ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี ? เทียบความต่างของฟิลเลอร์ยอดนิยม
ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี ? ผู้ที่ต้องการแก้ขมับตอบ หรือเสริมโหงวเฮ้งขมับด้วยฟิลเลอร์ คงเคยสังเกตเห็นว่าในท้องตลาดมีตัวเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์เป็นจำนวนมากครับ ทั้งฟิลเลอร์พรีเมียมจากฝั่งยุโรป อเมริกา และฟิลเลอร์ราคาย่อมเยาจากเกาหลี
เพื่อให้คนไข้มีความเข้าใจในเบื้องต้นและเตรียมความพร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอจะเปรียบเทียบฟิลเลอร์ขมับแต่ละยี่ห้อ/รุ่นในด้านต่าง ๆ ทั้งจุดเด่น อายุการใช้งาน ราคา และปริมาณใน 1 กล่องครับ พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้ ไม่ให้พลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่เป็นอันตราย
สารบัญ ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี
ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี รุ่นที่นิยมใช้มีอะไรบ้าง ?
มีคนไข้หลายคนที่ถามหมอว่า ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? ในความเป็นจริงแล้วไม่มีฟิลเลอร์รุ่นไหนที่สามารถฉีดแก้ปัญหาได้ทุกจุด ทุกตำแหน่งบนใบหน้าครับ แต่ละรุ่นมีลักษณะทางกายภาพต่างกัน เช่น ความแข็ง ความยืดหยุ่น หรือความฟู ก็จะเหมาะกับตำแหน่งฉีดที่แตกต่างกันด้วย
ในการฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถใช้ได้หลายยี่ห้อ/รุ่น นิยมใช้ฟิลเลอร์ที่ทนต่อการขยับได้ดี และหลังฉีดฟู เพื่อให้เติมขมับตอบได้เต็มสวย ดูเป็นธรรมชาติ หมอจะแนะนำเป็นฟิลเลอร์พรีเมียมจากฝั่งยุโรปและอเมริกาครับ เพราะจะอยู่ได้นานเฉลี่ย 12-18 เดือน จะได้ไม่ต้องฉีดเติมบ่อย ๆ
- Juvederm Ultra Plus (อยู่ได้นาน 12 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟูมาก หลังฉีดจะฟูสวย นิยมใช้เติมขมับตอบ เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก หรือเติมร่องลึกที่เกิดตามช่วงวัย เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- Juvederm Voluma (อยู่ได้นาน 18 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นสูง หลังฉีดฟูปานกลาง สามารถเติมขมับตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ และใช้ฉีดตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง
- Juvederm Volux (อยู่ได้นาน 18-24 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความแข็งและความคงตัว ทนต่อการขยับได้ดี ช่วยแก้ปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ หรือฉีดเสริมกระดูกในผิวชั้นลึก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม และคาง
- Restylane Volyme (อยู่ได้นาน 18 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม นิยมใช้เติมผิวส่วนที่โหลลึกให้อิ่มฟูขึ้น หรือใช้ในเคสที่ผิวบาง เช่น ขมับตอบ แก้มตอบ ร่องแก้ม และร่องมุมปาก
- Teoxane RHA 2 (อยู่ได้นาน 18 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความยืดหยุ่น และทนต่อแรงขยับได้ดี ช่วยเสริมส่วนของขมับที่ยุบตัวลง หรือเติมริ้วรอยตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใต้ตา และร่องแก้ม
- Teoxane RHA 3 (อยู่ได้นาน 12-18 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนื้อเจลค่อนข้างแน่น ทนต่อการขยับได้ดี เหมาะกับการฉีดผิวชั้นลึก เช่น แก้ขมับตอบ ขมับยุบ ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก หลังฉีดจะเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน
- Teoxane Ultra Deep (อยู่ได้นาน 18 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อทน ปั้นทรงง่าย เพราะมีความคงตัวสูง ไม่ไหล นิยมฉีดปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น ขมับตอบ แก้มส้ม คาง หรือกรอบหน้า
หากมีงบประมาณจำกัด เลือกฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีจะมีราคาย่อมเยากว่ากลุ่มฟิลเลอร์พรีเมียม แต่ระยะเวลาก็จะอยู่ได้สั้นกว่า เฉลี่ย 6-9 เดือน จำเป็นต้องเติมบ่อยกว่าครับ เช่น
- Neuramis Volume Lidocaine (อยู่ได้นาน 6-9 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความยืดหยุ่น และคงตัว ขึ้นทรงได้สวย นิยมฉีดในผิวชั้นลึก เช่น ขมับ ใต้ตา แก้มส้ม หรือกรอบหน้า
- Neuramis Deep Lidocaine (อยู่ได้นาน 6-8 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความหนืดปานกลาง ช่วยเติมผิวให้อิ่มฟู ปั้นทรงง่าย สามารถฉีดเติมขมับตอบ หรือริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม คาง แก้มตอบ
- Flore Max (อยู่ได้นาน 9-12 เดือน) : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี ใช้เติมขมับหรือเสริมคางให้ดูละมุนเป็นธรรมชาติ หรือฉีดแก้ปัญหาในไขมันชั้นลึก
ในการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ขมับที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน จำเป็นต้องประเมินใบหน้าและสภาพผิวก่อนครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย
เจาะลึก! ฉีดฟิลเลอร์ขมับ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ/รุ่นที่หมอกล่าวถึงก่อนหน้านี้ จัดเป็นฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว ส่วนประกอบหลักเป็นสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเลียนแบบสารที่มีอยู่ในชั้นผิวของเราตามธรรมชาติครับ มีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายได้หมด โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง
สิ่งที่ทำให้แต่ละรุ่นแตกต่างกัน คือ เทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตครับ ในหัวข้อนี้หมอจะเปรียบเทียบฟิลเลอร์ขมับแต่ละยี่ห้อในด้านต่าง ๆ เช่น จุดเด่น ระยะเวลา ราคาโดยเฉลี่ย และปริมาณต่อกล่องครับ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง จากบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก U.S. FDA และอย.ไทย โดดเด่นในเรื่องผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเอกสิทธิ์ของแบรนด์ Hylacross Technology และ Vycross Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง หลังฉีดเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน
- เทคโนโลยีในการผลิต : มี 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross Technology เด่นในเรื่องค่าความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ฉีดแล้วฟูสวย และ Vycross Technology โมเลกุลของฟิลเลอร์ยึดเกาะกันแน่น ช่วยยกกระชับ ทนต่อการขยับได้ดี หลังฉีดเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ
- รุ่นที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : Juvederm Ultra Plus ผลิตด้วย Hylacross Technology ส่วน Juvederm Voluma และ Juvederm Volux ผลิตด้วย Vycross Technology
- ระยะเวลา : 12-24 เดือน แล้วแต่รุ่น
- ราคาเริ่มต้น : 14,xxx บาท / 1 CC
- ปริมาณ CC ใน 1 กล่อง : ใน 1 กล่อง มีฟิลเลอร์ 2 ไซริงค์ ไซริงค์ละ 1 CC (2 CC / 1 กล่อง)
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane จากบริษัท Galderma ประเทศสวีเดน เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผลิตมายาวนานมากที่สุดในโลก และยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบันครับ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น U.S. FDA, อย.ไทย และ EDQM โดดเด่นในเรื่องการพัฒนาขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ ได้เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย มีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะกับการแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า
- เทคโนโลยีในการผลิต : มี 2 เทคโนโลยี คือ NASHA Technology ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัว ดึงโมเลกุลของน้ำไปเก็บในเนื้อฟิลเลอร์ หลังฉีดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ ส่วนฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วย OBT Technology เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น คงตัว ปั้นแต่งเป็นทรงได้หลากหลาย
- รุ่นที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : Restylane Volyme ผลิตด้วย OBT Technology
- ระยะเวลา : 18 เดือน
- ราคาเริ่มต้น : 14,xxx บาท / 1 CC
- ปริมาณ CC ใน 1 กล่อง : ใน 1 กล่อง มีฟิลเลอร์ 1 ไซริงค์ ไซริงค์ละ 1 CC
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane
ฟิลเลอร์ Teoxane ผลิตโดยบริษัท Teoxane ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในด้านของการผลิตฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA และอย.ไทย มีใช้งานกันในหลายประเทศทั่วโลก เนื้อเจลฟิลเลอร์ของยี่ห้อนี้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ HA ในร่างกายของเราครับ จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สลายช้า และลดโอกาสเกิดการแพ้
- เทคโนโลยีในการผลิต : Ground breaking Preserved Network หรือ PNT พัฒนาให้เนื้อฟิลเลอร์ใกล้เคียงกับ HA ที่มีอยู่ในผิวของเราตามธรรมชาติ มีโครงสร้างที่ยืดหยุ่น และปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หลังฉีดไม่ทำให้หน้าดูแข็ง
- รุ่นที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : Teoxane RHA 2, Teoxane RHA 3, Teoxane Ultra Deep
- ระยะเวลา : 12-18 เดือน
- ราคาเริ่มต้น : 16,xxx บาท / 1 CC
- ปริมาณ CC ใน 1 กล่อง : 1 กล่อง มีฟิลเลอร์ 2 ไซริงค์ โดย 1 ไซริงค์ ของรุ่น Teoxane RHA 2 และ Teoxane RHA 3 จะบรรจุ 1 CC ส่วนรุ่น Teoxane Ultra Deep จะบรรจุ 1.2 CC
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis เป็นฟิลเลอร์เกาหลีแบรนด์แรกที่นำเข้ามาในประเทศไทย คิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท Medytox Inc. ผ่านการรับรองจาก KFDA, U.S. FDA และอย.ไทย จุดเด่นอยู่ที่มีความยืดหยุ่น คงตัวสูง และมีค่าการอุ้มน้ำที่เหมาะสม ทำให้ไม่บวมหลังฉีด
- เทคโนโลยีในการผลิต : The SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement) ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่ปั้นง่าย คงรูปได้ดี อยู่ได้นาน และมีการกำจัดสาร BDDE ให้เหลืออยู่น้อยมาก ลดโอกาสเกิดอาการแพ้
- รุ่นที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : Neuramis Volume Lidocaine และ Neuramis Deep Lidocaine
- ระยะเวลา : 6-9 เดือน
- ราคาเริ่มต้น : 8,xxx บาท / 1 CC
- ปริมาณ CC ใน 1 กล่อง : ใน 1 กล่อง มีฟิลเลอร์ 1 ไซริงค์ ไซริงค์ละ 1 CC
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore
ฟิลเลอร์ Flore เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และ KFDA จุดเด่นจะเป็นฟิลเลอร์แบบ Biphasic Filler คือ ในเนื้อเจลจะมีทั้งเนื้อแน่นและเนื้ออ่อนผสมกันครับ จึงเป็นฟิลเลอร์ที่มีความแข็งและยืดหยุ่น ขึ้นรูปได้ดี แต่ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ดูละมุน สลายตัวช้า
- เทคโนโลยีในการผลิต : มี 2 เทคโนโลยี คือ HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology เป็นเทคนิคการเชื่อม Crosslink แบบพิเศษ ให้มีโครงสร้างเป็น 3D matrix ทำให้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย และอยู่ได้นานขึ้น ส่วน Particle Plastic Process (PP process) ทำให้อนุภาคของฟิลเลอร์มีขนาดเท่า ๆ กัน ฉีดแล้วเนียนสวย และสลายตัวช้าลง
- รุ่นที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : Flore Max
- ระยะเวลา : 9-12 เดือน
- ราคาเริ่มต้น : 7,xxx บาท / 1 CC
- ปริมาณ CC ใน 1 กล่อง : ใน 1 กล่อง มีฟิลเลอร์ 1 ไซริงค์ ไซริงค์ละ 1.1 CC
อายุการใช้งานของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อที่หมอระบุเป็นค่าเฉลี่ยครับ หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม ? ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคนร่วมด้วย หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น ดื่มน้ำเยอะ ๆ และหลีกเลี่ยงความร้อน ก็จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวย และผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ? คู่มือดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อที่ไม่คุ้นหู ราคาถูกมาก ๆ อันตรายไหม ?
อันตรายครับ
จริง ๆ แล้วฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน และผ่านการรับรองจากอย.ไทย จะมีบริษัทที่นำเข้ามาแบบถูกกฎหมายครับ จำหน่ายให้แค่กับแพทย์และสถานพยาบาลเท่านั้น ทำให้ต้นทุนของฟิลเลอร์ในคลินิกชั้นนำไม่ได้แตกต่างกันมาก
หากคนไข้เจอบริการฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ราคาถูกกว่าตลาดมาก ๆ เป็นเท่าตัว หรือชื่อยี่ห้อที่ไม่คุ้นหู ก็เสี่ยงเป็นยาหิ้ว และฟิลเลอร์ปลอม ที่มีส่วนผสมอันตราย ไม่ย่อยสลาย หลังฉีดมักเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม ไหลย้อย ใบหน้าผิดรูป หรืออักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์เน่าได้
เช็กก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี บริการที่ปลอดภัย
หมอย้ำเสมอครับ ว่าก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหน กับใคร หรือใช้ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี คนไข้ควรพิจารณาเลือกคลินิกที่มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และฉีดฟิลเลอร์ขมับกับแพทย์มากประสบการณ์ มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม รวมถึงควรตรวจสอบฟิลเลอร์ให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ครับ
วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้จะเช็กได้จากเลขทะเบียนอย.ไทย เอกสารกำกับการใช้ยาภาษาไทย และเลข lot. ทุกตำแหน่งของบรรจุภัณฑ์จะต้องตรงกัน โดยวิธีการเช็กอย่างละเอียดในแต่ละยี่ห้อมีดังนี้
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับทุกยี่ห้อ คนไข้ควรแจ้งให้ทางคลินิกความงามแกะกล่องให้ดูต่อหน้าและขอตรวจสอบครับ หากทางคลินิกไม่ยอมให้ดู หรือไม่เป็นไปตามข้อมูลข้างต้น ก็มีความเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน ยาหิ้ว หรือฟิลเลอร์ปลอมที่เป็นอันตราย
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคามาตรฐานอยู่ที่เท่าไหร่ ?
ฟิลเลอร์ ราคาในแต่ละคลินิกจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณ CC และเทคนิคที่แพทย์ใช้ครับ ที่ V Square Clinic ฉีดฟิลเลอร์ขมับราคาเริ่มต้น 14,xxx บาท / 1 CC รายละเอียดดังนี้
โปรโมชั่นฟิลเลอร์ขมับแบ่งตามยี่ห้อ/รุ่น ที่ V Square Clinic
สรุปฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดีที่สุดในท้องตลาด
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกันครับ การเลือกฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละเคส จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินใบหน้าและสภาพผิวก่อน อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิกและแพทย์ และแหล่งที่มาของฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้บริการที่ปลอดภัย และผลลัพธ์สวยดูเป็นธรรมชาติ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ