ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แม้จะเป็น Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่ก็มีเทคโนโลยีและขั้นตอนในการผลิตแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน และเหมาะใช้ฉีดในจุดที่แตกต่างกันครับ ฟิลเลอร์จูวีเดิม จะเหมาะกับการนำมาฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ หน้าผาก และแก้มตอบ ซึ่งในแต่ละจุดแพทย์จะเป็นคนประเมิน บอกข้อดีของฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นนั้น ๆ ให้คนไข้เลือกตามความเหมาะสมครับ
ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox Allergan ครับ
ฟิลเลอร์ juvederm เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย นำเข้าโดย บริษัท Allergan Thailand
บทความแนะนำ
ปัจจุบันฟิลเลอร์ juvederm ถูกผลิตออกมาหลายรุ่น เช่น Juvederm Ultra plus, Juvederm voluma, Juvederm volift, Juvederm Volite, Juvederm volbella และล่าสุด Juvederm Volux
โดยในแต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์และคุณสมบัติเด่นแตกต่างกัน จึงสามารถเลือกนำมาใช้ในการแก้ไขปรับรูปหน้าได้หลายจุด เช่น ขมับ ใต้ตา ปาก ร่องแก้ม คาง เป็นต้น
ฟิลเลอร์ Juvederm ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร ?
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ/รุ่น มีขั้นตอนในการผลิตต่างกัน จึงทำให้เกิดคุณสมบัติทางกายภาพที่ดีแตกต่างกัน เพื่อให้แพทย์เลือกนำมาใช้ให้เหมาะกับจุดที่ฉีดครับ
ดังนั้นจะเห็นว่าในแต่ละคลินิก จะมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เพราะไม่มียี่ห้อไหนที่ดีที่สุด หรือฟิลเลอร์เดียว รุ่นเดียว สามารถนำมาฉีดทุกตำแหน่งครับ ตัวอย่างเช่น
- Restylane มีความโดดเด่นในเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ มีเม็ดใหญ่ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง เด่นเรื่องการยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นได้ดี มีให้เลือกหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับแต่ละตำแหน่ง
- Perfectha มีนวัตกรรม E-Brid Technology ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความหนืดให้กับเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้มีความคงตัวสูงและอยู่ได้นาน
- Belotero มีหลายรุ่นให้เลือกหลายรุ่นเช่นกัน แพทย์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม มีจุดเด่นที่เนื้อเจลที่มีความคงตัวมาก สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้
สำหรับฟิลเลอร์ Juvederm (จูวีเดิม) มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน จะเหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ และแก้มตอบ ซึ่งในแต่ละจุดแพทย์จะเป็นคนประเมิน บอกข้อดีของฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นนั้น ๆ ให้คนไข้เลือกตามความเหมาะสมและเหมาะกับงบประมาณครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใต้ตา คาง ควรเลือกใช้รุ่นไหนดีที่สุด
ฟิลเลอร์ juvederm มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?
จุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Juvederm คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง ถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) จึงช่วยให้ขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บครับ ใครที่กลัวเจ็บ กลัวเข็ม สบายใจได้ครับ
นอกจากนี้ Filler Juvederm ยังมีกระบวนการผลิต 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross และ Vycross Technology
- Hylacross Technology คือเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของค่าความอุ้มน้ำได้ดี เป็นตัวดั้งเดิมของฟิลเลอร์ Juvederm ฉีดแล้วฟู ตัว HA มีความยืนหยุ่นสูง สามารถทนต่อการขยับได้ดี
- เหมาะกับการฉีดบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม แก้ปัญหาแก้มตอบ โดยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่อยู่กลุ่ม Hylacross ได้แก่รุ่น Ultra Plus
- Vycross Technology คือเทคโนโลยีล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อย เมื่อเทียบกับ HA อื่น จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานครับ
- เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเติมความอวบอิ่มของริมฝีปากหรือฉีดเพื่อเติมเต็มร่องแก้มซึ่ง Juvederm กลุ่ม Vycross ได้แก่รุ่น Volite, Voluma, Volift, Volbella และ Volux
Juvederm Ultra Plus
ฟิลเลอร์ Juvederm Ultraplus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึก จากการเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หลังฉีดช่วยให้เต็มสวยขึ้น และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลางครับ มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการแก้ไขใต้ตา ร่องแก้ม และยังสามารถใช้เติมคางและขมับหรือส่วนอื่นได้ตามเทคนิคของแพทย์ หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม ละเอียดมากกว่ารุ่น ultra plus จึงเหมาะ กับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ที่ไม่ลึกมาก สามารถนำมาเก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้นได้ดี หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volbella
ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุดครับ จึงเหมาะสำหรับการเติมบริเวณหน้าผาก ที่ต้องการความเรียบเนียน หลังฉีดจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volite
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อละเอียด นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือผิวชั้นตื้น ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น จึงเหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 8-12 เดือน
Juvederm Volux
ฟิลเลอร์ Juvederm Volux ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการพัฒนาออกมาล่าสุด เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุดครับ จึงเหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม : อัปเดตข้อมูล! ฟิลเลอร์รุ่นใหม่ Juvederm Volux ดีอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Juvederm ราคา
ฟิลเลอร์ Juvederm ราคา แต่ละรุ่น ที่ V Square Clinic
- Juvederm Ultra Plus 1 cc ราคา 12,000.-
- Juvederm Voluma 1 cc ราคา 14,500.-
- Juvederm Volift 1 cc ราคา 15,000.-
- Juvederm Volite 1 cc ราคา 14,000.-
- Juvederm Volbella 1 cc ราคา 14,000.-
- Juvederm Volux 1 cc ราคา 18,000.-
สำหรับคนไข้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ให้ดูจากความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือได้ จากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอก่อน-หลังทำ จะสามารถเปรียบเทียบได้ชัดเจน
- มีราคาที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่น ๆ มาก ซึ่งอาจจะแตกต่างกันได้ในด้านประสบการณ์ของแพทย์
- ดูเคสรีวิวของแพทย์แต่ละคน แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติและบวมช้ำน้อยที่สุด
สรุป
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง ควรหาข้อมูลจุดสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน และก่อนฉีดควรให้หมอแกะกล่องแกะหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานจริง ๆ เพื่อความปลอดภัยครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ