ฉีดเมโสแฟต คือ ? ( Meso fat ) อันตรายไหม ฉีดที่ไหนดี ต่างจากโบท็อกอย่างไร ?

Reading Time: 6 minutes

ฉีดเมโสแฟต ( meso fat )

เมโสแฟตคืออะไร

เมโสแฟต คืออะไร ? อันตรายไหม ต่างจากโบท็อกซ์อย่างไร ?

เมโสแฟต คืออะไร ? จริง แล้ว เมโสแฟตเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดสัดส่วนต่าง บนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ทำหน้าเรียว ฉีดลดแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก ไขมันในบางจุดที่ถึงแม้จะออกกำลังกาย คุมอาหารแล้วก็ยังลดยาก ลดไม่ค่อยลง 

เราสามารถใช้เมโสแฟตเป็นตัวช่วยเร่งลดสัดส่วนให้ไวขึ้นได้ หรือในบางคนที่ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา หรือยกน้ำหนัก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางจุดที่ใหญ่ขึ้นแล้วไม่สวยเราไม่ชอบ ก็สามารถใช้โบท็อกช่วยลดได้ครับ 

ถ้าเป็นไขมันก็จะใช้เมโสแฟต ถ้าเป็นกล้ามเนื้อก็ใช้โบท็อก ในแต่ละจุดก็จะมีวิธีในการเลือกใช้แตกต่างกัน ซึ่งจะอธิบายต่อไปครับ

สารบัญ เมโสแฟต


เมโสแฟต คืออะไร ?

meso fat คือ การฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน เป็นวิธีการลดไขมันและลดเซลลูไลท์เฉพาะจุดแบบไม่ต้องผ่าตัด เพื่อช่วยลดและกระชับสัดส่วนให้ได้รูปตามต้องการ

หลักการทำงานของการฉีดสลายไขมันเมโสแฟต คือการใช้ตัวยาช่วยให้ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง

โดยมีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ คือ

Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์

Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholessterol ในเนื้อเยื่อ

L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)

L-carnitine-ทำให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน-(fat-burn)

เมโสแฟตที่มี L-carnitine จะดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน

  • triglyceride ช่วยเพิ่มการย่อยสลาย triglyceride
  • Tyrosine เพิ่ม fat metabolism ทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลง และถูกขับออก
  • Aesculus hippocastanum (horse chestnut) ลดการบวมน้ำ
  • Juglans regia (Walnut) เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เพิ่มการเผาผลาญ ลดอาการบวมน้ำ
  • Nicotiana tabacum กระตุ้น catecholamine ทำให้เกิด lipolysis

เมโสแฟต ช่วยเรื่องอะไร ?

เมโสแฟต ช่วยในการสลายไขมัน จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดสัดส่วนจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ให้ลดลงเร็วขึ้นจากวิธีปกติ ฉีดลดแก้ม เหนียง ลดขนาดต้นแขน ต้นขา สะโพก และลดไขมันในจุดที่มีการสะสมมาก ๆ

การทำงานของ-Meso-fat

จากภาพ แสดงให้เห็นขั้นตอนการทำงานของเมโสแฟต
หลังฉีดจะช่วยให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย
ทำให้ปริมาณไขมันส่วนเกินลดลงเร็วขึ้น


เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร ?

เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร? เมโสแฟตจะช่วยสลายไขมัน ส่วนโบท็อก เป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งานสักระยะนึง จะฝ่อหดเล็กลงชั่วคราวประมาณ 6-8 เดือน ทำให้เนื้อยุบล ทั้งเมโสแฟต และ โบท็อก สามารถทำให้สัดส่วนของร่างกายบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลงได้จากทั้ง ไขมันและกล้ามเนื้อที่เล็กลง ซึ่งแพทย์ก็จะช่วยประเมินว่าในบริเวณที่เราต้องการจะลด เป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อมากกว่ากัน ทำให้เลือกแก้ไขได้ตรงจุด แต่เราก็สามารถเลือกทำทั้ง 2 อย่างคู่กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไวขึ้นได้

เมโสแฟต อันตรายไหม ที่ อย.ประกาศเตือนว่าอันตรายหมายถึงอะไร ?

เมโสแฟตสูตรที่อันตรายมี 2 ชนิด คือ

  • สเตียรอยด์

ปกติแพทย์ผิวหนังจะใช้ในการฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ ใช้ในปริมาณที่น้อยจะปลอดภัย แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี มักผสมสเตียรอยด์ปริมาณมากในเมโสแฟตที่ไม่ผ่าน อย. เพราะต้นทุนต่ำ เห็นผลไว แต่ เมื่อฉีดหลายๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่ายกาย

สเตียรอยด์

ลักษณะตัวยาสเตียรอยด์ที่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี

สเตียรอยด์ที่ผสมในเมโสแฟตจะมีทั้งแบบสีขาวขุ่นและขาวใส ทางที่ดีควรขอดูยี่ห้อเมโสแฟต ก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ

  • ยาสลายฟิลเลอร์ ชื่อว่า Hyaluronidase

Hyaluronidase ปกติจะใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการฉีดปริมาณมาก ๆ ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมเนื่องจาก ต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้ง จะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนลงเนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลง

อ่านบทความเพิ่มเติม : [เจาะลึก] ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใต้ตา คาง ควรเลือกใช้รุ่นไหน ?

Hyaluronidase

ตัวยา hyaluronidase ที่ไว้ใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์ถูกนำมาใช้แบบผิดวิธี

เมโสแฟตที่นิยมขายตามอินเทอร์เน็ต แท้จริงแล้วคือยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase) ที่นำมาใช้ผิดวิธี

เนื่องจากเมโสแฟตกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งฉีดลดแก้ม ลดเหนียงและวิธีการฉีดเมโสแฟตนั้นไม่ยาก คนไข้บางกลุ่มจึงนิยมฉีดกับหมอกระเป๋าเพราะราคาถูก

หมอกระเป๋าจะไม่สามารถซื้อยาแท้ที่ผ่าน อย. ได้ เพราะมีกฏหมายยาควบคุม ดังนั้นยาที่หมอกระเป๋าใช้จึงมักไม่ปลอดภัย เป็นยาหิ้ว ยาปลอม ที่มีส่วนผสมที่อันตราย และไม่สะอาด จึงทำให้มีการอักเสบติดเชื้อหลายเคสจากตัวยาที่ไม่ปลอดภัยและวิธีการฉีดที่ไม่สะอาด ดังที่ อย. ออกมาเตือนครับ

สำหรับคนที่กำลังมองหาว่าควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ที่คลินิกไหนดี ควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. อย่างถูกต้อง และฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และ ขอดูยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีดทุกครั้ง

เพื่อจะได้มั่นใจว่าส่วนผสมไม่มีอันตราย และสามารถตรวจสอบแหล่งผลิต บริษัทผู้นำเข้าได้ชัดเจน ไม่เสี่ยงต่อยาหิ้วยาปลอมที่อันตรายครับ

เมโสแฟตอันตรายไหม ? ฉีดแล้วหน้าบวมแก้อย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก


เมโสแฟต ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?

บริเวณที่สามารถฉีดเมโสแฟต

เมโสแฟตสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้หลายจุดดังภาพตัวอย่าง

เมโสแฟต สามารถฉีดสลายไขมันได้หลายจุดครับ ที่นิยมคือการฉีดลดไขมันหน้า ฉีดสลายไขมันแก้ม ใต้คาง เหนียง จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น และจุดอื่นๆ ที่สามารถฉีดสลายไขมันได้เช่นกัน ได้แก่ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก

สามารถฉีดเมโสแฟตร่วมกับการฉีดโบท็อกได้ครับ ช่วยลดไขมันและกล้ามเนื้อ เพื่อให้ได้รูปหน้าและรูปร่างที่สวยงาม ดูกระชับมากยิ่งขึ้น


ฉีดสลายไขมันแก้มด้วยเมโสแฟต vs โบท็อกกราม vs ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

ฉีดเมโสแฟต ลดแก้ม

ไขมันบริเวณแก้ม

ลักษณะไขมันบนใบหน้า แก้ม กระพุ้งแก้ม

การฉีดเมโสแฟต จะเป็นการฉีดลดไขมันหน้า ในจุดที่มีหมายเลข 1 ตามรูปและจุดที่ 3 ได้ แต่จะหวังผลได้ไม่แน่นอน เพราะการลดลงและเพิ่มขึ้นของเซลล์ไขมัน ขึ้นกับหลายปัจจัยเช่น การกินของหวาน การออกกำลังกาย การกินมื้อดึกซึ่งจะหวังผลได้ประมาณ 60-70%

ก่อน-หลังเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ก่อน-หลังเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม-หลังทำ

ตัวอย่างรีวิวเมโสแฟต ฉีดสลายไขมันแก้ม

หน้ากลมแก้มเยอะ อยากลดแก้มทำอย่างไร ? วิธีลดแก้ม ลดเหนียง แบบเร่งด่วน

โบท็อกกราม กรณีในเคสที่ต้องการลดแก้ม ถึงแม้จะเป็นตำแหน่งหมายเลข 1 แต่หากมีกล้ามเนื้อกราม (ลองจับแก้มแล้วกัดฟัน,กรามจะเด้ง) หมอก็จะแนะนำให้ทำโบท็อกกราม เนื่องจากโบท็อกหวังผลได้เกือบ 100% และในการทำให้กล้ามเนื้อกรามในจุดที่ 2 ยุบลง ก็จะทำให้เนื้อแก้มในจุดที่ 1 ยุบลงด้วยเพราะ เนื้อแก้มในจุดที่ 1 กับ 2 เบียดกันอยู่ครับ

รีวิวฉีเมโสแฟตลดแก้มควบคู่ฉีดโบท็อก

เคสนี้คนไข้มีปัญหาที่กรามและแก้ม สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวโดยการฉีดเมโสแฟตสลายไขมันแก้ม ควบคู่กับการฉีดโบท็อกลดกราม จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเข้ารูปอย่างเป็นธรรมชาติครับ

การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะเป็นการผ่าตัดเอาไขมัน (buccal fat pad) ที่มีหมายเลข 3 ออก หวังผลได้เกือบ 100% แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง เพราะถ้าประเมินไม่ดี ตัดออกมากเกินไป จะยุบลามไปถึงขมับ และทำให้แก้มตอบและหน้าห้อยได้

การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะไม่สามารถตัดไขมันในส่วนที่ 1 (superficial fat pad) ซึ่งเป็นจุดที่คนไข้ส่วนใหญ่ต้องการลดได้ เพราะเป็นไขมันที่อยู่ตื้นติดกับชั้นผิวหนัง อาจจะใช้การดูดไขมันแทนแต่การดูดไขมันในส่วนที่ 1 ไม่ควรทำเพราะเสี่ยงต่อการโดนเส้นประสาททำให้ปากเบี้ยวได้มาก

ดังนั้นการลดไขมันในบริเวณหมายเลข 1 จึงแนะนำโบท็อกและเมโสแฟตเป็นหลักครับ เนื่องจากปลอดภัยและตรงจุดมากกว่า

อ่านบทความเพิ่มเติม : รีวิว เมโสแฟตแก้ม หลังฉีดแฟตสลายไขมัน ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยเข้ารูป เพิ่มความมั่นใจ


เมโสแฟต vs โบท็อกลิฟ vs hifu vs ดูดไขมันเหนียง

ฉีดเมโสแฟตเหนียง

เหนียงเกิดจากการสะสมของไขมันที่อยู่ใต้คาง และการหย่อนคล้อยของผิวเมื่ออายุมากขึ้นครับ หากไม่ดูแลตัวเอง ขาดการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีไขมันมากๆ จึงทำให้เกิดไขมันสะสมได้ง่าย

เหนียงใต้คาง

หลังการฉีดเมโสแฟตลดเหนียงสามารถลดเซลล์ไขมันลงประมาณ 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรก โดยช่วยลดเหนียงได้บางส่วนครับ แนะนำให้ทำควบคู่กับโบท็อกลิฟ จะทำให้เหนียงยุบลงและกระชับขึ้นด้วย

รีวิวฉีดเมโสแฟตเหนียง

หลังฉีดเมโสแฟต เหนียงมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

โบท็อก-Nefertiti-Lift

ตัวอย่างรีวิวผลของการทำ โบท็อก Nefertiti Lift

Hifu Ultraformer III สามารถลดเหนียงได้ผลดีและเน้นในเรื่องการยกกระชับ Hifu ราคาสูงกว่าการฉีดเมโสแฟต แต่อยู่ได้นานครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : 9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ V Square Clinic

ดูดไขมันเหนียง จะบวมช้ำค่อนข้างมาก เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ และหากมีเลือดออกมากจะเสี่ยงต่อการกดทับหลอดลมได้ หากต้องการทำ แนะนำให้ควรทำใน รพ.เท่านั้นครับ


ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง

ฉีดลดไขมันหน้าท้อง ด้วยเมโสแฟต จะช่วยลดไขมันส่วนเกินและลดสัดส่วนบริเวณหน้าท้อง แต่การฉีดเมโสแฟตต้องทำควบคู่กับการดูแลสุขภาพครับ ทั้งเรื่องของอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้ใหม่

หากต้องการเห็นผลแน่นอนและคงผลลัพธ์ได้นาน แนะนำให้ทำ CoolSculpting ซึ่งเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น เซลล์ไขมันจะตายและลดจำนวนลงแบบถาวรครับ แต่จะมีราคาสูงกว่าเมโสแฟต

อ่านบทความเพิ่มเติม : CoolSculpting สลายไขมัน ไม่ฉีด ไม่ผ่าตัด กำจัดเซลล์ไขมันถาวรด้วยความเย็น

ฉีดเมโสแฟต ต้นแขน ต้นขา

ในการลดต้นแขน ต้นขา ต้องดูว่าจุดที่คนไข้ต้องการลดเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมันครับ สามารถใช้ได้ทั้งโบท็อกและเมโสแฟต

สำหรับต้นแขนหากเป็นไขมันก็แนะนำให้ใช้เมโสแฟตครับ ถ้าเป็นกล้ามเนื้อแนะนำใช้โบท็อกเพื่อลดกล้ามเนื้อ

ในการฉีดโบท็อกลดต้นแขน จะช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วยครับ เพราะช่วยลดความกว้างของบ่า

ส่วนบริเวณต้นขาจะเป็นไขมัน หากมีไขมันสะสมเยอะมากๆ ไม่คุ้มกับการฉีดเมโสแฟตครับ หมอจะแนะนำการดูดไขมัน หรือทำ CoolSculpting (สำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด) ช่วยสลายไขมันบริเวณต้นแขน ต้นขา ทำให้สัดส่วนเล็กลงได้ครับ

ฉีดเมโสแฟตน่อง

สำหรับน่องไม่แนะนำให้ทำเมโสแฟตครับ แนะนำโบท็อกจะเห็นผลชัดเจนกว่า เพราะบริเวณน่องของเคสส่วนมากจะเป็นกล้ามเนื้อครับ มีไขมันน้อยมาก พบในคนที่ชอบปั่นจักรยาน วิ่ง ชอบใส่ส้นสูง และเดินเยอะ สามารถใช้โบท็อกลดน่องได้ครับ

ปกติโบท็อกน่องถ้าจะให้ยุบลงหมด จะใช้ยาเยอะมากครับ ข้างละ 300-400 ยูนิต แต่ร่างกายเรารับได้แค่ 300 ยู ในระยะ 3 เดือนครับ และถ้าฉีดครั้งเดียวเยอะเกินไปจะยืนไม่ได้ครับ แนะนำทยอยฉีดครั้งละ 200 ยู

โดยทางคลินิกจะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยาต่อหน้าจนหมด เอากล่องและขวดกลับบ้านได้ครับ เพื่อความมั่นใจว่าของแท้และได้ยูนิตตามราคาที่จ่ายครับ


เมโสแฟต ข้อดี

  • หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น
  • บวมช้ำน้อย (อาจบวมเป็นปริมาณยาได้ ใน 3 - 4 ชั่วโมงแรก)
  • ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน
  • เห็นผลเร็ว
  • ปลอดภัยสูง
  • ราคาไม่แพง
ข้อดี ของการฉีด Meso fat คือ ช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน ทั้งบริเวณใบหน้าและอวัยวะอื่นๆ ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้น

เมโสแฟต ข้อเสีย

ข้อเสีย ของการฉีด Meso fat คือ ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป

และเมโสแฟตไม่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันมากๆ อาจต้องฉีดประมาณ 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินว่าปริมาณไขมันในจุดนั้นเหมาะกับการฉีดเมโสแฟตหรือไม่

นอกจากนี้ตัวยา Meso fat หลายตัวยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย และยังไม่มีผลวิจัยใดๆ รับรองว่าสารเหล่านั้นจะสามารถสลายไขมันให้ร่างกายได้จริง เพื่อความปลอดภัยควรเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรองจากอย.แล้วเท่านั้นครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี เลือกคลินิกแบบไหนถึงปลอดภัย ! ที่นี่มีคำตอบ


เมโสแฟต vs ดูดไขมัน จุดที่เหมาะกับการทำและข้อควรระวัง

ในจุดที่มีเส้นเลือดเส้นประสาทที่สำคัญเยอะ เช่นใบหน้า ลำคอ ไม่แนะนำให้ดูดไขมันครับ เพราะมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมาก แนะนำให้ทำเมโสแฟตหรือเครื่องมือยกกระชับอื่นๆ จะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า และปลอดภัยกว่าครับ

เส้นเลือดและเส้นประสาทที่สำคัญ

เส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญที่ต้องระมัดระวัง

ในบริเวณแก้มและลำคอมีเส้นเลือดเส้นประสาทที่สำคัญอยู่มาก การทำเมโสแฟตจึงปลอดภัยกว่าการดูดไขมันครับ

แต่ในบริเวณที่มีไขมันปริมาณมากๆ เช่น ต้นขา หน้าท้อง การทำเมโสแฟตจะต้องใช้ยาปริมาณมาก และราคาสูง แนะนำการดูดไขมันจะคุ้มกว่า แต่ก็จะบวมช้ำค่อนข้างเยอะ และต้องพักฟื้นครับ

อาการหลังฉีดเมโสแฟต

หลังฉีดเมโสแฟตสลายไขมันจะมีอาการบวมจากปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งตัวยาจะซึมยุบไปเองประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลครับ ไม่ปวด ไม่อักเสบ อาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติครับ

ข้อปฏิบัติและข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟตแก้ม/เหนียง

  1. หลังทำแฟตแก้มไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
  2. ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
  3. เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
  4. หลังทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  5. หลังจากทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

ฉีดเมโสแฟตลดเหนียง บวมกี่วัน ?

อาการบวมหลังฉีดเมโสแฟตจะยุบลงได้เองในระยะเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง บางเคสที่เคยฉีดแก้มอาจจะบอกว่ารู้สึกหน้าบวมมาก บวมเหมือนอมลูกอมหลายๆ เม็ดพร้อมกัน เป็นเรื่องปกติ ไม่อันตรายและสามารถยุบหายไปได้เอง เนื่องจากทำงานของตัวยา Meso fat จะทำปฏิกิริยาให้ไขมันแตกตัว


เมโสแฟต ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

ฉีดเมโสแฟตในครั้งแรก จะเห็นผลว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มยุบลงภายใน 5-7 วัน ครับ หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ครับ

สามารถกลับมาฉีดเมโสแฟตซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมาก อาจฉีด 4-5 ครั้ง และการฉีดต่อเนื่องจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น


เมโสแฟตอยู่ได้นานกี่เดือน ?

meso fat อยู่ได้นานแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหารด้วยเช่นกันครับ แต่ปกติแล้วจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ถ้าดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน ไม่เพิ่มไขมันให้ตัวเองก็จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น


ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?

ตัวยาเมโสแฟตมีหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยปกติหมอจะประเมินปัญหาและความต้องการของคนไข้ก่อน จากนั้นถึงจะแนะนำยี่ห้อเมโสแฟตที่เหมาะสมให้ เพื่อผลลัพธ์ดีที่สุด


ฉีดเมโสแฟต ราคา

8_Meso-Fat
9_Meso-Fat-Premium
15_แฟตตัว_TH
  • เมโสแฟต สูตร Phytobella
    • 6 CC ราคา 2,000.- (5 ครั้งเหลือเพียง 9,000.-)
    • 12 CC ราคา 3,500.- (5 ครั้งเหลือเพียง 15,000.-)
    • 18 CC ราคา 5,000.- (5 ครั้งเหลือเพียง 20,000.-)
    • เหมาขวด 10 CC ราคา 3,200.-
  • เมโสแฟต สูตรเร่งไว 2 ยี่ห้อ คือ FNC / BABI
    • 6 CC ราคา 2,500.-
  • เมโสแฟต สูตร Babi Neo One
    • 6 CC (5 ครั้งเหลือเพียง 9,900.-)
    • 12 CC ราคา 4,500.- (5 ครั้งเหลือเพียง 18,000.-)
    • 18 CC ราคา 6,500.- (5 ครั้งเหลือเพียง 25,000.-)
    • เหมาขวด 10 CC ราคา 4,000.-
  • เมโสแฟตตัว สูตร Neobella
    • 2 ขวด (16CC) ราคา 5,000.-
    • 4 ขวด (32CC) ราคา 9,000.-
    • 10 ขวด (80CC) ราคา 20,000.-
    • 12 ขวด (96CC) ราคา 24,000.-
  • เมโสแฟตตัว สูตร FNC / BABI
    • 30 CC (3 ขวด) ราคา 9,900 .-
    • 60 CC (6 ขวด) ราคา 18,000.-
    • 90 CC (9 ขวด) ราคา 25,000.-

Q&A : ฉีดเมโสแฟต

Q : ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?

A :

การฉีดเมโสแฟตอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนฉีดยาหรือตอนกำลังเดินยาเท่านั้นครับ ซึ่งก็จะมีการประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมากๆ สำหรับคนที่กลัวว่าการฉีดเมโสแฟตจะเจ็บก็ไม่ต้องกังวลครับ

Q : เมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?

A :

หลังจากฉีดแฟต สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ไขมันเริ่มสลายตัว 10-15% และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ทั้งนี้หลังฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผลนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย หากอยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ประเมินใบหน้าของแต่ละบุคคลครับ

Q : เมโสแฟต 1 ขวดกี่ CC ?

A :

เมโสแฟต 1 ขวด มี 10 CC ครับ ซึ่งปริมาณที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง หมอจะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละคน

Q : ฉีดสลายไขมันหน้าท้องเจ็บไหม ?

A :

จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา การดูดไขมันหน้าท้องเจ็บกว่ามากครับ ระหว่างฉีดเมโสแฟต จะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บให้

Q : ซื้อเมโสแฟต ฉีดเองได้ไหม ?

A :

ไม่แนะนำให้ซื้อตัวยาเมโสแฟตมาฉีดเอง เพราะตัวยาที่ขายตามอินเทอร์เน็ต อาจเป็นเมโสแฟตปลอม ปกติแล้วตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตฐาน ผ่าน อย. จะมีเฉพาะแพทย์เท่านั้นที่สามารถสั่งซื้อได้ครับ

นอกจากนี้การฉีดเมโสแฟต ผู้ฉีดต้องมีความรู้ด้านกายวิภาคโครงสร้างใบหน้า และร่างกาย ความตื้นลึกก็มีส่วนสำคัญในการฉีดเมโสแฟต ซึ่งเป็นเรื่องของเทคนิคเฉพาะตัวและความละเอียดอ่อนในการวิเคราะห์ครับ เพราะคนไข้แต่ละคนมีกล้ามเนื้อและไขมันมากน้อยไม่เหมือนกัน

Q : ฉีดเมโสแฟต แล้วเป็นก้อน ?

A :

ถ้าฉีดด้วยเมโสแฟตคุณภาพสูง ใช้เทคนิคกระจายตัวยาที่ถูกต้อง หลังฉีดจะไม่เป็นก้อนครับ ตัวยาถูกดูดซึมได้เอง

Q : คนท้องฉีดเมโสแฟตได้ไหม ?

A :

ไม่แนะนำให้ฉีดครับ ควรรอคลอดก่อนครับ


สรุป เมโสแฟตดีไหม ?

เมโสแฟตเป็นวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ช่วยสลายไขมันได้รวดเร็ว แต่การจะฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ต้องใช้เมโสแฟตของแท้ ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีการคำนวณปริมาณตัวยาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคสครับ

สำหรับใครที่ต้องการฉีดเมโสแฟต หมออยากให้คำนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

Collagen Biostimulator คืออะไร ? มีกี่ประเภท กี่ยี่ห้อ ? ช่วยเรื่องอะไร ? เหมาะกับใคร ?

Reading Time: 6 minutes- Collagen Biostimulator คืออะไร ? - ประเภทของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator ทำงานอย่างไร ? - ประโยชน์ของ Collagen Biostimulator - Collagen Biostimulator มีอะไรบ้าง ยี่ห้อไหนดี ?

December 23, 2024 อ่านต่อ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? อยากคงผลลัพธ์ได้นาน ควร...

Reading Time: 2 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน เช็ก! - รู้สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายเร็ว - ฉีดฟิลเลอร์ปากทำอย่างไรให้อยู่ได้นานขึ้น - ฉีดฟิลเลอร์ปากหลาย CC อยู่ได้นานขึ้นไหม ? - สรุปฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ? ฉีดแบบไหนคุ้ม

คนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ทำไมไม่ควรฉีด ระหว่างตั้งครรภ์ดูแ...

Reading Time: 2 minutes- คนท้องฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? - มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ ? - การดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ - สรุปคนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? ดูแลอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที...

Reading Time: 3 minutes- ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ? - การดูแลช่องปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก - คำถามที่พบบ่อย - สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ...

Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย

ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า