วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ บนใบหน้า มีอะไรบ้าง วิธีไหนเห็นผลดีที่สุด ?

Reading Time: 4 minutes

วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ

วิธีรักษาฝ้า

วิธีลด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วย เมโสหน้าใส

วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะเป็นจุดบกพร่องบนใบหน้าที่สังเกตเห็นได้ชัด พอเป็นแล้วก็แก้ไขยาก หลายคนอาจใช้เครื่องสำอางช่วยปกปิด แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาฝ้าจากต้นเหตุครับ

สำหรับคนที่เจอปัญหาฝ้า หมอมีวิธีรักษาฝ้าทั้งการเลเซอร์ ฉีดเมโสและวิธีลดฝ้าแบบธรรมชาติมาแนะนำในบทความนี้


ฝ้า คืออะไร ?

ฝ้า คือลักษณะของผิวหนังที่เมลานินหรือเม็ดสีผิวทำงานมากเกินไปจนทำให้เกิดเป็นปื้นเล็ก ๆ หรือจุดสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม หรือมีลักษณะเป็นสีดำ,เทา มักพบในบริเวณใบหน้า โหนกแก้ม คาง หน้าผาก รวมไปถึงบริเวณหน้าอก แขน ลำคอ เป็นต้น

ลักษณะของฝ้าจะมีทั้งแบบตื้นที่จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) และแบบฝังลึกที่จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ซึ่งฝ้าทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีวิธีการรักษาที่ต่างกันและขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลครับ


ฝ้า เกิดจากอะไร ?

อย่างที่หลายคนทราบดีว่าปัญหาฝ้า ส่วนมากมีสาเหตุสำคัญจากแสงแดด เนื่องจากเวลาที่เราตากแดด เม็ดสีเมลานินจะทำงานเพื่อกรองรังสียูวีที่มากระทบผิว ตัวการที่ทำให้เกิดฝ้าก็คือรังสียูวีเอครับ ซึ่งมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสียูวีบี จึงสามารถทำลายผิวได้ลึกกว่า ทำให้เกิดจุดสีเข้มขึ้นบนใบหน้า

นอกจากนี้การใช้เครื่องสำอาง การรับประทานยาบางชนิด พันธุกรรมและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็ส่งผลให้เกิดฝ้าได้ เช่น ในคนที่กำลังตั้งครรภ์ ทานยาคุม หรือคนที่เข้าสู่วัยทอง เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน

บริเวณที่เกิดฝ้า

ฝ้าจะเกิดบริเวณโหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง จะเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัยกลางคนอายุ 20-50 ปี และพบได้บ่อยกว่าในผู้ชาย ส่วนวิธีรักษาฝ้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีและลดฝ้าลงได้ อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ขึ้นอยู่กับประเภทและความลึกของฝ้าครับ


ฝ้า มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร ?

ฝ้า คือ รอยปื้นใหญ่บนผิว จะมีสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาจากสีผิวเดิม และจะเข้มขึ้นอีกตามอายุ แตกต่างจากกระ ที่เป็นจุดเล็กๆ และจุดด่างดำที่เป็นรอยอักเสบจากการเป็นสิว เราสามารถแบ่งลักษณะของฝ้าได้ 2 ประเภท

  • ฝ้าแบบตื้น

เป็นฝ้าที่อยู่บนชั้นหนังกำพร้า เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีและลำเลียงขึ้นสู่ผิวหนังชั้นบน ฝ้าชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ และเห็นขอบชัดเจน

  • ฝ้าแบบลึก

เป็นฝ้าที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง โดยอยู่ในผิวชั้นลึกกว่าหนังกำพร้า ทำให้เห็นเป็นรอยไม่ชัด มีสีอ่อนกว่าฝ้าที่อยู่บนผิวชั้นบน และมีขอบเขตไม่ชัดเจน

ประเภทของฝ้า

แต่ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาฝ้า มักจะเป็นทั้งฝ้าแบบตื้นและแบบลึก เรียกว่าฝ้าผสมครับ รักษายากกว่าเป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง และเมื่อรักษาแล้วไม่ค่อยหายขาด สามารถเป็นซ้ำได้อีก โดยเฉพาะคนที่เป็นฝ้าจากพันธุกรรมหรือฮอร์โมน ที่แม้จะใช้วิธีรักษาฝ้าที่ดีแค่ไหนมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงมากครับ


ฝ้า กระ จุดด่างดำ อันตรายไหม ?

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวครับ แต่อาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจต่อเจ้าของใบหน้าที่อาจทำให้ขาดความมั่นใจได้ หลาย ๆ คนจึงมักหาวิธีรักษาฝ้าที่ลองถูกลองผิดไปเรื่อย ๆ โดยไม่นึกถึงอันตรายที่แอบแฝงอยู่ หนึ่งในวิธีนั้นคือการซื้อผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีคุณภาพ หรือครีมที่ไม่ผ่าน อย. มาใช้

สิ่งที่หมออยากเตือนคืออันตรายจากผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพนั้นร้ายแรงกว่ามากครับ อย่างพวกครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ในช่วงแรกอาจได้ผลดี แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นซ้ำเนื่องจากผิวหน้าติดสารเคมี ดังนั้นเราควรศึกษาวิธีรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน หรือไปหาหมอเพื่อปรึกษาและทำการรักษาอย่างถูกต้องก็จะมีความปลอดภัยกว่าครับ


10 วิธีรักษาฝ้า แบบไหนดีอย่างไร ?

วิธีการรักษาฝ้านั้นมีหลายวิธีครับ มีทั้งการรักษาด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ การทาครีมบำรุง การฉีดเมโส ตลอดไปจนถึงการรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ทั้งนี้ในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลาในการเห็นผลก็จะแตกต่างกันไป อย่างการรักษาด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ การทาครีมบำรุง วิธีเหล่านี้เป็นเพียงแค่การช่วยชะลอฝ้าไว้เท่านั้น หรือในฝ้าบางประเภท อาจจะไม่ได้ผลเลยก็มีครับ

1. การทาครีมหรือยารักษาฝ้า

การทาครีมรักษาฝ้า

การทาครีมที่มีส่วนประกอบของ AHA (Alpha Hydroxy Acid) ,อาร์บูติน (Arbutin) ,กรดโคจิก (Kojic) จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกและเผยผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ฝ้าจางลง ผิวหน้าดูสม่ำเสมอได้ครับ แต่ข้อเสียต้องทาครีมอย่างสม่ำเสมอ และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล

สำหรับยารักษาฝ้าส่วนใหญ่จะมีไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งจะช่วยยับยั้งกระบวนการการสร้างเมลานิน ทำให้ฝ้าดูจางลงได้ แต่มีข้อควรระวัง คือต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะหากใช้ปริมาณมากเกินไป (ไม่ควรใช้เกิน 2%) จะทำให้เกิดรอยด่างขาวเป็นจุด ๆ ได้

2. เลเซอร์รักษาฝ้า

เลเซอร์

วิธีรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นอีกวิธีที่เห็นผลเร็วครับ เครื่องเลเซอร์รักษาฝ้าที่นิยม ได้แก่ เลเซอร์ ND-Yag , Fractional, Q-Switch, Picosecond Laser, Copper Bromide laser เป็นต้น เป็นการยิงเพื่อปรับสภาพและรักษาความผิดปกติของสีผิว ยิงลงไปบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรงและทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน เพื่อไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลัดผิวไวยิ่งขึ้น แต่หลังจากยิงเลเซอร์จะมีการตกสะเก็ดและอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ครับ

3. มาสก์หน้าด้วยหัวไชเท้า

มาสก์หน้าด้วยหัวไชเท้า

ในหัวไชเท้า มีสารไกลโคไซด์ (Glycossides) กรดแอสคอบิกและวิตามินเอ มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิวคล้ำ ลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำลดลงได้

แต่การมาสก์หน้าด้วยหัวไชเท้าสดบดอย่างเดียวจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย หากผิวได้รับสารบางตัวที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะทำให้เกิดการแสบแดงได้ สามารถประยุกต์โดยผสมกับจมูกข้าวหรือน้ำผึ้งให้เป็นครีมแล้วนำมาพอกหน้า 15-20 นาที แล้วล้างให้สะอาด สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

4. มาสก์หน้าด้วยใบบัวบก

มาสก์หน้าด้วยใบบัวบก

ในงานวิจัยพบว่าใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยในการรักษาโรคผิวหนังได้ ใบบัวบกจะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด แก้ร้อนใน ทำให้ผิวมีการฟื้นฟู สามารถนำมาปั่นแล้วเช็ดแทนโทนเนอร์ ทำทุกวันจะช่วยให้ฝ้าจางลงได้ครับ ข้อควรระวังคือควรล้างใบบัวบกให้สะอาดก่อนนำมาปั่น เพราะอาจมีเศษดิน สิ่งสกปรกปนเปื้อนได้

5. มาสก์หน้าด้วยมะขามเปียก

มาสก์หน้าด้วยมะขามเปียก

มะขามเปียก เป็นวิธีรักษาฝ้าบนใบหน้าอีกวิธีที่ประหยัดและหาวัตถุดิบได้ง่าย ซึ่งในมะขามเปียกมีกรด AHA ตามธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำให้ฝ้าจางลงได้ โดยการนำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำสะอาด นำมาพอกผิว 3-5 นาที แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง คู่กับการทาครีมบำรุง วิธีนี้ไม่เหมาะผิวแพ้ง่าย เพราะอาจทำให้หน้าแห้ง แสบ ระคายเคืองได้ครับ

6. มาสก์หน้าด้วยว่านหางจระเข้

การรักษาฝ้าด้วยว่านหางจระเข้ เป็นการนำว่านหางจระเข้ นำไปแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด สามารถนำไปปั่นหรือบดก็ได้ หลังจากนั้นเอามาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คู่กับการทาครีมบำรุง

การรักษาฝ้าด้วยว่านหางจระเข้ เป็นการนำว่านหางจระเข้ นำไปแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด สามารถนำไปปั่นหรือบดก็ได้ หลังจากนั้นเอามาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คู่กับการทาครีมบำรุง

7. ไอออนโตรักษาฝ้า

ไอออนโตรักษาฝ้า

ไอออนโตรักษาฝ้า (Iontophoresis) เป็นเครื่องมือรักษาฝ้าทางการแพทย์ที่อาศัยหลักการให้กำเนิดกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในระดับอ่อน ๆ การทำงานของไอออนโตจะมีหน้าที่ช่วยผลักยาหรือวิตามินที่เราทาไว้บนผิวให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ข้อดีของการรักษาด้วยไอออนโตคือจะมีผลข้างเคียงน้อย แต่บางรายอาจมีอาการระคายเคืองได้

8. กรอผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล

กรอผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล

การกรอผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล หรือการทำ MD จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล (Crystal) ที่มีขนาดเล็กเท่ากับทรายละเอียดลงบนผิว ผงคริสตัลที่กระทบกับผิวจะกำจัดสิ่งสกปรกขี้บนผิวหนังให้หลุดลอกออกเร็วกว่าปกติ และมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ผลที่ได้คือหน้ากระจ่างใส ฝ้า กระ จุดด่างดำก็จะจางลงครับ แต่ถ้าใช้พลังงานที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

9. รักษาฝ้าด้วย IPL

รักษาฝ้าด้วย IPL

การรักษาฝ้าด้วย IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการรักษาที่คล้ายเลเซอร์เพียงแต่มีพลังงานต่ำกว่าครับ วิธีนี้จะเจ็บน้อยหรือไม่เจ็บเลย ไม่ต้องทายาชาเหมือนการทำเลเซอร์ มีหลักการทำงานโดยการใช้แสงยิงลงไปที่ผิวให้เกิดความร้อนเพื่อทำลายโปรตีนของเม็ดสีผิวหรือเมลานิน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ข้อเสียคือต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล และไม่ได้เป็นการรักษาฝ้าที่หายขาด มีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมามีสีเข้มเหมือนเดิมได้ครับ

10. รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยเมโส

เมโสหน้าใส-ลดฝ้า

วิธี รักษาฝ้าด้วยเมโส สามารถช่วยชะลอการกระจายของฝ้าได้ และการฉีดเมโสหน้าใสต่อเนื่องจะช่วยให้ฝ้าจางลง 20-50% ในบางเคสครับ ซึ่งในปัจจุบันแม้จะเป็นเทคโนโลยีล่าสุด เลเซอร์ pico ยาทา ยากิน ยาฉีด ยังไม่มีวิธีไหนที่ทำให้ฝ้าหายขาดได้เลยครับ 

ข้อดีของการฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้า

  • เป็นทางลัดในการบำรุงผิวโดยฉีดตัวยาที่มีประโยชน์เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานกว่าการทาครีมทั่วไป
  • ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวได้ทันทีจึงเป็นการช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำอย่างตรงจุด
  • การฉีดเมโสหน้าใส จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเต่งตึง ใบหน้าขาวใสขึ้น
  • ช่วยขับสารพิษที่สะสมในผิว ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ช่วยลด ฝ้า กระ จุดด่าง ได้จริงไหม?

สูตรเมโสหน้าใสลดฝ้า

  1. Tensonez ช่วยเรื่องขาว ผิวใส ลดฝ้า
  2. Alpha arbutin / Neo-Glutanex Glow เน้นลดฝ้า แต่จะค่อนข้างแสบ
  3. Filorga เน้นขาวใส ลดฝ้า และบำรุงผิว

การฉีดเมโสหน้าใส จะเริ่มเห็นผลใน 3 วันหลังฉีด ผิวดีขึ้น และตัวยาออกฤทธิ์เต็มที่ใน 7-14 วัน แต่วิธีแก้ฝ้าบนใบหน้าจะต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการฉีดเมโส แนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งในเดือนแรก จากนั้นฉีดทุกๆ 2 อาทิตย์

วิธีรักษาฝ้า-ด้วยเมโสหน้าใส

วิธีรักษาฝ้าด้วยเมโสหน้าใส จะช่วยบำรุงผิวไปในตัว เห็นผลเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน ควรให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและเลือกสูตรตัวยาที่เหมาะสม เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด

รีวิว รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยเมโส

รีวิว เมโสหน้าใส Made Collagen ที่ V Square Clinic

รีวิวฉีดเมโส1
รีวิวฉีดเมโส2
รีวิวฉีดเมโส3
รีวิวฉีดเมโส4

เลือกคลินิกรักษาฝ้า ที่ไหนดี?

ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกรักษาฝ้า หมอมีข้อแนะนำการเลือกคลินิก ดังนี้

  1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกกฎหมาย ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ สะอาด มีห้องทำหัตถการกว้างขว้าง
  2. มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ อยู่ประจำคลินิก สามารถให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
  3. ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือที่ใช้ เป็นของแท้ สามารถตรวจสอบได้
  4. มีรีวิว จากผู้ใช้บริการจริงที่คลินิก
  5. มีช่องทางติดต่อออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ดูแลเคสของตัวเองได้โดยตรง

วิธีป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ

วิธีป้องกันฝ้า
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด

วิธีแก้ฝ้าบนใบหน้าที่ดีที่สุดคือการป้องกันแสงแดดครับ เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้า ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นวิธีป้องกันการเกิดฝ้าที่เห็นผลที่สุด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อการป้องกันแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ

  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้า

นอกจากแสงแดดที่ต้องระวัง ไอร้อนจากเตาและรังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าได้ครับ รวมไปถึงยาและครีมบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และการทาครีมที่มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน

  • การล้างหน้าตามแนวโพรงขน

การล้างหน้าที่ถูกต้องจะทำให้สิ่งสกปรก สารเคมี ความมันและเครื่องสำอาง หลุดออกจากรูขุมขน ลดการเกิดสิ่งอุดตันในรูขุมขน โดยการล้างหน้าตามแนวโพรงขน นอกจากช่วยขจัดสิ่งสกปรกแล้วยังช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดให้ดีขึ้น ทำให้เกิดฝ้าได้ยากขึ้น

วิธีลดฝ้าด้วยการล้างหน้า

สรุป

สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีลดฝ้า หมอแนะนำให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาของตัวเองครับ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิน วิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุดคือการป้องกันและบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยการทาครีม หรือถ้าหากอยากได้ผลลัพธ์เร็วก็สามารถฉีดเมโสหน้าใส ที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงแสงแดดและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้าครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ควรกิน ควรเลี่ยง

Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย

December 18, 2024 อ่านต่อ

ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสียอย่า...

Reading Time: 6 minutes- ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?

ไขมันช่องท้อง อันตราย! แนะนำวิธีลดไขมันช่องท้อง เพื่อหุ่น...

Reading Time: 4 minutes- ไขมันช่องท้อง เกิดจากอะไร? - การวัดค่าไขมันในช่องท้อง - ไขมันในช่องท้องเยอะ อันตรายไหม? - วิธีลดไขมันในช่องท้องด้วยตัวเอง - วิธีลดไขมันในช่องท้อง เร่งด่วน

ulthera prime รุ่นใหม่ เทียบกับรุ่นเก่าต่างกันอย่างไร ? เ...

Reading Time: 3 minutes- ulthera prime คืออะไร ? - ulthera prime ช่วยอะไรได้บ้าง ? - ulthera prime ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - ขั้นตอนการทำ ulthera prime - ulthera prime กี่วันเห็นผล ?

5 อาการหลังทำ HIFU ผลข้างเคียง เจ็บ บวม ช้ำ ปกติหรือไม่ ด...

Reading Time: 2 minutes- หลัง HIFU ผลข้างเคียง มีอะไรบ้าง? - วิธีดูแลตัวเองหลังทำ hifu เพื่อคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น - เลือกคลินิกทำ hifu ที่ไหนปลอดภัย เห็นผล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า