ฟิลเลอร์ Neuramis ?
ฟิลเลอร์ Neuramis ถือเป็นหนึ่งในยี่ห้อที่คนไข้ให้ความสนใจ หลายคนอาจสงสัยว่าฟิลเลอร์ Neuramis คืออะไร มีอย.ไหม ? ทำไมถึงราคาถูก อันตรายหรือไม่ ? มีกี่รุ่น เพื่อคลายข้อสงสัยเหล่านี้ หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Neuramis มาฝากครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ Neuramis
ฟิลเลอร์ Neuramis คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ Neuramis (นิวรามิส) เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลิตจากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ประเทศไทย เป็นฟิลเลอร์ที่เริ่มมีคนรู้จักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาและถูกถามถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากราคาถูกเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์แบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม
ฟิลเลอร์ Neuramis สามารถใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มชั้นผิวบริเวณส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าได้หลายจุด เพื่อให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์และข้อควรรู้ต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจครับ หมอแนะนำให้ศึกษาในบทความ ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ? เหมาะสำหรับใคร ? ราคาเท่าไร ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรรู้อะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ Neuramis มีกี่รุ่น อยู่ได้กี่เดือน ?
ปัจจุบันฟิลเลอร์ Neuramis มี 3 รุ่น ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง KFDA จากเกาหลี, U.S.FDA จากสหรัฐอเมริกา EDQM จากยุโรป และ อย.ไทย (อัปเดต กุมภาพันธ์ 2565)
- Neuramis รุ่น Deep เป็นรุ่นแรกที่ผ่านอย.ไทย ถูกนำมาใช้เป็นรุ่นแรก เป็นรุ่นที่ไม่มียาชาผสม เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำมาใช้เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด
- Neuramis รุ่น Deep Lidocaine มีลีกษณะเนื้อฟิลเลอร์คล้าย ๆ รุ่น Deep ครับ คือเนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู แต่แตกต่างกันที่มีส่วนผสมของยาชา 0.3% สามารถช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดได้
- Neuramis รุ่น Volume Lidocaine เนื้อเจลหนืดที่สุดในทุกรุ่นที่มี มีความยืดหยุ่น คงตัวได้ดี สามารถนำมาใช้เติมเต็มปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก และมีส่วนผสมของยาชา
หากพบฟิลเลอร์ Neuramis รุ่นอื่น ๆ แสดงว่าไม่ใช่ฟิลเลอร์ Neuramis ที่ อย.ประเทศไทยรับรอง เป็นฟิลเลอร์หิ้วที่ลักลอบนำมาใช้โดยที่ไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน เก็บรักษาไม่ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อนำใช้จะมีความเสี่ยงสูง ฉีดแล้วอาจเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้
ส่วนฟิลเลอร์ Neuramis อยู่ได้กี่เดือน ? โดยทั่วไปหลังฉีด Neuramis สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 6- 12 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคลด้วย แต่หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว ก็จะช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น
ฟิลเลอร์ Neuramis อันตรายไหม ?
ฟิลเลอร์ Neuramis อันตรายหรือไม่ ? ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่ใช้ครับว่าเป็นของแท้ที่ผ่านอย. หรือไม่ ถ้าเป็นฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่มีการความคุมมาตฐานคุณภาพยา ไม่ผ่านขบวนการจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็ทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพครับ ฉีดแล้วไม่เกิดผล หรืออายุการใช้งานสั่น หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอมสารจำพวกซิลิโคนเหลว ก็จะทำให้เกิดอันตราย ฉีดแล้วไหล หรือเป็นก้อนแข็งได้ และไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติครับ ซึ่งเมื่อต้องการจะนำสารนี้ออก จะต้องผ่าตัดออกเท่านั้น
การฉีดฟิลเลอร์Neuramis อย่างปลอดภัย นอกจากต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาอีกครับ เช่น ฉีดกับใคร? ฉีดที่ไหน? หากฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคที่ถูกต้องและคลินิกได้มาตรฐาน การฉีดฟิลเลอร์ก็มีความปลอดภัยครับ
แต่จากประสบการณ์ที่หมอเคยคุยกับคนไข้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ Neuramis จากคลินิกอื่น ๆ พบว่าก่อนฉีดบางคลินิกไม่ได้แกะกล่องให้ดูต่อหน้า และไม่ได้ให้กล่องกลับบ้าน หรือตรวจเช็คว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ นำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยบางคลินิกอาจให้เหตุผลว่าต้องเก็บบันทึกทำข้อมูลสต็อกของคลินิกเป็นต้น
เพื่อความปลอดภัย และมั่นว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ เป็นฟิลเลอร์ Neuramis ที่นำเข้ามาถูกต้อง ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกที่แกะกล่องให้ดูต่อหน้า หรือให้ตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้เท่านั้นครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือก Filler อย่างไรให้ปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Neuramis เหมาะกับฉีดบริเวณใด ?
ในแต่ละปัญหา และบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้า จะเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีความเหมาะสม โดยแพทย์จะต้องประเมินปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ถึงจะแนะนำยี่ห้อ และรุ่นที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาแต่ละจุดให้ครับ
ฟิลเลอร์ Neuramis – Juvederm – Restylane – Belotero ต่างกันอย่างไร ?
- ฟิลเลอร์ Neuramis : ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ถูกนำมาใช้ในหลาย ๆ คลินิกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จุดเด่นอยู่ที่ ฟิลเลอร์ Neuramis ราคาไม่แพงมากครับ เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทยแบรนด์อื่น ๆ แต่หากพบบางคลินิกมีราคาของฟิลเลอร์ที่ถูกมากเกินไป ก็อาจมีความเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ได้มาตรฐานได้
- ฟิลเลอร์ Juvederm : ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า จุดเด่นคือมี 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross และ Vycross โดย Vycross Tecnology เป็นตัวใหม่ ที่ทำให้สารเติมเต็ม สามารถยกกระชับได้ดี และ Hylacross Tecnology ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี ทำให้ฟิลเลอร์ Juvederm มีให้เลือกหลายรุ่น โดยหมอจะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของจุดที่ฉีด
- ฟิลเลอร์ Restylane : ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก และผ่านการรับรองจาก FDA เริ่มผลิตมาได้ยาวนานที่สุดในโลกและยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจึงได้รับความนิยมสูง มีอยู่ 2 เทคโนโลยีที่โดดเด่นในผลิตขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ ซึ่งทำให้คุณสมบัติของฟิลเลอร์สามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาผิวหน้าของคนไข้ในแต่ละจุด อย่าง NASHA techology และ OBT technology ความสามารถช่วยการยกพยุงผิว และการแก้ไขปัญหารูปหน้า ริ้วรอย ร่องลึกได้เป็นอย่างดี
- ฟิลเลอร์ Belotero : ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นฟิลเลอร์อีกยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยม และถูกพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย อย. สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทยแล้ว ฟิลเลอร์ Belotero ยังขึ้นชื่อในเรื่องคุณสมบัติที่หลากหลาย มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดได้เกือบทุกบริเวณ และยังให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ
ความแตกต่างของเนื้อฟิลเลอร์แต่ละรุ่น สามารถดูเพิ่มเติมได้ในคลิปวีดิโอนี้ครับ
ฟิลเลอร์ Neuramis ต่างจากฟิลเลอร์อเมริกาอย่างไร ?
เนื่องจากฟิลเลอร์นิวรามิสผลิตจากประเทศเกาหลี หลายคนอาจสงสัยว่า ต่างจากฟิลเลอร์ของอเมริกาอย่างไร จากข้อมูลที่หมอกล่าวไว้ข้างต้น ฟิลเลอร์อเมริกา ก็คือฟิลเลอร์ยี่ห้อ juvederm นั่นเองครับ
- ฟิลเลอร์เมริกา หรือ ฟิลเลอร์ juvederm เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพสูง แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับ และถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง เป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองทั้งจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย นำเข้าโดย บริษัท Allergan Thailand ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox Allergan ปัจจุบันมีหลายรุ่นให้เลือก มีขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกัน แพทย์จึงสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีความเป็นธรรมชาติ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ตัวอย่างเช่น
- Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- ฟิลเลอร์เกาหลี หรือ Neuramis
เนื่องจากปัจจุบันมีให้เลือก 3 รุ่น และลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ไม่แตกต่างกันมาก จึงมีข้อจำกัดในการฉีด โดยไม่เหมาะกับนำมาฉีดในบางจุด เพราะอาจทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูแข็งหรือมองเห็นเป็นก้อน เพราะเป็นฟิลเลอร์โมเลกุลใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบาง เช่น บริเวณใต้ตา
ด้านราคาจากการสำรวจพบว่าราคาฟิลเลอร์ Neuramis ราคาถูกกว่าเท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm แต่ขณะเดียวกันอายุการใช้งานก็สั้นกว่าครับ
ฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic เลือกใช้ ?
ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านอย. นำเข้าอย่างถูกต้อง และมีการควบคุมอุณหภูมิตัวยาอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การขนส่งจนมาถึงขั้นตอนการฉีดให้คนไข้ เพื่อคงคุณภาพไว้ให้ได้ 100% โดยเลือกใช้ฟิลเลอร์แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับ ดังนี้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากสวีเดน
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากอเมริกา
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์
โดยทั้ง 3 ยี่ห้อ แต่ละรุ่นก็จะเหมาะกับการใช้ฉีดในจุดต่าง ๆ ของใบหน้าที่แตกต่างกัน เนื่องจากไม่มีฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหน รุ่นไหนที่ดีที่สุด และฉีดได้ทุกจุด หรือทุกสภาพผิวครับ ทำให้มีฟิลเลอร์หลายรุ่น
ซึ่งหากถามว่าควรใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี โดยปกติเมื่อไปพบแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ หมอจะเป็นผู้แนะนำว่าสภาพผิว ปัญหา ความต้องการของแต่ละคน เหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน เพื่อเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมกับเคสมากที่สุดครับ
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ Neuramis
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ Neuramis เหมือนกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ครับ ก่อนฉีดเตรียมตัวอย่างไร และหลังฉีดควรดูแลตัวเองอย่างไร มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง หมอเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ไว้สามารถติดตามอ่านได้ครับ หลังฉีดฟิลเลอร์มีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร ห้ามทำอะไรเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น?
สรุปฉีดฟิลเลอร์ Neuramis ดีไหม ?
ฟิลเลอร์ Neuramis ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนไข้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์แก้ไขปัญหาบนใบหน้า และราคาไม่แพงมากครับ แต่ถ้าหากเปรียบเทียบความคุ้มค่า ฟิลเลอร์ Neuramis มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า ฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปอย่าง Juvederm , Restylane และ Belotero รวมถึงมีรุ่นที่ไม่หลากหลายเท่า
โดยฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปที่ผ่านอย. ข้อดีคือมีให้เลือกหลายรุ่น จึงสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับจุดที่ฉีดและสภาพผิวของแต่ละเคส ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ควรให้แพทย์ช่วยประเมิน เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยครับ
ข้อมูลอ้างอิง
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ