Monopolar RF
Monopolar RF เป็นนวัตกรรมการยกกระชับที่น่าจับตามอง ด้วยเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และความต้องการในการฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องยกกระชับหลาย ๆ ยี่ห้อนำ Monopolar RF มาใช้และพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวให้ดีขึ้น
ในบทความนี้ หมอจะพาไปทำความรู้จักกับ Monopolar RF คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? หลักการทำงาน ประโยชน์ และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้คนไข้สามารถนำไปใช้ในการดูแลผิวได้อย่างเห็นผลและปลอดภัยที่สุดครับ
สารบัญ Monopolar RF
Monopolar RF คืออะไร ?
Monopolar RF (Radio-Frequency) คือ เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) แบบขั้วเดียว ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิว และสลายไขมัน ทำให้ผิวเรียบเนียน ตึงกระชับขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
หลักการทำงานของ Monopolar RF
Monopolar RF ส่งพลังงานความถี่วิทยุแบบขั้วเดียวผ่านหัวสัมผัส สร้างความร้อนลึกใต้ชั้นผิวหนัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ทำให้เส้นใยเดิมหดตัว เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และฟื้นฟูสภาพผิว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแต่ละชั้นผิว ดังนี้
- Epidermis ชั้นหนังกำพร้า เป็นผิวหนังชั้นบนสุด คลื่นวิทยุ Monopolar RF จะกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์เพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น และขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวขาวใสขึ้น
- Dermis ชั้นหนังแท้ เป็นผิวหนังชั้นถัดลงมา คลื่นวิทยุ Monopolar RF จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติน ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย กระชับและยืดหยุ่นขึ้น
- Subcutaneous Fat ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง คลื่นวิทยุ Monopolar RF จะไปสลายไขมันหรือลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน และกระชับสัดส่วน
ประโยชน์ของ Monopolar RF
Monopolar RF มีประโยชน์หลากหลายด้านในการดูแลและปรับปรุงสภาพผิว ได้แก่
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิว
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน ลดชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- ช่วยปรับรูปหน้าเรียววีเชฟ กระชับกรอบหน้าให้คมชัด ดูมีมิติ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ให้ผิวเฟิร์ม เด้ง เต่งตึง
- ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใสขึ้น
Monopolar RF มีข้อดีอย่างไรเมื่อเทียบกับ Bipolar RF
ข้อดีของ Monopolar RF (RF แบบขั้วเดียว) เมื่อเทียบกับ Bipolar RF (RF แบบสองขั้ว) หมอสรุปให้ดังนี้ครับ
- สามารถเจาะลึกถึงชั้นผิวที่ลึกกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการรักษาผิวที่หย่อนคล้อยหรือการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึก
- มีการกระจายพลังงานในพื้นที่กว้าง ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษาบริเวณที่กว้างและหลายจุดพร้อมกัน
- ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า โดยการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวที่ลึก ทำให้ผลลัพธ์ยืดหยุ่นและยาวนานขึ้น
- เหมาะสำหรับการรักษาหลายปัญหาผิวพร้อมกัน ทั้งกระชับผิว ลดริ้วรอย และการปรับโครงสร้างผิว
ข้อควรรู้ : คลื่นวิทยุ RF ที่นำมาใช้ในการเสริมความงาม หลัก ๆ มี 4 แบบ คือ Bipolar RF, Monopolar RF, Tripolar RF และ Multipolar RF สามารถนำมาใช้ยกกระชับผิวได้ทั้งหมด ส่วนการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินตามปัญหาผิวและสภาพผิวของแต่ละคนเป็นรายเคสไปครับ
Monopolar RF พบได้ในเครื่องยี่ห้อไหนบ้าง ?
เครื่อง Monopolar RF ถูกนำมาใช้ในวงการความงามและการแพทย์อย่างแพร่หลาย โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ได้แก่
Thermage FLX
เครื่อง Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว หรือ Monopolar RF ปล่อยพลังงานในแต่ละจุดบนใบหน้าได้อย่างแม่นยำ โดยมี AccuREP เซ็นเซอร์วัดความร้อนบนผิว เพื่อควบคุมการปล่อยพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกช็อตที่ยิง หัวทิปมีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ กระจายพลังงานได้ดี ลงลึกครอบคลุมทุกชั้นผิว เห็นผลหลังทำทันที 20% คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
Oligio
Oligio นวัตกรรมยกกระชับที่ทำงานด้วยหลักการส่งคลื่นวิทยุความถี่ Monopolar RF 6.78 MHz ร่วมกับเทคโนโลยี W-SIM (Skin Impedance Matching Technology) ที่ช่วยส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวหนังได้แม่นยำ มีหัวทิป 2 ขนาด ให้เลือกใช้งานตามบริเวณที่ต้องการปรับสภาพผิวและยกกระชับ เห็นผลหลังทำทันที 20% คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน
สรุปได้ว่า Monopolar RF แต่ละยี่ห้อ ทั้ง Thermage และ Oligio แม้จะมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป แต่หลักการทำงานของ Monopolar RF ยังคงเหมือนกันคือการใช้พลังงานคลื่นวิทยุในการกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนครับ
เปรียบเทียบ Monopolar RF ในเครื่อง Oligio กับ Thermage แตกต่างกันอย่างไร ?
ทั้ง Oligio และ Thermage ทั้งสองใช้หลักการเดียวกันคือ Monopolar RF แต่มีความแตกต่างกันในด้านเทคโนโลยีการทำงาน, ระยะเวลาในการรักษา, ผลลัพธ์ และความรู้สึกระหว่างทำ
สรุปความต่าง Oligio กับ Thermage
- Oligio : โดดเด่นในด้านการกระจายพลังงานสม่ำเสมอ ทำให้ผิวไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ และเหมาะสำหรับการทำในพื้นที่กว้าง เช่น กรอบหน้า หน้าผาก และลำคอ
- Thermage : มีหัวยิงให้เลือกใช้เยอะกว่า พลังงานสูงกว่า Oligio จึงเห็นผลชัดและนานกว่า โดยเฉพาะในเรื่องการยกกระชับหน้า ลดผิวหย่อนคล้อย เช่น รอบดวงตา และบริเวณที่มีไขมันใต้ผิวหนังมาก
ใช้ Monopolar RF ตำแหน่งไหนบนใบหน้าได้บ้าง ?
คลื่นวิทยุ Monopolar RF สามารถทำได้ทั่วหน้าครับ และในบริเวณที่ต้องการเน้น เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอบดวงตา ร่องแก้ม รอบปาก กรอบหน้า ลำคอ เหนียงใต้คาง รวมบริเวณร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ Monopolar RF
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ผิวหน้ามีปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- ผู้ที่มีเหนียงใต้คาง ต้องการกระชับกรอบหน้า
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว
- ผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์ คุณแม่หลังคลอด
- ผู้ที่กลัวเจ็บ ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากฉีด
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน ไม่มีเวลาพักฟื้น
ใครบ้างที่ไม่เหมาะสมกับการใช้ Monopolar RF
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ โรคผิวหนังเฉพาะที่ เช่น โรคสะเก็ดเงิน, โรคเริม หรือการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง
- ผู้ที่มีอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือโลหะฝังอยู่บริเวณที่ทำการรักษา
- หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรังรุนแรง เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคหัวใจขั้นรุนแรง
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants)
- ผู้ที่เพิ่งได้รับการทำหัตถการทางความงามอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกัน เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์
Monopolar RF อันตรายไหม ?
Monopolar RF ไม่อันตรายหากใช้เครื่องแท้ที่ได้มาตรฐาน และทำหัตถการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านเทรนนิงการใช้งานเครื่อง สามารถปรับค่าพลังงานได้อย่างเหมาะสม หลังทำจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ครับ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ Monopolar RF
หลังทำอาจเกิดรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย เป็นอาการปกติจากความร้อน เกิดขึ้นได้ชั่วคราวหลังการรักษา ไม่ถือเป็นผลข้างเคียงที่อันตรายครับ โดยมักจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง และในบางรายอาจรู้สึกระบมใต้ผิว จะหายได้เองภายใน 3-10 วัน
ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อันตรายจะมาจากการใช้เครื่องปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกรดต่ำ ทำแล้วไม่เห็นผล หรือในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เกิดความเสียหายกับผิวหน้า เช่น เกิดรอยบุ๋ม ขรุขระ ผิวหน้าไหม้ เกิดรอยดำ อักเสบ หรือใบหน้าเสียทรง หน้าเบี้ยวผิดรูปได้
ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และต้องเช็กให้มั่นใจคลินิกนั้น ๆ ใช้ Monopolar RF แท้ ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยครับ
Monopolar RF ต่างกับเครื่อง Ulthera และ Hifu อย่างไร ?
เครื่อง Ulthera และ Hifu สามารถใช้ยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และปรับรูปหน้าได้เช่นเดียวกับเครื่อง Monopolar RF ครับ แตกต่างกันที่เครื่อง Ulthera และ Hifu ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง เน้นส่งพลังงานลงลึกที่ผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แต่ใบหน้ามีชั้นไขมันไม่มากครับ
สรุป Monopolar RF เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ
Monopolar RF (Radio-Frequency) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียวในการฟื้นฟูสภาพผิวและสลายไขมันได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดหรือการใช้เข็ม ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น ลดริ้วรอยและยังสามารถป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคตได้ด้วยครับ