ฝ้า กระ จุดด่างดำ
ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่กวนใจ และลดความมั่นใจให้กับหลายคนครับ สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้ และกำลังมองหาแนวทางรักษา หรือใครที่ยังแยกไม่ออกว่ารอยด่างดำบนใบหน้าคือ ฝ้า หรือ กระ กันแน่
ในบทความนี้ หมอจะอธิบายข้อแตกต่างกันระหว่างฝ้าและกระ จุดด่างดำ ว่าต่างกันอย่างไร และเกิดมาจากสาเหตุอะไรบ้าง ทำไมมันบางคนถึงได้มีปัญหาขึ้นเยอะ มีวิธีรักษาฝ้าหรือไม่ ป้องกันได้อย่างไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ ฝ้า-กระ
ลักษณะของกระ
กระ คือ จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน ที่กระจายตัวอยู่ตามผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เกิดจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสีหรือ
เมลานินทำงานผิดปกติ จึงเกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้น เกิดเป็นริ้วรอยหรือจุดด่างดำเล็ก ๆ
ซึ่งสาเหตุที่ทำเมลานินทำผิดปกติ เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ดังนี้
- แสงแดด สภาพแวดล้อม : กระลักษณะนี้ จะขึ้นบนผิวชั้นบนหรือชั้นหนังกำพร้า เรียกกว่า กระธรรมดาหรือ กระแดด (Lentigo) ครับ สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ หากเจ้าของใบหน้าไม่ดูแลตัวเอง เผชิญกับรังสียูวี จากแสงแดดอยู่บ่อย ๆ รวมถึง แสงจากหน้าจอมือถือ หรือจอสมาร์ทโฟน ก็ส่งผลเช่นเดียวกันครับ
- พันธุกรรม : พันธุกรรมเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกระ บนร่างกายครับ แม้ว่าจะเผชิญแสงแดดน้อย ลักษณะเป็นกระสีแทน น้ำตาลออกแดง หรือน้ำตาลอ่อน รูปร่างกลมเป็นจุดเล็ก (Freckle, Ephelis)
- อายุที่มากขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้น กระจะมีลักษณะนูนและสีเข้มมากขึ้นครับ หรือเรียกว่า “กระเนื้อ” (Seborrheic Keratosis) เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดรูปแบบไป มักพบตามใบหน้า หน้าอก หลังและไหล่
ลักษณะของฝ้า
ฝ้า หรือ Melasma คือ ปัญหาผิวหน้าที่เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือเม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติโดยสาเหตุหลักที่ทำให้เซลล์เม็ดสีทำงานผิดปกติ คือ รังสีอัลตราไวโอเลตจาก "แสงแดด" ครับ
เมื่อเม็ดสีเมลานินที่มีหน้าที่กรองรังสี UV จากแสงแดด เพื่อปกป้องผิว แต่เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากเกินไปเมลานินจึงต้องป้องกันผิวด้วยการผลิตออกมามากขึ้น
จึงเกิดเป็นฝ้า ที่มีลักษณะเป็นสีดำอมน้ำตาล หรือเข้มกว่าสีผิว ขึ้นเป็นแถบหรือปื้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะโหนกแก้ม และบริเวณอื่น เช่น หน้าผาก จมูก เหนือคิ้ว เหนือริมฝีปากครับ
โดย "ฝ้า" ที่ขึ้นบริเวณใบหน้า สามารถแบ่งประเภทได้ถึง 4 ชนิดหลัก ๆ คือ
- ฝ้าแบบตื้น มีลักษณะเป็นสี น้ำตาล ขอบชัด จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า หรือผิวหนังชั้นนอก
- ฝ้าแบบลึก มีลักษณะน้ำตาลอมฟ้า อยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า เนื่องด้วยความลึกจะทำให้เกิดสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้า หรือ สีน้ำตาลอมม่วงครับ จัดว่าเป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก
- ฝ้าผสม คือ มีทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึก เกิดขึ้นที่ผิวหน้า สามารถพบได้มากที่สุดในผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องฝ้า
- ฝ้าที่ไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่าเป็นฝ้าชนิดใด พบมากในผู้ที่สีผิวเข้ม เช่น ชาวแอฟริกัน
นอกจากนี้ในการแพทย์ผิวหนัง ยังแบ่ง "ฝ้า" ตามลักษณะการเกิดอีก 2 ประเภท คือ
- ฝ้าแดด เกิดจากรังสียูวีเอและยูวีบีจากแสงแดด รวมถึงแสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และหลอดไฟ
- ฝ้าเลือด เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน และการใช้ฮอร์โมนรูปแบบต่าง ๆ อย่างการรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ มีลักษณะผิวแดงง่าย เมื่อโดนความร้อนหรือแสงแดดครับ
วิธีรักษาฝ้า กระ
แนวทางการรักษาฝ้า กระ จะคล้ายกันครับ แต่ฝ้ายังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถทำให้จางลงได้ครับ โดยเฉพาะฝ้าที่มีสาเหตุจากฮอร์โมน เช่น ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์,ผู้ที่มีการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือได้รับการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน
การรักษาฝ้าจำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ โดยมีวิธีการรักษาดังนี้
- รักษาด้วยยา เป็นการใช้ยารักษาฝ้าในรูปแบบครีมที่มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น ยากรดวิตามินเอ ยากลุ่มทรานิซามิก ครีมทาที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ ครีมไวท์เทนนิ่งอื่น ๆ (ก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์ครับ เพราะอาจทำเกิดการระคายเคืองผิวได้)
- รักษาด้วยเลเซอร์การผลัดเซลล์ผิวหนัง เป็นวิธีการรรักษาฝ้าเร่งด่วน เห็นผลเร็วกว่าการทาครีม และเป็นวิธีได้รับความนิยม แต่ประสิทธิภาพผลการรักษา ก็ยังขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- รักษาฝ้าด้วยสมุนไพร ที่มีฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ เป็นอีกแนวทางในการผลัดเซลล์ผิวหนัง ราคาไม่แพง แต่ก็ไม่อาจหวังผลที่ชัดเจนได้ รวมถึงหากทำบ่อยอาจทำให้ผิวบอบบางและแพ้ง่าย
- ฉีดวิตามินผิว และ การฉีดเมโสหน้าใส การฉีดวิตามินผิวช่วยฟื้นฟูรักษาปัญหาผิว ทั้งผิวคล้ำเสีย ไม่สดใส ผิวแห้งกร้าน ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวใส ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้นให้ผิวได้ครับ
- Tensonez ผิวขาว ใส ลดฝ้า
- Depigment ช่วยลดฝ้า
- Filorga ช่วยผิวขาวใส ลดฝ้า และบำรุงผิวล้ำลึก
- Alpha arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง
แต่ในกรณีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า ที่ต้องการการบำรุงเฉพาะเจาะจง การฉีดเมโสหน้าใส จะเหมาะสมกว่าครับ โดยการฉีดเมโสหน้าใส มีสูตรหน้าขาวใส ที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆที่ทำให้หน้าขาว เช่น vitamin ABCE, Transamin, Glutathione สามารถช่วยลดเลือนรอยฝ้าและกระได้ รวมถึงยังช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง เสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวได้ครับ ซึ่งมีหลาย ยี่ห้อ เช่น
ที่ V Square Clinic เราจะให้แพทย์ตรวจประเมินผิวหน้าคนไข้ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้จะได้สูตรเมโสที่เหมาะกับสภาพผิวคนไข้มากที่สุดครับ
บทความแนะนำ
วิธีป้องกันฝ้า กระ
- หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะแดดช่วง10.00-16.00 น. ก่อนออกแดดทุกครั้งควรใช้ร่มที่ป้องกันรังสียูวี สวมหมวก ใช้ผ้าคลุม
- การทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิว โดยเลือกที่มี SPF30+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ และมีค่าป้องกัน PA2+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ โดยควรทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกแดด 30 นาที
- ใส่ใจดูแลผิวหน้า อาจดูแลด้วยครีมบำรุง หรือการเติมวิตามินผิว ให้แข็งแรงด้วยเมโสหน้าใส (Mesotheraphy) คือ ทรีทเม้นท์บำรุงผิว ซึ่งเป็นทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่าง ๆ
- หลีกเลี่ยงยา ฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุให้เกิดฝ้า หรือยาเพิ่มฮอร์โมนอื่น ๆ เช่น ยาคุมกำเนิด อาจจะต้องเปลี่ยนการคุมกำเนิดโดยต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงหลีกเลี่ยงความเครียด ขับถ่ายให้เป็นเวลา เพราะมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้ไม่ค่อยดี ส่งผลให้เมลานินทำงานผิดปกติ เกิดรอยฝ้า กระได้ชัดมากยิ่งขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น มะเขือเทศ ฝรั่ง ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตฐาน เพราะอาจมีสารที่ทำให้เกิดฝ้าได้ โดยเฉพาะครีมหน้าขาว ที่โฆษณาเห็นผลเร็ว เห็นผลไว มักเต็มไปด้วยสารปรอทครับ และสารเคมีเหล่านี้จะทำร้ายผิว และเป็นต้นเหตุทำให้เกิดฝ้าได้ด้วย
โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก มาทำให้สามารถฉีดเข้าในชั้นผิวได้โดยตรง และออกฤทธิ์ไวขึ้น ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวเพื่อให้ผิวเต่งตึงได้ครับ
สรุป
สำหรับใครที่กำลังกังวลใจหน้าเป็นฝ้า มีกระ บนผิวหน้า หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากเกิดแล้ว หมอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์หรือคลินิกรักษาฝ้าครับ ว่าความรุนแรงอยู่ในระดับใด และแก้ไขด้วยวิธีไหนถึงเหมาะสม ข้อสำคัญต้องหมั่นดูแลตัวเอง ปกป้องใบหน้า ผิวจากแสงแดด ใส่ใจและบำรุงผิวอยู่เสมอครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ควรกิน ควรเลี่ยง
Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย
ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?
ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสียอย่า...
Reading Time: 6 minutes- ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?
ไขมันช่องท้อง อันตราย! แนะนำวิธีลดไขมันช่องท้อง เพื่อหุ่น...
Reading Time: 4 minutes- ไขมันช่องท้อง เกิดจากอะไร? - การวัดค่าไขมันในช่องท้อง - ไขมันในช่องท้องเยอะ อันตรายไหม? - วิธีลดไขมันในช่องท้องด้วยตัวเอง - วิธีลดไขมันในช่องท้อง เร่งด่วน
ulthera prime รุ่นใหม่ เทียบกับรุ่นเก่าต่างกันอย่างไร ? เ...
Reading Time: 3 minutes- ulthera prime คืออะไร ? - ulthera prime ช่วยอะไรได้บ้าง ? - ulthera prime ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - ขั้นตอนการทำ ulthera prime - ulthera prime กี่วันเห็นผล ?
5 อาการหลังทำ HIFU ผลข้างเคียง เจ็บ บวม ช้ำ ปกติหรือไม่ ด...
Reading Time: 2 minutes- หลัง HIFU ผลข้างเคียง มีอะไรบ้าง? - วิธีดูแลตัวเองหลังทำ hifu เพื่อคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น - เลือกคลินิกทำ hifu ที่ไหนปลอดภัย เห็นผล