช่วงแรกอาจจะฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็สามารถทิ้งช่วงได้เป็นเดือนละ 1 ครั้งก็ได้ แต่หากอยากรักษาผลลัพธ์ไว้ ควรมาฉีดอย่างต่อเนื่องครับ
เมโส
การฉีดเมโส หรือฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดวิตามินและสารบำรุงต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง ชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เหมือนเป็นการบูสต์ผิวเร่งด่วน เห็นผลลัพธ์เร็วกว่าการทาครีมบำรุงที่ใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
เมโสหน้าใส มีส่วนผสมของวิตามินซี คอลลาเจน ช่วยให้ผิวขาวใส หน้าใส ลดสิว ผดผื่น มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ หมอจะประเมินปัญหา สภาพผิว และแนะนำยี่ห้อเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ? ที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดแก่คนไข้ครับ
- Made Collagen เน้นลดสิว ลดผื่น ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ขับสารพิษ
- Filorga / Revs เน้นผิวขาวใส ลดฝ้า เติมความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิวแบบ Premium
- Neo Glutanex Glow เน้นผิวขาวอมชมพู ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฝ้า กระ หลุมสิว กระชับรูขุมขน
- Tensonez เน้นผิวขาว ใส ลดฝ้า
- Alpha Arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง
มาเด้ คอลลาเจน
ถ้ามีปัญหาสิวอักเสบ สิวผด สิวเรื้อรัง ผิวแพ้ง่าย ผิวหยาบกร้าน สีผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ รวมถึงมีฝ้า กระ จุดด่างดำ หมอแนะนำให้ฉีดมาเด้คอลลาเจน (Made Collagen) เป็นหนึ่งในยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยมครับ มาเด้คอลลาเจน คืออะไร ? กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานแค่ไหน ? อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
ไซโตแคร์
ไซโตแคร์ (Cytocare) เป็นสารบำรุงผิวประกอบด้วยกรดไฮยาลูรอนิก วิตามินและสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก ฉีดเพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวอุ้มน้ำและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ฟื้นฟูผิวกระจ่างใส แต่จะเน้นแก้ปัญหาเฉพาะจุดครับ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ผลลัพธ์อยู่ได้ระยะสั้นประมาณ 1-2 เดือน ต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ รวมไปถึงวิธีการสังเกตยาแท้ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า
- หากมีโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจประเมินถึงปัญหาผิว และปรับสูตรวิตามินให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน
ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว
- การฉีดวิตามินผิวมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นานครับ เบื้องต้นคนไข้จะต้องตรวจวัดความดัน ชีพจร ซักประวัติการแพ้ยา น้ำหนัก ส่วนสูง
- หลังจากนั้นหมอจะปรับสูตรวิตามิน ให้ตรงกับปัญหาผิว และความต้องการของคนไข้
- หมอจะทำการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดดำบริเวณข้อมือ หรือข้อพับแขน ประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่าวิตามินจะหมดหลอด
- พยายามเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องออกแดดบ่อย ๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป
- เลี่ยงการนวดผิวบริเวณที่ทำทันที ไม่ควรเช็ดถูหรือเกาบริเวณที่ฉีด
- หากเกิดรอยแดง ช้ำ จากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- ควรดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมาก ๆ เพราะจะช่วยบำรุงผิวใสจากภายใน ดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย
- หากอาการบวมแดงเกิดขึ้นมากกว่า 1-2 วัน ควรติดต่อแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยเบื้องต้นและรักษาตามอาการ
เพราะเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่ายาที่ใช้เป็นของแท้ที่ได้มาตรฐาน หรือหมอมีประสบการณ์ในการฉีดหรือไม่ รวมถึงความสะอาดในขั้นตอนต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ เมื่อฉีดวิตามินเข้าสู่กระแสเลือดแล้วอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ฉีดวิตามินผิว ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม ?
จริง ๆ แล้วไม่มีข้อห้ามว่าหลังฉีดวิตามินผิวใส แล้วห้ามดื่มแอลกอฮอล์นะครับ แต่หมอจะแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ๆ จะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ (Free Radical) ขึ้นในร่างกาย
ซึ่งการมีสารนี้ในร่างกายมาก ๆ จะส่งผลให้เซลล์ต่าง ๆ เสื่อมเร็ว ผิวเหี่ยวย่น หากอยากให้หลังฉีดวิตามินผิวแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็ควรละเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ทำร้ายผิวพรรณครับ
ฉีดวิตามินผิว ราคาเท่าไหร่ ?
สำหรับคนที่อยากเติมวิตามินผิว ฉีดวิตามิน ขาวใส ผิวนุ่ม ราคาในการฉีดวิตามิน ขาวใส ผิวนุ่ม สูตร Skin Glow ขาวใส แบบธรรมชาติ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันแสงแดด ลดความหมองคล้ำ มีส่วนผสม Glutamine สูตร White Rediance ขาวใส +10-20% ลดการทำงานเม็ดสี ป้องกันฝ้า มีส่วนผสม Glutamine, NAC
ฉีดวิตามินผิว ขาวใส ผิวนุ่ม ราคา โปรโมชั่น ที่ V Square Clinic
โปร วิตามินผิว ขาวใส ผิวนุ่ม
สูตร Skin Glow
- ครั้งละ 1,500.-
- คอร์ส 5 ครั้ง 6,000.- จาก 7,500.-
- เฉลี่ย 1,200.-/ครั้ง
สูตร White Rediance
- ครั้งละ 2,500.-
- คอร์ส 6 ครั้ง 9,900.- จาก 15,000.-
- เฉลี่ย 1,650.-/ครั้ง
รีวิว ฉีดวิตามินผิว
การฉีดวิตามินผิวใส ผลลัพธ์ที่ได้จากแต่ละคนจะไม่เหมือนกันครับ หากดูรีวิวฉีดผิวขาว ควรดูจากคนไข้ที่มาทำจริงในคลินิกนั้น ๆ โดยพิจารณาจากรีวิวในแหล่งที่เป็นกลาง มีความน่าเชื่อถือ และเป็นปัจจุบัน
ถ้าหากเจอรีวิวที่เป็นเคสหลุด สามารถดูความรับผิดชอบของคลินิกได้ โดยที่รีวิวจะไม่โดนลบออก เช่น facebook review, pantip รีวิวประเภทนี้จะมีความน่าเชื่อถือสูงครับ
การมีผิวดี ผิวสวย ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นผิวขาวเท่านั้น แต่ควรเป็นผิวที่แข็งแรง สะอาด ไม่มีโรค จึงจะถือว่าเป็นผิวสุขภาพดีครับ ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิวควรศึกษาข้อมูลความเสี่ยงให้ดี และเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ของแท้เท่านั้น ก็จะช่วยให้เรามั่นใจในความปลอดภัยได้ครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส