collagen
collagen (คอลลาเจน) เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญต่อผิวพรรณและร่างกาย หลายคนมีปัญหาผิวแห้ง เป็นสิว มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ นั่นอาจเป็นสัญญาณของการที่ผิวขาดคอลลาเจน เกิดจากร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง
ในบทความนี้หมอจะมาให้ข้อมูลแบบเจาะลึกว่า collagen คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? พฤติกรรมแบบไหนที่ลด collagen ในร่างกาย และถ้า collagen ในร่างกายลดจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันการสูญเสียคอลลาเจนตามธรรมชาติ สามารถติดตามอ่านได้ครับ
สารบัญ collagen
collagen คือ
collagen คือ โปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็นประมาณ 30% ของปริมาณโปรตีนทั้งหมด ทำหน้าที่คล้ายกาวธรรมชาติที่ยึดเกาะส่วนต่าง ๆ พบได้เป็นหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น กระดูก กระดูกอ่อน เอ็น กล้ามเนื้อ หลอดเลือด เล็บ เส้นผม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผิวหนัง ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นคอลลาเจนถึง 75% ครับ
คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานของเซลล์ (Cellular processes) รวมถึงการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ (Tissue repair) การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน (Immune response) การสื่อสารระหว่างเซลล์ (Cellular communication) และการเคลื่อนที่ของเซลล์ (Cellular migration)
คุณสมบัติของ collagen
ด้วยลักษณะของเส้นใยคอลลาเจนที่เป็นสายเกลียวและมีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย ทำให้ collagen มีคุณสมบัติของความแข็งแรง คงทน ยืดหยุ่นได้ดี มีแรงดีดที่คล้ายกับสปริง ช่วยในการฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟู เนียน เด้ง ชุ่มชื้น ผิวพรรณดูสุขภาพดีครับ
ประโยชน์ของ collagen ช่วยอะไรได้บ้าง ?
- คอลลาเจนช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่น
- ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดอาการผิวแห้งกร้าน
- ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ฟื้นฟูสภาพผิวให้กระจ่างใส
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของกระดูก เล็บ กล้ามเนื้อ ข้อต่อ
- ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด และช่วยให้เลือดแข็งตัว
collagen นำไปใช้ทำอะไรบ้าง ?
ปัจจุบัน collagen ถูกนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการกิน การทา และการฉีด ดังนี้ครับ
1. collagen แบบกิน
collagen แบบกิน เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกต่อการเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังและร่างกายโดยรวมครับ การรับประทานคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมหรืออาหารที่มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ สามารถช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ต่าง ๆ แต่ต้องทานอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างใช้ระยะเวลาในการเห็นผล
2. collagen แบบทา
collagen แบบทา คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน เช่น ครีมทาผิว โลชั่น สบู่ เครื่องสำอาง หรือแผ่นมาส์กหน้า คอลลาเจนกลุ่มนี้จะมีโมเลกุลขนาดใหญ่ เมื่อทาผิวแล้วอาจจะดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก จึงทำได้เพียงแค่ช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นขึ้นเท่านั้น ไม่สามารถหวังผลในเรื่องของการลดริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยได้
3. collagen แบบฉีด
collagen แบบฉีด เป็นการฉีดคอลลาเจน หรือตัวยาที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวโดยตรง เพื่อบำรุง ฟื้นฟู ปรับสภาพผิวเร่งด่วน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ดีและเร็วกว่าการทาหรือการกินคอลลาเจนครับ สำหรับการฉีด collagen จะพบได้ในหัตถการต่าง ๆ ดังนี้
- มาเด้คอลลาเจน (made collagen) เป็นยี่ห้อยาฉีดเมโสจากประเทศอิตาลี มีส่วนผสมของอาหารผิว ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวและชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในผิว รวมไปถึงมีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการบำรุงผิวหน้า จุดเด่นหลัก ๆ ของมาเด้คอลลาเจน คือเป็นตัวดีท็อกซ์ผิว ช่วยลดสิว ผดผื่น ผิวอักเสบ หากฉีดต่อเนื่องจะทำให้ skin barrier แข็งแรงขึ้น
- เมโสหน้าใส (mesotherapy) เป็นการฉีดวิตามิน สารอาหารที่จำเป็น และแร่ธาตุต่าง ๆ เข้าสู่ผิวโดยตรง ช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวล้ำลึก ฟื้นฟูและปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง มีให้เลือกหลากหลายสูตร เมโสหน้าใสยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคนไข้ครับ
- Gouri เป็นนวัตกรรมความงามที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวตัวแรกของโลกที่ได้มีการนำสาร PCL (Polycaprolactone) มาสังเคราะห์ให้อยู่ในรูปแบบสารละลาย 100% มีความปลอดภัย สลายได้เอง เมื่อฉีด Gouri เข้าสู่ชั้นผิว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูเซลล์ผิว กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่น กระชับ
- Sculptra คือ เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวแบบใหม่ที่สกัดจาก PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นสารสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหน้าจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 ได้ถึง 66.5% ช่วยทดแทนคอลลาเจนที่เสียไปเมื่ออายุมากขึ้น เป็นผลให้ผิวกระชับ เต่งตึงขึ้น และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับแก่ผิว
- exosome คือ สารชีวโมเลกุลกว่า 1000 ชนิดที่มีความสำคัญต่อผิว เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ มากมาย โดดเด่นในเรื่อง Skin Rejuvenation สามารถกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์
- Rejuran เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวด้วย Polynucleotide หรือ PN เข้มข้น 2% ที่สกัดจากชิ้นส่วน DNA Salmon สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บำรุงผิวให้แข็งแรง ลดการอักเสบ ลดการเกิดรอยแผล ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูตื้นขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาวขึ้นได้ครับ
- ฉีดวิตามินผิว เป็นการฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เข้าไปในผิว โดยมีตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักคือ วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ช่วยบำรุงผิวพรรณ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
- ฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เข้าไปใต้ผิวหนัง มีคุณสมบัติเด่นในการอุ้มน้ำ เมื่อฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ผิวจะกักเก็บความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่น กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ หน้าเด้ง ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ฟิลเลอร์ skin booster มีหลายยี่ห้อ เช่น ฟิลเลอร์ Revolax, juvederm volite และ Radiesse filler
collagen มีกี่ประเภท ?
คอลลาเจนมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีความแข็งและยืดหยุ่นได้ดีแตกต่างกันตามแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบ โดยสามารถแบ่งคอลลาเจนออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
Collagen Type I : เป็นคอลลาเจนชนิดที่มีมากที่สุดในร่างกาย เป็นโครงสร้างให้กับผิวหนัง ผนังหลอดเลือด เส้นเอ็น มีความเหนียวและแข็งแรง ช่วยให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่นและคงรูปร่างได้ ปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ฉีกขาด ในผิวหนังจะมีคอลลาเจนชนิดนี้เป็นจำนวนมาก ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียนครับ
Collagen Type II : เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบมากในกระดูกอ่อน เช่น กระดูกอ่อนใบหู กระดูกซี่โครง หลอดลม มีหน้าที่รองรับน้ำหนักและให้ความแข็งแรงกับข้อต่อต่าง ๆ ขณะที่มีการเคลื่อนไหว ดูดซับแรงกระทบไม่ให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ
Collagen Type III : เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบได้น้อย ส่วนใหญ่จะทำงานร่วมกับ Collagen Type I พบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
Collagen Type IV : เป็นคอลลาเจนที่มีความเฉพาะตัว พบใน ชั้นเยื่อรับรองผิว (Basement membrane) ของอวัยวะต่าง ๆ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารระหว่างชั้นเนื้อเยื่อ ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด
Collagen Type V : เป็นคอลลาเจนชนิดที่อยู่ในเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ เช่น ในกระจกตา ทำงานร่วมกับคอลลาเจนในผิวหนัง ผม เล็บ และพบมากในเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์และรก ช่วยให้เซลล์ผิวเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและการเจริญของเส้นใยในชั้นผิว
โครงสร้างของ collagen
collagen คือ โปรตีนที่พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเป็นหลัก ประกอบด้วยห่วงโซ่เกลียวสามห่วง เป็นฮีลิกซ์ 3 สาย (triple-helix) ของโพลีเปปไทด์ ที่เชื่อมต่อกัน โดยแต่ละสายจะเรียกว่า สายแอลฟา (α-chain) ประกอบด้วยกรดอะมิโนเฉพาะ ได้แก่ ไกลซีน (Glycine) โพรลีน (Proline) และไฮดรอกซีโพรลีน (Hydroxyproline)
collagen มีผลข้างเคียงหรือข้อควรระวังไหม ?
คอลลาเจน เป็นสารสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัย หากใช้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี ส่วนข้อควรระวังสำหรับการบริโภคคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริม หมอแนะนำให้รับประทาน collagen วันละไม่เกิน 10 กรัม ติดต่อกันเป็นเวลาไม่เกิน 5 เดือน หรือถ้าเป็นการทาคอลลาเจน ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มี อย. และที่สำคัญคือต้องเหมาะกับสภาพผิว ช่วยป้องกันการแพ้ระคายเคืองได้ครับ
collagen ทำมาจากอะไร ?
Collagen คือ โปรตีนที่พบมากในสิ่งมีชีวิตและเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างของผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเลือด และเนื้อเยื่อในร่างกายของสัตว์ โดยพบมากที่สุดในเนื้อ อย่างเนื้อหมู ขาหมู หนังหมู นอกจากนี้ยังมีวิธีการสกัดคอลลาเจนจากพืช ซึ่งมักนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางครับ
อาหารที่ส่งผลช่วยเพิ่ม collagen ในร่างกาย
อาหารที่เสริมสร้างให้ร่างกายผลิต collagen ได้ดี มีดังนี้
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู หนังหมู ซุปกระดูก ปลา กุ้ง อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็นในการผลิตคอลลาเจน
- ผักใบเขียว และผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม กีวี สตรอว์เบอรรี บลูเบอร์รี แครนเบอร์รี มีวิตามินซีสูง ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลาย
- ไข่ขาว ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากนม มีโปรตีนสูงและกรดอะมิโน ช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการผลิตคอลลาเจน
พฤติกรรมแบบไหนที่ลด collagen ในร่างกาย
นอกจากอายุที่มากขึ้นจะทำให้คอลลาเจนลดลงแล้ว การทำพฤติกรรมบางอย่างก็อาจส่งผลให้เกิดการลดลงของระดับคอลลาเจนในร่างกายได้เช่นกันครับ เช่น
- สูบบุหรี่ : ในบุหรี่มีสารเคมีหลายชนิดที่เป็นพิษต่อสุขภาพ ส่งผลให้มีการสร้างเอนไซม์มาทำลายคอลลาเจน และทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง
- ดื่มแอลกอฮอล์ : การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวขาดน้ำและความชุ่มชื้น ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกายลดน้อยลง
- บริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก : เมื่อรับประทานน้ำตาลเข้าไปมาก ๆ สารที่เป็นความหวานของน้ำตาล จะเข้าไปจับตัวกับโปรตีน ทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย
- สัมผัสแสงแดด : รังสียูวีในแสงแดด สามารถทำร้ายผิวได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ที่มีคอลลาเจนและอีลาสตินเป็นองค์ประกอบหลัก หากโดนแสงแดดนาน ๆ โดยไม่มีการป้องกัน ก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนได้เร็วขึ้น
- ความเครียด : เมื่อเราเผชิญกับความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน Cortisol ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำไม่สดใส
ถ้า collagen ในร่างกายลดเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
เมื่อระดับ collagen ในร่างกายลดลง อาจเกิดผลกระทบต่อผิวหนังได้ดังนี้
- ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย : การสูญเสียคอลลาเจนเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยบนผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น บางลง และเกิดริ้วรอย ร่องลึกได้ง่าย
- ผิวแห้งและหมองคล้ำ : การลดลงของคอลลาเจนอาจทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส
- ผิวแพ้ง่าย ไม่แข็งแรง : คอลลาเจนช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของผิวหนัง การลดลงของคอลลาเจนอาจทำให้ผิวหนังไม่มีความแข็งแรง แพ้ง่าย เป็นสิว ผด ผื่น หน้าโทรม
- ฝ้า กระ จุดด่างดำ : หาก collagen ในร่างกายลดลง จะส่งผลให้ผิวบอบบาง จึงอาจเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำตามมาได้ง่ายครับ
- การสร้างเซลล์ผิวใหม่ลดลง : คอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ การลดลงของคอลลาเจนอาจทำให้กระบวนการนี้ชะลอลง ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นน้อยลงด้วย
วิธีป้องกันไม่ให้ collagen ในร่างกายลด
เราสามารถป้องกันไม่ให้ collagen ในร่างกายลดลงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต พักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ หมั่นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง อุดมไปด้วยคอลลาเจนจากธรรมชาติ โดยอาจทำร่วมกับการบริโภคคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริม การทา หรือการฉีดคอลลาเจน จะช่วยชะลอและป้องกันการสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปเรื่อง collagen
collagen คือโปรตีนที่พบมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ผิวแห้งเสีย เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย ในทางการแพทย์จึงมีการคิดค้นและสังเคราะห์คอลลาเจนขึ้นมาทดแทนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งแบบกิน แบบทา และแบบฉีด เพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซมผิว บำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่ง กระจ่างใส เรียบเนียนครับ
อ้างอิง
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2846778/
- https://www.webmd.com/diet/collagen-health-benefits
- https://www.healthline.com/nutrition/collagen
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ