สิวอุดตัน
เชื่อว่าการมีใบหน้าใส ไร้สิว เป็นความปรารถนาของคนเกือบทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสิวซ้ำซาก สิวอุดตัน สิวผด สิวเสี้ยน ซึ่งสิวนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุและหลายปัจจัยครับ ทั้งกรรมพันธ์ุ ฮอร์โมน พฤติกรรม หากแก้ปัญหาสิวไม่ถูกจุด รักษาสิวอุดตันด้วยตัวเองแล้วไม่หาย ก็จะมีปัญหาสิวซ้ำ ๆ ทำให้ใบหน้ามีรอยสิว มีจุดด่างดำ เป็นปัญหาน่าหนักใจของหลายคนครับ
ในบทความนี้หมอจะอธิบายถึงสาเหตุการเกิดสิว ลักษณะของสิวอุดตัน การรักษา วิธีป้องกัน การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้มีปัญหาสิวกลับมากวนใจ
สารบัญ สิวอุดตัน
สิวอุดตัน คืออะไร ?
สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการจับตัวของสิ่งตกค้างที่อยู่ใต้ผิวหนัง เป็นสิวที่ไม่มีการอักเสบ แต่จะเป็นตุ่มนูนอยู่บนผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน พบได้บ่อยบริเวณหน้าผาก คาง และแก้ม มักใช้เวลานานในการรักษา พอรักษาจนหายแล้วก็กลับมาเป็นซ้ำได้อีก
ลักษณะของสิวอุดตัน
สิวมีหลายประเภทครับ ลักษณะของสิวอุดตันเป็นยังไง ? ส่วนมากจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่ามีตุ่มนูน แข็ง เป็นไตบนผิว และอาจเป็นลักษณะสิวเสี้ยนอุดตันเม็ดเล็ก ๆ ทำให้ผิวหน้ามีอาการบวมแดงหรือระคายเคืองได้ สิวอุดตันบางประเภท หากไม่รีบรักษา จะสามารถพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้หากมีการติดเชื้อ
สิวอุดตันเกิดจากอะไร ?
สิวอุดตัน เกิดจากไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว เนื่องจากต่อมไขมันทำการสร้างน้ำมันมากเกินไป มีการตกค้างอยู่ในรูขุมขนและจับตัวรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน รวมไปถึงสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดสิวอุดตัน ได้แก่
- การทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน น้ำมัน น้ำตาล มากเกินไป
- พฤติกรรมที่ทำให้เกิดความระคายเคืองบนผิว เช่น การขัดหน้า บีบสิว การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี หรือการทำเลเซอร์
- มีผิวแพ้ง่ายเป็นทุนเดิม โดยผิวจะมีความไวต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายกว่าคนทั่วไป
- อากาศร้อนมาก ๆ ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาปริมาณมากเกินไป
- มลภาวะในชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่นละออง ฝุ่นควัน
- การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาสระผม แล้วเกิดอาการแพ้สารเคมี
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ทำงานมากเกินไป
- ภาวะผิวหนังมีน้ำมากเกินไปในช่วงก่อนมีประจำเดือน
- การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้มากขึ้น
- ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างหน้าไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกตกค้าง
- ความเครียด ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
สิวอุดตันมีกี่แบบ ?
สิวอุดตัน แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ สิวหัวดำ สิวหัวขาว และสิวอุดตันไม่มีหัว
1. สิวหัวดำ หรือ สิวอุดตันหัวเปิด
สิวหัวดำ หรือ สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone) จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูน มีหัวสีดำอยู่ตรงกลาง เกิดจากกลุ่มเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว การอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน สามารถบีบออกหรือกดให้ออกมาจากใต้ผิว แต่อาจเกิดการอักเสบและเป็นรอยสิวได้
2. สิวหัวขาว หรือ สิวอุดตันหัวปิด
สิวหัวขาว หรือ สิวอุดตันหัวปิด (Closed Comedone) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก โดยมองเห็นเป็นจุดสีขาวและไม่มีรูเปิด รากสิวประเภทนี้จะอยู่ลึกกว่าและรักษาได้ยากกว่าสิวหัวดำ หากไม่รีบรักษาสิวอุดตันหัวปิด เม็ดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น มีโอกาสเกิดการติดเชื้อและพัฒนาเป็นสิวอักเสบ
3. สิวอุดตันไม่มีหัว
สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone) จะไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) พบได้มากในหมู่วัยรุ่น สิวไม่มีหัวจะหายได้เองตามธรรมชาติ แต่หากมีอาการอักเสบ ก็สามารถพัฒนากลายไปเป็นสิวประเภทอื่นได้
อ่านบทความเพิ่มเติม : สิวไม่มีหัว เกิดจากอะไร ? รู้แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลป้องกัน
สิวอุดตันเกิดในตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
สิวอุดตันเกิดได้หลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน โดยจุดที่พบได้บ่อย คือ
สิวอุดตันที่หน้าผาก
สิวอุดตันที่หน้าผาก พบได้บ่อยที่สุด เพราะหน้าผากอยู่ในบริเวณ T-Zone ซึ่งมีจำนวนต่อมไขมันมาก จึงมีการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวมากกว่าบริเวณอื่น ทำให้หน้าผากเป็นจุดที่เกิดสิวได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวผสม
รวมไปถึงการอุดตันของสิ่งสกปรกต่าง ๆ และการดูแลเส้นผม หมวก และผ้าโพกศีรษะที่ไม่สะอาด ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวบริเวณหน้าผากได้
สิวอุดตันที่คาง
สิวอุดตันที่คาง รวมไปถึงสิวที่ปาก มุมปาก เป็นอีกจุดที่พบได้บ่อย และมักจะมีปัญหาเกิดสิวซ้ำซาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันใต้ผิวจำนวนมาก โดยสิวอุดตันที่คางจะมีลักษณะเป็นหัวชัดเจน เป็นก้อนแข็ง
หากมีสิวอุดตันที่คางแบบไม่ลึกมากก็สามารถกดออกได้ และควรกดสิวกับผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากคางเป็นจุดที่กดสิวแล้วเกิดรอยแผลเป็นง่ายมาก ๆ หากกดไม่ถูกวิธีครับ
สิวอุดตันที่แก้ม
สิวอุดตันที่แก้ม มักเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมบนใบหน้า เช่น ใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน การใช้แปรง พัฟ หรือฟองน้ำแต่งหน้าที่ไม่สะอาด ไม่ค่อยเปลี่ยนปลอกหมอน การสวมหน้ากากอนามัย หรือเกิดจากการแพ้สารเคมีต่าง ๆ
สิวอุดตันที่หลัง
สิวอุดตันที่หลัง เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน แบคทีเรีย ความมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเหงื่อ เมื่อใส่เสื้อผ้าที่แน่นเกินไป อากาศร้อน มีเหงื่อออกในเสื้อทำให้เกิดการหมักหมม และสิวที่หลังยังสามารถเกิดสาเหตุอื่น ๆ ได้ เช่น ฮอร์โมน กรรมพันธุ์
สิวอุดตันที่คอ
สิวอุดตันที่คอ เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้ไขมัน (Sebum) และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เกิดการสะสมและตกค้างอยู่ในรูขุมขน
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดสิวอุดตันที่คอได้อีกครับ เช่น สภาพอากาศร้อนอบอ้าว การใส่สร้อยคอ หรือเครื่องประดับจนทำให้ผิวคอเกิดการระคายเคือง
การรักษาสิวอุดตัน
แนวทางการรักษาสิวอุดตันมีหลายวิธี ตั้งแต่การใช้ยาแต้ม ยากิน ยาฉีด รวมไปถึงการใช้เลเซอร์ โดยจะแบ่งวิธีการรักษาตามความรุนแรงของสิวอุดตัน
- ทายารักษาสิวอุดตัน
หากเป็นสิวอุดตันใช้อะไรดีในการรักษา ? ควรใช้ยาที่มีส่วนประกอบของเรตินอยด์ (Retinoids) หรืออนุพันธ์วิตามินเอ ซึ่งเป็นยาทารักษาเฉพาะจุดที่เกิดสิวเพื่อละลายสิวอุดตัน เช่น เรตินอล (Tretinoin), Isotretinoin, Adapalene มีฤทธิ์ที่ช่วยสลายการอุดตันในต่อมไขมัน และชะลอการหลั่งน้ำมันส่วนเกิน รวมไปถึงสามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก
- รับประทานยารักษาสิวอุดตัน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน และสิวอักเสบร่วมด้วย แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะ หรือจ่ายยาปรับฮอร์โมน ในกรณีที่สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือเรียกว่าสิวฮอร์โมน เพื่อลดผลกระทบจากฮอร์โมนเพศชายที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิว
- การฉีดยารักษาสิวอุดตัน
การฉีดสิวนั้นใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ฉีดเข้าไปในผิวหนังบริเวณที่เกิดสิว มักใช้กับปัญหาสิวอุดตันขนาดใหญ่ สิวซีสต์ สิวหัวช้าง โดยแพทย์จะฉีดยาเข้าชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว แต่จะไม่ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อไม่ให้เกิดรอยบุ๋มที่ผิว
ทั้งนี้หลังการรักษาก็อาจเกิดรอยบุ๋มหลังผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ และเป็นแผลเป็นได้ รวมถึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาไตรแอมซิโนโลน เป็นวัณโรคหรือติดเชื้อราที่ผิวหนัง โรคเบาหวานชนิดควบคุมอาการไม่ได้ หัวใจวาย หรือความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง
- การกดสิวอุดตัน
วิธีกดสิวเป็นวิธีที่จะช่วยให้หัวสิวหลุดออกจากชั้นผิวหนังได้ง่ายและเร็วมากขึ้น หลายคนเวลาเป็นสิวมักจะบีบสิวอุดตันด้วยตนเอง แต่ความจริงแล้วการกดสิวควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่องมือเฉพาะสามารถกดสิวออกได้โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ และมั่นใจเรื่องความสะอาด
โดยเฉพาะสิวอุดตัน หากกดไม่ถูกต้องหรือกดเอาหัวสิวออกมาไม่หมด อาจทำให้เกิดการอักเสบ เป็นรอยแดง หรือทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากในการรักษา (บริเวณคางเป็นจุดที่ไม่แนะนำให้กดสิวเองหากไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง เพราะเป็นจุดที่ทิ้งรอยแผลเป็นได้ง่าย)
- เลเซอร์สิวอุดตัน
การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์รักษาสิวอุดตัน มีหลักการคล้ายการใช้เข็มเจาะเพื่อทำให้สามารถกดสิวได้ง่ายขึ้น แต่การใช้เลเซอร์จะเป็นการใช้พลังงานแสงในการเจาะแทน การกดสิวอุดตันก็จะง่ายขึ้น เร็วขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่มีสิวอุดตันอยู่ลึกก็จะกดออกมาได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลเซอร์รอยดำ รอยแดง ให้จางลง ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย
- การฉีดเมโสหน้าใส หรือ มาเด้คอลลาเจน
วิธีแก้สิวอุดตันด้วยการฉีดเมโสหน้าใส คือการฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่างๆ บนผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแห้งกร้าน ใบหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง
ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ได้รับความนิยมคือมาเด้คอลลาเจนครับ นอกจากจะช่วยเพื่อความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าแล้ว ยังมีจุดเด่นในการลดสิว แก้ผื่น และช่วยลดรอยสิวให้หายเร็วขึ้น
โดยมาเด้คอลลาเจนจะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก และช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ช่วยลดสิว แต่เพื่อให้เห็นผลชัดเจนควรฉีดอย่างต่อเนื่อง ในช่วงแรกฉีดสัปดาห์ละครั้ง เมื่อเริ่มเห็นผลชัดสามารถเว้น 2 สัปดาห์ หรือเดือนละครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ไว้ให้อยู่ได้นานครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ? อันตรายหรือไม่ ? ข้อควรรู้ก่อนทำเมโสหน้าใส
- การจี้ด้วยไฟฟ้า (Electrosurgery)
การจี้ด้วยไฟฟ้า เป็นการรักษาสิวอุดตันในคนไข้ที่เป็นสิวเยอะมาก ๆ โดยการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าลงบนผิวที่เป็นสิว เพื่อกำจัดสิวอุดตัน ใช้ตัวจี้ไฟฟ้าซึ่งปลายแหลมเหมือนปากกาจี้ที่หัวสิวอุดตันเพื่อเปิดหัวสิว แล้วใช้ที่กดสิวกดเอาสิ่งที่อุดตันออก ช่วยรักษาสิวอุดตันจำนวนมากได้ดีและรวดเร็วมากกว่าการทายาหรือแต้มยาทั่วไป
- การกรอผิว (Microdermabrasion)
การกรอผิว คือการใช้ผลึกแร่หรือผลึกคริสตัลชนิดพิเศษกรอผิวบริเวณที่มีปัญหา เพื่อทำให้สิวอุดตันหลุดออก นอกจากนี้ยังสามารถขัดผิวได้ทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ ริ้วรอยที่คอ หรือบริเวณอื่น ๆ ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวสดใสขึ้น
เป็นสิวอุดตันไปหาหมอดีไหม ?
เมื่อเริ่มเห็นว่าเป็นสิวอุดตันสามารถไปพบแพทย์ได้ทันทีครับ หากรอให้เป็นสิวอักเสบ หรือเริ่มมีอาการหนักแล้ว การรักษาก็จะไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควร
หากรีบไปปรึกษาแพทย์ทันทีที่เป็นสิว แพทย์จะประเมินบริเวณที่เป็นสิวและทำการรักษาอย่างถูกต้อง ก็จะให้ผลการรักษาที่ดีและรวดเร็ว ลดโอกาสที่จะเป็นสิวอักเสบและรอยแดง รอยแผลเป็น หรือหลุมสิวครับ
“ ข้อควรรู้ : หากปล่อยให้สิวอุดตัน สิวอักเสบขึ้นเยอะ ไม่รีบรักษา อาจทำให้เกิดหลุมสิวได้ครับ ซึ่งเป็นรอยแผลเป็นจากการอักเสบของสิวที่ลงลึกถึงผิวชั้นใน เช่น สิวหนอง สิวหัวช้างขนาดใหญ่ โดยการรักษาหลุมสิวมีหลายวิธีครับ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รักษาหลุมสิว วิธีไหนดี ? กี่วันหาย ? หลุมสิวลึกมาก แก้ไขได้ไหม ? ”
รักษาสิวอุดตัน ด้วยตัวเอง ได้ไหม ? ทำด้วยวิธีไหน ?
การรักษาสิวอุดตันด้วยตนเอง สามารถทำได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ลดสิวอุดตัน ปรับสกินแคร์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงการดูแลรักษาผิวให้สะอาดอยู่เสมอครับ
อย่างไรก็ตาม การใช้ยารักษาสิวอุดตันควรอยู่ใช้ในปริมาณยาที่เหมาะสม และอยู่ในการดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร ส่วนการบีบสิวอุดตันออกด้วยตนเอง หมอไม่แนะนำให้ทำเด็ดขาดครับ เพราะถ้ากดสิวออกไม่หมด จะทำให้สิวเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นรอยดำ รอยแผลเป็นต้องมารักษาอีกภายหลัง
แต่ถ้าใครที่มีปัญหาสิวอุดตันในระดับมาก หรือเกิดปัญหาสิวอุดตันซ้ำซาก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย การรักษาด้วยตนเองอาจไม่ใช้วิธีแก้สิวอุดตันที่ตรงจุด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุของปัญหาสิวอุดตันครับ
การดูแลตนเองเมื่อเป็นสิวอุดตัน
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นสิวอุดตัน จุดสำคัญคือการรักษาความสะอาดของผิวหน้า และไม่ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มเติม
- การล้างหน้าให้สะอาดเป็นวิธีลดสิวอุดตันที่ดีที่สุด โดยควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีความอ่อนโยนและไม่ควรล้างหน้า หรือขัดถูแรง ๆ
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้น ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน
- ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก เพื่อให้เซลล์ผิวได้ฟื้นฟู
- ลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส
- ก่อนทายาแต้มสิว ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
- ไม่แกะ เกา บีบสิว หรือจับบริเวณใบหน้าบ่อย ๆ
- ห้ามเข้านอนโดยไม่ล้างเครื่องสำอาง
- ไม่ปล่อยให้ฝุ่น มลภาวะ คราบไคล สิ่งสกปรก เกาะอยู่บนผิว ควรทำความสะอาดทันที
“ ข้อควรรู้ : เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ สามารถใช้การฉีดเมโสหน้าใส การฉีดมาเด้คอลลาเจน หรือฉีดวิตามินผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงมากขึ้น ขับสารพิษ และช่วยลดสิวผดสิวอุดตัน ”
การป้องกันสิวอุดตัน
การป้องกันสิวอุดตัน สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ที่กระตุ้นการเกิดสิว ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
รวมไปถึงไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า หมั่นรักษาความสะอาดทั้งใบหน้าและเส้นผม ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้ผิวแห้งกร้านและทำให้ผิวผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป จนเป็นสาเหตุของปัญหาหน้ามันและทำให้เกิดสิวอุดตันได้
จะเห็นว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวอุดตันมีอยู่รอบตัวเรา ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาสิวอุดตันอยู่แล้วไม่หายสักที เป็นแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีกแม้จะรักษาแล้ว หมอแนะนำให้กลับมาทบทวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะเจอต้นเหตุของการเกิดสิวอุดตัน และสามารถป้องกันได้อย่างตรงจุดครับ
คำถามที่พบบ่อย
วิธีขับสิวอุดตัน ทำอย่างไร ? ทำด้วยตนเองได้ไหม ?
วิธีขับสิวอุดตัน สามารถทำได้ด้วยการใช้ยาละลายหัวสิว เพื่อละลายคอมีโดนหรือสิ่งสกปรกทั้งหลายที่สะสมอยู่ในรูขุมขน และผลัดเซลล์ผิวเพื่อช่วยลดการอุดตันครับ
แต่การใช้ยาละลายหัวสิว อาจทำให้ผิวแห้ง ผิวแดง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย จึงควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อลดการระคายเคืองผิวครับ
สิวอุดตันกดหรือบีบได้ไหม ? ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นจริงหรือเปล่า ?
เมื่อเป็นสิวอุดตัน สามารถกดหรือบีบได้ครับ หากรู้วิธีและใช้เครื่องมือที่สะอาด แต่คนส่วนใหญ่กดหรือบีบสิวไม่เป็น อาจดันหัวสิวให้ลึกลงไปกว่าเดิม หรือทำให้หนองแตกแทรกในชั้นผิว นำไปสู่การอักเสบ และเป็นแผลเป็นได้
จึงแนะนำให้กดสิวกับผู้เชี่ยวชาญ มีเครื่องมือเฉพาะ มีความสะอาด มีเทคนิคการกดสิวที่ถูกต้อง ไม่ทำให้เนื้อเยื่อช้ำ ไม่เกิดรอยแดงและแผลเป็นครับ
สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบได้ไหม ?
สิวอุดตันที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี สามารถพัฒนาความรุนแรงไปเป็นสิวอักเสบได้ครับ เมื่อรู้ว่าเป็นสิวอุดตันควรรักษาอย่างถูกต้องและทันที
สำหรับใครที่อยากอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิวอักเสบ หมอได้เขียนไว้แล้วครับที่บทความ สิวอักเสบเกิดได้อย่างไร ? มีกี่แบบ ? และรักษาวิธีไหนได้บ้าง ?
สิวอุดตันหายเองได้ไหม ?
สิวอุดตันบางส่วนสามารถหายเองได้ครับ ไม่จำเป็นต้องกดหรือบีบออก โดยใช้เพียงแค่ยาละลายหัวสิวแต้ม แต่ถ้าเป็นสิวอุดตันจำนวนมาก และไม่หาย หรือมีวี่แววจะเป็นสิวอักเสบ ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
สิวอุดตันรักษานานแค่ไหน ?
การรักษาสิวอุดตันต้องใช้เวลาในการรักษาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนครับ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาแต่ละคน รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมน การดูแลตัวเอง
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ