วิธีลดพุง ลดหน้าท้อง
พุง หรือ ไขมันหน้าท้อง ถือเป็นส่วนเกินของร่างกาย ที่ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจในรูปร่างและบุคลิกภาพ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นคือ ยิ่งมีพุงมากเท่าไหร่ โอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นครับ หลายคนจึงพยายามหาวิธีลดพุง ลดหน้าท้อง โดยการลองผิดลองถูก ทั้งอดอาหาร รับประทานยาลดน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างหนัก แต่พุงก็ไม่ยุบเสียที
จริง ๆ พุงหรือไขมันหน้าท้องสามารถจัดการได้ครับ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง แล้วถึงเลือกวิธีแก้ไขให้เหมาะสมกับตัวเอง หมอมี 12 วิธีลดพุงที่ได้รับความสนใจจากคนไข้ มาแนะนำสำหรับคนที่อยากลดพุง ลดหน้าท้อง มีทั้งวิธีธรรมชาติ และวิธีเร่งด่วน วิธีไหนปลอดภัย คุ้มค่า และเหมาะสมกับคนไข้บ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ วิธีลดพุง-ลดหน้าท้อง
ไขมันหน้าท้องมีกี่แบบ ?
ไขมันหน้าท้องจะมีทั้งหมด 3 ชั้นครับ แบ่งเป็น
- ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง
SUBCUTANEOUS FAT เป็นไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอกสุด สามารถจับหรือหยิบขึ้นมาได้ เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นขา
- กล้ามเนื้อท้อง
ABDOMINAL MUSCLES คือ กล้ามเนื้อหน้าท้อง อยู่ถัดจากขั้นไขมัน เมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง เวลาที่รับประทานอาหารเข้าไปมาก ๆ จะทำให้พุงห้อยลงมา
- ไขมันในช่องท้อง
VISCERAL FAT เกิดจากการรับประทานอาหารที่เป็นไขมันมากเกินไป ร่างกายเผาพลาญไม่หมด เมื่อเวลาผ่านไปไขมันส่วนนี้จะถูกสะสม และดันออกมาทำให้หน้าท้องดูป่อง
พุงมีกี่แบบ ?
พุง คือ ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณรอบเอว หรือไขมันหน้าท้อง มักจะเป็นไขมันที่กำจัดออกได้ยากหรือไขมันดื้อ สามารถแบ่งพุงออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- พุงที่เกิดจากแอลกอฮอล์ (Alcohol Belly) คือ พุง ที่มีลักษณะเป็นชั้น เกิดจากการรับประทานแอลกอฮอล์ ของหวาน และขาดการออกกำลังกาย จึงมีแคลอรีสะสมในร่างกายอยู่มาก
- พุงฮอร์โมน (Hormomal Belly) คือ พุง ที่มีลักษณะป่องที่ช่วงล่างของพุง ส่วนใหญ่เกิดจากฮอร์โมน เห็นได้ชัดในช่วงก่อนมีประจำเดือน มักเกิดกับคนที่มีรูปร่างผอม มีสาเหตุมาจาการรับประทานอาหารแบบเดิมซ้ำ ๆ หรือมักเกิดจากการออกกำลังกายผิดวิธี
- พุงเครียด (Stress-out Belly) คือ พุงที่มีลักษณะแข็ง บริเวณกระบังลมไปจนถึงสะดือ ส่วนใหญ่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และจากความเครียดสะสมในชีวิตประจำวัน ทำให้ระบบการทำงานในร่างกายแปรปรวน จึงทำให้ลงพุง
- พุงคุณแม่ (Mommy Belly) คือ พุงที่มักพบได้ในคุณแม่หลังคลอดใหม่ ๆ มีไขมันเกาะบริเวณรอบ ๆ หน้าท้อง พุงลักษณะนี้ ส่วนใหญ่ถ้าแต่เดิมคุณแม่หลังคลอดไม่ใช่คนอ้วนมาก พุงจะค่อยลดลงได้หากออกกำลังกายอย่างถูกวิธีในช่วงระยะเวลา 1-2 เดือน หลังจากพักฟื้น
- พุงป่อง (Bloated Belly) คือ พุงที่มีลักษณะคล้าย ๆ พุงจากแอลกอฮอล์ เป็นพุงกลม ๆ คนที่มีพุงลักษณะนี้ ในตอนเช้าหน้าท้องจะแบน แต่จะป่องในตอนกลางวัน สาเหตุจากมีแก๊สในกระเพาะอาหาร ระบบการย่อยมีปัญหา
ในบางรายจะรู้สึกท้องอืดบ่อย ๆ เป็นพุงที่ไม่อันตราย แต่ก็สร้างความไม่มั่นใจได้ครับ วิธีแก้เบื้องต้น หมอแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานอาหารประเภทกากใยให้มากขึ้น เพื่อให้กระเพาะอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
นอกจากพุงทั้ง 5 ประเภทที่เกิดการสะสมของไขมันแล้ว นี้ยังมีพุงอีกลักษณะหนึ่งที่สามารถหายได้เอง สาเหตุจากอาการท้องอืด เกิดลมในกระเพาะอาหาร มองเห็นเป็นพุงป่อง ซึ่งเกิดจากปัญหาในระบบทางเดินอาหารครับ
ใครเหมาะกับการลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง
- ผู้ที่มีรูปร่างอ้วน พุงป่องหรือมีไขมันส่วนท้องมากกว่าส่วนอื่น ๆ
- มีรอบเอวที่เกินขนาดมาตรฐาน
- ขาดความมั่นใจในรูปร่าง
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน
- ผู้ที่มีไขมันสะสม ต้องการลดเฉพาะส่วน เช่น ผู้ที่มีหน้าท้องหลังคลอดบุตร
ขนาดรอบเอวมาตรฐานของคนเอเชียปกติ
- ผู้ชายไม่ควรเกิน 36 นิ้ว หรือ 90 เซนติเมตร
- ผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้ว หรือ 80 เซนติเมตร
หากคนไข้มีรอบเอวเกินมาตรฐาน นั่นหมายถึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนลงพุงครับ
ในส่วนปัญหาไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง หรือพุง ในทางการแพทย์ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาได้ จึงไม่ใช่แค่เพียงแค่เรื่องความสวยงาม หรือคนไข้ขาดความมั่นใจในรูปร่างเท่านั้น ดังนั้นหมอแนะนำให้พยายามลดพุง และหาทางสลายไขมันหน้าท้อง ก่อนที่จะเกิดปัญหาสุขภาพครับ
วิธีลดพุง เพื่อหุ่นฟิตเฟิร์ม
พุงที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงอย่างต่อเนื่อง ขาดการออกกำลังกาย ไขมันจึงค่อนข้างดื้อลดได้ยาก แต่หากใครต้องการลดพุง ลดหน้าท้องอย่างจริงจัง ก็สามารถทำได้ครับ โดยมีวิธีการลดพุง ลดหน้าท้อง ดังนี้
1.การออกกําลังกายลดหน้าท้อง
การออกกำลังกายเป็นวิธีลดพุง ที่หมอแนะนำในอันดับแรก ๆ ครับ เพราะเป็นวิธีที่ยั่งยืน ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแบบองค์รวม ร่างกายสามารถเผาผลาญ metabolism ในแต่ละวันได้ ทำให้ร่างกายดึงไขมันที่เก็บสะสมตามส่วนต่าง ๆ มาใช้ ทำให้ไขมันส่วนเกินลดลง พุงยุบ ลดหน้าท้องได้
สิ่งที่ควรรู้คือในขบวนการเผาผลาญ ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ต้องมีการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 20-30 นาทีครับ จากนั้นเมื่อต้องการสลายไขมันพุง ลดพุง ลดหน้าท้อง ต้องใช้ท่าบริหารลดหน้าท้องเข้าช่วยครับ หมอมีท่าตัวอย่างมาแนะนำ 4 ท่า ดังนี้
1.ท่า Basic Crunch : ท่านี้จะคล้าย ๆ กับท่าซิทอัพ เป็นการบริหารบริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้องช่วงล่าง ช่วยให้หน้าท้องแบนกระชับ สามารถลดพุง ลดหน้าท้องได้อย่างดี
วิธีฝึก : นอนราบบนพื้น ชันเข่าขึ้น วางมือทั้งสองข้างที่บริเวณใบหู แล้วยกตัวขึ้น แต่ไม่ต้องขึ้นสุด วางตัวลง และ ขึ้น สลับไปมา ทำประมาณ 10 ครั้ง ต่อ 1 Set โดยขณะทำให้เกร็งหน้าท้องแล้วยกตัวขึ้นครับ
2.ท่า Bicycle Crunch : ท่านี้คล้าย กับการปั่นจักรยานอากาศ ข้อดีคือช่วยลดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและเอวได้เป็นอย่าง เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้หน้าท้องกระชับ เพิ่มซิกแพ็คได้ครับ
วิธีฝึก : ให้นอนราบลงไปบนพื้น จากนั้นชันเข่าขึ้น วางมือทั้งสองข้างที่บริเวณใบหูแล้วยกตัวขึ้น พร้อมกับยกขาขึ้นหนึ่งข้าง โดยให้แขนสลับกับขา ทำสลับขาไปมา เหมือนปั่นจักรยานอากาศ ขณะทำก็เกร็งหน้าท้องแล้วยกตัวขึ้น เช่นเดียวกับท่าแรก ทำประมาณ 10 ครั้ง ต่อ 1 Set
3.Leg Raise : ท่านี้จะช่วยลดหน้าท้องส่วนล่าง ลดไขมันหน้าท้องได้อย่างดี
วิธีฝึก : ท่า Leg Raise นอนราบกับพื้น ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง จากนั้นค่อย ๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า ทำมุม 90 องศากับลำตัว ทำขึ้นลง ห้ามงอเข่า หลังตรงแนบสนิทกับพื้น ยกขาขึ้นและทำซ้ำประมาณ 10 ครั้งต่อ 1 Set
4.Plank Crunches ท่านี้จะช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อ เบิร์นไขมันได้ดี ช่วยให้มีเอว s ไวขึ้น สามารถบริหารร่างกายได้ทุกส่วน โดยเน้นแกนกลางลำตัว ช่วยลดพุง เสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
วิธีฝึก : ให้นอนคว่ำหน้าลงกับพื้น ให้ตั้งข้อศอกขึ้นพร้อมกับตั้งปลายเท้าเพื่อยกตัวขึ้นขนานกับพื้น เกร็งหน้าท้อง ยกเข่าขึ้นมาให้ถึงบริเวณข้อศอก ทำสลับขาข้างซ้ายกับขวาไปเรื่อย ๆ ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้งต่อ 1 Set
สำหรับใครที่จะออกกำลังลดพุง ลดหน้าท้อง แต่ยังไม่มั่นใจทำท่าถูกหรือไม่ สามารถปรึกษาเทรนเนอร์ หรือเซิร์ทหาข้อมูลแต่ละท่าเพิ่มเติม จาก youtube ได้ครับ มีแชร์ท่าบริหารค่อนข้างมากสามารถทำตามได้ง่าย ๆ
2.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรับประทานอาหาร
การเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นวิธีลดพุง ลดหน้าท้อง ที่แก้ปัญหาจากต้นเหตุ อ้วนลงพุง มีไขมันส่วนเกินสะสม ล้วนเกิดจากการรับประทาน ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูง จะช่วยลดพุงได้มากครับ
ผู้ชาย : ควรได้แคลอรีประมาณวันละ 2,000 กิโลแคลอรี
ผู้หญิง :ควรได้แคลอรีประมาณวันละ 1,600 กิโลแคลอรี
(โดยปริมาณดังกล่าวบวกรวมทั้งอาหารคาวและหวาน)
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- แอลกอฮอล์
- อาหารแปรรูป
- ของทอด อาหารไขมันสูง
- ของหวาน น้ำอัดลม (น้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับต้องไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน)
- ขนมกรุบกรอบ ที่มีคาร์โบไฮเดรต และโซเดียมสูง
อาหารที่แนะนำให้รับประทาน
- อาหารประเภทต้ม นึ่ง ตุ๋น ลวก
- เน้นโปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น อกไก่ ไข่ขาว ปลา เนื้อหมูสันใน
- ผักผลไม้ พืชตระกูลถั่ว
- ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมไขมันต่ำหรือไม่มีไขมัน
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
3.จัดระเบียบการใช้ชีวิตให้สมดุล
ขณะที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและหันมาออกลังกายเพื่อลดพุง ไขมันหน้าท้อง หากไม่สามารถ
ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ จะให้ล้มเลิกความคิดในการลดพุงได้ครับ ดังนั้นการจัดระเบียบการใช้ชีวิตจึงสำคัญไม่แพ้ 2 วิธีข้างต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับเป็นวิธีพักผ่อนที่ดีที่สุด ซึ่งการนอนหลับในช่วงกลางคืน (เวลานอนไม่ควรเกิน 4 ทุ่ม) จะเป็นเวลาที่ฮอร์โมนเร่งการเผาผลาญ ควรนอนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน - จัดการความเครียด
หลายคนอาจไม่ทราบว่า ความเครียดเป็นตัวการสำคัญที่ให้ระบบเผาผลาญทำงานแย่ลง เมื่อเราเกิดความเครียด การหายใจก็จะถี่และตื้นกว่าเดิมครับ ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายน้อยกว่าที่ควร
4. ทำ IF (Intermittent Fasting)
การทำ Intermittent Fasting (IF) ลดพุงเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ถูกนำมาใช้ในการลดน้ำหนักครับ ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มทำงานออฟฟิศ หลักการของวิธีการนี้คือ การควบคุมแคลอรีและจำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร
การทำ IF มีหลายช่วงระยะเวลาให้เลือกปฏิบัติ แต่ที่ได้รับความนิยมและหลาย ๆ คนทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ล้มเหลว คือ 8/16
- จำกัดเวลาทานอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ โดยไม่กินของจุกจิก ทานได้เพียงแต่น้ำเปล่า หรือกาแฟ ชา ที่ไม่ใส่น้ำตาล ไม่มีแคลลอรี
วิธีลดพุงแบบนี้จะเห็นผลต่อเมื่อทำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือทำเป็นประจำทุกวันครับ หลายคนทำได้และเห็นผลดี เพราะรับประทานอาหารอย่างพอเหมาะ รวมถึงมีการออกกำลังกายร่วมด้วยก็ช่วยให้พุงยุบ น้ำหนักลด ลดพุง ลดหน้าท้องได้
แต่ก็มีอีกหลายคนที่ทำได้ไม่เห็นผลและท้อใจไปครับ เพราะปฎิบัติไม่เหมาะสม เช่น ในช่วงเวลาทานอาหาร กลับทานน้อยและควบคุมปริมาณอาหารมากเกินไป ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายจึงจำศีลหรือเกิดสะสมพลังงานไว้ใช้ โดยไม่เผาผลาญออกไป หรือบางคนในช่วงเวลาที่รับประทาน กินอาหารมากเกินไป เพราะกลัวจะหิวในช่วงเวลาที่งดอาหาร จึงทำให้น้ำหนักไม่ลด และยังเกิดไขมันสะสมมากขึ้นอีกด้วย
หากใครที่ได้ลองศึกษาข้อมูล จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อลงมือปฏิบัติจริง หลาย ๆ คนอาจล้มเหลว เพราะวิธีการทำหมดที่หมอกล่าวมานี้ ล้วนต้องมีระเบียบวินัย ทั้งเรื่องในการออกกำลังการ การควบคุมอาหาร และต้องอาศัยระยะเวลาครับ
ดังนั้นในทางการแพทย์จึงพยายามคิดค้นวิธีลดพุง สลายไขมันส่วนเกิน ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ช่วยลดพุงได้เร็ว เห็นผล และมีความปลอดภัยครับ
5. โปรแกรม CoolSculpting ลดพุง สลายไขมันส่วนเกิน
ลดพุง สลายไขมันส่วนเกินถาวรด้วยโปรแกรม Coolsculpting เป็นวิธีลดพุง ลดหน้าท้อง และสลายไขมันส่วนเกิน ตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ที่กำลังได้รับความสนใจมากในตอนนี้
โปรแกรม Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นสามารถลดพุง กำจัดเซลล์ไขมันถาวรได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อดี ของการลดพุงด้วยโปรแกรม Coolsculpting
- ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ต้องวางยาสลบ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดพุง ลดไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ ในร่างกาย
- ใช้เวลาในการทำน้อย โดยใช้ 30-60 นาที ต่อก้อนไขมันประมาณ 1-2 ฝ่ามือ
- สามารถลดลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง
การทำโปรแกรมCoolsculpting จะได้ผลดี ปลอดภัย เมื่อทำการรักษาโดยแพทย์ร่วมกับนักกายภาพบำบัดที่ผ่านการอบรมโดยเฉพาะครับ
“
โปรแกรม CoolSculpting ไม่ใช่การลดน้ำหนัก
แต่เป็นการลดสัดส่วนเฉพาะจุด โดยเฉพาะ ลดพุง ลดหน้าท้อง
“
แต่การลดพุงด้วย โปรแกรม CoolSculpting มีข้อจำกัด คือไม่เหมาะกับเคสที่อ้วนมากๆ มี BMI>35 เนื่องจากต้องกำจัดไขมันออกในปริมาณมากถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนครับ คนที่มีไขมันสะสมมาก ๆ จะเหมาะกับการดูดไขมันมากกว่า
โปรแกรม Coolsculpting ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างเห็นผล ขณะทำอาจรู้สึกเจ็บตอนนวดก้อนไขมันที่โดนแช่แข็ง -11°C เพื่อให้เซลล์ไขมันถูกทำลาย หลังทำในบางเคสจะรู้สึกปวดระบมในจุดที่ทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ คล้าย ๆ การปวดกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายหนัก ๆ ครับ
ทั้งนี้ในคนที่ผิวช้ำง่าย อาจจะเกิดรอยเขียวช้ำได้จากการที่หัวดูดผิวเพื่อแยกชั้นไขมันขึ้นมา ซึ่งรอยช้ำจะหายไปได้เองในช่วง 3-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นผลว่าสัดส่วนเล็กลง เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 3 เดือน และสามารถกลับมาทำซ้ำได้โดยไม่มีผลข้างเคียงครับ
6. HIFU ยกกระชับผิว ลดพุง
เทคโนโลยี Macrofocus ของเครื่อง HIFU ยี่ห้อ Ultraformer III ปัจจุบันนิยมใช้ในการช่วยยกกระชับผิวหน้า เหมาะกับคนที่ชั้นไขมันไม่มาก แต่มีความหย่อนคล้อยที่มีปัญหามาจากผิวชั้นลึก
HIFU Ultraformer III เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยเห็นผลครับ แต่หากคนไข้ต้องการที่จะลดพุง ลดหน้าท้อง กำจัดไขมันส่วนเกิน วิธีการนี้ทำได้ครับ แต่ได้ไม่คุ้มเสีย และหมอส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแนะนำครับ เพราะเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ ราคาในการทำ Hifu Macrofocus (Ultraformer III) for body 1,000 line ครอบคลุมพื้นที่ 2 ผ่ามือ ตกอยู่ที่ 25,000-40,000.- ครับ
7. Thermage FLX ลดพุง ลดหน้าท้อง
เครื่อง Thermage FLX ไม่เชิงว่าเป็นการช่วยลดไขมันหน้าท้อง ลดพุง หรือ ลดหน้าท้อง โดยตรงครับ แต่จะเหมาะสำหรับคนที่ลดน้ำหนักแล้วผิวไม่กระชับหรือคุณแม่หลังคลอด ใช้ในจุดที่มีปริมาณไขมันไม่มาก มีหัวใหญ่สำหรับการกระชับผิวส่วนเกินตามแขน ขา หน้าท้อง
หัว Thermage จะสามารถกระชับผิวได้ดีมากในผิวชั้นตื้นระดับความลึก 4.3 mm ซึ่งเหมาะกับเคสที่มีปัญหาแบบในรูปตัวอย่างด้านล่างนี้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : รวมข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Thermage FLX คืออะไร ราคาเท่าไหร่ กี่ครั้งถึงเห็นผล
8. เมโสแฟต ฉีดสลายไขมันหน้าท้อง ลดพุง
การฉีดเมโสแฟตเพื่อลดพุง ถูกกล่าวถึงอยู่บ่อย ๆ ครับ เพราะมีเซเลปหลายท่านทดลองทำ ซึ่งเห็นผลบ้าง ไม่เห็นผลบ้างขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นของร่างกายด้วย
จากข้อมูลมีงานวิจัยรองรับการฉีดเมโสแฟตสามารถออกฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน ฉีดเข้าตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดอาจเห็นผลได้จริง แต่ไม่เต็มร้อย หวังผลแน่นอนไม่ได้ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน
หลังฉีดเมโสแฟต หลังฉีดจะช่วยให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้ปริมาณไขมันส่วนเกินลดลงเร็วขึ้น
หากใครจะทดลองวิธีนี้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,000.- / เมโสแฟต 40 cc ครอบคลุมพื้นที่ 1 ฝ่ามือ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตค่อนข้างถูกกว่าวิธีอื่น สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินมาก ๆ หรือ เคสที่อ้วนมาก ๆ BMI>35 ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟต คือ ? ( Meso fat ) อันตรายไหม ฉีดที่ไหนดี
9. การใช้ยาลดความอ้วน ลดพุง
เป็นวิธีที่มีมานานทุกยุคสมัยครับ และเป็นวิธีลดน้ำหนัก ลดไขมันหน้าท้อง ที่ส่งผลข้างเคียงมาก และผลลัพธ์ที่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้เพียง 5-10 % ต่อปีเท่านั้น เป็นวิธีการที่แพทย์ไม่แนะนำให้คนทั่วไปใช้ยาลดความอ้วน เว้นแต่เป็นผู้ที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยการควบคุมอาหาร หรือมีปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ ซึ่งทั้งหมดต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เฉพาะทาง ที่สำคัญต้องเป็นแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือด้วยครับ
10. วิธีลดพุง ลดหน้าท้องด้วยการดูดไขมัน
หลายคนคงคุ้นหูอยู่บ้าง ซึ่งมีเครื่องมือที่ได้รับความนิยมหลายยี่ห้อครับ ไม่ว่าจะเป็น Vaser/Body tite/Body jet evo หรือ Microaire ทั้ง 4 เครื่องนี้ ใช้พลังงานที่แตกต่างกัน ในการทำให้ก้อนไขมันแตกตัวก่อนจะดูดออกมาจากร่างกาย
แต่ถึงแม้ว่าวิธีการลดพุง ลดหน้าท้องโดยใช้คลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุในการดูดไขมันจะช่วยลดโอกาสเกิดความหย่อนคล้อยหลังทำ แต่มีความเสี่ยงเรื่องการบวมช้ำ ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน (อาจนานเกิน 1 เดือน) เนื่องจากรอยบวมช้ำค่อนข้างเยอะจากการฉีกขาดของเส้นเลือดฝอยขณะที่สอดท่อเข้าไปเพื่อดูดไขมันครับ
ข้อควรระวัง ในการดูดไขมันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันปริมาณเยอะๆ (BMI > 35) เท่านั้น อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไขมันน้อยกว่านี้หรือลดหน้าท้องที่ไม่เยอะ แนะนำว่าควรเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียในระยะยาวดีกว่าครับ โดยค่าใช้จ่ายการดูดไขมัน จะอยู่ที่ระมาณ 50,000-100,000 .- ขึ้นกับเครื่องที่ใช้ดูดไขมันและจำนวนจุดครับ
11. เครื่องนวดยกกระชับของสถาบันลดสัดส่วน,ลดน้ำหนัก
เป็นการใช้เครื่องที่ต้องผ่านงานวิจัยทางการแพทย์และจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่มีการควบคุมพิเศษ มักเป็นแค่การนวดร้อน-เย็น, RF(Radio-Frequency) อ่อน ๆ หากต้องการลดพุง ลดหน้าท้อง วิธีการนี้ดูจะไม่ได้ช่วยอะไรครับ และไม่ได้เกิดผลในระยะยาว ต้องทำบ่อย ๆ ทุกสัปดาห์จึงเห็นผล และพอหยุดทำก็จะคืนสภาพเดิม แทบจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงหากน้ำหนักไม่ลดลงครับ
ตัวอย่าง เครื่องนวดยกกระชับที่ใช้คลื่น Ultrasonic และ RF(Radio-Frequency) อ่อน ๆ ที่มักจะพบตามสถาบันลดสัดส่วนที่ไม่ใช่คลินิก
12. การผ่าตัดกระชับหน้าท้อง (Abdominoplasty)
วิธีนี้เป็นการผ่าตัดโดยนำผิวหนังและไขมัน ของหน้าท้องบริเวณส่วนล่าง (ใต้สะดือ) ออก จากนั้นจึงเย็บกระชับกล้ามเนื้อด้านล่างให้กระชับมากยิ่งขึ้น เป็นวิธีการลดพุง ลดหน้าท้องที่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันมาก ๆ สามารถนำไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องด้านล่างออกได้ทั้งหมด
แต่ก็ต้องแลกมากับความเจ็บและไม่สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อย และลายหน้าท้องของผิวหนังด้านบน (เหนือสะดือ)ได้ มีแผลจากการผ่าตัด และต้องใช้ระยะเวลาฟื้นนาน อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น รู้สึกเจ็บ มีอาการช้ำ ชาบริเวณแผล เกิดรอยแผลเป็นถาวร เป็นต้น
คำถามที่พบบ่อย วิธีลดพุง ลดหน้าท้อง
1. Q : ทำไมกินน้อย แต่มีพุง มีหน้าท้อง ?
A : ผอมแต่มีพุง อาจจัดอยู่ในกลุ่ม Alcohol Belly และ Hormomal Belly ครับ คือรูปร่างโดยรวม น้ำหนักไม่ได้เกินมาตรฐาน แต่มีพุง บวมยื่นหรือป่องออกมา สาเหตุส่วนใหญ่มากจากการรับประทานอาหารที่มีปริมาณของน้ำตาลมากเกินไป รับประทานเดิมซ้ำ ๆ หรือนิยมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลมมากเกินไป เป็นอาหารที่ทำให้เกิดไขมันสะสมที่ท้องได้
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นคือกลุ่มนี้เป็นไขมันที่กำจัดยาก หากต้องการลดเฉพาะส่วน ลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง หมอแนะนำทำ โปรแกรม Coolsculpting ครับ เพราะสามารถกำจัดส่วนเกินเฉพาะจุดได้อย่างถาวร และรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว หรือหักโหมออกกำลังกาย
2. Q : กินช้า เคี้ยวช้าช่วยลดพุงได้จริงไหม ?
A : ตามหลักแล้วการรับประทานแบบกินเร็ว เคี้ยวเร็ว กลืนเร็ว ทำให้เรากินอาหารในปริมาณที่มากกว่าปกติครับ ที่สำคัญคือทำให้ระบบการย่อยทำงานหนัก การเผาผลาญทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ในทางกลับกันหากรับประทานอาหารช้าลง ก็จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ขณะเดียวกันก็ทำให้เรากินน้อยลงด้วย ระบบเผาผลาญก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ก็อาจจะช่วยลดพุง ลดการเกิดไขมันสะสมลงได้ครับ
3. Q : วิธีการลดพุงสำหรับผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันไหม ?
ที่ผ่านมาหมอพบปัญหาผู้ชายอ้วนลงพุงค่อนข้างเยอะครับ นอกจากส่งผลให้รูปลักษณ์ภายนอกดูไม่ดี ใส่เสื้อผ้าแล้วดูไม่เข้ารูป การมีอยู่ของไขมันในช่องท้องมาก ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่มีอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งเบาหวาน หัวใจ ความดัน เป็นต้น
วิธีการลดพุงที่ดีและปลอดที่สุดคือ ออกกำลังกายครับ แต่ปัญหาคือผู้ชายหลายคนเมื่ออายุมากขึ้น จะมี
ปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ดังนั้นการออกกำลังหนัก ๆ ดูเป็นจะเรื่องยาก เมื่อมีคนไข้ถามหมอจะแนะนำให้ใช้นวัตกรรมลดสัดส่วน สลายไขมันเข้าช่วย
การทำ CoolSculpting เป็นวิธีสลายไขมันที่ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ไม่เกิดบาดแผล หลังทำสามารถดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความฟิต กระชับได้มากขึ้น จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินออกไปได้ดีและช่วยลดพุงได้อย่างรวดเร็วครับ
สรุป
อย่างไรก็ตามวิธีการลดพุง ลดหน้าท้อง ในแต่ละคนอาจเหมาะสมต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหา และความสามารถในการดูแลของแต่ละบุคคล แต่หากใครต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็ว และมีความปลอดภัย เทคโนโลยี CoolSculpting ก็เป็นทางเลือกที่ดีช่วยกำจัดไขมันส่วน ลดหน้าท้อง ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ