ทำให้หน้าใส
เชื่อว่าหลาย ๆ คน อยากมีผิวหน้าขาวใส เพราะนอกจากจะเป็นเทรนด์นิยมแล้ว ลักษณะผิวหน้าใส หน้าขาว หน้าเนียน จะช่วยให้เจ้าของใบหน้ามีเสน่ห์ชวนมองมากขึ้นครับ
หากพูดถึงวิธีทำหน้าใส ปัจจุบันมีอยู่หลายวิธี ทั้งวิธีทางธรรมชาติและหัตถการความงามที่ทำโดยหมอ ใครที่กำลังรู้สึกหนักใจ และไม่มั่นใจในผิวหน้า ในบทความนี้หมอมี 5 วิธีทำให้หน้าใส หน้าเนียน ผิวหน้าขาวขึ้น มาแนะนำ และวิธีการเลือกคลินิกทำหน้าใสที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยครับ
วิธีทำให้หน้าใส ผิวหน้าขาวเนียน มีวิธีอะไรบ้าง?
1. ทำหน้าใสด้วยการฉีดเมโสหน้าใส /มาเด้คอลลาเจน
การฉีดเมโสทำหน้าใส คือการฉีดตัวยา และวิตามินที่ปกติเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก มาทำให้สามารถฉีดเข้าในชั้นกลางของผิวโดยตรง
ข้อดี
เห็นผลเร็ว ตัวยาจะออกฤทธิ์เร็วขึ้น จากปกติการทาครีมอาจใช้เวลาเป็นเดือนถึงจะเริ่มเห็นผล แต่การฉีดเมโสหน้าใส จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน และอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน
เหมาะกับ : ผู้ต้องการเห็นผลเร่งด่วน และที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง อดนอน ทำงานหนักหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพผิว
การฉีดเมโสทำหน้าใสมีหลายสูตร มีหลายยี่ห้อและมีเทคนิคในการฉีดแตกต่างกัน โดยมาเด้คอลลาเจนเป็นเมโสหน้าใสยี่ห้อหนึ่ง ความพิเศษคือแพทย์จะใช้เทคนิคในการกระจายตัวยาโดยอาศัย เทคนิคของการฝังเข็ม 16 จุดร่วมกับหลักการของ Homeopathy enzyme และ lymphatic drainage system
ซึ่งเทคนิคนี้พัฒนาขึ้นที่ประเทศอิตาลี และเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก สามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวให้เต่งตึง และผิวหน้าขาวใสขึ้นดูเป็นธรรมชาติ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใสคืออะไร? อันตรายหรือไม่? ข้อควรรู้ก่อนทำเมโสหน้าใส [ อัพเดท 2024 ]
โดยสูตรตัวเมโสหลัก ๆ จะมี 3 แบบคือ
- ผิวหน้าหมองคล้ำ แก้ไขด้วยการฉีดเน้นทำหน้าขาว
- ผิวแห้ง แก้ไขด้วยการการฉีดเพิ่มความชุ่มชื้น ทำหน้าเนียนขึ้น
- ผิวผื่นแพ้ แก้ไขด้วยเน้นฉีดลดสิว-แก้ผื่น จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษ li>
ส่วนสูตรไหนเหมาะกับใคร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ตรวจประเมิน เพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิวครับ
นอกจากผิวหน้าแล้ว ผิวกายก็สำคัญไม่แพ้กันครับ สำหรับใครที่สงสัย ฉีดเมโสหน้าใสช่วยทำหน้าใส ผิวหน้าสุขภาพดีขึ้นได้แล้ว ในส่วนของผิวกาย ทำได้หรือไม่?
หมอเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการฉีดวิตามินผิวขาว ไว้แล้ว ผิวขาวจริงไหม อันตรายหรือไม่ สามารถศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจเข้าใช้บริการได้ครับ
ข้อเสีย คือ ผิวคนเอเชีย หรือ คนไทย จะมีเม็ดสีของผิวชั้นบน ทำให้ผิวชั้นบนหลุดออกบางส่วน ผิวชั้นบนมีส่วนช่วยในการป้องกันแสงแดด
ประกอบกับแสงแดดเมืองไทยที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นการทำหน้าใสด้วยวิธีนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อผิวในระยะยาวครับ (เทคโนโลยีและงานวิจัยต่าง ๆที่เกี่ยวกับเลเซอร์หน้าใสจะเหมาะกับทางยุโรปที่ผิวขาวและแดดไม่แรงครับ)
หากตัดสินใจ ต้องมั่นใจว่าหลังทำจะดูแลผิวหน้าอย่างดี เพราะผิวจะบอบบางเป็นพิเศษ ทำให้ผิวไวต่อแดด ทางคลินิกจึงไม่แนะนำวิธีทำหน้าขาวด้วยเลเซอร์หน้าใสครับ
3. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีไวท์เทนนิง
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เซรั่มหน้าใส ที่ให้ความชุ่มชื้น ในกลุ่ม Whitening ช่วยทำให้ผิวขาว วางขายในท้องตลาดค่อนข้างมาก สามารถช่วยบำรุงและลดเลือนจุดด่างดำ พร้อมปรับสภาพสีทำให้หน้าใส ผิวหน้าเนียนขึ้นได้
แต่การดูแลผิววิธีนี้ต้องใช้ระยะเวลาครับ อาจไม่สามารถเห็นผลได้ด้วยครีมหรือเซรั่มเพียงขวดเดียว ที่สำคัญอาจจะต้องลองใช้หลากหลายยี่ห้อ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด อาจเสี่ยงต่อการแพ้ได้ด้วยเช่นกัน
4. สครับหน้า ผลัดเซลล์ผิวให้ขาวใส
สครับหน้าเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำหน้าใส ขึ้น ผิวหน้าดูขาวใสได้ โดยปกติแล้วควรขัดผิวหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ เป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ผิวจึงดูขาว สว่างใสขึ้น
ข้อเสียคือ การสครับหน้าอาจเป็นการทำร้ายผิวทางอ้อมได้ หากเลือกวัตถุดิบในการนำสครับหน้าที่แรงเกินไป ทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดด รวมถึงการออกแรงในการสครับผิวครับ หากขัดแรง ถูกแรง อาจเกิดรอยขีดข่วน สร้างบาดแผลบนใบหน้าได้
5. รับประทานวิตามินบำรุงผิว
อย่างที่ทราบกันดีว่า วิตามินทำหน้าใส หรือวิตามินบำรุงผิว มีทั้งชนิดรับประทานและฉีด ในส่วนของวิตามินรับประทาน มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิวพรรณได้ อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออีกด้วย
วิตามินผิวที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น วิตามิน C,คอลลาเจน, วิตามิน E, Zinc เป็นต้น ส่วนผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการดูดซึมในและบุคคลครับ แนะนำเลือกรับประทานวิตามินยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน ผ่านอย. เพื่อความปลอดภัย
วิธีเลือกคลินิกทำหน้าใสที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
การทำหน้าใส ด้วยวิธีใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ ก่อนตัดสินใจ ทำหน้าใสที่ไหนดี หมอแนะนำว่าอย่าด่วนตัดสินใจ อย่าเห็นแก่โปรโมชั่นราคาถูกเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ตรวจเช็คคลินิกนั้นด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่ โดยมีวิธีสังเกตดังนี้
- คลินิกที่ได้มาตรฐานเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง : ควรเลือกคลินิกทำหน้าใสที่ มีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ตามกฎหมายระบุให้แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างชัดเจนเพื่อให้ความมั่นใจกับคนไข้ที่เข้ารับบริการครับ
- ให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ : แนะนำให้เลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีแพทย์ประจำคลินิก สามารถขอดูผลงานของหมอประจำคลินิกได้ เพื่อเพิ่มระดับความมั่นใจ และแพทย์ต้องยินยอมให้ตรวจสอบตัวยาและกล่องยาก่อนฉีดทุกครั้ง ปกติเมโสหน้าใสที่ได้มาตรฐาน บริษัทที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง จะขายให้กับหมอเท่านั้นเพราะมีกฏหมายยาบังคับ ยาเมโสหน้าใสที่ลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ตจะเป็นยาหิ้วและไม่ปลอดภัยครับ
- คลินิกต้องสะอาด ปลอดภัย : มีเครื่องมือ หรือผลิตภัณฑ์ทำหน้าใสที่ได้คุณภาพ ผ่านการรับรอง รวมถึงมีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ครบถ้วน
- มีรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ : โดยรีวิวนั้นเขียนโดยผู้ใช้บริการจริงและมีความเป็นปัจจุบัน ก็จะช่วยให้คนไข้นั้นสามารถตรวจสอบคุณภาพการทำหัตถการของหมอได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างรีวิวฉีดเมโส ทำหน้าใส
- คลินิกอยู่ในทำเลมองเห็นได้ง่าย เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ เช่น ห้างสรรพสินค้า หากมีปัญหาสามารถเข้ามาติดต่อคลินิกได้ทันที หากต้องรอคิวทำก็สามารถเดินเล่นหรือหาอะไรทานรอได้
- บริการด้วยความเอาใจใส่ สามารถให้คำแนะนำอย่างละเอียด ตรงไปตรงมา แจ้งราคาค่ารักษาทำหน้าใสที่ชัดเจน และการฉีดเมโสหน้าใส เพื่อให้ผลดียิ่งขึ้น ต้องฉีดหลายครั้ง คลินิกที่ดีควรมีการนัดติดตามผลหลังทำเสมอ หมอต้องให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อน – หลัง ทำหัตถการอย่างใกล้ชิด
- มีช่องทางติดต่อ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสของตัวเองได้โดยตรงตลอดเวลาครับ
สรุป
วิธีทำหน้าใส ทั้ง 5 วิธีที่หมอแนะนำ ใครที่ต้องการมีผิวหน้าขาวใส หน้าเนียน สุขภาพดี แบบเร่งด่วน การฉีดเมโสหน้าใสช่วยได้ครับ เพราะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง และไม่มีผลข้างเคียง
แต่ข้อสำคัญคือต้องเข้ารับการบริการจากคลินิกทีได้มาตรฐาน ให้ตัวยาแท้มีคุณภาพ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ ถึงจะปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? ต้องทำกี่ครั้ง ? ทำแล้วขนหายถาวรไหม ?
Reading Time: 2 minutes- เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? - เลเซอร์ขนทำแล้วขนหายถาวรไหม ? - เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ? - เลเซอร์ขนแล้วขนไม่หลุดเกิดจากอะไร ?
เลเซอร์ขน ราคาแต่ละตำแหน่ง ต่างกันไหม ? รวมราคาแต่ละบริเว...
Reading Time: 3 minutes- เลเซอร์ขน ราคาแต่ละบริเวณ - ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเลเซอร์ขน - เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ? - เลือกเลเซอร์ขนที่ไหนดี ?
เลเซอร์ขนน้องชาย ทำดีไหม ? ต้องทำกี่ครั้ง ? เจ็บไหม ? เตร...
Reading Time: 3 minutes- เลเซอร์ขนน้องชาย ควรทำดีไหม ? - เลเซอร์ขนน้องชาย อันตรายไหม ? - เลเซอร์ขนน้องชาย เหมือนกับเลเซอร์บราซิลเลี่ยนของผู้หญิงไหม ? - รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจเลเซอร์ขนน้องชาย - รีวิวเลเซอร์ขนน้องชาย ราคาถูก ๆ ปลอดภัยไหม พิจารณาอะไรบ้าง ?
เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ข้อดี-ข้อควรระวัง เครื่...
Reading Time: 4 minutes- วิธีการกำจัดขนขา - หลักการทำงานของ Laser ขนขา - ข้อดี - ข้อควรระวังของการ Laser ขนขา - เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ? - ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์ขนขา
เลเซอร์หนวด เครา มีกี่แบบ ? เจ็บไหม ? อยู่ได้ถาวรไหม ?
Reading Time: 4 minutes- เลเซอร์หนวด เครา คืออะไร ? - เลเซอร์หนวด เครา อันตรายไหม ? - เครื่องเลเซอร์หนวด เครา มีกี่แบบ ? - เลเซอร์หนวดผู้หญิง กับเคราผู้ชาย ต่างกันไหม ? - ก่อนเลเซอร์หนวด เคราเตรียมตัวอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องดูแลตัวเองอย่างไร? เพื่อให้ปากทรงส...
Reading Time: 3 minutes- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวมเกิดจากสาเหตุอะไร ? - นอกจากอาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ปากมีผลข้างเคียงอื่นอีกไหม ? - ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเข้าที่ ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ปากมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ปากควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง ? เพื่อให้อาการบวมยุบไว เห็นผลเร็ว