วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะเป็นจุดบกพร่องบนใบหน้าที่สังเกตเห็นได้ชัด พอเป็นแล้วก็แก้ไขยาก หลายคนอาจใช้เครื่องสำอางช่วยปกปิด แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาฝ้าจากต้นเหตุครับ
สำหรับคนที่เจอปัญหาฝ้า หมอมีวิธีรักษาฝ้าทั้งการเลเซอร์ ฉีดเมโสและวิธีลดฝ้าแบบธรรมชาติมาแนะนำในบทความนี้
ฝ้า คืออะไร ?
ฝ้า คือลักษณะของผิวหนังที่เมลานินหรือเม็ดสีผิวทำงานมากเกินไปจนทำให้เกิดเป็นปื้นเล็ก ๆ หรือจุดสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม หรือมีลักษณะเป็นสีดำ,เทา มักพบในบริเวณใบหน้า โหนกแก้ม คาง หน้าผาก รวมไปถึงบริเวณหน้าอก แขน ลำคอ เป็นต้น
ลักษณะของฝ้าจะมีทั้งแบบตื้นที่จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) และแบบฝังลึกที่จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ซึ่งฝ้าทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีวิธีการรักษาที่ต่างกันและขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลครับ
ฝ้า เกิดจากอะไร ?
อย่างที่หลายคนทราบดีว่าปัญหาฝ้า ส่วนมากมีสาเหตุสำคัญจากแสงแดด เนื่องจากเวลาที่เราตากแดด เม็ดสีเมลานินจะทำงานเพื่อกรองรังสียูวีที่มากระทบผิว ตัวการที่ทำให้เกิดฝ้าก็คือรังสียูวีเอครับ ซึ่งมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสียูวีบี จึงสามารถทำลายผิวได้ลึกกว่า ทำให้เกิดจุดสีเข้มขึ้นบนใบหน้า
นอกจากนี้การใช้เครื่องสำอาง การรับประทานยาบางชนิด พันธุกรรมและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็ส่งผลให้เกิดฝ้าได้ เช่น ในคนที่กำลังตั้งครรภ์ ทานยาคุม หรือคนที่เข้าสู่วัยทอง เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน
ฝ้าจะเกิดบริเวณโหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง จะเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัยกลางคนอายุ 20-50 ปี และพบได้บ่อยกว่าในผู้ชาย ส่วนวิธีรักษาฝ้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีและลดฝ้าลงได้ อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ขึ้นอยู่กับประเภทและความลึกของฝ้าครับ
ฝ้า มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร ?
ฝ้า คือ รอยปื้นใหญ่บนผิว จะมีสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาจากสีผิวเดิม และจะเข้มขึ้นอีกตามอายุ แตกต่างจากกระ ที่เป็นจุดเล็กๆ และจุดด่างดำที่เป็นรอยอักเสบจากการเป็นสิว เราสามารถแบ่งลักษณะของฝ้าได้ 2 ประเภท
- ฝ้าแบบตื้น
เป็นฝ้าที่อยู่บนชั้นหนังกำพร้า เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีและลำเลียงขึ้นสู่ผิวหนังชั้นบน ฝ้าชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ และเห็นขอบชัดเจน
- ฝ้าแบบลึก
เป็นฝ้าที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง โดยอยู่ในผิวชั้นลึกกว่าหนังกำพร้า ทำให้เห็นเป็นรอยไม่ชัด มีสีอ่อนกว่าฝ้าที่อยู่บนผิวชั้นบน และมีขอบเขตไม่ชัดเจน
แต่ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาฝ้า มักจะเป็นทั้งฝ้าแบบตื้นและแบบลึก เรียกว่าฝ้าผสมครับ รักษายากกว่าเป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง และเมื่อรักษาแล้วไม่ค่อยหายขาด สามารถเป็นซ้ำได้อีก โดยเฉพาะคนที่เป็นฝ้าจากพันธุกรรมหรือฮอร์โมน ที่แม้จะใช้วิธีรักษาฝ้าที่ดีแค่ไหนมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงมากครับ
ฝ้า กระ จุดด่างดำ อันตรายไหม ?
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวครับ แต่อาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจต่อเจ้าของใบหน้าที่อาจทำให้ขาดความมั่นใจได้ หลาย ๆ คนจึงมักหาวิธีรักษาฝ้าที่ลองถูกลองผิดไปเรื่อย ๆ โดยไม่นึกถึงอันตรายที่แอบแฝงอยู่ หนึ่งในวิธีนั้นคือการซื้อผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีคุณภาพ หรือครีมที่ไม่ผ่าน อย. มาใช้
สิ่งที่หมออยากเตือนคืออันตรายจากผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพนั้นร้ายแรงกว่ามากครับ อย่างพวกครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ในช่วงแรกอาจได้ผลดี แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นซ้ำเนื่องจากผิวหน้าติดสารเคมี ดังนั้นเราควรศึกษาวิธีรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน หรือไปหาหมอเพื่อปรึกษาและทำการรักษาอย่างถูกต้องก็จะมีความปลอดภัยกว่าครับ
10 วิธีรักษาฝ้า แบบไหนดีอย่างไร ?
วิธีการรักษาฝ้านั้นมีหลายวิธีครับ มีทั้งการรักษาด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ การทาครีมบำรุง การฉีดเมโส ตลอดไปจนถึงการรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ทั้งนี้ในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลาในการเห็นผลก็จะแตกต่างกันไป อย่างการรักษาด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ การทาครีมบำรุง วิธีเหล่านี้เป็นเพียงแค่การช่วยชะลอฝ้าไว้เท่านั้น หรือในฝ้าบางประเภท อาจจะไม่ได้ผลเลยก็มีครับ
การทาครีมที่มีส่วนประกอบของ AHA (Alpha Hydroxy Acid) ,อาร์บูติน (Arbutin) ,กรดโคจิก (Kojic) จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกและเผยผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ฝ้าจางลง ผิวหน้าดูสม่ำเสมอได้ครับ แต่ข้อเสียต้องทาครีมอย่างสม่ำเสมอ และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
สำหรับยารักษาฝ้าส่วนใหญ่จะมีไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งจะช่วยยับยั้งกระบวนการการสร้างเมลานิน ทำให้ฝ้าดูจางลงได้ แต่มีข้อควรระวัง คือต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะหากใช้ปริมาณมากเกินไป (ไม่ควรใช้เกิน 2%) จะทำให้เกิดรอยด่างขาวเป็นจุด ๆ ได้
วิธีรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นอีกวิธีที่เห็นผลเร็วครับ เครื่องเลเซอร์รักษาฝ้าที่นิยม ได้แก่ เลเซอร์ ND-Yag , Fractional, Q-Switch, Picosecond Laser, Copper Bromide laser เป็นต้น เป็นการยิงเพื่อปรับสภาพและรักษาความผิดปกติของสีผิว ยิงลงไปบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรงและทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน เพื่อไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลัดผิวไวยิ่งขึ้น แต่หลังจากยิงเลเซอร์จะมีการตกสะเก็ดและอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ครับ
ในหัวไชเท้า มีสารไกลโคไซด์ (Glycossides) กรดแอสคอบิกและวิตามินเอ มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิวคล้ำ ลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำลดลงได้
แต่การมาสก์หน้าด้วยหัวไชเท้าสดบดอย่างเดียวจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย หากผิวได้รับสารบางตัวที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะทำให้เกิดการแสบแดงได้ สามารถประยุกต์โดยผสมกับจมูกข้าวหรือน้ำผึ้งให้เป็นครีมแล้วนำมาพอกหน้า 15-20 นาที แล้วล้างให้สะอาด สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
ในงานวิจัยพบว่าใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยในการรักษาโรคผิวหนังได้ ใบบัวบกจะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด แก้ร้อนใน ทำให้ผิวมีการฟื้นฟู สามารถนำมาปั่นแล้วเช็ดแทนโทนเนอร์ ทำทุกวันจะช่วยให้ฝ้าจางลงได้ครับ ข้อควรระวังคือควรล้างใบบัวบกให้สะอาดก่อนนำมาปั่น เพราะอาจมีเศษดิน สิ่งสกปรกปนเปื้อนได้
มะขามเปียก เป็นวิธีรักษาฝ้าบนใบหน้าอีกวิธีที่ประหยัดและหาวัตถุดิบได้ง่าย ซึ่งในมะขามเปียกมีกรด AHA ตามธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำให้ฝ้าจางลงได้ โดยการนำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำสะอาด นำมาพอกผิว 3-5 นาที แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง คู่กับการทาครีมบำรุง วิธีนี้ไม่เหมาะผิวแพ้ง่าย เพราะอาจทำให้หน้าแห้ง แสบ ระคายเคืองได้ครับ
การรักษาฝ้าด้วยว่านหางจระเข้ เป็นการนำว่านหางจระเข้ นำไปแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด สามารถนำไปปั่นหรือบดก็ได้ หลังจากนั้นเอามาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คู่กับการทาครีมบำรุง
ไอออนโตรักษาฝ้า (Iontophoresis) เป็นเครื่องมือรักษาฝ้าทางการแพทย์ที่อาศัยหลักการให้กำเนิดกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในระดับอ่อน ๆ การทำงานของไอออนโตจะมีหน้าที่ช่วยผลักยาหรือวิตามินที่เราทาไว้บนผิวให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ข้อดีของการรักษาด้วยไอออนโตคือจะมีผลข้างเคียงน้อย แต่บางรายอาจมีอาการระคายเคืองได้
การกรอผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล หรือการทำ MD จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล (Crystal) ที่มีขนาดเล็กเท่ากับทรายละเอียดลงบนผิว ผงคริสตัลที่กระทบกับผิวจะกำจัดสิ่งสกปรกขี้บนผิวหนังให้หลุดลอกออกเร็วกว่าปกติ และมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ผลที่ได้คือหน้ากระจ่างใส ฝ้า กระ จุดด่างดำก็จะจางลงครับ แต่ถ้าใช้พลังงานที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
การรักษาฝ้าด้วย IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการรักษาที่คล้ายเลเซอร์เพียงแต่มีพลังงานต่ำกว่าครับ วิธีนี้จะเจ็บน้อยหรือไม่เจ็บเลย ไม่ต้องทายาชาเหมือนการทำเลเซอร์ มีหลักการทำงานโดยการใช้แสงยิงลงไปที่ผิวให้เกิดความร้อนเพื่อทำลายโปรตีนของเม็ดสีผิวหรือเมลานิน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ข้อเสียคือต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล และไม่ได้เป็นการรักษาฝ้าที่หายขาด มีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมามีสีเข้มเหมือนเดิมได้ครับ
วิธี รักษาฝ้าด้วยเมโส สามารถช่วยชะลอการกระจายของฝ้าได้ และการฉีดเมโสหน้าใสต่อเนื่องจะช่วยให้ฝ้าจางลง 20-50% ในบางเคสครับ ซึ่งในปัจจุบันแม้จะเป็นเทคโนโลยีล่าสุด เลเซอร์ pico ยาทา ยากิน ยาฉีด ยังไม่มีวิธีไหนที่ทำให้ฝ้าหายขาดได้เลยครับ
ข้อดีของการฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้า
- เป็นทางลัดในการบำรุงผิวโดยฉีดตัวยาที่มีประโยชน์เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานกว่าการทาครีมทั่วไป
- ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวได้ทันทีจึงเป็นการช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำอย่างตรงจุด
- การฉีดเมโสหน้าใส จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเต่งตึง ใบหน้าขาวใสขึ้น
- ช่วยขับสารพิษที่สะสมในผิว ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ช่วยลด ฝ้า กระ จุดด่าง ได้จริงไหม?
สูตรเมโสหน้าใสลดฝ้า
- Tensonez ช่วยเรื่องขาว ผิวใส ลดฝ้า
- Alpha arbutin / Neo-Glutanex Glow เน้นลดฝ้า แต่จะค่อนข้างแสบ
- Filorga เน้นขาวใส ลดฝ้า และบำรุงผิว
การฉีดเมโสหน้าใส จะเริ่มเห็นผลใน 3 วันหลังฉีด ผิวดีขึ้น และตัวยาออกฤทธิ์เต็มที่ใน 7-14 วัน แต่วิธีแก้ฝ้าบนใบหน้าจะต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการฉีดเมโส แนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งในเดือนแรก จากนั้นฉีดทุกๆ 2 อาทิตย์
วิธีรักษาฝ้าด้วยเมโสหน้าใส จะช่วยบำรุงผิวไปในตัว เห็นผลเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน ควรให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและเลือกสูตรตัวยาที่เหมาะสม เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด
บทความแนะนำ
เลือกคลินิกรักษาฝ้า ที่ไหนดี?
ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกรักษาฝ้า หมอมีข้อแนะนำการเลือกคลินิก ดังนี้
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกกฎหมาย ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ สะอาด มีห้องทำหัตถการกว้างขว้าง
- มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ อยู่ประจำคลินิก สามารถให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
- ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือที่ใช้ เป็นของแท้ สามารถตรวจสอบได้
- มีรีวิว จากผู้ใช้บริการจริงที่คลินิก
- มีช่องทางติดต่อออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ดูแลเคสของตัวเองได้โดยตรง
- หลีกเลี่ยงแสงแดด
วิธีแก้ฝ้าบนใบหน้าที่ดีที่สุดคือการป้องกันแสงแดดครับ เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้า ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นวิธีป้องกันการเกิดฝ้าที่เห็นผลที่สุด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อการป้องกันแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้า
นอกจากแสงแดดที่ต้องระวัง ไอร้อนจากเตาและรังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าได้ครับ รวมไปถึงยาและครีมบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และการทาครีมที่มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน
- การล้างหน้าตามแนวโพรงขน
การล้างหน้าที่ถูกต้องจะทำให้สิ่งสกปรก สารเคมี ความมันและเครื่องสำอาง หลุดออกจากรูขุมขน ลดการเกิดสิ่งอุดตันในรูขุมขน โดยการล้างหน้าตามแนวโพรงขน นอกจากช่วยขจัดสิ่งสกปรกแล้วยังช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดให้ดีขึ้น ทำให้เกิดฝ้าได้ยากขึ้น
สรุป
สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีลดฝ้า หมอแนะนำให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาของตัวเองครับ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิน วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุดคือการป้องกันและบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยการทาครีม หรือถ้าหากอยากได้ผลลัพธ์เร็วก็สามารถฉีดเมโสหน้าใส ที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงแสงแดดและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้าครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส