หน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดจากอะไร? รวมวิธีแก้ไข หน้าใสเร่งด่วน

Reading Time: 5 minutes วันที่อัพเดตล่าสุด : 27 November 2024

หน้าหมองคล้ำ

เช็กเฉดสีผิว หน้าหมองคล้ำ 7 วิธีทำให้หน้าใสเร่งด่วน

หน้าหมองคล้ำ สาเหตุเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกร่างกายที่ส่งผลต่อสภาพผิวหน้าให้มีความดำคล้ำไปจากสีผิวเดิมของตนเอง ยิ่งถ้าเป็นคนผิวขาวจะสังเกตเห็นได้ชัดกว่า สร้างความไม่มั่นใจให้เจ้าของใบหน้าครับ

การทำให้หน้าใสขึ้นมีหลายวิธีครับ แต่ก่อนอื่นจำเป็นจะต้องรู้ก่อนว่าหน้าหมองคล้ำ สาเหตุเกิดจากอะไร? วิธีแก้หน้าหมองคล้ำแบบเร่งด่วนมีวิธีไหนบ้าง? พร้อมวิธีป้องกันหน้าหมองคล้ำ ติดตามได้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ หน้าหมองคล้ำ

• หน้าหมองคล้ำ สาเหตุเกิดจากอะไร ?
• เฉดสีผิวที่หมองคลํ้า ไม่สม่ำเสมอ
• แดดกับสีผิวที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ
• วิธีทำให้หน้าใส แก้หน้าหมองคล้ำ
• วิธีแก้หน้าหมองคล้ำแบบเร่งด่วน
  • ฉีดเมโสหน้าใส
  • ฉีดวิตามินผิว
  • ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
  • ร้อยไหม
  • Hifu
  • Ulthera
  • Thermage
• หน้าหมองคล้ำ กินอะไรดี ?
• วิธีการป้องกันหน้าหมองคล้ำ

---

หน้าหมองคล้ำ สาเหตุเกิดจากอะไร ?

1. อายุเพิ่มมากขึ้น ผิวเสื่อมสภาพ

อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวเสื่อมสภาพลงจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน เริ่มผลัดเซลล์ผิวเก่าช้าลง ส่งผลให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ ริ้วรอย ฝ้า ความหย่อนคล้อยมากขึ้นตามไปด้วย เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนในช่วงอายุ 30 ปี ขึ้นไป ดังนั้นจึงควรดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ ครับ เพื่อป้องกันหรือชะลอปัญหาผิวเหล่านี้

2. โดนแดดเป็นประจำ ไม่ทาครีมกันแดด

หนึ่งในสาเหตุสำคัญของผิวหน้าหมองคล้ำจากแดด ทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส เกิดจากการที่ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวจากการได้รับแสงแดดและรังสี UV ที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดผื่นแดง ผิวไหม้ สีผิวไม่สม่ำเสมอได้ครับ

3. อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน

นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ไม่ค่อยได้ออกไปโดนแดดแรง ๆ ที่ไหน แต่ทำไมหน้าหมองคล้ำ เป็นเพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสี UVA ที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับแสงหน้าจอ เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองลงได้ครับ รวมไปถึงแสงจากหน้าจอสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน

4. นอนดึก อดนอน นอนไม่เป็นเวลา 

ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการซ่อมแซมร่างกาย ในช่วงเวลาที่เราหลับสนิท ตั้งแต่ 22.00-02.00 น. ถ้านอนดึก อดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลาในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนทำงาน ก็จะทำให้ผิวไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่ควรจะเป็น หน้าดูโทรม หน้าหมองคล้ำ ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ดูแก่กว่าวัย

5. ดื่มน้ำเปล่าน้อย ไม่รับประทานผัก ผลไม้

ในแต่ละวัน ถ้าดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอ ไม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มะเขือเทศ ฝรั่ง มะละกอ สับปะรด อาจทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น หน้าหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามมา

6. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากเกินไป

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นอกจากเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแล้ว ต้องดูส่วนประกอบด้วยครับ ครีมบำรุงผิวแต่ละยี่ห้อส่วนประกอบต่างกัน อาจทำปฏิกิริยากับสารบางชนิด หรือลดทอนประสิทธิภาพของครีมชนิดอื่น เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก หรือกรดไกลโคลิก จะลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล ไฮโดรควิโนน หรือวิตามินซี 

7. ไม่สครับผิวหน้า หรือผลัดเซลล์ผิว

เซลล์ผิวเก่าที่ตกค้างบนผิว ทำให้หน้าหมองคล้ำ และยังทำให้ผิวดูดซึมครีมบำรุงได้ไม่ดี โดยปกติเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วสามารถหลุดลอกออกไปได้เอง และผิวจะผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 28 วัน แต่ด้วยกระบวนการผลัดผิวที่ช้า การสครับผิวหน้าสัปดาห์ละครั้ง จึงเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป และเปิดทางให้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นครับ 

หรืออาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของ Vitamin C หรือ AHA แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม หากใช้ปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ผิวเกิดรอยไหม้ รอยแดง ผื่นแพ้ หน้าหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียนได้ครับ 

8. อยู่ในสภาพอากาศเย็น หรือห้องแอร์

ในช่วงฤดูหนาว หรือต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ๆ ทำให้ผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย หน้าหมองคล้ำลงได้ครับ เกิดจากการที่ผิวขาดความชุ่มชื้น ควรบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบให้ชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น กลีเซอรีน (Glycerine) โจโจ้บาออยล์ (Jojoba oil) เซราไมด์ (Ceramide) หลีกเลี่ยงครีมที่เป็นกรดผลไม้ และแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งระคายเคืองมากขึ้น

9. เครียดบ่อย เครียดมาก หน้าหมองคล้ำ  

เวลาเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตไขมันออกมามากขึ้น เป็นสาเหตุของการเกิดสิว จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ และยังลดความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น   

10. สูบบุหรี่ ทำลายคอลลาเจนในผิว  

บุหรี่มีสารเคมี อนุมูลอิสระที่นอกจากจะทำร้ายสุขภาพแล้ว ยังทำลายผิวของเราด้วยครับ นิโคติน (Nicotine) จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำลายออกซิเจนในผิว ดูดความชุ่มชื้นไปจากผิว เมื่อผิวขาดออกซิเจนก็จะแลดูไม่สดใส หน้าหมองคล้ำ รูขุมขนไม่กระชับ ผิวแห้งกร้าน ดูแก่กว่าวัย

---

เฉดสีผิวที่หมองคลํ้า ไม่สม่ำเสมอ

ผิวหมองคล้ำเป็นอย่างไร? สามารถเช็กเฉดสีผิวหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอได้ด้วยตัวเองครับ โดยเฉพาะคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไปที่ไม่ค่อยได้ดูแลป้องกัน ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำ อาจทำให้สีผิวเข้มขึ้นจากเฉดเดิม และมีปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา 

• ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สว่างสดใส
• มีฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ
• เมื่อออกแดด จะรู้สึกว่าผิวคล้ำง่ายขึ้นกว่าปกติ
• ผิวแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น
• สีผิวไม่สม่ำเสมอกันในแต่ละจุดของร่างกาย
• ผิวหนังลอกหลุด คันในบริเวณที่ผิวถูกทำลาย
• ผิวมีความไวต่อแสงแดด แสบร้อน หรือเกิดรอยแดงขึ้นที่บริเวณใบหน้าและลำตัว

---

แดดกับสีผิวที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ

หากปล่อยให้ผิวโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้ผิวคล้ำเสีย หน้าหมองคล้ำได้ เพราะในแสงแดดมีตัวการทำลายผิว โดยเฉพาะรังสี UV ชนิดต่าง ๆ แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้   

• UVA ผ่านชั้นผิวได้ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้าจนถึงชั้นหนังแท้ สร้างอนุมูลอิสระทำร้ายผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ขาดความชุ่มชื้น มีริ้วรอยเหี่ยวย่น และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ 
• UVB ลงไปได้ลึกถึงชั้นล่างสุดของผิวหนังชั้นหนังกำพร้า สร้างอนุมูลอิสระทำร้ายผิว ทำให้ผิวอักเสบ เกิดผื่นแดง ผิวไหม้ แห้งลอก แสบร้อน คัน และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้    
• UVC ถูกบล็อกโดยชั้นบรรยากาศของโลก ไม่สามารถซึมผ่านเข้ามาทำอันตรายต่อผิวหนัง

ในชีวิตประจำวัน นอกจากหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด หรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ ไม่ควรละเลยการทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB เพื่อไม่ให้หน้าหมองคล้ำ ผิวคล้ำเสียจากแสงแดดครับ 

---

วิธีทำให้หน้าใส แก้หน้าหมองคล้ำ

1. ทำความสะอาดผิวหน้า

ควรทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง มลภาวะ หรือแม้แต่เครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าให้หลุดออกไป ไม่ให้เกิดการสะสม จนทำให้เกิดสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา เช่น ผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวหน้าไม่เรียบเนียน

2. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เลือก SPF กับ PA ที่เหมาะสม เพื่อปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)

• SPF คือ ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีบี (UVB ค่าตัวเลขที่มาก จะสามารถปกป้องได้นานยิ่งขึ้น 
• PA คือ ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) เครื่องหมายบวก (+) แสดงถึงการป้องกันที่ดียิ่งขึ้น

3. ทาครีมบำรุงผิวหน้า

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA, Vitamin C หรือ Retinoid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าดูสว่างขึ้นครับ

4. พอกหน้าหรือมาสก์หน้า

การพอกหน้าหรือมาสก์หน้า มีทั้งสูตรธรรมชาติ เช่น ใช้น้ำผึ้ง แตงกวา มะเขือเทศ โยเกิร์ต หรือใช้มาสก์แบบสำเร็จรูป มีหลายสูตร เช่น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระชับผิว ลดสิว ลดจุดด่างดำ ปรับผิวหน้าหมองคล้ำให้สว่างใสขึ้นครับ  

5. สครับผิวหน้า  

การสครับผิวหน้าช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำหลุดลอกไป เผยผิวหนังชั้นใหม่ออกมาแทนที่ ทำให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใสขึ้น แต่ไม่ควรสครับ ขัด ถูแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้  

6. เลือกรับประทานอาหาร

ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน เน้นผักใบเขียว ผักที่มีเบต้าแคโรทีน เช่น แครอท ฟักทอง ฯลฯ หรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอปเปิล มะเขือเทศ ก็จะเป็นตัวช่วยในการนำวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ มาฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย ให้กลับมาสุขภาพดี สดใสขึ้นได้

7. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 

การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (8-10 แก้ว หรือ 1,500-2,000 มิลลิลิตร) จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สดใส โทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ จากการที่ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด จะค่อย ๆ ได้รับการฟื้นฟูครับ

8. กินวิตามินอาหารเสริม

การกินวิตามินอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมี อย. สามารถตรวจสอบได้ ที่นิยม คือ วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิต้านทาน ปรับผิวหน้าหมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น 

9. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนภายในร่างกาย และกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ขณะที่เรานอนหลับ ฮอร์โมนภายในร่างกาย เช่น โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) จะหลั่งออกมาฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย กระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ก็เช่นเดียวกัน จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาที่นอนหลับ จะมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนเซลล์เก่าที่ถูกผลัดออกไป ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำดูสดใสขึ้น 

10. เลิกสูบบุหรี่ 

ควันบุหรี่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ทำให้ผิวขาดออกซิเจน และมีสารนิโคตินที่ขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวแห้งและสีผิวเปลี่ยนไป นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังลดประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ และวิตามิน ดังนั้น การเลิกบุหรี่จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าหมองคล้ำได้ครับ

---

วิธีแก้หน้าหมองคล้ำแบบเร่งด่วน

วิธีข้างต้นช่วยให้หน้าใส แก้หน้าหมองคล้ำได้ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลา และการดูแลที่สม่ำเสมอจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ซึ่งถ้าหากคนไข้อยากเห็นผลลัพธ์เร็ว หมอมีวิธีแก้หน้าหมองคล้ำแบบเร่งด่วนด้วยวิธีทางการแพทย์มาแนะนำครับ ทั้งหัตถการและเครื่องมือที่ทันสมัย เห็นผลเร็วและปลอดภัย

ฉีดเมโสหน้าใส  

เมโสหน้าใส คือ ทางลัดในการดูแลผิว เป็นการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่าง ๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก มาทำให้สามารถฉีดเข้าในชั้นผิวได้โดยตรงและออกฤทธิ์ไวขึ้น 

หลังฉีดเมโสหน้าใสจะเห็นผลประมาณ 3 วัน เห็นผลชัดเจนใน 7-14 วัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน และไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง อดนอน ทำงานหนักหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพผิว โดยเมโสหน้าใสมีหลายสูตร นอกจากแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำแล้ว ยังแก้ปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ด้วย  

• สูตรเน้นหน้าขาว แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำจากแดด มลภาวะหรือสารเคมี มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ ที่ทำให้หน้าขาวขึ้น เช่น vitamin ABCE, Transamin, Glutathione
• สูตรเน้นหน้าใส มีส่วนผสมของคอลลาเจน และโคเอนไซม์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวฟูขึ้น กระชับรูขุมขน หน้าสดใส ไม่โทรม
• สูตรลดสิว-แก้ผื่น ช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก แก้ปัญหาผิวแพ้ง่าย เพิ่มคอลลาเจนที่ช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง จึงลดสิวได้ และเมโสยี่ห้อที่มีจุดเด่นด้านนี้ คือ มาเด้ คอลลาเจน

ฉีดวิตามินผิว 

นอกจากผิวหน้า ผิวกายก็สำคัญ การฉีดวิตามินผิวใส ฉีดวิตามินผิวขาว หรือฉีดวิตามินซี ได้รับความนิยมไม่แพ้การฉีดเมโสหน้าใสบำรุงผิวหน้า โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวคล้ำเสีย ต้องการให้ผิวกลับมากระจ่างใส แลดูสุขภาพดีในระยะเวลาที่รวดเร็ว

เดือนแรกหมอแนะนำให้ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวเริ่มดีขึ้น สามารถเติมวิตามินผิว 2-3 ครั้ง/เดือนได้ครับ หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน หากคนไข้เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้น เช่นเดียวกับการฉีดเมโสหน้าใส ฉีดเมโสฝ้า หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรฉีดอย่างสม่ำเสมอ

ที่ V Square Clinicใช้วิตามินผิวที่ประกอบด้วย VitC megadose + vit Bรวม + glutamine + amino + nac รวม 50 cc ช่วยลดการเกิดขึ้นของเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ เมื่อได้รับวิตามินอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ผิวดูขาวมากขึ้นกว่าผิวเดิมแบบสังเกตได้

ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว 

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คือ การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid)  หรือ HA ที่มีขนาดโมโลกุลเล็ก เนื้อบาง เข้าไปใต้ผิวหนัง ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีของฟิลเลอร์ จะทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน สามารถแก้ปัญหาผิวแห้ง หน้าหมองคล้ำ ให้ฉ่ำวาว หน้าเด้ง เปล่งปลั่ง ฟื้นฟูผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี และยังช่วยรักษาคุณภาพผิว (skin quality) ให้ผิวสดใส ดูอ่อนวัยขึ้นด้วยครับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เห็นผลเต็มที่ใน 7-14 วัน คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีด 

นอกจากนี้ยังมีหัตถการและเครื่องมืออื่น ๆ ที่แม้จะไม่ได้แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำโดยตรง แต่สามารถกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เรียบเนียนใสขึ้นได้ 

ร้อยไหม

ร้อยไหม เหมาะกับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape แก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย รวมถึงลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เห็นผลชัดเจน หน้าสวยเข้ารูปใน 1 เดือน ร้อยไหม คืออะไร? เจาะลึกเรื่องต้องรู้ก่อนร้อยไหม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ 

การร้อยไหม ยังสามารถช่วยกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงกระชับ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง ทำให้บางคนเข้าใจและเรียกว่าร้อยไหมหน้าใสครับ

Hifu 

Hifu เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High Intensity Focus Ultrasound) ที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม เหมาะสำหรับคนที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด มีคุณสมบัติเด่น คือช่วยยกกระชับใบหน้า ทำให้ผิวเต่งตึง และยังกระตุ้นการเกิดคอลลาเจน จึงช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ผิวเนียนนุ่มขึ้น หน้าเรียบเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ อายุ 20 กว่า ๆ ก็สามารถทำได้แล้วครับ

หลังทำ Hifu เห็นผลทันทีประมาณ 20% โดยจะรู้สึกหน้ายกกระชับขึ้น หลังจากนั้น 3-4 เดือน จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ ยิ่งทำยิ่งได้ผลลัพธ์ดีขึ้นครับ

ที่ V Square Clinic ใช้เครื่อง Hifu Ultraformer III ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป ปลอดภัยสูง และให้ผลลัพธ์ดี ดาราและ Celebrity หลายท่าน ไว้วางใจให้วีสแควร์ดูแล

New Ulthera SPT 

คนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป มีความกังวลเรื่องความหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัด ลดเหนียง รวมถึงลดริ้วรอยเล็ก ๆ เช่นคิ้วตก หนังตาตก หางตาตก แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าเพราะไม่มีเวลาพักฟื้น หมอแนะนำทำ Ulthera ครับ 

Ulthera SPTยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับ เปล่งปลั่ง รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียนใส ไม่หมองคล้ำได้ จากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก 30% ปลอดภัย คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

Thermage

Thermage คือ เครื่องมือยกกระชับผิว ด้วยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ที่ส่งผ่านความร้อนลงชั้นผิว สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมทั้งสลายไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า ลดแก้ม ลดเหนียง ทำให้ผิวแน่นกระชับ ยืดหยุ่น เปล่งปลั่ง  ริ้วรอยหรือร่องลึกต่าง ๆ จางลง เห็นผลหลังทำ 20% เห็นผลชัดเจนเต็มที่ 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 1-2 ปี 

---

หน้าหมองคล้ำกินอะไรดี ?

การกินส่งผลต่อสุขภาพผิว ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องดื่ม หรือวิตามินเสริมที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เติมอาหารผิว ดังนี้

• มะเขือเทศ มีสารอาหารทั้งวิตามิน ธาตุต่าง ๆ และสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) อย่างไลโคปีนที่จะช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ วิธีการรับประทานสามารถเลือกได้ทั้งการรับประทานแบบปรุงสุก หรือผ่านความร้อน จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซับสารไลโคปีนได้ดีมากขึ้น
• สตรอเบอร์รี มีวิตามินซี วิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเซียม และกรด Ascorbic acid ที่ช่วยบำรุงเม็ดเลือดแดง หากกินเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวขาวใส เรียบเนียน เปล่งปลั่ง และช่วยต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยได้
• มะละกอ ผลไม้วิตามินซีสูง ช่วยทำให้ขับถ่ายได้คล่องไปพร้อม ๆ กับการบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ สารต้านอนุมูลอิสระเมื่อเข้าสู่ร่างกาย
• ปลาแซลมอน มีกรดโอเมก้า 3 ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวเอาไว้ ทำให้ผิวเต่งตึงแลดูสุขภาพดี และยังมีแร่ธาตุซิลีเนียมที่ช่วยป้องกันผิวไม่ให้โดนแสงแดดทำร้ายไปพร้อม ๆ กันด้วย
• เนื้อไก่ เป็นโปรตีนที่มีไขมันและแคลอรีน้อย ย่อยง่าย เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและอยากเสริมอาหารให้ผิว เนื้อไก่จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูอ่อนกว่าวัย
• ไข่ มีกรดอะมิโนที่มาช่วยสร้างคอลลาเจนบนชั้นผิว มีลูทีนมาช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและเต่งตึง อีกทั้งไข่ยังช่วยทำให้ผิวสมดุล ไม่ทำให้หน้ามันหรือแห้งจนเกินไป นอกจากนั้นในไข่แดงยังมีวิตามินเอที่มาช่วยซ่อมแซมและปลอบประโลมผิว
• นมถั่วเหลือง มีสารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) มีประโยชน์ทำให้ริ้วรอยที่มีดูจางลง หน้าขาวกระจ่างใสขึ้น และช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดด 
• ชาเขียว มีสรรพคุณปกป้องผิวจากมลภาวะแสงแดดและช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยด้วยสารที่ชื่อว่า Catechin (คาเทชิน) ซึ่งเป็นอาหารผิวที่ช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้แข็งแรง
• น้ำเปล่า ตัวช่วยในการขับของเสียจากร่างกาย และช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายให้ดีขึ้น เพียงเริ่มต้นดื่มน้ำให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน ส่งผลต่อผิวพรรณที่หยาบกร้าน หน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใสและชุ่มชื้นได้อีกครั้ง
• วิตามิน ในกลุ่มบำรุงผิว เช่น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape seed extract) คอลลาเจน (collagen) โคเอนไซม์คิวเทน (coenzyme q 10) ควรเลือกรับประทานยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมี อย. สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

---

วิธีการป้องกันหน้าหมองคล้ำ

วิธีป้องกันหน้าหมองคล้ำ มี 4 หัวใจหลัก คือ ดูแล บำรุง ปกป้อง และรักษาครับ เริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้า หมั่นทาครีมบำรุงผิวหน้า เติมอาหารผิวด้วยวิตามิน จากอาหารที่รับประทาน อาหารเสริม และหมั่นทาครีมกันแดดปกป้องผิวอย่างสม่ำเสมอ หากสังเกตว่าเฉดสีผิวเริ่มมีความหมองคล้ำ ต้องการการรักษาแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็ว สามารถใช้หัตถการและเครื่องมือที่ทันสมัย ตามที่หมออธิบายไปข้างต้นครับ

---

สรุป 

ปัญหาหน้าหมองคล้ำที่สร้างความมั่นใจ สามารถแก้ไขได้ครับ หากอยากได้วิธีแก้ไขที่ตรงจุด สะดวก ปลอดภัย เห็นผลเร็ว หมอแนะนำวิธีทางการแพทย์ เช่น การฉีดเมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน ฉีดวิตามินผิวขาวใส ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

หากมีปัญหาผิวอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ต้องการปรับรูปหน้าร่วมด้วย สามารถปรึกษาหมอ ส่งรูปหน้ามาให้หมอประเมินทางออนไลน์ในเบื้องต้นได้ฟรีครับ ก่อนนัดคิวเข้ามาที่สาขา

---

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ