เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผลชัดเจน
โปรแกรมเมโสหน้าใสส่วนใหญ่จะขายเป็นรายครั้งและรายคอร์ส ฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล ยี่ห้อมีผลไหม ? เป็นข้อสงสัยของคนไข้หลายคนที่มาประเมินใบหน้ากับหมอครับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดโอกาสเกิดปัญหาไม่เห็นผลหลังฉีด หมอสรุปทุกเรื่องที่ควรรู้ พร้อมแนวทางดูแลตัวเองก่อน-หลังให้
สารบัญ เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล
เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล ฉีดครั้งเดียวได้ไหม ?
เมโสหน้าใสเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดครับ แต่การฉีดครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอ โดยทั่วไปนิยมฉีดให้ครบคอร์ส 5 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลชัดเจน และคงสภาพผิวสวย ๆ ไว้ได้นาน 1-2 เดือน
ข้อดีของโปรแกรมฉีดเมโสหน้าใสอยู่ที่เห็นผลเร็วครับ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 3 วัน และเต็มที่ใน 7-14 วัน เพราะเป็นการนำอาหารผิว เช่น คอลลาเจน วิตามิน และไฮยาลูโรนิก แอซิด มาฉีดเข้าชั้นผิวโดยตรง จึงบำรุงผิวได้อย่างตรงจุดและออกฤทธิ์เร็วกว่าการทาสกินแคร์
ฉีดเมโสหน้าใสบ่อยแค่ไหน ให้เห็นผลเร็ว ๆ ?
โดยทั่วไป ในช่วงเดือนแรกแนะนำให้ฉีดเมโสหน้าใส 1 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อปรับสภาพผิวครับ หลังจากนั้นก็สามารถเว้นระยะเวลาได้นานขึ้น เป็นทุก 2 สัปดาห์ ต่อการฉีด 1 ครั้ง เพื่อคงสภาพผิว แต่สำหรับใครที่อยากเห็นผลเร็ว ๆ ต้องการบูสต์ผิวแบบเร่งด่วน ก็สามารถฉีดเมโสหน้าใสทุก 3 วันได้ครับ
แต่ละยี่ห้อ ต้องฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล ?
หลายคนอาจจะสงสัยว่ายี่ห้อมีผลไหม แต่ละยี่ห้อต้องฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล ? ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน หมอแนะนำให้ฉีดอย่างน้อย 5 ครั้ง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ
สิ่งที่สำคัญอยู่ที่การใช้ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้มาตรฐาน และเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวของคนไข้ครับ ซึ่งต้องให้หมอประเมินก่อนฉีด ตัวอย่างยี่ห้อที่นิยมใช้ มีดังนี้
- MADE Collagen : ลดสิว ผดผื่น ลดการอักเสบ และขับสารพิษออกจากผิว
- Filorga : ฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับสีผิวให้กระจ่างใส
- REVS : เพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นให้ผิว และปรับผิวให้อิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวแห้ง
- Neo-Glutanex Glow : ลดความหมองคล้ำ บำรุงผิวให้ขาวใส และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- Tensonez : ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดฝ้า กระ และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
- Alpha Arbutin : เน้นลดฝ้าโดยตรง ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยดำจากสิวให้จางลง
เมโสหน้าใส เห็นผลช้า-เร็วไม่เท่ากันเกิดจากอะไร ?
หากใช้ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่เหมาะสมกับปัญหาผิว จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนใน 7-14 วันครับ ซึ่งคนไข้บางรายอาจรู้สึกว่าตัวเองเห็นผลช้า หรือไม่ชัดเจนเท่ากับคนอื่น ๆ ก็อาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วย
- สภาพผิว : ผู้ที่ผิวหมองคล้ำสะสมเป็นเวลานาน หรือผิวขาดน้ำรุนแรง อาจต้องใช้เวลามากกว่าในการฟื้นฟูและปรับสภาพ ทำให้เห็นผลช้า ฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล ? ก็อาจต้องใช้จำนวนครั้งเพิ่มขึ้นครับ
- ความถี่ : หากคนไข้ฉีดเมโสหน้าใสครั้งเดียว ไม่ฉีดต่อเนื่อง หรือเว้นระยะเวลานานเกินไปในการฉีดแต่ละครั้ง ก็อาจไม่เห็นผลเท่าที่ควร
- เทคนิคการฉีด : เมโสหน้าใสจะฉีดที่ความลึก 5-10 mm เข้าผิวชั้นกลางครับ หากแพทย์ขาดความชำนาญ ฉีดลึกไปก็เสี่ยงเกินแผลเป็นบนใบหน้าได้ แต่ถ้าฉีดตื้นเกินไป ตัวยาก็จะออกฤทธิ์ได้ไม่ดี
- การดูแลตัวเองหลังฉีด : หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเหมาะสม จะช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ให้ชัดเจนขึ้น และยังช่วยลดโอกาสเกิดการระคายเคืองผิวอีกด้วย
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ล้วนส่งผลต่อสุขภาพผิวครับ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ และฟื้นฟูได้ช้าลง หลังฉีดเมโสหน้าใสก็เห็นผลช้า
ทำไมบางคนฉีดเมโสหน้าใสแล้วไม่เห็นผล ?
นอกจากเรื่องการขาดความต่อเนื่องในการฉีด และการเลือกสูตรที่ไม่เหมาะสมกับผิวแล้ว ปัญหาฉีดเมโสหน้าใสไม่เห็นผล เกิดได้จากการใช้ตัวยาไม่ได้มาตรฐานครับ เป็นเมโสหน้าใสปลอม ยี่ห้อแปลก ๆ หรือยาหิ้วที่ลักลอบนำเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ซื้อขายได้ง่ายตามอินเทอร์เน็ต
เมโสหน้าใสปลอมเหล่านี้อันตรายครับ ในบางรายอาจเกิดความผิดปกติ เช่น ผิวมีผื่นแพ้ ผิวไวต่อแสง เกิดฝ้า ริ้วรอยได้ง่าย หรือเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง หากมีส่วนผสมสเตียรอยด์ (Steroid) หรือฮอร์โมน
วิธีแก้ไขและวิธีรักษา
หากมีความผิดปกติจากเมโสหน้าใสปลอม ที่หมอได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ ก็ควรต้องรีบพบแพทย์และรักษาตามอาการครับ
สำหรับวิธีแก้ไขปัญหาฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผลไม่ชัดเจน ในเบื้องต้นให้ลองปรึกษาและประเมินสภาพผิวกับแพทย์ เพื่อเลือกสูตรและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมครับ รวมถึงทำหัตถการในคลินิกความงาม ที่น่าเชื่อถือ ก็จะช่วยป้องกันอันตรายจากเมโสหน้าใสปลอมได้อีกด้วย
การฉีดเมโสหน้าใสให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องใช้ยี่ห้อและสูตรให้เหมาะสม ซึ่งจำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินใบหน้าและสภาพผิวก่อนครับ
เตรียมตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส กี่ครั้งก็ปลอดภัย เห็นผลชัด
คนไข้ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิกและแพทย์ก่อนครับ ซึ่งก็สามารถดูได้จากเลขที่ใบอนุญาตสถานพยาบาล เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และรีวิวของผู้ใช้บริการจริง ที่บ่งบอกถึงความชำนาญของแพทย์ การบริการก่อนและหลังที่ดีของคลินิก
นอกจากนี้ก็ควรศึกษาถึงวิธีในการตรวจเช็กตัวยาของแท้ ที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ตัวยาที่มีคุณภาพ หากแพทย์แกะและผสมต่อหน้า ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ครับ
วิธีเช็กเมโสหน้าใสของแท้ แยกตามยี่ห้อ
หลังฉีดเมโสหน้าใสดูแลตัวเองอย่างไร ? ให้เห็นผล และอยู่ได้นาน
หลังฉีดเมโสหน้าใสการดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายผิว ก็จะช่วยให้เห็นผลชัดเจน และอยู่ได้นานมากขึ้นครับ สามารถดูแลตัวเองตามแนวทางต่อไปนี้ได้เลยครับ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ กด นวด ในช่วง 1-2 คืนแรก
- งดทาครีมบริเวณที่ฉีดเมโสหน้าใส 1 คืน เพื่อลดโอกาสเกิดการอักเสบ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและมลภาวะ ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA สูง ๆ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เพราะกระตุ้นการอักเสบ และเพิ่มสารอนุมูลอิสระ
- หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น ของทอด ของมัน ของหมักดอง และอาหารรสจัด
- หากมีอาการปวด บวม หรือช้ำ สามารถกินยาแก้ปวด และประคบเย็นได้
หยุดฉีดเมโสหน้าใสแล้วจะกลับมาคล้ำไหม ?
การหยุดฉีดเมโสหน้าใสไม่ได้ทำให้ผิวกลับมาคล้ำขึ้นครับ เพราะเมโสหน้าใสช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวด้วยสารสำคัญ เช่น วิตามิน ไฮยาลูโรนิก แอซิด และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ และยังเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าหลังหยุดฉีด ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ลดลงตามธรรมชาติ แต่ผิวจะไม่แย่ลงกว่าก่อนเริ่มฉีดครับ หากดูแลผิวต่อเนื่อง เช่น ทาครีมกันแดดและบำรุงผิวอย่างเหมาะสม ผิวก็ยังคงดูสุขภาพดีได้ครับ
ฉีดเมโสหน้าแต่ละครั้ง ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาฉีดเมโสหน้าใสแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเมโสที่ใช้และปริมาณที่ฉีด สำหรับที่ V Square Clinic มีทั้งแบบรายครั้ง และรายคอร์ส พร้อมบริการประเมินใบหน้ากับแพทย์โดยตรงก่อนฉีด ไม่ผ่านเซลส์
ราคาเมโสหน้าใสรายครั้ง/รายคอร์ส ที่ V Square Clinic
สรุปฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล ทำอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด
หากเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาผิว ฉีดเมโสหน้าใส 5 ครั้งก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ โดยในช่วง 1 เดือนแรกให้ฉีดทุกสัปดาห์เพื่อปรับสภาพผิว หลังจากนั้นก็เว้นทุก 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง เพื่อคงสภาพผิวสวย ๆ รวมถึงควรดูแลตัวเองหลังฉีดตามแนวทางที่หมอได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ก็จะช่วยให้เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน