หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง
เรื่องการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นข้อปฏิบัติที่ทุกคนควรใส่ใจครับ รวมถึงเรื่องอาหารบางชนิดที่หมอจะแนะนำให้หลีกเลี่ยง เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบหรือเข้าที่ของฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของ ฟิลเลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ฟิลเลอร์ปาก, ฟิลเลอร์หน้าผาก, ฟิลเลอร์คาง, ฟิลเลอร์ขมับ และฟิลเลอร์จมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรบ้างที่ควรระวัง กินได้-ไม่ได้ ก่อน-หลังฉีดควรดูแลตัวเองอย่างไร ? หมอมีข้อแนะนำในบทความนี้ครับ
สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์ ควรงดยาและวิตามินบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน และ NSAIDs (เอ็นเสด) เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E เนื่องจากอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด การอักเสบ ทำให้รอยเข็มหายช้า หรือมีรอยช้ำได้ง่ายขึ้นครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?
หลังฉีด filler ห้ามกินอะไร ? หลังฉีดฟิลเลอร์ มีอาหารบางประเภทครับที่หมอแนะนำให้ควรงดก่อนในช่วงแรก เช่น ประเภทอาหารหมักดอง จำพวกปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง บวมช้ำ อักเสบ ติดเชื้อ หรือทำให้เส้นเลือดขยายตัว และยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรคจากกรรมวิธีการผลิตที่ไม่สะอาด รวมถึงประเภทอาหารรสจัด หวานจัด โซเดียมสูง ทำให้ร่างกายบวมน้ำ และยังกระตุ้นการอักเสบ ส่งผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินของมึนเมา ห้ามกินเหล้ากี่วัน ?
จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้มีข้อห้ามเหมือนก่อนฉีดมากนัก ส่วนใหญ่แพทย์มักจะแนะนำให้งดการดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า ไวน์ เบียร์ ของมึนเมาทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง หรือให้ได้ประมาณ 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์ จะดีที่สุดครับ
เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น มีผลเกิดภาวะหลอดเลือดขยายตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าแดงบวม หรือรู้สึกปวด บริเวณที่ฉีดจนเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
อย่างไรก็ตามแอลกอฮอล์ ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ ไม่ใช่เพราะฟิลเลอร์จะสลายอยู่ไม่นาน เพียงแต่อาจจะทำให้เลือดออกเยอะ บวมช้ำในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้เท่านั้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินเหล้า แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เผลอกินต้องทำอย่างไร ?
ในกรณีที่เผลอกินเหล้า ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเลี่ยงไม่ได้ต้องออกงานสังคม ร่วมงานปาร์ตี้ การดื่มเพียงเล็กน้อยไม่ได้ส่งผลอันตรายใด ๆ
ดังนั้นเมื่อเผลอดื่มไปแล้ว อาจดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปมาก ๆ อย่างวันละ 3-4.5 ลิตร หรือวันละ 12 แก้ว ในช่วงวันแรก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำมากยิ่งขึ้น ช่วยเสริมให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป ทำให้ได้รูปหน้าที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ กินปลาร้า อาหารจำพวกของดอง ส้มตำปลาร้า ได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดเว้นสักระยะครับ เนื่องจากอาหารหมักดอง อาจมีกรรมวิธีที่ไม่สะอาด ทำให้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค
ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อโรคนี้อาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของแผลรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ และอาหารหมักดองทุกชนิด ล้วนมีส่วนทำให้เส้นเลือดขยายได้มาก อาจมีภาวะหลอดเลือดสูบฉีดที่มากกว่าเดิมเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำได้ง่าย
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารเมนูยำรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด
เพราะว่าอาหารที่รสที่เค็มจัด เผ็ดจัด มักจะดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้หน้ารวมถึงลำตัวอาจดูบวม หรือเรียกว่าภาวะบวมน้ำได้ แพทย์จึงมักแนะนำให้งด หลังจากทำการรักษา 3-7 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารประเภทปิ้งย่าง
การกินอาหารปิ้งย่าง หมูกระทะ ชาบู ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ นาน ๆ ทำให้ผิวหน้าอยู่ใกล้ความร้อน ทำให้เกิดผลข้างเคียง ส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์โดยเฉพาะใน 3-7 วันแรก
ส่วนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามกินอะไรบ้าง ? ในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปากยิ่งควรระวังในการสัมผัสของร้อนเป็นพิเศษครับ เพราะความร้อนมีผลต่อการสลายตัวช้า-เร็วของฟิลเลอร์ได้ แต่หลัง 2 สัปดาห์ก็สามารถทานได้ปกติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกิน อาหารที่มีรสหวานมากเกินไป
หลังฉีด filler ห้ามกินอะไร ? อาหารรสหวาน ขนมหวาน น้ำหวาน ที่มีน้ำตาลสูง ควรงดก่อนครับ เพราะจะไปกระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย ทำให้รอยเข็มบริเวณที่ทำหัตถการหายช้า ยุบบวมช้า
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารที่ไม่สด อาหารดิบ
ควรงดหรือเลี่ยงอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก เพราะมีพยาธิบางตัวที่สามารถไปเพิ่มการอักเสบหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับอาหารแสลงต่าง ๆ ที่หลายคนเข้าใจผิด และสงสัยว่าหลังฉีด filler ห้ามกินอะไร ควรหลีกเลี่ยงจริงหรือไม่ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ กินอาหารทะเลได้ไหม ? กินไข่เค็มได้ไหม ? ทั้งสองอย่างสามารถรับประทานได้ตามปกติ ไม่ส่งผลให้แผลหายช้าหรือทำให้เกิดการอักเสบ แต่เน้นว่าต้องนำมาปรุงสุกเท่านั้นครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว ลดอาการบวมช้ำ และยืดอายุผลลัพธ์ได้นานขึ้น หมอแนะนำอาหารที่ควรทานดังนี้ครับ
ตารางการกินหลังฉีดฟิลเลอร์
ระยะเวลา | อาหารที่ควรกิน |
---|---|
24 ชั่วโมงแรก | น้ำเปล่า ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ชั้นผิว เพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์ฟู สวย ได้รูป เข้าที่เร็ว ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ |
โปรตีนจากปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า รวมถึงไก่ ถั่ว เต้าหู้ มี Omega 3 ช่วยลดการอักเสบและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ | |
ผักใบเขียวและผักที่มีสีสัน เช่น คะน้า บรอกโคลี แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง มีวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยบำรุงผิวพรรณ | |
2-7 วันแรก | ธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ข้าวกล้อง ลูกเดือย เม็ดแมงลัก งา ควินัว เมล็ดเจีย มีไฟเบอร์สูง มีส่วนช่วยกระบวนการฟื้นฟูผิวสุขภาพผิว |
ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มีวิตามินซีช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมผิว รอยเข็มหายไวขึ้น | |
หลังจากนั้น | กินตามปกติ เน้นโปรตีนคุณภาพสูง และแคลเซียม เช่น ไก่ ไข่ ถั่ว นม เต้าหู้ เนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสร้างเซลล์ผิวใหม่ |
หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการปวด บวมบริเวณที่ฉีด ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? ประมาณ 5-7 วัน โดยเป็นการบวมจากเข็มที่ทำปฏิกิริยาเมื่อเข้าสู่ผิว และบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่เบลนด์เป็นเนื้อเดียวกับผิว
ในระหว่างนี้ คนไข้ควรดูแลตัวเองควบคู่กัน โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมการกิน ที่ช่วยลดอาการบวม ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานครับ
บทความแนะนำ
ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ?
หากเผลอกินอาหารที่หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยง เช่น อาหารหมักดอง อาหารรสจัด หรือแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมช้ำ หรือ อักเสบในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ เพราะอาจไปกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น ส่งผลให้แผลรอยเข็มหายช้าลงได้ครับ
อย่างไรก็ตาม หากเผลอกินไปแล้ว ควรสังเกตอาการของตัวเองเป็นระยะ หากพบว่ามีอาการบวมผิดปกติ ฟิลเลอร์เป็นก้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ซึ่งแพทย์อาจแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
แต่หากไม่มีอาการผิดปกติรุนแรง สามารถดูแลตัวเองต่อได้ตามปกติ โดยการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงอาหารหรือพฤติกรรมที่อาจกระทบต่อฟิลเลอร์เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ และให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวครับ
คำถามที่พบบ่อย
หลังฉีดฟิลเลอร์ กินอาหารเสริม วิตามิน ได้ไหม ?
แม้ว่าก่อนฉีดฟิลเลอร์จะมีวิตามินบางชนิดที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถรับประทานได้ตามปกติครับ การทานวิตามินจะช่วยให้แผลหรือรอยเข็มต่าง ๆ ฟื้นฟูเร็ว และช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นด้วย เช่น Vitamin C, B, D, Zinc หรือ Omega-3
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดแอลกอฮอล์กี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หมอแนะนำให้งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อลดการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้บริเวณที่ฉีดบวมแดงมากขึ้น หรือหากต้องการให้ทรงปากสวย อยู่ได้นาน ควรงด 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัวและเข้าที่ 100% ครับ
ฉีดปากห้ามกินอะไร กี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้เลี่ยงอาหารร้อนจัดใน 3 วันแรก เช่น ซุป กาแฟ ชา หรืออาหารที่เพิ่งปรุงสุกใหม่ เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์ละลายเร็วกว่าปกติ
รวมถึงอาหารที่ต้องเคี้ยวหรือกัดแรง ๆ เช่น อาหารเหนียว ขนมปังแข็ง เนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ ถั่วเปลือกแข็ง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว หรือกดทับบริเวณที่ฉีดได้
ทำไมต้องดื่มน้ำมาก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ ?
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดส่วนใหญ่มีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีมาก
ดังนั้นการดื่มน้ำมาก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยให้ฟิลเลอร์สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวได้ดี ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ฉีดดู ฟู อิ่มน้ำ และมีความเรียบเนียน เข้าที่เร็วและช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์ ทำให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ จะเริ่มเข้าที่เมื่อไหร่ ?
ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน หลังจากนั้นจะคงอยู่ได้นานตามยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ครับ คนไข้สามารถอ่านบทความ ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? และ ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เพิ่มเติมได้ครับ หมอได้เขียนข้อมูลไว้อย่างละเอียด
สรุปเกี่ยวกับหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ ให้ได้ผลที่สวยงาม นอกจากต้องเลือกคลินิกเสริมความงาม ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีที่ได้มาตรฐาน เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อฟิลเลอร์ครับ ทั้งการปฏิบัติตัว การรับประทานอาหาร อันไหนที่หมอแนะนำให้ห้ามกิน หรือดื่ม ก็ควรหลีกเลี่ยง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และมีความปลอดภัยครับ