ร้อยไหมจมูก ฟิลเลอร์จมูก
การเสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์และร้อยไหมจมูก โดยปกติเป็นหัตถการที่หมอไม่ได้แนะนำให้คนไข้ทำ นอกจากคนไข้จะต้องการทำ เนื่องจากการผ่าตัดเสริมจมูกนั้นให้ผลการรักษาที่สวยงามกว่า อยู่ได้นานกว่า อันตรายน้อยกว่า และราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่อยู่ได้ แต่ก็สามารถทำได้ในเคสที่กลัวการผ่าตัดมาก ๆ ไม่อยากผ่าตัด หรือในเคสที่จมูกค่อนข้างโด่งอยู่แล้ว ต้องการให้สันจมูกหรือปลายจมูกคมขึ้นเพียงเล็กน้อย ดูเป็นธรรมชาติ
ก่อนทำหมอก็จะทบทวนและอธิบายกับคนไข้ว่าไม่ควรจะวางแผนผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคตหากร้อยไหมหรือฉีดฟิลเลอร์จมูกไป เพราะจะทำให้เกิดปัญหาการยึดเกาะของแท่งซิลิโคนที่จะผ่าตัดเสริมได้ในอนาคต ซึ่งในเคสที่เคยร้อยไหมจมูกหรือฉีดฟิลเลอร์จมูกมาก่อน ถ้าจะผ่าตัดเสริมจมูกหมอจะต้องขูดกระดูกจมูกในแนวที่จะวางซิลิโคนเพื่อให้แท่งซิลิโคนสามารถยึดเกาะจมูกได้ดีครับ
สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่ไหนดี? ร้อยไหมจมูก ที่คลินิกไหนดี? ราคาเท่าไหร่ ใช้กี่ cc? ข้อดี-ข้อเสีย มีข้อมูลที่ควรศึกษาเพิ่มเติม ดังนี้
1. ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs ร้อยไหมจมูก vs ผ่าตัดเสริมจมูก ข้อดี-ข้อเสีย
ฉีดฟิลเลอร์จมูก
ข้อดี คือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือคนที่กลัวการผ่าตัด สามารถทำได้ในคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วในระดับปานกลาง (ซึ่งถ้าไม่มีฐานเลยก็ต้องผ่าตัดเสริมครับ ฉีดฟิลเลอร์ไม่สวย เพราะฟิลเลอร์ไม่สามารถตั้งเป็นสันคมได้สูงเท่าแท่งซิลิโคน) หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกหากต้องการปรับแก้ให้โด่งมากขึ้นหรือน้อยลง สามารถทำได้ด้วยการฉีดสลายบางส่วน หรือการฉีดเพิ่มเติมได้ตามที่คนไข้ต้องการ
ข้อเสีย คือ หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่ฟิลเลอร์จะเข้าเส้นเลือดและเข้าตาได้ และหากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีความคงตัว ถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ ทรงที่ปั้นออกมาก็จะไม่สวย บานออกด้านข้าง ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดในการฉีดจมูกคือ ยี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane Lyft เท่านั้นครับ
ฟิลเลอร์สามารถใช้ฉีดเสริมจมูกได้ในเคสที่มีฐานเดิมอยู่บ้างแล้ว ตัวอย่างตามรูปนี้แสดงให้เห็นฟิลเลอร์ปริมาตร 1 cc ครับ
ร้อยไหมจมูก
ข้อดี คือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือคนที่กลัวการผ่าตัด การร้อยไหมจมูกจะขึ้นเป็นสันได้คมกว่าฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วแค่ต้องการความคม หรือในคนที่สันจมูกสวยอยู่แล้ว แต่ต้องการยกแค่ปลายจมูกขึ้น (ใช้เทคนิควิธีร้อยไหมจมูกแบบพิเศษ)
การร้อยไหมจมูกมีความปลอดภัยมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูก เนื่องจากไม่เสี่ยงต่อการเข้าเส้นเลือด และไหมละลาย pcl+plla สำหรับร้อยจมูกรุ่นล่าสุดก็อยู่ได้นาน 18 เดือน-2 ปี และสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างเนื้อเยื่อจมูกของเราเองขึ้นมาได้ จึงเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่อยากผ่าตัดเสริมจมูก เพราะในกรณีที่มีฐานอยู่แล้ว ถ้าผ่าตัดเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน จะทำให้จมูกโด่งเกินไปดูไม่เป็นธรรมชาติได้ครับ
ข้อเสีย คือ ในคนที่ไม่มีฐานจมูก เส้นไหมไม่สามารถร้อยจมูกในปริมาณเยอะ ๆ ได้ เพราะจะทำให้ elastin ซ้อนทับกันหลายชั้นมากเกินไปและเกิดเป็นผังผืดให้ดึงรั้งจมูกในอนาคตได้ สำหรับไหมเส้นเล็กไม่ควรร้อยเกิน 60 เส้น สำหรับไหมเส้นใหญ่ไม่ควรร้อยเกิน 16 เส้น ถ้าในคนที่ฐานจมูกเดิมมีน้อยก็ควรผ่าตัดเสริมจมูกมากกว่าครับ
ข้อควรระวังอีกข้อของการร้อยไหมเสริมจมูก คือ แม้ว่าจะเป็นไหมละลาย แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการละลาย ไม่มียาที่ฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์ ดังนั้นการร้อยไหมเสริมจมูกควรใช้จำนวนเส้นน้อย ๆ ไว้ก่อน หากครบ 1 เดือน ดูผลแล้วต้องการให้โด่งมากขึ้น ค่อยร้อยเพิ่มได้เรื่อย ๆ ดีกว่าร้อยเข้าไปมากเกินแล้วโด่งเกินไป ถ้าไม่ชอบ ก็ต้องรอเวลาให้ไหมละลาย อาจจะใช้ Hifu หรือ RF ช่วยให้ละลายได้ไวขึ้นบ้าง แต่ก็มีความยุ่งยากในการแก้ไขครับ
ร้อยไหมจมูกด้วย PCL ก้างปลาเส้นใหญ่ อยู่ได้นาน 1-2 ปี ตัวอย่างตามรูปนี้ คือ ปริมาตรของไหม 10 เส้นที่นำมาวางเรียงกันครับ จะได้ทรงจมูกที่เป็นสันคมได้คล้ายการผ่าตัดเสริมครับ
ผ่าตัดเสริมจมูก
ข้อดี คือ ได้เป็นทรงสวยตามที่คนไข้ต้องการ มีความปลอดภัยสูง ซึ่งต้องทำด้วยเทคนิคที่ถูกต้องเท่านั้น
ข้อเสีย คือ อาจเกิดการบวมช้ำ ต้องพักฟื้น 2-4 สัปดาห์ หากไม่ชอบต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น การผ่าตัดแก้ไขหลาย ๆ ครั้ง ก็จะมีโอกาสบวมช้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีหลายคลินิกที่ผ่าตัดเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป ที่ไม่ได้รับกับฐานจมูกเดิมของคนไข้ เมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดการเคลื่อนและทะลุตามมา จะสังเกตได้จากแท่งซิลิโคนที่เสริมจะเคลื่อนที่ได้และไม่ยึดเกาะแน่นกับฐานจมูก กรณีนี้จะเกิดปัญหาตามมาในอนาคตแน่นอนครับ ควรรีบผ่าตัดแก้ไข
การผ่าตัดเสริมจมูกที่ดีที่สุด หมอจะต้องเหลาแท่งซิลิโคนให้รับกับฐานกระดูกจมูกเดิมของคนไข้แบบในรูปนี้ครับ แล้วจึงค่อยผ่าตัดนำแท่งซิลิโคนใส่เข้าไป จะสามารถป้องกันการเคลื่อนและการทะลุได้ดีที่สุด และทรงที่ได้ก็จะออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ
2. ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอจมูกแล้วไม่เป็นสันคม บวมย้อย ต้องผ่าตัดขูดออก
ฟิลเลอร์จมูกแล้วบวมไม่เป็นสันคม แยกได้เป็น 3 กรณี
2.1 ใช้ฟิลเลอร์ปลอม จะไม่สามารถปั้นเป็นสันได้คม และเมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปี จะไม่สลาย จะเริ่มเกิดเป็นก้อนแข็ง บวม และเริ่มหย่อนลงมาตามน้ำหนักและแรงโน้มถ่วง เกิดเป็นผังผืดต้องผ่าตัดขูดออก
2.2 ใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่เลือกใช้ยี่ห้อและรุ่นที่ไม่เหมาะสม ฟิลเลอร์แท้บางรุ่นจะอุ้มน้ำและฟูขึ้น มีความนิ่ม ไม่คงตัว ไม่เป็นทรง เหมาะกับการเติมเต็ม เช่น ร่องแก้ม แก้มตอบ ขมับ แต่ไม่เหมาะกับการฉีดจมูก เพราะเนื้อนิ่ม ๆ จะบานออกด้านข้าง ไม่ขึ้นเป็นสันคม
2.3 ใช้ฟิลเลอร์แท้ เลือกรุ่นที่เหมาะสมแล้ว แต่เทคนิคการฉีดไม่ดี ทำให้ฟิลเลอร์กระจายออกด้านข้าง ไม่รวมเป็นสันคมตรงกลาง
3. ฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ?
ที่ด้านข้างของสันจมูกจะมีเส้นเลือดชื่อ Dorsal nasal artery ที่เชื่อมต่อเข้ากับลูกตา แพทย์ที่ขาดความรู้ความชำนาญมักจะฉีดฟิลเลอร์จมูกโดนเส้นเลือดเส้นนี้และทำให้ตาบอดได้
ใน 10 ปีที่ผ่านมาในประเทศไทยมีเคสที่ตาบอดจากฟิลเลอร์จมูก 8 ราย (เมื่อเทียบกับเคสที่ฉีดฟิลเลอร์จมูกนับหมื่นรายในช่วง 10 ปี ก็ถือว่าน้อยมาก) ซึ่งในปีหลัง ๆ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังเจอเคสที่ฉีดโดนเส้นเลือดอยู่บ้างแต่ไม่มีเคสที่ตาบอด เนื่องจากเทคนิคการรักษาแก้ไขที่พัฒนาดีมากขึ้นและแพทย์ที่มีความชำนาญสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
หากกังวลในจุดนี้ คนไข้สามารถเลือกใช้การร้อยไหมจมูกทดแทนการฉีดฟิลเลอร์จมูกได้ครับ ด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุดของการร้อยไหมดีดปลายจมูก ก็จะได้ผลสวยงามกว่าและปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์จมูกมากครับ
4. ฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี ?, จุดสังเกตฟิลเลอร์แท้, ใช้กี่ cc ?, ราคาเท่าไหร่ ?
โดยปกติการฉีดฟิลเลอร์จมูกจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เกิน 1 cc ครับ และไม่ควรใช้ปริมาณมากกว่า 1 cc ในคนที่หมอประเมินว่าควรใช้มากกว่า 1 cc แสดงว่าเคสนั้นเหมาะกับการผ่าตัดเสริมมากกว่าครับ เนื่องจากฐานเดิมมีน้อย และต่อให้ฉีดฟิลเลอร์จมูกไป 2 cc จะสวยแค่ตอนฉีดเสร็จ และพอผ่านไป 1-2 เดือน ทรงจมูกก็จะบานออกด้านข้าง เพราะฟิลเลอร์ไม่สามารถคงสภาพเป็นแท่งได้เหมือนแท่งซิลิโคนหรือเส้นไหมครับ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เหมาะกับการฉีดจมูกมากที่สุดคือ ยี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane Lyft ของแท้เท่านั้นครับ เพราะมีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาเริ่มต้น 14,000/1 cc ครับ
5. ร้อยไหมจมูก ใช้ไหมอะไรดี ราคาเท่าไหร่ ?
ไหมที่ใช้ร้อยจมูกนั้น แบ่งได้ตามวัสดุที่ใช้ทำเส้นไหม และขนาดของเส้นไหม
ไหมจมูกชนิดที่เป็นที่นิยมได้แก่
5.1 pdo เรียบเส้นเล็ก (รูปที่ 1, รูปที่ 2) นิยมใช้ในยุคแรก ๆ ที่ยังไม่มีไหมที่ใช้สำหรับร้อยจมูกโดยเฉพาะผลิตออกมาเป็นเข็มคม บวมช้ำเยอะ อยู่ได้ไม่นาน 5-6 เดือน ราคา 60-90 เส้นประมาณ 1-2 หมื่นบาท (ราคาในอดีตเนื่องจากปัจจุบันไม่ค่อยใช้กันแล้ว)
5.2 pdo เส้นใหญ่ (รูปที่ 3) นิยมใช้ในการยกปลายจมูกด้วยเทคนิคพิเศษ เห็นผลชัดเจน แต่ด้วยความที่วัสดุเป็น pdo จึงอยู่ได้แค่ 5-6 เดือน ไม่ตรงการกับโฆษณาว่าอยู่ได้ 1-2 ปี จึงทำให้ลดความนิยมลงไปเรื่อย ๆ ราคา 4-6 เส้น 1-2 หมื่นบาท
5.3 plla เส้นเล็ก (รูปที่ 4 , รูปที่ 5) เป็นวัสดุที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากที่สุด และตัวเส้นไหมเองก็อยู่ได้นาน 12-18 เดือน จึงได้ผลดี ราคา 30-60 เส้น 1-2 หมื่นบาท
5.4 pcl+plla เส้นใหญ่ (รูปที่ 6) เข็มทู่ เป็นรุ่นที่พัฒนาล่าสุด อยู่ได้นาน 18 เดือน-2 ปี กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อจมูกได้มากที่สุด สามารถร้อยด้วยวิธีร้อยไหมจมูกวิธีพิเศษเพื่อยกปลายจมูกได้ และไม่บวม ไม่ช้ำ ร้อยไหมจมูก ราคา 6 เส้น 9,900 บาท, 10 เส้น 15,000 บาท, 16 เส้น 23,000 บาท
6. ตัวอย่างเคสรีวิวร้อยไหมจมูก
ร้อยไหมจมูกจะเหมาะกับคนไข้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แค่ต้องการความคมชัดของสันจมูกและร้อยไหมปลายจมูกเทคนิคพิเศษ
7. การเตรียมตัว ก่อนทำ-หลังทำ ฟิลเลอร์จมูก ร้อยไหมจมูก
การเตรียมตัว ก่อนทำ-หลังทำ ฟิลเลอร์จมูก ร้อยไหมจมูก สามารถอ่านรายละเอียดได้ใน บทความ [ข้อห้าม-ข้อปฏิบัติ] ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหม เพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น
8. โบท็อกซ์รัดแกนจมูก โบท็อกซ์ลดปีกจมูก โบท็อกซ์ดีดปลายจมูก
ที่บริเวณด้านข้างของสันจมูกจะมีกล้ามเนื้อที่ชื่อ Transvere nasalis muscle เราสามารถใช้โบท็อกซ์เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อจุดนี้ให้บางลง จะทำให้สันจมูกดูคมขึ้น และรอยย่นที่จมูกก็จะหายไปด้วย เรียกว่าการทำโบท็อกซ์รัดแกนจมูก
ที่บริเวณปีกจมูกจะมีกล้ามเนื้อที่ชื่อ Dilator naris anterior muscle ซึ่งทำหน้าที่ขยายรูมูกเวลาที่เราตกใจหรือตั้งใจสูดลมหายใจเข้าแรง ๆ เราสามารถใช้โบท็อกซ์ฉีดที่กล้ามเนื้อจุดนี้ เพื่อลดขนาดของปีกจมูกลงได้บางส่วน แต่ไม่มากเท่าการผ่าตัดปีกจมูกนะครับ
ที่บริเวณปลายจมูกของบางคนจะมีกล้ามเนื้อชื่อ Depressor septi muscle ที่ดึงปลายจมูกลง เราสามารถใช้โบท็อกซ์ดีดปลายจมูกขึ้นได้ แต่จะได้ผลในแค่บางเคสเพราะบางคนกล้ามเนื้อจุดนี้ไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว
สรุป ข้อดี-ข้อเสีย
- การผ่าตัดเสริมจมูก ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด แต่ต้องเหลาแท่งซิลิโคนให้รับกับฐานกระดูก ผลที่ได้จึงจะออกมาดูเป็นธรรมชาติ ต้องมีเวลาพักฟื้น 2-4 อาทิตย์
- ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วและกลัวการผ่าตัด ต้องฉีดด้วยฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft และแพทย์ที่ชำนาญเท่านั้นจึงจะปลอดภัยครับ
- ร้อยไหมจมูกเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วและกลัวการผ่าตัด และไม่สะดวกในการพักฟื้นจากอาการบวมช้ำ ปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์จมูก ขึ้นเป็นสันได้คมกว่าฟิลเลอร์ มีเทคนิควิธีร้อยไหมจมูกที่สามารถเน้นการดีดปลายจมูกได้โด่งกว่าฟิลเลอร์
- โบท็อกรัดแกน โบท็อกลดปีกจมูก ได้ผลดีในบางคนที่มีกล้ามเนื้อที่จมูกทำงานเยอะ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ