Oligio กับ Thermage อันไหนดีกว่ากัน ? เปรียบเทียบให้ชัด ก่อนตัดสินใจทำ!

Reading Time: 5 minutes

Oligio กับ Thermage อยากหน้าเด็ก ต้องรู้ก่อนเลือก

Oligio กับ Thermage

อยากหน้าเด็ก หน้ายก แต่ไม่รู้ว่าระหว่าง Oligio กับ Thermage จะเลือกอะไรดี ? เพราะทั้งคู่เป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) เหมือนกัน

แต่รู้หรือไม่ครับว่าทั้ง Oligio และ Thermage ก็มีจุดที่ต่างกันอยู่ในบางประการ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบางคนทำ Oligio แล้วประทับใจ แต่บางคนกลับรู้สึกว่าทำ Thermage แล้วคุ้มค่ากว่าเยอะ

Oligio กับ Thermage ต่างกันยังไง ?
Oligio กับ Thermage อันไหนดีกว่ากัน ?

บทความนี้หมอจะมาเปรียบเทียบความเหมือน ความต่าง เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปกับการลองผิดลองถูกกันครับ

สรุป Key Takeaway

Oligio กับ Thermage

  • Oligio กับ Thermage ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopolar RF ชนิดเดียวกัน แต่ต่างกันที่ความแรงของพลังงาน
  • Oligio เจ็บน้อยกว่า Thermage เหมาะกับคนที่กลัวเจ็บ ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป สะดวกกลับมาทำซ้ำบ่อย
  • Thermage คุ้มค่ากับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ทำครั้งเดียวเห็นผลชัดและอยู่นาน
  • ถ้ายังลังเล อ่านเปรียบเทียบแบบละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยครับ!

สารบัญ Oligio กับ Thermage


Oligio กับ Thermage คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ?

Oligio กับ Thermage ต่างกันอย่างไร

Oligio คืออะไร ?

Oligio คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency – RF) ในรูปแบบ Monopolar โดยออกแบบมาเพื่อยกกระชับใบหน้า สลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มและเหนียง พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ให้ผิวกลับมาเฟิร์ม มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น เรียบเนียน และกระชับขึ้น

หลักการทำงานของ Oligio

  • ปล่อยพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นผิว → คลื่นความร้อนจาก RF จะถูกส่งลงไปยังชั้น หนังแท้ (Dermis) และ SMAS เพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน
  • สลายไขมันใต้ชั้นผิว (Fat Reduction) → พลังงาน RF ช่วยทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Collagen Remodeling) →พลังงานความร้อนจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis) พร้อมจัดเรียงคอลลาเจนเดิมให้เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง
VSqare Tips (VSQ Tips)

ข้อควรรู้ : Oligio คือ เครื่องยกกระชับที่ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ในปี 2024 พัฒนาโดย WONTECH จากประเทศเกาหลีใต้ นำเข้าจัดจำหน่ายในไทยโดย WONTECH ASIA (วอนเทค เอเชีย)

Thermage คืออะไร ?

Thermage คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่น Monopolar RF (Radio Frequency) แบบขั้วเดียว สามารถยิงลงได้ลึกถึง 3 ชั้นผิว จึงช่วยทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมัน และช่วยฟื้นฟูผิวชั้นบนให้เรียบเนียน ผิวแน่น รูขุมขนเล็กลง ในขณะที่เครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้ครับ

หลักการทำงานของ Thermage

  • ส่งพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน → คลื่นความร้อนจะเข้าไปทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที ทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis) → พลังงานความร้อนจะไปทำการแยกโมเลกุลของน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที พร้อมจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวแน่น กระชับขึ้นเรื่อย ๆ
  • สลายไขมันใต้ชั้นผิว (Fat Reduction) → เทคโนโลยีของ Thermage FLX สามารถส่งพลังงานลงถึงชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียง และกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
VSqare Tips (VSQ Tips)

ข้อควรรู้ : Thermage คือ เครื่องยกกระชับที่ผ่านการรับรอง US FDA และ อย.ไทย พัฒนาโดย Solta Medical Inc. บริษัทเครื่องมือแพทย์ชั้นนำระดับโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยโดยบริษัท ซอลต้า เมดิคอล (ประเทศไทย) (Solta Medical Thailand)


เปรียบเทียบ Oligio กับ Thermage ทุกด้านแบบเข้าใจง่าย

คุณสมบัติ OligioThermage
ประเทศผู้ผลิตเกาหลีใต้ (ปี 2020)สหรัฐอเมริกา (ปี 2018)
พลังงานที่ใช้ Monopolar RFMonopolar RF
รุ่นมี 1 รุ่นมี 4 รุ่น
จำนวนหัวยิงมี 2 หัวสำหรับใบหน้าและรอบดวงตามี 3 หัวสำหรับใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว
ระดับความลึกของพลังงาน ลงลึก 3 mm ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันลงลึก 4.3 mm ถึงชั้นหนังกำพร้าชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน
ระดับความร้อนของพลังงาน40-60°C45-70°C
คุณสมบัติยกกระชับใบหน้า ลดไขมันบริเวณแก้ม เหนียง กระตุ้นคอลลาเจนยกกระชับใบหน้า ลดไขมันสะสม กระตุ้นคอลลาเจน เพิ่ม Skin Quality ให้ผิวแน่น เฟิร์ม
ระดับปัญหาผิวที่เหมาะสม หย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลางหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก
ตำแหน่งที่ใช้ได้ใบหน้า, รอบดวงตา, เหนียง, ลำตัวใบหน้า, รอบดวงตา, เหนียง, ลำตัว
ระยะเวลาเห็นผลหลังทำทันที 20% เห็นผลชัดใน 1-3 เดือนหลังทำทันที 20% เห็นผลชัดใน 2-6 เดือน
ความรู้สึกขณะทำอุ่นๆ สบายๆร้อนลึก ๆ อาจรู้สึกจี๊ดเล็กน้อย
ระยะเวลาทำ20-30 นาที40-90 นาที
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ 6-12 เดือน1-2 ปี
ค่าใช้จ่าย เริ่มต้นที่ 20,xxx.-/300 Shotเริ่มต้นที่ 29,xxx.-/450 Shot
ตารางเปรียบเทียบ Oligio กับ Thermage

ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ? คนไข้สามารถอ่านหัวข้อถัดไป เพื่อดูว่าระหว่าง Oligio VS Thermage แบบไหนเหมาะใครครับ


ใครเหมาะกับ Oligio ? ใครควรเลือก Thermage ?

Oligio กับ Thermage แบบไหนเหมาะกับใคร

ใครเหมาะกับ Oligio ?

  • มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น
  • ต้องการลดไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียง เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
  • ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวแน่น เฟิร์ม และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว แต่ไม่มีเวลาพักฟื้น
  • ต้องการตัวเลือกที่มีราคาคุ้มค่า และสามารถทำซ้ำได้เป็นระยะเพื่อคงผลลัพธ์

ใครควรเลือก Thermage ?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก และต้องการยกกระชับอย่างล้ำลึก
  • ผู้ที่มีปัญหาคอเหี่ยว ย่น หย่อนยาน ที่ทำให้ดูมีอายุ
  • ต้องการลดไขมันบริเวณใบหน้าและเหนียง มีกรอบหน้าชัดขึ้น
  • ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นคอลลาเจนอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผิวเฟิร์มขึ้น
  • ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ
  • มองหาเครื่องยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการดึงหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม

ข้อดีและข้อเสียของ Oligio กับ Thermage

Oligio กับ Thermage ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดีและข้อเสียของ Oligio

ข้อดี

  • ไม่เจ็บมาก ขณะทำรู้สึกอุ่น ๆ สบายผิว
  • ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนแบบเป็นธรรมชาติ
  • เห็นผลทันทีหลังทำและเห็นต่อเนื่องใน 1-3 เดือน
  • ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Thermage (ประมาณ 3-6 เดือน)
  • ต้องทำซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
  • คนที่มีผิวบาง หลังทำผิวอาจแดง สามารถหายเองภายใน 1 ชั่วโมง
  • เห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่า Thermage โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก

ข้อดีและข้อเสียของ Thermage

ข้อดี

  • มีค่าพลังงานสูง ทำให้สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่า
  • ช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิว ซึ่งเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้
  • มีระบบ Cooling effect ที่ช่วยป้องกันผิวไหม้ ทำให้ระหว่างทำคนไข้จะรู้สึกเจ็บน้อยลง
  • หลังทำทันที 20% และดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2-6 เดือน
  • อยู่ได้นาน 2 ปี คุ้มค่าในระยะยาว ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
  • สามารถช่วยลดไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
  • ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว

ข้อเสีย

  • ขณะทำอาจรู้สึกเจ็บกว่า Oligio เพราะค่าพลังงานสูงกว่า แต่ Thermage FLX รุ่นใหม่ ช่วยลดความเจ็บลง และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  • ราคาสูงกว่า Oligio แต่ให้ผลลัพธ์ที่นานกว่า
  • หลังทำในบางรายอาจรู้สึกเสียว ๆ ใต้ผิว พบได้ทั่วไป สามารถหายได้เองภายใน 3-10 วัน

นอกจาก Oligio กับ Thermage มีเครื่องยกกระชับตัวไหน น่าสนใจอีกบ้าง ?

เทียบ Oligio กับ Thermage และอื่น ๆ

นอกจาก Oligio กับ Thermage ยังมีเทคโนโลยียกกระชับผิวอื่น ๆ ที่ช่วยลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน และปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น โดยแต่ละเทคโนโลยีมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้ครับ

Ulthera SPT

  • Ulthera ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง (Focused Ultrasound) ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า กังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยเล็ก ๆ ใช้ได้ทั้งบริเวณใบหน้า กรอบหน้า เหนียง ลำคอ และเนินอก
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี

คนไข้สามารถอ่านบทความเปรียบเทียบ Ulthera กับ Thermage และดูรายละเอียด Ulthera Prime รุ่นใหม่ ที่หมอเคยเขียนไว้ได้ครับ

Hifu Ultraformer III

  • Ultraformer III ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ถือเป็นเครื่องรุ่นที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera สามารถส่งพลังงานลงลึกได้ถึงชั้น SMAS
  • เหมาะกับคนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ต้องการปรับผิวให้กระชับขึ้น
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน

Morpheus8

  • morpheus8 ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF แบบหัวเข็มนาโน ส่งพลังงานลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อย ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

ทุกเทคโนโลยีที่หมอได้ยกตัวอย่างมา ล้วนมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว แต่มีความแตกต่างในแง่ของกลไกการทำงาน ความลึกในการเข้าถึงชั้นผิว และระยะเวลาในการเห็นผล

ดังนั้นการเลือกใช้งาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกเครื่องยกกระชับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคลครับ


ข้อควรระวังก่อน-หลังทำ Oligio กับ Thermage

ก่อนตัดสินใจทำ Oligio กับ Thermage คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดของแต่ละเทคโนโลยี รวมถึงการเตรียมตัวก่อนทำ และการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

ใครไม่ควรทำ Oligio และ Thermage ?

  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง
  • ผู้ที่มีโลหะฝังในร่างกาย (เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ) ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

การเตรียมตัวก่อนทำ Oligio กับ Thermage

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด AHA, BHA หรือเรตินอล อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดการตากแดดจัด หรือทำกิจกรรมที่ทำให้ผิวไหม้ก่อนทำหัตถการ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น
  • หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา

การดูแลตัวเองหลังทำ Oligio กับ Thermage

  • หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง และทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำมาก ๆ และใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือทำทรีตเมนต์ที่มีความร้อนสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

ผลข้างเคียงของ Oligio กับ Thermage มีอะไรบ้าง ?

แม้ว่า Oligio และ Thermage จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก FDA แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณี ดังนั้นจึงควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

ผลข้างเคียงของ Oligio

  • มีอาการแดงเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นทันทีหลังทำ แต่อาการจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • มีอาการบวมเล็กน้อย บางคนอาจรู้สึกผิวบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ทำหัตถการ ซึ่งจะลดลงภายใน 24 ชั่วโมง
  • มีอาการผิวแห้งหรือระคายเคืองเล็กน้อย บางคนอาจมีอาการผิวแห้งหลังทำ ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ช่วยบำรุง
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิดหรือผิวบอบบางมาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหากมีปัญหาผิวอักเสบหรือเป็นโรคผิวหนัง

ผลข้างเคียงของ Thermage

  • มีอาการบวมและแดง อาจเกิดขึ้นได้ชั่วคราวหลังทำ แต่จะหายไปภายใน 1-3 วัน
  • มีความรู้สึกจี๊ดๆ หรืออุ่นๆ ใต้ผิวหนัง เนื่องจากพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นคอลลาเจน ทำให้บางคนรู้สึกอุ่นใต้ผิวหลังทำ
  • อาจมีรอยแดงหรือบวมบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น รอบดวงตาหรือกรอบหน้า ซึ่งจะหายไปใน 2-3 วัน

ทั้ง Oligio และ Thermage เป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำกับแพทย์และเครื่องแท้ที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น


Oligio กับ Thermage ราคาเท่าไหร่ แพงไหม ?

Oligio ราคาเริ่มต้นประมาณ 2x,xxx.- / 300 ช็อต ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกครับ

ส่วน Thermage ราคา ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ถ้าหากต้องทำหลาย shot ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน shot ไปด้วยครับ

เครื่อง Thermage ที่ V Square Clinic เลือกใช้คือ Thermage FLX ครับ เพราะสามารถคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำขึ้น และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำ Thermage รุ่นเก่า

ราคา Thermage FLX

Thermage ราคา

คลิก Banner เพื่อเปรียบเทียบราคา และเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับคุณ!

📌 แอดไลน์รับโปรพิเศษเฉพาะคุณ! จองคิววันนี้ รับโปรโมชั่น สำหรับ Thermage ปรึกษาแพทย์ฟรี ก่อนตัดสินใจ!


คำถามที่พบบ่อย

Oligio กับ Thermage อันไหนเห็นผลเร็วกว่ากัน ?

  • Thermage เห็นผลทันที ประมาณ 20-30% และจะชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน
  • Oligio เห็นผลทันที ประมาณ 10-20% และจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 3-6 เดือน

Oligio กับ Thermage อันไหนเจ็บกว่ากัน ? ต้องใช้ยาชาไหม ?

  • Oligio เจ็บน้อยกว่า ให้ความรู้สึกอุ่น ๆ ขณะทำ อาจไม่ต้องใช้ยาชา
  • Thermage เจ็บกว่าเล็กน้อย รู้สึกจี๊ด ๆ สามารถใช้ยาชาช่วยลดความเจ็บได้ แต่ Thermage FLX รุ่นใหม่ จะเจ็บน้อยกว่าเดิม และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

*ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

หลังทำ Oligio กับ Thermage ต้องพักฟื้นไหม ?

  • Oligio ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • หลังทำ Thermage อาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่หายไปในไม่กี่ชั่วโมง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น

Oligio กับ Thermage อายุเท่าไหร่ถึงจะทำได้ ?

  • Oligio เหมาะกับคนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เริ่มมีริ้วรอย ต้องการป้องกันและดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • Thermage เหมาะกับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับแบบเห็นผลและอยู่ได้นาน

Oligio กับ Thermage ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?

  • Oligio แนะนำ 2-3 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • Thermage ทำครั้งเดียวก็เห็นผล

สรุป Oligio กับ Thermage เลือกอะไรดีกว่ากัน ?

ทั้ง Oligio กับ Thermage คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุเหมือนกัน ต่างกันที่ความแรงของระดับพลังงาน ซึ่งการเลือกว่าจะทำอะไรดี หมอมองว่าขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของคนไข้แต่ละคนครับ

  • หากมีริ้วรอยเล็กน้อย ต้องการกระชับผิวแบบอ่อนโยน ไม่เจ็บ → เลือก Oligio
  • หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน และอยู่ได้นาน → เลือก Thermage

แต่หากคนไข้ท่านใดยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนที่สุดหรือเข้ามาขอคำแนะนำกับหมอที่ V Square Clinic ก่อนได้ ปรึกษาและประเมินสภาพผิวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
ปรึกษาหมอ
บทความแนะนำ

เรื่องที่ควรรู้ ก่อนทำปากกระจับ เลือกวิธีไหนดี ให้ปากสวยอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ

Reading Time: 5 minutes- ปากกระจับคืออะไร ? - ใครบ้างที่เหมาะกับการทำปากกระจับ ? - ทำปากกระจับมีวิธีไหนบ้าง ? - เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ ปากกระจับ - ทำปากกระจับ เสริมโหงวเฮ้งปาก

ทรงปากกระจับ มีลักษณะอย่างไร เหมาะกับใคร ? รูปปากแบบไหนเห...

Reading Time: 4 minutes- ทรงปากกระจับเหมาะกับคนไทยไหม ? - ปากกระจับเหมาะกับทรงปากแบบไหน ? - ทรงปากกระจับ มีลักษณะอย่างไร ? - วิธีการทำปากกระจับ - ฉีดปากกระจับ ราคาเท่าไหร่ ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...

Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส

ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม มีกี่รุ่นแต่ละรุ่นเหมาะกับส่วนไห...

Reading Time: 5 minutes- ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม มีคุณสมบัติอย่างไร? - ฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่น เหมาะกับส่วนไหน? - ฟิลเลอร์ Restylane ราคาเท่าไร? - ฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ตรวจสอบอย่างไร? - ข้อห้ามและข้อปฎิบัติสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ Restylane

juvederm volite แตกต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นอย่างไร ? เหมาะ...

Reading Time: 3 minutes- juvederm volite คือ ? - juvederm volite แตกต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นอย่างไร ? - juvederm volite เหมาะกับใคร ? - juvederm volite ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - juvederm volite ราคาเท่าไหร่ ?

ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสียอย่า...

Reading Time: 6 minutes- ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า