Oligio กับ Thermage อยากหน้าเด็ก ต้องรู้ก่อนเลือก
อยากหน้าเด็ก หน้ายก แต่ไม่รู้ว่าระหว่าง Oligio กับ Thermage จะเลือกอะไรดี ? เพราะทั้งคู่เป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) เหมือนกัน
แต่รู้หรือไม่ครับว่าทั้ง Oligio และ Thermage ก็มีจุดที่ต่างกันอยู่ในบางประการ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบางคนทำ Oligio แล้วประทับใจ แต่บางคนกลับรู้สึกว่าทำ Thermage แล้วคุ้มค่ากว่าเยอะ
Oligio กับ Thermage ต่างกันยังไง ?
Oligio กับ Thermage อันไหนดีกว่ากัน ?
บทความนี้หมอจะมาเปรียบเทียบความเหมือน ความต่าง เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปกับการลองผิดลองถูกกันครับ
Oligio กับ Thermage
- Oligio กับ Thermage ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopolar RF ชนิดเดียวกัน แต่ต่างกันที่ความแรงของพลังงาน
- Oligio เจ็บน้อยกว่า Thermage เหมาะกับคนที่กลัวเจ็บ ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป สะดวกกลับมาทำซ้ำบ่อย
- Thermage คุ้มค่ากับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ทำครั้งเดียวเห็นผลชัดและอยู่นาน
- ถ้ายังลังเล อ่านเปรียบเทียบแบบละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยครับ!
สารบัญ Oligio กับ Thermage
Oligio กับ Thermage คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ?
Oligio คืออะไร ?
Oligio คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency – RF) ในรูปแบบ Monopolar โดยออกแบบมาเพื่อยกกระชับใบหน้า สลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มและเหนียง พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ให้ผิวกลับมาเฟิร์ม มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น เรียบเนียน และกระชับขึ้น
หลักการทำงานของ Oligio
- ปล่อยพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นผิว → คลื่นความร้อนจาก RF จะถูกส่งลงไปยังชั้น หนังแท้ (Dermis) และ SMAS เพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน
- สลายไขมันใต้ชั้นผิว (Fat Reduction) → พลังงาน RF ช่วยทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Collagen Remodeling) →พลังงานความร้อนจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis) พร้อมจัดเรียงคอลลาเจนเดิมให้เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง
ข้อควรรู้ : Oligio คือ เครื่องยกกระชับที่ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ในปี 2024 พัฒนาโดย WONTECH จากประเทศเกาหลีใต้ นำเข้าจัดจำหน่ายในไทยโดย WONTECH ASIA (วอนเทค เอเชีย)
Thermage คืออะไร ?
Thermage คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่น Monopolar RF (Radio Frequency) แบบขั้วเดียว สามารถยิงลงได้ลึกถึง 3 ชั้นผิว จึงช่วยทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมัน และช่วยฟื้นฟูผิวชั้นบนให้เรียบเนียน ผิวแน่น รูขุมขนเล็กลง ในขณะที่เครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้ครับ
หลักการทำงานของ Thermage
- ส่งพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน → คลื่นความร้อนจะเข้าไปทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที ทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis) → พลังงานความร้อนจะไปทำการแยกโมเลกุลของน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที พร้อมจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวแน่น กระชับขึ้นเรื่อย ๆ
- สลายไขมันใต้ชั้นผิว (Fat Reduction) → เทคโนโลยีของ Thermage FLX สามารถส่งพลังงานลงถึงชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียง และกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
ข้อควรรู้ : Thermage คือ เครื่องยกกระชับที่ผ่านการรับรอง US FDA และ อย.ไทย พัฒนาโดย Solta Medical Inc. บริษัทเครื่องมือแพทย์ชั้นนำระดับโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยโดยบริษัท ซอลต้า เมดิคอล (ประเทศไทย) (Solta Medical Thailand)
เปรียบเทียบ Oligio กับ Thermage ทุกด้านแบบเข้าใจง่าย
คุณสมบัติ | Oligio | Thermage |
---|---|---|
ประเทศผู้ผลิต | เกาหลีใต้ (ปี 2020) | สหรัฐอเมริกา (ปี 2018) |
พลังงานที่ใช้ | Monopolar RF | Monopolar RF |
รุ่น | มี 1 รุ่น | มี 4 รุ่น |
จำนวนหัวยิง | มี 2 หัวสำหรับใบหน้าและรอบดวงตา | มี 3 หัวสำหรับใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว |
ระดับความลึกของพลังงาน | ลงลึก 3 mm ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน | ลงลึก 4.3 mm ถึงชั้นหนังกำพร้าชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน |
ระดับความร้อนของพลังงาน | 40-60°C | 45-70°C |
คุณสมบัติ | ยกกระชับใบหน้า ลดไขมันบริเวณแก้ม เหนียง กระตุ้นคอลลาเจน | ยกกระชับใบหน้า ลดไขมันสะสม กระตุ้นคอลลาเจน เพิ่ม Skin Quality ให้ผิวแน่น เฟิร์ม |
ระดับปัญหาผิวที่เหมาะสม | หย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง | หย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก |
ตำแหน่งที่ใช้ได้ | ใบหน้า, รอบดวงตา, เหนียง, ลำตัว | ใบหน้า, รอบดวงตา, เหนียง, ลำตัว |
ระยะเวลาเห็นผล | หลังทำทันที 20% เห็นผลชัดใน 1-3 เดือน | หลังทำทันที 20% เห็นผลชัดใน 2-6 เดือน |
ความรู้สึกขณะทำ | อุ่นๆ สบายๆ | ร้อนลึก ๆ อาจรู้สึกจี๊ดเล็กน้อย |
ระยะเวลาทำ | 20-30 นาที | 40-90 นาที |
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ | 6-12 เดือน | 1-2 ปี |
ค่าใช้จ่าย | เริ่มต้นที่ 20,xxx.-/300 Shot | เริ่มต้นที่ 29,xxx.-/450 Shot |
ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ? คนไข้สามารถอ่านหัวข้อถัดไป เพื่อดูว่าระหว่าง Oligio VS Thermage แบบไหนเหมาะใครครับ
ใครเหมาะกับ Oligio ? ใครควรเลือก Thermage ?
ใครเหมาะกับ Oligio ?
- มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น
- ต้องการลดไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียง เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวแน่น เฟิร์ม และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว แต่ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ต้องการตัวเลือกที่มีราคาคุ้มค่า และสามารถทำซ้ำได้เป็นระยะเพื่อคงผลลัพธ์
ใครควรเลือก Thermage ?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก และต้องการยกกระชับอย่างล้ำลึก
- ผู้ที่มีปัญหาคอเหี่ยว ย่น หย่อนยาน ที่ทำให้ดูมีอายุ
- ต้องการลดไขมันบริเวณใบหน้าและเหนียง มีกรอบหน้าชัดขึ้น
- ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นคอลลาเจนอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผิวเฟิร์มขึ้น
- ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ
- มองหาเครื่องยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการดึงหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม
ข้อดีและข้อเสียของ Oligio กับ Thermage
ข้อดีและข้อเสียของ Oligio
ข้อดี
- ไม่เจ็บมาก ขณะทำรู้สึกอุ่น ๆ สบายผิว
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนแบบเป็นธรรมชาติ
- เห็นผลทันทีหลังทำและเห็นต่อเนื่องใน 1-3 เดือน
- ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Thermage (ประมาณ 3-6 เดือน)
- ต้องทำซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
- คนที่มีผิวบาง หลังทำผิวอาจแดง สามารถหายเองภายใน 1 ชั่วโมง
- เห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่า Thermage โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก
ข้อดีและข้อเสียของ Thermage
ข้อดี
- มีค่าพลังงานสูง ทำให้สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่า
- ช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิว ซึ่งเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้
- มีระบบ Cooling effect ที่ช่วยป้องกันผิวไหม้ ทำให้ระหว่างทำคนไข้จะรู้สึกเจ็บน้อยลง
- หลังทำทันที 20% และดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2-6 เดือน
- อยู่ได้นาน 2 ปี คุ้มค่าในระยะยาว ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
- สามารถช่วยลดไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
- ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว
ข้อเสีย
- ขณะทำอาจรู้สึกเจ็บกว่า Oligio เพราะค่าพลังงานสูงกว่า แต่ Thermage FLX รุ่นใหม่ ช่วยลดความเจ็บลง และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
- ราคาสูงกว่า Oligio แต่ให้ผลลัพธ์ที่นานกว่า
- หลังทำในบางรายอาจรู้สึกเสียว ๆ ใต้ผิว พบได้ทั่วไป สามารถหายได้เองภายใน 3-10 วัน
นอกจาก Oligio กับ Thermage มีเครื่องยกกระชับตัวไหน น่าสนใจอีกบ้าง ?
นอกจาก Oligio กับ Thermage ยังมีเทคโนโลยียกกระชับผิวอื่น ๆ ที่ช่วยลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน และปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น โดยแต่ละเทคโนโลยีมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้ครับ
Ulthera SPT
- Ulthera ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง (Focused Ultrasound) ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า กังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยเล็ก ๆ ใช้ได้ทั้งบริเวณใบหน้า กรอบหน้า เหนียง ลำคอ และเนินอก
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
คนไข้สามารถอ่านบทความเปรียบเทียบ Ulthera กับ Thermage และดูรายละเอียด Ulthera Prime รุ่นใหม่ ที่หมอเคยเขียนไว้ได้ครับ
Hifu Ultraformer III
- Ultraformer III ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ถือเป็นเครื่องรุ่นที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera สามารถส่งพลังงานลงลึกได้ถึงชั้น SMAS
- เหมาะกับคนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ต้องการปรับผิวให้กระชับขึ้น
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน
Morpheus8
- morpheus8 ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF แบบหัวเข็มนาโน ส่งพลังงานลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อย ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
ทุกเทคโนโลยีที่หมอได้ยกตัวอย่างมา ล้วนมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว แต่มีความแตกต่างในแง่ของกลไกการทำงาน ความลึกในการเข้าถึงชั้นผิว และระยะเวลาในการเห็นผล
ดังนั้นการเลือกใช้งาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกเครื่องยกกระชับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคลครับ
ข้อควรระวังก่อน-หลังทำ Oligio กับ Thermage
ก่อนตัดสินใจทำ Oligio กับ Thermage คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดของแต่ละเทคโนโลยี รวมถึงการเตรียมตัวก่อนทำ และการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด
ใครไม่ควรทำ Oligio และ Thermage ?
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง
- ผู้ที่มีโลหะฝังในร่างกาย (เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ) ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
การเตรียมตัวก่อนทำ Oligio กับ Thermage
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด AHA, BHA หรือเรตินอล อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดการตากแดดจัด หรือทำกิจกรรมที่ทำให้ผิวไหม้ก่อนทำหัตถการ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น
- หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา
การดูแลตัวเองหลังทำ Oligio กับ Thermage
- หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง และทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- ดื่มน้ำมาก ๆ และใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือทำทรีตเมนต์ที่มีความร้อนสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
ผลข้างเคียงของ Oligio กับ Thermage มีอะไรบ้าง ?
แม้ว่า Oligio และ Thermage จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก FDA แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณี ดังนั้นจึงควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ
ผลข้างเคียงของ Oligio
- มีอาการแดงเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นทันทีหลังทำ แต่อาการจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง
- มีอาการบวมเล็กน้อย บางคนอาจรู้สึกผิวบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ทำหัตถการ ซึ่งจะลดลงภายใน 24 ชั่วโมง
- มีอาการผิวแห้งหรือระคายเคืองเล็กน้อย บางคนอาจมีอาการผิวแห้งหลังทำ ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ช่วยบำรุง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิดหรือผิวบอบบางมาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหากมีปัญหาผิวอักเสบหรือเป็นโรคผิวหนัง
ผลข้างเคียงของ Thermage
- มีอาการบวมและแดง อาจเกิดขึ้นได้ชั่วคราวหลังทำ แต่จะหายไปภายใน 1-3 วัน
- มีความรู้สึกจี๊ดๆ หรืออุ่นๆ ใต้ผิวหนัง เนื่องจากพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นคอลลาเจน ทำให้บางคนรู้สึกอุ่นใต้ผิวหลังทำ
- อาจมีรอยแดงหรือบวมบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น รอบดวงตาหรือกรอบหน้า ซึ่งจะหายไปใน 2-3 วัน
ทั้ง Oligio และ Thermage เป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำกับแพทย์และเครื่องแท้ที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
Oligio กับ Thermage ราคาเท่าไหร่ แพงไหม ?
Oligio ราคาเริ่มต้นประมาณ 2x,xxx.- / 300 ช็อต ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกครับ
ส่วน Thermage ราคา ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ถ้าหากต้องทำหลาย shot ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน shot ไปด้วยครับ
เครื่อง Thermage ที่ V Square Clinic เลือกใช้คือ Thermage FLX ครับ เพราะสามารถคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำขึ้น และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำ Thermage รุ่นเก่า
ราคา Thermage FLX
คลิก Banner เพื่อเปรียบเทียบราคา และเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับคุณ!
📌 แอดไลน์รับโปรพิเศษเฉพาะคุณ! จองคิววันนี้ รับโปรโมชั่น สำหรับ Thermage ปรึกษาแพทย์ฟรี ก่อนตัดสินใจ!
คำถามที่พบบ่อย
Oligio กับ Thermage อันไหนเห็นผลเร็วกว่ากัน ?
- Thermage เห็นผลทันที ประมาณ 20-30% และจะชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน
- Oligio เห็นผลทันที ประมาณ 10-20% และจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 3-6 เดือน
Oligio กับ Thermage อันไหนเจ็บกว่ากัน ? ต้องใช้ยาชาไหม ?
- Oligio เจ็บน้อยกว่า ให้ความรู้สึกอุ่น ๆ ขณะทำ อาจไม่ต้องใช้ยาชา
- Thermage เจ็บกว่าเล็กน้อย รู้สึกจี๊ด ๆ สามารถใช้ยาชาช่วยลดความเจ็บได้ แต่ Thermage FLX รุ่นใหม่ จะเจ็บน้อยกว่าเดิม และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
*ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
หลังทำ Oligio กับ Thermage ต้องพักฟื้นไหม ?
- Oligio ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- หลังทำ Thermage อาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่หายไปในไม่กี่ชั่วโมง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
Oligio กับ Thermage อายุเท่าไหร่ถึงจะทำได้ ?
- Oligio เหมาะกับคนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เริ่มมีริ้วรอย ต้องการป้องกันและดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ
- Thermage เหมาะกับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับแบบเห็นผลและอยู่ได้นาน
Oligio กับ Thermage ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
- Oligio แนะนำ 2-3 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- Thermage ทำครั้งเดียวก็เห็นผล
สรุป Oligio กับ Thermage เลือกอะไรดีกว่ากัน ?
ทั้ง Oligio กับ Thermage คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุเหมือนกัน ต่างกันที่ความแรงของระดับพลังงาน ซึ่งการเลือกว่าจะทำอะไรดี หมอมองว่าขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของคนไข้แต่ละคนครับ
- หากมีริ้วรอยเล็กน้อย ต้องการกระชับผิวแบบอ่อนโยน ไม่เจ็บ → เลือก Oligio
- หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน และอยู่ได้นาน → เลือก Thermage
แต่หากคนไข้ท่านใดยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนที่สุดหรือเข้ามาขอคำแนะนำกับหมอที่ V Square Clinic ก่อนได้ ปรึกษาและประเมินสภาพผิวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ