Juvelook ไหมน้ำตัวดังจากเกาหลี
การมีผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยนวัตกรรม Juvelook ไหมน้ำตัวดังจากเกาหลีที่ให้ผลลัพธ์แบบ 2 in 1 ทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับใครกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวที่เห็นผลเป็นธรรมชาติ ไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า และให้ผลลัพธ์ยาวนาน หมอแนะนำให้ทำความรู้จัก Juvelook มากขึ้นจากบทความนี้ครับ
Juvelook คืออะไร ? ช่วยอะไร เหมาะกับใครบ้าง ? อันตรายไหม ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล ? Juvelook แตกต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? หมอสรุปมาไว้ให้แล้วครับ
สารบัญ Juvelook
Juvelook คืออะไร ?
“ Juvelook นวัตกรรมความงาม ที่ผสานการบำรุงผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในหนึ่งเดียว
เพื่อผิวสวย สุขภาพดีแบบยาวนาน”
Juvelook ไม่ใช่แค่ Skin Booster ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบ Hybrid Biostimulator ที่เป็นการผสานระหว่างสาร PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) มาไว้ในตัวเดียว จึงได้ชื่อว่า “ไหมน้ำ”
จุดเด่นของ Juvelook คือ สามารถแก้ไขปัญหาผิวแบบ 2 in 1 ทั้งเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวทันทีหลังฉีด และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกโดยไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้นครับ
Juvelook ทำงานอย่างไรในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ?
ผ่านการย้อมสีแบบ Masson Trichrome เพื่อวัดปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวหลังฉีด Juvelook 6 เดือน
Juvelook ทำงานโดยการผสานพลังของ Hyaluronic Acid (HA) และ PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) ที่ออกฤทธิ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งมีกระบวนการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนดังนี้ครับ
- เติมเต็มความชุ่มชื้นทันที (Immediate Hydration Boost)
- Hyaluronic Acid (HA) หรือ ไฮยาลูรอน เป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ทำหน้าที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
- หลังฉีดจะช่วยฟื้นฟูริ้วรอยตื้น ๆ ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว มีชีวิตชีวา ลดความหมองคล้ำ คืนความสดใสให้ผิวในเวลาอันรวดเร็ว
- นอกจากนี้ HA ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น เสมือนการเติมน้ำให้ผิวจากภายใน
ผลลัพธ์ : ผิวดูชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ฟื้นฟูริ้วรอยตื้นทันทีหลังฉีด ผิวหน้าดูอิ่มน้ำสุขภาพดี
2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว (Long-term Collagen Stimulation)
- PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) เป็นสารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น Biostimulator ชั้นเยี่ยม มีคุณสมบัติในการ กระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ผลิตคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องในชั้นผิวลึก
- PDLLA ทำงานโดยการเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่
- ช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น เต่งตึง ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย หลุมสิว และรอยแผลเป็น ให้ค่อย ๆ จางลง พร้อมฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ผลลัพธ์ : ผิวกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยลดลง หลังจากการสร้างคอลลาเจนในระยะเวลา 6 เดือน
Juvelook อันตรายไหม ? มีการรับรองความปลอดภัยหรือไม่ ?
Juvelook เป็นหัตถการที่ไม่อันตรายครับ การันตีความปลอดภัยจากองค์กรชั้นนำระดับโลก และผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดย KFDA, CE Mark และ อย.ไทย
อีกทั้งความปลอดภัยของสารประกอบใน Juvelook อย่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ทั้งสองเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้เองในร่างกาย ไม่ทิ้งสารตกค้าง ผลข้างเคียงต่ำ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ
Juvelook แตกต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร ?
Juvelook เป็นนวัตกรรม Hybrid Biostimulator ที่ผสานคุณสมบัติของ PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ในตัวเดียว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเติมเต็มความชุ่มชื้นทันทีหลังฉีด ซึ่งทำให้แตกต่างจากหัตถการอื่น ๆ ดังนี้
- Skinvive เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น สร้างงานผิวฉ่ำโกลว์เล่นแสง
- Rejuran เน้นฟื้นฟูผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวฉ่ำวาว
- Sculptra เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวอิ่มฟู แน่น กระชับ
- Gouri เน้นฟื้นฟู แก้ไขผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- Radiesse Filler เน้นฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม กระตุ้นคอลลาเจน สร้างกรอบหน้าชัด
- เมโสหน้าใส เน้นแก้ปัญหาผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส ลดการอักเสบ ยี่ห้อที่นิยม คือ มาเด้คอลลาเจน
- ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี รุ่นที่นิยม คือ belotero revive
- exosome เน้นฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว (Skin Rejuvenation) กระชับรูขุมขน ลดรอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
- โบท็อกซ์ เน้นลดริ้วรอยบนใบหน้า ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว ผิวเต่งตึง
- ฉีดวิตามินผิวขาว เน้นเติมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เหมาะกับการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน
Collagen Biostimulator หรือ skin booster แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจน เติมเต็มความชุ่มชื้น หรือฟื้นฟูผิวเฉพาะจุด
ดังนั้นการเลือกใช้แต่ละยี่ห้อ ควรพิจารณาจากสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข ระยะเวลาที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ และการปรึกษาแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีครับ
Juvelook สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม ?
Juvelook สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยครับ เช่น
- ฟิลเลอร์ โบท็อก สามารถฉีดร่วมกันได้ เพราะเป็นการฉีดคนละชั้นผิว
- หากเคยฉีด Sculptra, Radiesse หรือ Gouri มาแล้ว ควรเว้นระยะ 3-6 เดือน ก่อนฉีด Juvelook
- ถ้าเป็นการทำเลเซอร์หรือทรีทเมนท์ผิว ควรทำเลเซอร์หรือทรีทเมนท์ผิวก่อน แล้วจึงฉีด Juvelook
- ส่วนถ้าเป็นเครื่องมือยกกระชับผิว เช่น Thermage FLX, Ulthera, Ultraformer ควรทำหัตถการยกกระชับก่อน แล้วตามด้วยการฉีด Juvelook
ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อวางแผนลำดับการฉีดแต่ละหัตถการอย่างเหมาะสมครับ
Juvelook ช่วยอะไรได้บ้าง ?
- เติมเต็มร่องน้ำตา ลดริ้วรอยรอบดวงตา ฟื้นฟูริ้วรอยตื้นและลึก ให้ดูจางลง
- กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง
- เติมเต็มหลุมสิวและรอยแผลเป็น ให้ผิวเรียบเนียน
- เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว
- กระชับรูขุมขน ให้ผิวเนียนละเอียด
- ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ จากมลภาวะและอายุที่เพิ่มขึ้น
- ปรับผิวให้ดูสว่าง กระจ่างใส และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
ใครบ้างที่เหมาะสมกับการใช้ Juvelook ?
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูเด็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในผิวเริ่มลดลง
- ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม หรือมุมปาก
- ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและรอยแผลเป็น ต้องการให้ผิวเรียบเนียน ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย
- ผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง หมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ ดูไม่สดใส ต้องการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว
- ผู้ที่ต้องการกระชับผิวหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
- ผู้ที่มีปัญหารอยแตกลาย เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวโดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลง
- ผู้ที่มีจุดด่างดำ รอยแดง หรือรอยสิว ต้องการปรับผิวหน้ากระจ่างใส ไร้รอยหมองคล้ำ
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการใช้ Juvelook
การฉีด Juvelook เป็นการฟื้นฟูผิวที่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและครอบคลุมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวในหลายมิติ
สำหรับผลลัพธ์ที่คาดหวังได้หลังฉีด Juvelook หมอจะเขียนอธิบายในแต่ละระยะดังนี้ครับ
- หลังฉีดทันที : ผิวจะดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และฉ่ำวาวขึ้นทันที เนื่องจาก Hyaluronic Acid จะช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ตื้นขึ้น ผิวดูสุขภาพดี มีชีวิตชีวา
- หลังฉีด 2-4 สัปดาห์ : Hyaluronic Acid จะค่อย ๆ สลายไป PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) จะเริ่มทำงานโดยเข้าไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ผิวดูเนียนละเอียดขึ้น ริ้วรอยค่อย ๆ ลดลง
- หลังฉีด 6 เดือน : PDLLA จะเริ่มสลายโดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ในร่างกาย ในขณะเดียวกัน ปริมาณคอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวมีวอลลุ่ม ดูกระชับ เต่งตึง และอิ่มฟู ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-16 เดือน ในบางคนสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปีครับ
Juvelook ราคาเท่าไหร่ ?
Juvelook ราคาจะแตกต่างกันไปตามคลินิกและโปรโมชั่นที่จัดในแต่ละช่วง โดยราคามาตรฐานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000.-/ขวด (ขนาด 6 CC) ครับ
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจฉีด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิว และสอบถามโปรโมชั่นพิเศษจากคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการฉีด Juvelook เป็นอย่างไร ?
การฉีด Juvelook เป็นหัตถการที่ไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อนครับ ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้น โดยขั้นตอนทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- แพทย์ตรวจประเมินสภาพผิวของคนไข้ และวิเคราะห์ปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น ริ้วรอย หลุมสิว หรือผิวแห้งขาดน้ำ
- วางแผนการฉีด Juvelook ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของคนไข้
- ทำความสะอาดใบหน้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ทายาชาบริเวณที่จะฉีด และทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อช่วยลดความเจ็บในระหว่างการฉีด
- แพทย์จะฉีด Juvelook เข้าไปในชั้นผิว โดยใช้เข็มขนาดเล็กหรือเข็มทู่ที่เหมาะสม
- ในระหว่างการฉีด แพทย์อาจใช้เทคนิคเฉพาะ เช่น การนวดเบา ๆ เพื่อช่วยให้ Juvelook กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในชั้นผิว
- หลังฉีด แพทย์จะประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวมและรอยแดง
- ให้คำแนะนำการดูแลผิวหลังฉีด เช่น หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การออกกำลังกายหนัก หรือสัมผัสความร้อน
- นัดหมายติดตามผลกับแพทย์ในครั้งถัดไป เพื่อประเมินผลลัพธ์และวางแผนการฉีดเพิ่มเติม หากต้องการการดูแลต่อเนื่อง
การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook ควรทำอย่างไร ?
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีด
- ควรงดการสัมผัสแสงแดดจัดหรือความร้อน เช่น การทำซาวน่า ก่อนการฉีด 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ
การดูแลหลังฉีด Juvelook มีอะไรบ้าง ?
- หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า หรือโยคะร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามนวดหรือกดแรงบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก
- งดการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 1-2 วันแรก
- งดดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 1-2 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวม รอยฟกช้ำ อาการคัน และอาการปวด
รีวิวและประสบการณ์จากผู้ที่เคยใช้ Juvelook
รีวิวผลลัพธ์หลังฉีด Juvelook
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Juvelook
Juvelook กี่วันหายบวม เข้าที่ ?
หลังฉีด Juvelook อาการบวมสามารถหายได้เองใน 1-2 วัน จากนั้น 2 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง ผิวเรียบขึ้นครับ
Juvelook อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Juvelook ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปีครึ่ง ในบางคนสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด สภาพผิวของแต่ละคน ปริมาณที่ใช้ และจำนวนครั้งที่ฉีดครับ
Juvelook กี่วันเห็นผล ?
- หลังฉีดทันที ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาวขึ้น
- หลังฉีด 2-4 สัปดาห์ การสร้างคอลลาเจนเริ่มทำงาน ผิวกระชับขึ้น
- หลังฉีด 3-6 เดือน เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียน เต่งตึง หลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น
ฉีด Juvelook เจ็บไหม ?
ฉีด Juvelook ไม่เจ็บครับ ก่อนฉีดจะมีการทายาชาเพื่อลดความเจ็บ และใช้เข็มขนาดเล็กหรือเข็มทู่ ทำให้ความเจ็บอยู่ในระดับที่ทนได้ ส่วนใหญ่รู้สึกเพียงแค่ตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
ฉีด Juvelook ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ครั้ง ห่างกันเดือนละครั้ง หลังจากนั้นฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์
สรุป Juvelook ดีไหม ? ควรฉีดหรือไม่ ?
Juvelook ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การฟื้นฟูผิวแบบครบวงจร ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ผสานการทำงานของ PDLLA และ Hyaluronic Acid (HA) ในตัวเดียว ช่วยทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว และเติมเต็มความชุ่มชื้นทันทีหลังฉีด
หากคนไข้ท่านใดที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ กระชับ เรียบเนียน และเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน Juvelook ถือว่าคุ้มค่าแก่การฉีดครับ แต่ควรฉีดกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด