exosome
Exosome (เอ็กโซโซม) คืออะไร ? เหมาะกับใคร ?
exosome
exosome กำลังได้รับการพูดถึงในวงการความงาม ในด้านการนำมาใช้ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว (Skin Rejuvenation) แก้ไขหลายปัญหาผิว เช่น ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ฯลฯ โดยมีงานวิจัยทางการแพทย์รับรองถึงประสิทธิภาพ ที่สามารถกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์ได้ครับ
สารบัญ exosome
exosome คืออะไร ?
exosome (เอ็กโซโซม) คือ สารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด โดยมีตัวที่สำคัญต่อผิว เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ มากมาย ที่ถูกปล่อยออกมาจากสเต็มเซลล์ (Stem cell) ในรูป exosome บริสุทธิ์ ที่มีขนาดอนุภาคเล็ก ลักษณะเป็นถุงทรงกลมขนาดเพียง 30-100 นาโนเมตร เล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1/1,000 เท่า
เอ็กโซโซมมีการนำมาใช้ในวงการความงาม ที่ได้รับความสนใจ คือ ASCEplus SRLV Exosome ด้วยอนุภาคที่มีขนาดเล็กของ exosome ที่เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ทำให้สามารถเข้าถึงเซลล์ต่าง ๆ และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ได้ดี ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก
exosome เป็นของประเทศอะไร ?
ASCEplus exosome เป็นของประเทศเกาหลี สกัดจาก Lab ExoCoBio Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเวชสำอาง/ชีวเวชภัณฑ์แห่งแรกที่มีการวิจัยและพัฒนา Exosomes (EXOsome COsmeceuticals & BIOpharmaceuticals) จดสิทธิบัตรนวัตกรรมระดับโลก เทคโนโลยี ExoSCRT ทำให้สารมีโมเลกุลที่เล็ก ซึมเข้าผิวได้ไว มีประสิทธิภาพสูง นำเข้าอย่างเป็นทางการโดยเอซเธติค บาย แอมเพ็ค (Aesthetics by Ampex) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามและการแพทย์ในประเทศไทย
ปัจจุบัน exsosome มีหลายยี่ห้อ สำหรับ Exosome ASCE+ (แอสเซ่) สกัดมาจากสเต็มเซลล์ของดอกกุหลาบ (Rose Stem Cell Exosome) สามารถกระตุ้นคอลลาเจน ลดฝ้ากระ ลดเมลานินเม็ดสี และลดการอักเสบ โดยมีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ไขมัน (Lipids) ไมโครอาร์เอ็นเอ (miRNA) โปรตีน และโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) ผ่านการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ทั้งขนาดโมเลกุล ส่วนประกอบ ความบริสุทธิ์ และการทดสอบกับเซลล์ผิว exosome รีวิว ให้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
ส่วนประกอบของ exosome
exosome ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุล 1,000 ชนิด ที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว ยกตัวอย่างสารสำคัญ เช่น
โกรทแฟคเตอร์ (growth factor) โปรตีนที่ช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ และซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ตัวที่สำคัญ เช่น
- epidermal growth factor (EGF) ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้าง collagen, elastin, hyaluronic acid ในชั้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว (skin elasticity)
- fibroblast growth factors กระตุ้น Superoxide Dismutase (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ต้านแก่
เปปไทด์ (peptides) ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมการเพิ่มจำนวนเซลล์ผิวหนังและเสริมการทำงานของเซลล์ผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีกลูตาไธโอน (glutathione) ซึ่งเป็นหนึ่งในเปปไทด์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดจุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ ใบหน้าโทรมไม่สดใส และลดริ้วรอย
กรดอะมิโน (amino acids) เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระบวนการสร้างเซลล์ของผิวหนัง ทำให้ผิวดูเต่งตึง อวบอิ่ม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
โคเอนไซม์ (coenzymes) กระตุ้นการทำงานของเซลล์ในร่างกาย และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังจากแสงแดดและลดการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
hyaluronic acid (HA) ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ เสริมเกราะป้องกันผิว (skin barrier) และยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ยืดหยุ่น เต่งตึง และเรียบเนียน
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ exosome
มีงานวิจัยจากต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับ exosome ในเรื่องผิวพรรณ (exosome skin treatment) หมอสรุป ดังนี้
- Skin Rejuvenation ฟื้นฟูผิวอ่อนเยาว์ กระชับรูขุมขน
- Acne Scar Revision รักษาแผลเป็นหลุมสิว ลดสิว ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว
- Chronic Inflammation / Hypersensitivity ลดการอักเสบของผิว ลดผื่นแพ้
- Wound healing ช่วยสมานแผล ลดรอยแผลเป็น
- Pigmentation Regulation ลดเม็ดสี รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- Atopic Dermatitis รักษาอาการคัน ผิวหนังอักเสบ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
- Anti-aging ช่วยชะลอวัย กระชับผิว ลดริ้วรอย
นอกจากนี้ยังมีการใช้ exosome therapy ในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ด้วย ASCEplus HRLV Exosome ช่วยเร่งการเติบโตของเส้นผม (Hair Growth) แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยไม่ต้องผ่าตัดปลูกผม รวมถึงมีการวิจัย exosome and cancer บ่งชี้ทางชีวภาพเฉพาะที่สามารถใช้เพื่อวินิจฉัยการปรากฏตัวของมะเร็งหรือติดตามการลุกลามของโรค เนื่องจาก exosome แยกได้จากเลือด (exosome isolation from blood) ปัสสาวะ น้ำลาย ของเหลวต่าง ๆ ในร่างกาย จึงสามารถนำไปวิเคราะห์สุขภาพของแต่ละบุคคลได้
ในด้านการรักษาหลุมสิว งานวิจัยจาก Lab ที่ประเทศเกาหลี พบว่าการใช้ exsosome ร่วมกับการทำเลเซอร์ ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น ใช้ได้กับหลุมสิวทุกประเภท ทั้ง Ice pick scar, Box scar, Rolling scar แต่ที่ชัดเจนที่สุด คือ หลุมสิวแบบ Rolling scar (หลุมสิวระดับทั่วไป)
อ่านบทความเพิ่มเติม : รักษาสิว ทำอย่างไร ? รู้สาเหตุการเกิดสิว แก้ไขสิวอย่างตรงจุด
ทำ exosome จุดไหนได้บ้าง ?
exosome ทำจุดไหนได้บ้าง
Exosome สามารถทำได้ทั่วใบหน้า หรือทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาผิวหน้า เช่น
- ใต้ตา ลดใต้ตาคล้ำ ให้ดูสว่าง สดใส
- หน้าผาก ลดริ้วรอยหน้าผาก
- ร่องแก้ม เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวบริเวณร่องแก้มกระชับขึ้น
- แก้ม ลดการแพ้ จุดด่างดำ และการอักเสบของผิว
- ลำคอ ลดริ้วรอยบริเวณลำคอ
- กรอบหน้า กระตุ้นคอลลาเจน กรอบหน้ากระชับขึ้น
ทำ exosome ดีไหม ?
หากต้องการเน้นงานผิว ปัจจุบันมีหลายวิธี สำหรับการทำ exosome จะเป็นการบรรจุ Growth Factor ที่ดีที่สุดใส่ในถุงที่เหมือนเยื่อหุ้มเซลล์ จึงสามารถนำเข้าเซลล์ได้ 100% เต็ม ๆ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการดูดซึม ดังนั้นจึงสามารถกระตุ้นการซ่อมแซมผิวชั้นบน ให้เกิดเป็นผิวเนียนใสได้ดีที่สุดในปัจจุบันครับ
exosome มีกี่ยี่ห้อ ?
Exosome ที่เข้ามาทำตลาดในไทย มีหลายยี่ห้อให้แพทย์เลือกใช้ ที่ได้รับความนิยม เช่น ASCE Plus, Exocode, Exoxe, P198 ExoHealer, Bnv exo
แต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันที่เทคโนโลยีการผลิต แหล่งที่มาของสเต็มเซลล์ ส่วนประกอบหลัก ขนาดอนุภาค ปริมาณความเข้มข้น การออกฤทธิ์ และการนำมาใช้แก้ปัญหาแตกต่างกัน เอ็กโซโซม ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? ที่ V Square Clinic เลือกใช้ยี่ห้อ ASCE Plus ซึ่งมีการควบคุมทั้ง Standard และคุณภาพ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย
กระบวนการทำงานของ exosome
ตามที่หมออธิบายไปข้างต้น exosome ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารกับเซลล์อื่น ๆ เหมือนกับการส่งข้อความบอกเซลล์อื่น ๆ ให้รับรู้ โดยจะเคลื่อนที่ไปมาระหว่างเซลล์ผิวหนังที่เกี่ยวข้อง
สารชีวโมเลกุลที่ถูกส่งผ่าน exosome จะช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานในเซลล์ผิวหนัง เช่น การเผาผลาญในร่างกาย การสร้างไฟโบรบลาสต์ที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน และการต้านอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ โดยจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์
นอกจากนี้ exosome ยังมีผลในการส่งส่วนประกอบของยาหรือสารที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคไปยังเซลล์ เพื่อช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมการทำงานของเนื้อเยื่อ เช่น การส่งเสริมการเพิ่มจำนวนเซลล์และการรักษาบาดแผลอย่างมีประสิทธิภาพ
exosome ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ?
- ลดริ้วรอย ผิวตึงกระชับ ยืดหยุ่น หน้าเด็ก ดูอ่อนเยาว์ และป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่
- ยับยั้งการเกิดเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง
- ทำให้หน้าใส ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู ฉ่ำเด้ง ดูสุขภาพดี
- ปรับผิวเรียบเนียน ลดรอยแผลเป็น ลดรอยสิว และรักษาหลุมสิวตื้นขึ้น
- กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ฟื้นฟูผิวแข็งแรงจากภายใน รักษาสิว ลดผิวอักเสบ ผิวแพ้ง่าย
การทำ exosome เหมาะกับใคร ?
สภาพผิวที่เหมาะกับทำ exosome
- ผู้ที่มีริ้วรอย เช่น ริ้วรอยตีนกา หน้าผาก ร่องแก้ม
- ผู้ที่มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง บนใบหน้า
- ผู้ที่เป็นสิวบนใบหน้า เช่น สิวอักเสบ สิวที่แก้ม สิวที่หน้าผาก สิวที่คาง
- มีหลุมสิวตื้น ๆ รอยสิว รอยแผลเป็น
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ ใบหน้าโทรมไม่สดใส
การทำ exosome ไม่เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่เป็นมะเร็ง
- ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้
- ผู้ที่รับประทานยากดภูมิ
- ผู้ที่เป็นโรค Autoimmune (แพ้ภูมิตนเอง)
exosome กับ rejuran ต่างกันอย่างไร ?
ถ้าพูดถึงงานผิวก่อนหน้านี้มี rejuran ที่ถือเป็นตัวดังเรื่องงานผิว มาจากประเทศเกาหลีเช่นเดียวกัน ใช้สำหรับฉีดบำรุงผิวหน้าช่วยให้ผิวฉ่ำวาว ผิวกระจก (glass skin) บำรุงผิวแข็งแรงเร่งด่วน หมอเคยเขียนอธิบายไว้ในบทความก่อนหน้า ฉีดรีจูรัน คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? กี่วันเห็นผล ? สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
สำหรับคนที่อยากบำรุงและฟื้นฟูผิว ใช้ exosome กับ rejuran ต่างกันอย่างไร ? หมอเปรียบเทียบทั้งสองหัตถการ exosome vs rejuran มาให้ดูกัน ทั้งในแง่ของสารประกอบหลักที่ใช้ จุดเด่น เหมาะกับใคร ระยะเวลาเห็นผล และระยะเวลาคงผลลัพธ์ครับ
| หัตถการ | exosome | rejuran |
|---|---|---|
| สารประกอบหลัก | สารชีวโมเลกุลที่ถูกปล่อยออกมาจาก Stemcell เช่น growth factor, peptides, amino acids, coenzymes, hyaluronic acid | Polynucleotide หรือ PN บริสุทธิ์ เข้มข้น 2% สกัดจาก DNA Salmon |
| จุดเด่น | Skin Rejuvenation แก้ปัญหาริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ | ฟื้นฟูผิวอ่อนเยาว์ ปรับสภาพผิวใส กระชับรูขุมขน |
| เหมาะกับ | ผู้ที่มีริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ สิว หลุมสิว รอยแผลเป็น รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวแห้ง หน้าโทรม | ผู้ที่มีผิวหน้าโทรม ไม่สดใส มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิวตื้น ๆ |
| ระยะเวลาเห็นผล | เห็นผลใน 3 วัน แนะนำให้ทำ 3-5 ครั้ง ครั้งที่ 1-3 ห่างกัน 2 สัปดาห์ ครั้งที่ 4 ห่างกัน 1 เดือน และครั้งที่ 5 ห่างกัน 1 ปี | เห็นผลใน 3-5 วัน แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์ |
| ระยะเวลาคงผลลัพธ์ | ทำ 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 เดือน ทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี | ฉีด 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 เดือน ฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง อยู่ได้นาน 6 เดือน |
exosome กับหัตถการอื่น ๆ
นอกจาก exosome กับ rejuran ในคลินิกความงามยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนี้
เมโสหน้าใส เป็นการฉีดวิตามินและสารบำรุง เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง จึงเห็นผลลัพธ์เร็วกว่าการบำรุงแบบทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ช่วยปรับสภาพผิวขาวกระจ่างใส และช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในผิว ลดการอักเสบของผิว ลดผดผื่น ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น โดยเมโสหน้าใส ที่มีจุดเด่นในด้านนี้ คือ มาเด้คอลลาเจน จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วัน เห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ ช่วยทดแทนคอลลาเจน อิลาสติน และไฮยาลูรอนธรรมชาติ ที่ลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ขาดความกระชับ ยืดหยุ่น เต่งตึง ทำให้ดูแก่กว่าวัย ซึ่งถ้าพูดถึงงานผิว มียี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้เกี่ยวกับงานผิวโดยเฉพาะที่หมอแนะนำ
- ฟิลเลอร์ Belotero revive ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) และ Glycerol ที่ช่วยให้ผิวดูดีขึ้นได้ใน 4 มิติ เรียบเนียน อิ่มฟู เด้งกระชับ และชุ่มชื้นฉ่ำวาว ฟิลเลอร์ Belotero revive ฉีดจุดไหน ? เหมาะกับใคร ? อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
- ฟิลเลอร์ Skin booster หรือฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว หมอจะเลือกเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อละเอียด เช่น Restylane Vital light, Juvederm Volite ซึ่งด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีของฟิลเลอร์ สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน แก้ปัญหาผิวแห้ง ให้ฉ่ำวาว หน้าเด้ง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ กระชับรูขุมขน และยังเติมเต็มหลุมสิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวได้ในบางกรณีครับ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเครื่องมือยกกระชับ เช่น Hifu Ultraformer III, Ulthera SPT, Thermage ที่ช่วยยกกระชับผิว ยังสามารถกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยเพิ่มคุณภาพผิว (Skin Quality) ช่วยให้ผิวแน่นกระชับ ริ้วรอยจางลง รูขุมขนเล็กลง ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นครับ
สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นงานผิว หมอจะประเมินปัญหาและสภาพผิวก่อนแนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้ครับ
การเตรียมตัวก่อนทำ exosome
- ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมถึงวิธีการสังเกต exosome ตัวยาแท้
- งดแอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng, Vitamin E
- งดคอร์สเลเซอร์ ดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะทำ exosome
- งดยาผลัดเซลล์ผิวละนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
ขั้นตอนการทำ exosome
- ทำความสะอาดผิวหน้า และแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บขณะทำ
- รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที
- แพทย์นำ exosome เข้าสู่ผิว
- ใช้เวลาในการทำประมาณ 15-30 นาที
- หลังทำอาจมีตุ่มนูน ๆ บริเวณที่ทำ เมื่อตัวยาซึมเข้าผิวจะยุบลงได้เอง
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การดูแลหลังทำ exosome
- หลังทำ exosome อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
- ในบางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ ห้ามนวด คลึง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำ
- ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
- ดื่มน้ำเปล่า 1.5-2 ลิตร/วัน (8-10 แก้ว)
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อย่างน้อยประมาณ 7-14 วัน
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์หรือกลุ่มเลเซอร์ที่ให้พลังงานความร้อนกับผิวโดยประมาณ 7-14 วัน
- งดการเข้าซาวน่า หรือกิจกรรมที่มีความร้อนสูงเกินไป
- งดออกกำลังกายหนัก เพราะอาจไปกระแทกบริเวณใบหน้า
ข้อควรควรระวังการทำ exosome
การทำ exsosome ต้องทำด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และรู้เทคนิคการทำ นอกจากนี้ต้องใช้ตัวยาแท้ 1 กล่องมี 2 ขวด คือ Lypophilized Powder (ขวดสีฟ้า) รูปแบบผง และ Diluent (ขวดสีดำ) รูปแบบน้ำ หมอจะผสมตัวยาทั้ง 2 ขวดเข้าด้วยกัน จะได้ปริมาณ 5 CC ต่อการทำ 1 ครั้ง โดยหมอจะต้องแกะกล่องให้ดูต่อหน้า และกล่องกลับบ้านเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจ
ที่ต้องระวังให้มาก คือ ไม่ควรซื้อเอ็กโซโซมที่ขายทางออนไลน์มาใช้เองเด็ดขาด และไม่ควรทำกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ครับ เพราะการทำจะต้องทำในตำแหน่งที่ถูกต้อง คำนวณปริมาณตัวยาที่ใช้ และรู้เทคนิคการทำ เพื่อป้องกันผลที่ไม่พึงประสงค์
ทำ exosome กี่ cc ?
ทำ Exsosome ยี่ห้อ ASCE Plus ใช้ 5 cc (2 ขวด) ต่อ 1 ครั้ง ทำทั่วหน้ารวมถึงบริเวณลำคอ
exosome ต้องทำบ่อยแค่ไหน ? กี่ครั้ง ?
หมอแนะนำให้ทำต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์จนครบ 3 ครั้ง หลังจากนั้นเว้นช่วง 1 เดือน จึงทำครั้งที่ 4 และเว้นช่วง 1 ปี จึงทำครั้งที่ 5
exosome อยู่ได้นานไหม ?
- ทำ 1 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 เดือน
- ทำ 2-3 ครั้ง อยู่ได้นาน 3-6 เดือน
- ทำ 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี
ทำ exosome กี่วันเห็นผล ?
หลังทำ exsosome สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ใน 3 วัน หากทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวเดิมของคนไข้
ทำ exosome เจ็บไหม ?
ใครที่กลัวเจ็บ ไม่ต้องกังวลครับ ก่อนทำ exosome จะมีการแปะยาชาให้ก่อนครับ ทำให้ระหว่างทำจะไม่รู้สึกเจ็บ และตัวยาก็ไม่แสบผิว ใช้เวลาการทำไม่นานด้วยครับ
ทำ exosome ใช้เวลานานไหม ?
การทำ exosome มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
สรุป
การทำ exsosome เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาและฟื้นฟูผิว ทั้งในแง่ของการปรับสภาพผิว ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน รูขุมขนเล็กลงรักษาหลุมสิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ให้กลับมาแข็งแรงครับ
สำหรับใครที่มีปัญหาผิว อยากบำรุงและฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ สามารถให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ครับ ที่ V Square Clinic มีบริการปรึกษาฟรีทางออนไลน์ หมอตอบเองครับ
อ้างอิง :
- http://www.exocobio.com/bizdemo87737/eng/index.php
- http://www.asceplus.com/SRLV
- https://www.novusbio.com/research-areas/cell-biology/Exosome-research-tools
- https://medicaljournalssweden.se/actadv/article/view/1834/3865
- https://www.nstda.or.th/nac/2023/seminar/se14/
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส
