e.p.t.q. Filler / Epitique Filler
e.p.t.q. filler เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์เกาหลี ที่มีใช้ในบางคลินิกเสริมความงาม ใครที่หาข้อมูลก่อนฟิลเลอร์ อาจจะเคยได้ยินชื่อฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มาบ้าง ซึ่งด้วยราคาที่ถูกกว่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป ทำให้ได้รับความสนใจ แต่จะเลือกจากราคาอย่างเดียวไม่ได้ครับ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ e.p.t.q. filler แตกต่างกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ทั้งในแง่ความปลอดภัย ผลลัพธ์ และความคุ้มค่าครับ
สารบัญ e.p.t.q filler
e.p.t.q. filler คืออะไร ?
e.p.t.q. filler คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์เกาหลี เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) หรือไฮยาลูรอน ใช้ในการฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ผลิตโดย JETEMA Co.,Ltd. ประเทศเกาหลี เมื่อปี 2020 นำเข้าโดยบริษัท เอสทีมา จำกัด ผ่านการรับรองจากอย.ไทย U.S.FDA และ EDQM ว่ามีความปลอดภัย
กระบวนการทำงานของ e.p.t.q. filler
กระบวนการทำงานของฟิลเลอร์ เมื่อฉีดลงในชั้นผิวหรือใต้ผิวหนังจะช่วยเติมเต็มให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น ทดแทนคอลลาเจนและอีลาสตินที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เป็นร่องลึกและริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย Collagen คืออะไร ? ทำไมถึงสำคัญ อ่านเพิ่มเติมได้คร้บ
e.p.t.q. filler มีสาร HA ความเข้มข้นสูง 24 mg/ml และมีโครงสร้างโมเลกุล HA ในรูปแบบรวงผึ้ง หรือ HIVE ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนืดและยืดหยุ่น
โดยกระบวนการทำงานของ e.p.t.q. filler กระบวนการผลิต รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ ยังได้อธิบายไว้อยู่ในชื่อยี่ห้อ e.p.t.q. ดังนี้
- e : efficiency ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ในปริมาณความเข้มข้น 24mg/ml ในแบบโครงสร้าง HIVE Structure
- p : potential ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP Technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ลดโอกาสการแพ้และผลข้างเคียง
- t : technology ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 2CM Technology (2 Crosslinking Method) เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของโมเลกุล HA ให้แน่นยิ่งขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และ Downing Process ทำให้ฟิลเลอร์อนุภาค เนื้อละเอียด
- q : quality ใช้เกณฑ์ The 9 Essential ควบคุมคุณภาพการผลิต
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler มีกี่รุ่น ?
e.p.t.q. filler มีทั้งหมด 5 รุ่น แต่รุ่นที่ผ่านอย. มี 3 รุ่น คือ
- ฟิลเลอร์ eptq กล่องเขียว (e.p.t.q. S100)
- ฟิลเลอร์ eptq กล่องส้ม (e.p.t.q. S300)
- ฟิลเลอร์ eptq กล่องสีน้ำเงิน ( e.p.t.q. S500)
ฟิลเลอร์ eptq แต่ละสี แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งในด้านลักษณะของเนื้อเจล ความนิ่ม ความแข็ง ความหนัก ความเบา ความยืดหยุ่น การยึดเกาะกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และความเหมาะสมในการเติมเต็มใบหน้าในแต่ละบริเวณ
ข้อดีของฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler ?
e.p.t.q. filler ที่ผ่านอย. ทั้ง 3 รุ่น มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด ฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น เนียนละเอียด ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินปัญหาได้แม่นยำ ตรงจุด เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี และรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และประสบการณ์ของแพทย์
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ฉีดใต้ตาได้ไหม ?
e.p.t.q. Filler สามารถฉีดใต้ตาได้ครับ รุ่นที่นิยม คือ S100 lidocaine (สีเขียว) เหมาะกับการฉีด ร่องใต้ตา ริ้วรอยตื้น ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ก็มีข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น ลักษณะปัญหาใต้ตาของคนไข้ ซึ่งต้องให้แพทย์ประเมินก่อนว่า ลักษณะปัญหานั้น ๆ e.p.t.q. Filler ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียวสามารถแก้ไขได้ตรงจุดหรือไม่ หรือต้องใช้ยี่ห้ออื่นที่มีคุณสมบัติของเนื้อฟิลเลอร์ที่สามารถแก้ไขได้เหมาะสมกว่าเป็นต้น
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler เหมาะกับฉีดตำแหน่งไหน ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์จมูก
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ฉีดฟิลเลอร์คาง
- ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler ต่างกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
ถ้าเปรียบเทียบ e.p.t.q. filler กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ผ่านอย. ทั้งฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรป และฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี นอกจากแหล่งผลิตต่างกัน ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของฟิลเลอร์ออกมาต่างกัน และเหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาที่ต่างกันครับ
ผลิตโดยบริษัท Allergan นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand ใช้ 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ Hylacross Technology ทำให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วฟู มีความยืดหยุ่นสูง และ Vycross Technology มีจุดเด่นเด่นช่วยยกกระชับ ทนต่อการขยับได้ดี หลังฉีดเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน ทุกรุ่นมีส่วนผสมของยาชา เหมาะฉีดใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ ร่องแก้ม
ผลิตโดยบริษัท Galderma นำเข้าโดยบริษัท Galderma Thailand ใช้ 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ NASHA Techology มีจุดเด่นในเรื่องความคงตัว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว คงผลลัพธ์ได้นาน และ OBT Technology ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นได้ดี หลังฉีดสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เหมาะฉีดใต้ตา ร่องแก้ม แก้มส้ม คาง ขมับ ปาก จมูก
ผลิตโดยบริษัท Merz นำเข้าโดยบริษัท Merz Healthcare (Thailand) ใช้เทคโนโลยี CPM Technology ในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์เด่นในเรื่องความยืดหยุ่น คงตัว และปั้นทรงสวย เหมาะฉีดใต้ตา ร่องแก้ม คาง
ผลิตโดยบริษัท Relife Company เป็นบริษัทในเครือ A.Menarini อิตาลี นำเข้าโดยบริษัท A.Menarini Thailand ใช้เทคโนโลยี XTR Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ในการผลิต ทำให้ HA สานกันเป็นร่างแห สามารถยกพยุงและปรับรูปหน้าได้ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะฉีดใต้ตา เติมแก้มส้ม ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก กรอบหน้า คาง
ผลิตโดยบริษัท Teoxane Laboratories นำเข้าโดยบริษัทคอสม่า เมดิคอล จำกัด เป็นบริษัทในเครือ BJC ใช้เทคโนโลยี PNT (Preserved Network Technology ในการผลิต ทำให้ได้ HA ที่มีความยืดหยุ่นสูง (Stretch&Strength) ปรับเข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้อย่างดี ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผาก ปาก
- ฟิลเลอร์ Revanesse (แคนาดา)
ผลิตโดยบริษัท Prollenium Medical Technologies นำเข้าโดยบริษัท Cosmed Pharma ใช้เทคโนโลยี Thixofix Technology ในการผลิต ที่มีจุดเด่นในการเชื่อมโมเลกุล HA ทำให้ฟิลเลอร์ Revanesse มีความยืดหยุ่นและอยู่ได้นาน มักใช้ในการเติมขมับ แก้มตอบ คาง และยกหน้า
ผลิตโดยบริษัท Medytox นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ใช้เทคโนโลยี SHAPE Technology ที่ใช้การสร้าง Crosslink ในฟิลเลอร์ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน นิยมฉีดร่องแก้ม ขมับ คาง
- ฟิลเลอร์ Flore (เกาหลี)
ผลิตโดยบริษัท BNC KOREA Co, Ltd นำเข้าโดยบริษัท บอน-ชอง จำกัด ใช้เทคโนโลยี HCCL (Highly Completed Cross-Linking Technology) และ Particle Plastic Process ในการผลิต ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีขนาดอนุภาคเท่า ๆ กัน ฉีดง่าย ปั้นทรงง่าย ไม่เป็นก้อน เรียบเนียนไปกับผิว ได้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน เหมาะฉีดขมับ คาง และปรับสภาพผิว
- ฟิลเลอร์ Yvoire (เกาหลี)
ผลิตโดยบริษัท LG Chem นำเข้าโดยบริษัท LG Chem Thailand ใช้เทคโนโลยี HICE Technology ในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัว ยึดเกาะแน่น ไม่ไหลย้อย เหมาะกับเติมเต็มในชั้นลึก เช่น ขมับ ร่องแก้ม คาง
- e.p.t.q. filler (เกาหลี)
ผลิตโดยบริษัท JETEMA Co.,Ltd. นำเข้าโดยบริษัท บริษัท เอสทีมา จำกัด ใช้ 3 เทคโนโลยีในการผลิต คือ ZEEP Technology, 2CM Technology และ Downing Process ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก หน้าผาก ขมับ คาง
ข้อควรรู้ : แต่ละคลินิกอาจใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันได้ครับ V Square Clinic เลือกใช้ Juvederm / Restylane / Belotero เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลกที่ได้คุณภาพ มีรุ่นแยกย่อยให้แพทย์เลือกใช้ ตามความถนัดและเทคนิคที่ใช้ได้หลากหลายกว่ายี่ห้ออื่น ๆ สามารถแก้ปัญหาของคนไข้ได้แม่นยำตรงจุดครับ
e.p.t.q. filler vs neuramis filler ต่างกันอย่างไร ?
สำหรับในประเทศไทย ฟิลเลอร์เกาหลีที่ค่อนข้างได้รับความสนใจ คือ e.p.t.q filler และ Neuramis filler ครับ เนื่องจากมีหลาย ๆ คลินิกออกโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ 2 ยี่ห้อนี้ในราคาประหยัดเพื่อดึงดูดลูกค้า และเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการ
แม้จะเป็นฟิลเลอร์เกาหลีเหมือนกัน และมีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid (HA) แบบเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ครับ ทั้งในเรื่องของ
- เทคโนโลยีการผลิต
ฟิลเลอร์ e.p.t.q จะใช้เทคโนโลยี ZEEP (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ส่วน ฟิลเลอร์ Neuramis ใช้เทคโนโลยี HEMA Cross-linking Technology
- คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ e.p.t.q เนื้อฟิลเลอร์จะมีความนุ่ม ละมุน นิยมใช้สำหรับเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วน ฟิลเลอร์Neuramis เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นกว่าครบ และมีหลายสูตรให้เลือก จึงสามารถใช้ได้ทั้งริ้วรอยตื้นและลึก
ส่วนจะเลือกใช้ยี่ห้อไหน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกชนิดที่เหมาะสมกับสภาพผิว ตำแหน่งที่ฉีดและความต้องการของแต่ละบุคคลครับ
e.p.t.q. ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาของ e.p.t.q. filler จะแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาลและปริมาณที่ใช้ โดยทั่วไปมีราคาประมาณ 6,000-12,000 บาท ต่อปริมาณ 1 cc (1 หลอด) อย่างไรก็ตาม ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่ คลินิกที่ให้บริการ โปรโมชันในช่วงเวลานั้น ๆ รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีดครับ
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler อยู่ได้นานไหม ?
e.p.t.q filler อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน สั้นกว่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์
- ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด
- งดออกกำลังกายหนัก 48 ชม.แรก
- งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก 1 เดือน
- งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติที่ควรรู้ เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler อันตรายไหม ?
e.p.t.q. filler ไม่อันตรายครับ เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.ไทย ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย ก่อนฉีดคนไข้สามารถตรวจสอบในเบื้องต้นได้ว่าฟิลเลอร์ e.p.t.q. ที่จะฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ ด้วยการสแกน QR CODE หน้ากล่อง ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นของแท้ ถ้าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน หมอจะแกะกล่องใหม่ต่อหน้าคนไข้ ให้กล่องและหลอดกลับบ้าน เพื่อเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าได้ด้วยครับ
มีข้อควรระวัง คือ ไม่ควรฉีด e.p.t.q. Filler กับหมอกระเป๋า (แอบอ้างว่าเป็นหมอ ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม) หรือเห็นแก่ราคาถูกเป็นที่ตั้ง เพราะถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่ถ้าไม่รู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่สวยงาม ไม่เป็นธรรมชาติ หรือในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น ถ้าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ใบหน้าผิดรูป
e.p.t.q. filler ปลอม แท้ ดูอย่างไร ?
การจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็น e.p.t.q filler หรือฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ราคาไม่ใช่ปัจจัยแรกที่นำมาพิจารณา ไม่ควรหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อ เห็นแก่ราคาถูก ที่สำคัญควรตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนทุกครั้ง e.p.t.q. filler ของเท้ ของปลอม คนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น โดยมีจุดสังเกต ดังนี้
- มี QR CODE ที่ติดอยู่ด้านหน้ากล่อง
- สีโลโก้ e.p.t.q. แต่ละรุ่นมีสีต่างกัน (S500 สีน้ำเงิน, S300 สีส้ม, S100 สีเขียว)
- มีโลโก้บริษัท เอสทีมา จำกัด ด้านข้างกล่อง
- มีเลขทะเบียนอย. ด้านหลังกล่อง
- มีเอกสารกำกับภาษาไทย
สรุป ฉีด e.p.t.q. filler ดีไหม ? เช็กก่อนฉีด!
e.p.t.q. filler เป็นฟิลเลอร์เกาหลี มี 3 รุ่นที่ผ่านอย. สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เช่น ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม ปาก คาง ด้วยราคาที่ถูกกว่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปกว่าครึ่ง
จากการสำรวจ e.p.t.q. filler ราคาเท่าไหร่ ? ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 .-/1 CC ด้วยระยะเวลาอยู่ได้นานสั้นกว่า และมีรุ่นฟิลเลอร์ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาของคนไข้ได้ไม่หลากหลายนัก ความนิยมจึงไม่แพร่หลายเท่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัด อยากได้ความคุ้มค่าครับ
ถ้าคนไข้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ก่อนอื่นควรให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนครับ คนไข้แต่ละรายปัญหาต่างกัน หมอจะให้คำแนะนำ เลือกวิธีการรักษาที่ตรงจุด และเหมาะสมกับงบประมาณของคนไข้ครับ ในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง ไม่จำเป็นต้องเติมทีเดียวปริมาณมาก ๆ สามารถทยอยเติมได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
อ้างอิง :
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ