Thermage Flx กับ CPT 7 ข้อแตกต่าง
Thermage FLX กับ CPT เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และช่วยสลายไขมัน ด้วยการยิงคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ลงไปในชั้นผิวหนัง ตั้งแต่ผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน พลังงานที่ปล่อยออกมาจะส่งผ่านความร้อนแบบ Column ทำให้สามารถสร้างความร้อนใต้ผิวหนังได้ลึกและทั่วถึง มากกว่าการยกกระชับแบบอื่น ๆ ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ
สำหรับ Thermage FLX กับ CPT เป็นเครื่องเทอร์มาจ 2 รุ่นล่าสุดที่มีใช้กันในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ เนื่องจากเป็นเครื่องที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด จึงเป็นเครื่องที่มีราคาสูง แล้วเครื่องไหนจะดีกว่ากัน ? Thermage FLX กับ CPT ต่างกันอย่างไร ? เหมือนกันตรงไหน ? อยากยกกระชับผิวจะเลือกรุ่นไหนดี ? หาคำตอบได้ในบทความนี้
สารบัญ Thermage Flx กับ CPT
Thermage FLX กับ CPT ต่างกันอย่างไร ?
Thermage FLX กับ CPT แม้จะเป็นเครื่องยกกระชับเหมือนกัน แต่เนื่องจากผลิตออกมาห่างกันถึง 9 ปี โดยรุ่นล่าสุด Thermage FLX ซึ่งผลิตในปี 2018 ได้มีการพัฒนาในหลายจุดให้เหนือกว่า Thermage CPT ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า ทั้งหัวทิป การปล่อยพลังงานโฟกัสได้ตรงจุด จำนวน shot ลดความเจ็บขณะทำ รวมทั้งลดระยะเวลาในการทำให้น้อยลงด้วยครับ
จะเห็นได้ว่า Thermage FLX กับ CPT มีความแตกต่างกันค่อนข้างมากครับ ซึ่งความแตกต่างนี้ ได้อธิบายไว้ในชื่อรุ่น Thermage FLX โดย FLX ย่อมาจาก
- Faster ประหยัดเวลาในการรักษา ใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% โดย Thermage FLX 900 shot = Thermage CPT 1200 shot
- Algorithm การทำงานของเครื่อง โฟกัสแม่นยำแบบเรียลไทม์ มี AccuREP เซ็นเซอร์วัดความร้อนบนผิว ควบคุมการปล่อยพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก shot ที่ยิง
- Experience ประสบการณ์ที่ดีในการทำ Thermage FLX ซึ่งมีระบบ Pre and Post Cooling ปล่อยความเย็นเป็นระยะ ๆ ทำให้เจ็บน้อยกว่า และรู้สึกผ่อนคลายขณะทำ
นอกจากนี้แล้วการทำงานของเครื่อง Thermage FLX กับ CPT ยังมีอีกหลายจุดที่แตกต่างกัน หมอสรุปมาเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ
1. จำนวนตารางเซนติเมตรต่อหัว
Thermage FLX หัวทิปขนาด 4 ตารางเซนติเมตร มีจำนวน shot อยู่ที่ 900 shot ส่วน Thermage CPT หัวทิปขนาด 3 ตารางเซนติเมตร มีจำนวน shot อยู่ที่ 1,200 shot แต่รวมตารางเซนติเมตรต่อหัวจะเท่ากัน
2. หน้าจอแสดงผล
Thermage fLX กับ CPT มีหน้าจอแสดงผล ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าใช้ไปแล้วกี่ shot แต่ Thermage FLX เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาล่าสุดกว่า จึงพัฒนาให้เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Touch Screen
3. ขนาดและอายุการใช้งานของหัวทิป
Thermage FLX มีขนาดหัวทิปที่ใหญ่กว่า และมีอายุการใช้งานของหัวทิปอยู่ที่ 2 ชั่วโมง ด้วยความที่เครื่อง Thermage FLX สามารถคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำขึ้น จึงใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% เมื่อเทียบกับรุ่น CPT ที่มีอายุการใช้งานของหัวทิปอยู่ที่ 4 ชั่วโมง จึงใช้เวลานานกว่า
4. การประเมินผล
Thermage FLX มีเซ็นเซอร์วัดความร้อนบนผิว (AccuREP) เพื่อควบคุมการปล่อยหลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก shot ที่ยิง มีความแม่นยำ และปรับพลังงานแบบเรียลไทม์ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ต่างจาก Thermage CPT ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการใช้เครื่อง เพื่อประเมินผลครับ
5. ระบบเย็นและระบบสั่น
Thermage FLX มีระบบ Pre and Post Cooling ที่ช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิใต้ผิวหนังมีความร้อนสะสมมากเกินไป ด้วยการปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น
ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส Burn รวมทั้งมี Vibration ระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น ส่วน Thermage CPT มีแต่ระบบ Pre Cooling เท่านั้น ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการใช้เครื่องเป็นหลัก
6. ความเจ็บ
การทำเทอร์มาจ คนไข้จะรู้สึก Warm But Tolerate คือมีความอุ่นที่ผิว แต่ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานเปรียบเทียบความเจ็บปวดของคนไข้ที่ทำ Thermage FLX กับ CPT ว่าอันไหนเจ็บกว่ากัน แต่จากที่หมอได้สอบถามจากคนไข้ที่เคยทำทั้ง Thermage FLX กับ CPT จะรู้สึกว่า Thermage FLX เจ็บน้อยกว่า เพราะเครื่องสามารถคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำ และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25%
7. การใช้งาน
Thermage FLX แพทย์ไม่ต้องเปลี่ยนหัวสำหรับทำตัวและทำหน้า สามารถใช้หัวเดียวกันได้เลยครับ ในขณะที่ Thermage CPT จะมีหัวสำหรับทำตัวและทำหน้าแยกกัน
ข้อควรรู้ : Thermage FLX มีหัวทิปขนาด 4 cm2 เป็นหัวสีม่วง เหมาะสำหรับทำบริเวณใบหน้า เหนียง และลำคอ โดยสามารถยิงลงใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่า ใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% และมีความแม่นยำมากขึ้น
Thermage FLX กับ CPT เหมือนกันตรงไหนบ้าง ?
ในหลักการทำงานของเครื่อง Thermage FLX กับ CPT มีความเหมือนกันอยู่ในหลายจุด เช่น
- Thermage FLX กับ CPT มี Vibration ระบบสั่นที่ช่วยลดทอนความเจ็บให้เบาบางลงระหว่างที่ทำเหมือนกัน แต่ Thermage FLX จะเพิ่มระบบการสั่นขึ้นมากกว่า Thermage CPT ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยกว่า
- Thermage FLX กับ CPT มี Cooling System ที่ปล่อยความเย็นให้ผิวชั้นบนระหว่างการทำจะรู้สึกอุ่นที่ผิว ช่วยให้ผิวไม่เสี่ยงต่อการ Burn
- Thermage FLX กับ CPT มีหน้าจอแสดงผลจำนวน shot ที่ใช้ไปได้เหมือนกัน แต่หน้าจอของ Thermage FLX จะเป็นแบบ Touch Screen
- Thermage FLX กับ CPT ทั้งสองรุ่น อยู่ได้นาน 1-2 ปีเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบจำนวน shot แล้ว Thermage FLX ยิงจำนวน shot น้อยกว่า ได้ผลลัพธ์มากกว่า แม่นยำกว่า และเจ็บน้อยกว่า
- Thermage FLX กับ CPT สามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้งเหมือนกันครับ
Thermage FLX กับ CPT เครื่องไหนอยู่ได้นานกว่ากัน ?
ผลลัพธ์หลังทำ Thermage FLX กับ CPT จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยผิวจะกระชับขึ้นทันที 20% หลังทำและค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นอีก ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับ และดูอ่อนกว่าวัย โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในช่วงเดือนที่ 2-3 ครับ
ในเบื้องต้นหมอจึงแนะนำให้คนไข้ทำปีละ 1 ครั้ง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้เองด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพผิวและไขมันส่วนเกินที่กลับมาสะสม รวมถึงริ้วรอยและความหย่อนคล้อยครับ
กรณีที่ต้องการยกกระชับหน้าให้เต่งตึง ลดริ้วรอย เพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัย และได้ผลไวขึ้น ยังมีหัตถการอื่น ๆ เช่น โบท็อก และ ฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้า ซึ่งสามารถทำคู่กับการทำ Thermage ได้ครับ เช่น ทำ Thermage ก่อน แล้วค่อยฉีดโบท็อกหรือฟิลเลอร์ เพื่อแก้ปัญหาหรือเก็บรายละเอียดอีกครั้ง
Thermage FLX กับ CPT เครื่องไหนเจ็บกว่ากัน ?
Thermage FLX รุ่นล่าสุดนี้ จะเจ็บน้อยกว่า Thermage รุ่นเก่า เพราะที่หัวจะมี Integated cooling แบบใหม่ ช่วยปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา ก็จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส burn รวมทั้งมีระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น
ข้อควรรู้ : การทำ Thermage จะรู้สึกเจ็บขณะทำครับ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ เนื่องจากพลังงานจะส่งเข้าไปในทุกชั้นของผิว การทำ Thermage ให้ได้ผลดี จะต้องทนเจ็บได้ระดับหนึ่งครับถึงจะได้ผลดีและคุ้มค่า
ข้อดีของ Thermage FLX
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ใช้เวลาทำไม่นาน ประมาณ 40-90 นาที
- ครอบคลุมทุกชั้นผิวและชั้นไขมัน ทำได้ทั้งหน้าและตัว
- ผิวตึงกระชับทันทีและจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนที่ 2 ขึ้นไป
- เห็นผลยาวนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ การดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
Thermage FLX กับ CPT เหมาะกับใคร ? เลือกรุ่นไหนดี ?
การทำ Thermage หลัก ๆ จะเหมาะกับคนที่ผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวมีริ้วรอยย่นมาก ๆ ขาดคอลลาเจน คนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ ยิ้มแล้วหน้าอูม ๆ มีไขมันสะสมบริเวณใต้คาง หรือที่เรียกกันว่ามีเหนียง ก็จะเหมาะกับการทำ Thermage ครับ
- ลดแก้ม ลดเหนียง หน้าเรียว
- ผิวเนียนขึ้น แน่นกระชับ
- ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- กระตุ้นคอลลาเจน
- ยกกระชับผิว
ส่วนจะเลือกเครื่องไหนดีระหว่าง Thermage FLX กับ CPT หลังจากที่เห็นความเหมือนและความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นกันไปแล้ว ถ้าให้หมอแนะนำก็ต้องเลือกเครื่องที่รุ่นใหม่กว่าครับ เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนเวลาที่มีโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกมา เราก็อยากเปลี่ยนเพราะมีการอัปเดตซอฟแวร์ต่าง ๆ มีลูกเล่นใหม่ ๆ ให้ใช้มากขึ้น เครื่อง Thermage FLX กับ CPT ก็เช่นเดียวกันครับ
ที่ V Square Clinic ใช้เครื่องThermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดของ Thermage ซึ่งปล่อยพลังงานในแต่ละจุดบนใบหน้าได้อย่างที่แม่นยำ โดยมี AccuREP เซ็นเซอร์วัดความร้อนบนผิว เพื่อควบคุมการปล่อยหลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก shot ที่ยิง หัวทิปรุ่นใหม่ กระจายพลังงานดีขึ้นมาก ลงลึกขึ้นกว่าเดิม และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25%
Thermage FLX กับ CPT ราคาแตกต่างกันไหม ?
Thermage FLX กับ CPT จะมีราคาแตกต่างกันครับ ราคาต่อครั้ง Thermage FLX จะแพงกว่า Thermage CPT อย่างน้อย 2 -3 เท่า ถ้าหากราคาถูกเกินไปอาจเป็นเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเครื่องเลียนแบบครับ
ปัจจุบันเราสามารถรู้ได้ว่าคลินิกนั้น ๆ ใช้เครื่อง Thermage FLX หรือ Thermage CPT รวมถึงราคา และยังสามารถเปรียบเทียบราคาของแต่ละคลินิกได้ง่าย ๆ จากบนเว็บไซต์ของคลินิกนั้น ๆ และนำข้อมูลจากบทความนี้ไปดูประกอบได้ครับ
ราคา Thermage ยังขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคนด้วยครับ ถ้าต้องทำหลาย shot ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน shot แต่คลินิกส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่น ช่วยประหยัดงบประมาณได้มากครับ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ Thermage FLX ราคาเท่าไหร่ ? กี่ครั้งถึงเห็นผล ?
Thermage FLX ควรทำกี่ Shot ?
ทำ Thermage FLX แต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ shot ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนครับ คนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ก็จะใช้จำนวน shot ไม่เยอะ แต่ถ้าผิวหย่อนมากหรือต้องทำในพื้นที่ใหญ่ ๆ เช่น ยกกระชับผิวตัว ก็จะต้องใช้จำนวน shot มากขึ้น
แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถคำนวณจำนวน shot ที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม และแก้ปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุดครับ
ราคา Thermage FLX ที่ V Square Clinic
สรุป เครื่องยกกระชับ Thermage FLX กับ CPT
Thermage FLX กับ CPT เป็นเครื่องมือยกกระชับ สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ลดริ้วรอยและสลายไขมันได้อย่างเห็นผล โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกันอยู่หลายจุด
หมอเน้นย้ำเครื่อง Thermage FLX เพราะเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่รวมเอาข้อดีของ Thermage รุ่นที่ผ่านมา นำมาพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งหัวทิปรุ่นใหม่ กระจายพลังงานได้ดีขึ้น ลงลึกขึ้นกว่าเดิม แม่นยำ ตรงจุด และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% ซึ่งทำให้คนไข้ได้รับความสะดวกมากขึ้น และได้ผลลัพธ์ดีขึ้น
นอกจาก Thermage FLX แล้ว ยังมี Ulthera อีกหนึ่งเครื่องมือยกกระชับที่สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ แต่จะแตกต่างกันอย่างไรกับ Thermage สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ Ulthera (อัลเทอร่า) คืออะไร ? ตอบทุกข้อสงสัยที่อยากรู้ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
ก่อนจะใช้เครื่องมือหรือหัตถการไหน แพทย์จะประเมินปัญหาและเลือกวิธีการรักษาที่ตรงจุด เหมาะสมกับงบประมาณของคนไข้ครับ
Reference :
- https://www.thermage.com/
- https://www.researchgate.net/publication/24222802_Clinical_Applications_of_Radiofrequency_Nonsurgical_Skin_Tightening_Thermage
- https://clinicaltrials.gov/ct2/show/NCT03894371
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2922712/