สิวที่แก้ม
สิวที่แก้ม เป็นปัญหาผิวที่หลายคนกำลังเผชิญ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคติดต่อและฝุ่น PM 2.5 ทำให้ต้องสวมแมสก์เป็นเวลานาน ผิวเกิดการเสียดสี ระคายเคือง และมีสิวขึ้นที่แก้ม
คนที่เป็นสิวที่แก้มและกำลังมองหาวิธีรักษา หมอจะมาแนะนำให้ในบทความนี้ พร้อมแชร์วิธีการดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้มีสิวที่แก้ม ข้อควรระวัง เป็นสิวที่แก้มไม่หายสักที ทำอย่างไร ? สาเหตุเกิดจากอะไร ? และวิธีการเลือกคลินิกรักษาสิวที่แก้ม ที่ไหนดี สามารถติดตามอ่านได้ครับ
สารบัญ สิวที่แก้ม
สิวที่แก้ม คืออะไร ลักษณะเป็นอย่างไร ?
สิวที่แก้ม คือความผิดปกติของรูขุมขนบริเวณแก้มที่อุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้มีลักษณะเป็นตุ่มนูนปรากฏบนผิวแก้ม สามารถเกิดได้ทั้งบริเวณแก้มส่วนบนและแก้มส่วนล่าง โดยอาจเป็นสิวที่แก้มข้างใดข้างหนึ่งหรือเป็นทั้งสองข้างได้ครับ
สิวที่แก้ม เกิดจากอะไร ?
สาเหตุหลักของการเป็นสิวที่แก้ม เกิดจากการอุดตันของสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เมื่อรวมกับน้ำมัน (Sebum) บนชั้นผิวหนังที่มากเกินไปจะทำให้รูขุมขนอุดตัน แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี นำไปสู่กระบวนการอักเสบและก่อให้เกิดสิว โดยมีปัจจัยเสริมที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวที่แก้ม ได้แก่
- การทำพฤติกรรมบางอย่าง เช่น เอามือสัมผัส จับ ลูบ แคะ แกะ เกาบริเวณแก้ม
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ เทสโทสเตอโรน ลิเธียม
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- การแปรปรวนของฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ใกล้เป็นประจำเดือน หรือผู้ที่มีระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนมากกว่าปกติ
- การเสียดสีที่เกิดจากหน้ากากอนามัย ปลอกหมอน หน้าจอโทรศัพท์มือถือ รวมถึงอุปกรณ์แต่งหน้า ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย หากไม่ทำความสะอาดให้ดีจะทำให้เกิดสิวที่แก้มได้ครับ
สิวที่แก้ม อันตรายไหม ?
สิวที่แก้ม เป็นอาการทางผิวหนังที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป เช่นเดียวกับสิวที่หน้าผาก สิวที่คาง หรือสิวที่หลัง สามารถพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่เป็นอันตรายครับ เพียงแต่หากปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่รักษา สิวอาจจะลุกลาม รุนแรงขึ้นและรักษาได้ยากขึ้น ทิ้งรอยแผลเป็น ส่งผลต่อความสวยงาม ความมั่นใจครับ
ประเภทของสิวที่แก้ม
สิวที่พบบ่อยบริเวณแก้ม มีหลายประเภทครับ สามารถจำแนกได้ตามลักษณะและระดับความรุนแรง ดังนี้
สิวหัวดำ หรือ สิวอุดตันหัวเปิด (Blackheads)
สิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มีหัวสีดำอยู่ตรงกลาง มองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า หัวสิวเป็นเม็ดไตแข็ง ๆ สามารถบีบออกหรือกดออกได้ แต่อาจเกิดการอักเสบ ทิ้งรอยสิวและหลุมสิว
สิวหัวขาว หรือ สิวอุดตันหัวปิด (Whiteheads)
สิวหัวขาว หรือสิวอุดตันหัวปิด มีลักษณะคล้าย ๆ สิวหัวดำ เป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก มองเห็นเป็นจุดสีขาวและไม่มีรูเปิด ไม่มีหัวสิวให้กดออก เพราะรากสิวอยู่ลึก อาจมีโอกาสติดเชื้อและพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้
สิวตุ่มแดง (Papule)
สิวตุ่มแดง มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็กอยู่ใต้ผิว ไม่มีหัวให้เห็น เป็นสิวอักเสบระยะเริ่มต้น พัฒนามาจากสิวอุดตันที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ผนังรูขุมขนแตก เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังจนเกิดการติดเชื้อและอักเสบ
สิวหัวหนอง (Pustule)
สิวหัวหนอง มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดง ขนาดใหญ่ และมีหนองอยู่ข้างบนตุ่ม เกิดจากการติดเชื้อในรูขุมขนทำให้อักเสบและกลายเป็นตุ่มหนอง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (Nodule)
สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ คือสิวอักเสบชนิดรุนแรง ลักษณะเป็นตุ่มแข็งสีแดงใหญ่ เกิดการอักเสบอยู่ใต้ผิวหนัง และเจ็บปวดมากเมื่อสัมผัส อาจพบเป็นหลายหัวสิวที่อยู่ติดกัน
สิวหัวช้าง (Nodulocystic acne)
สิวหัวช้าง มักจะมีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่กว่าและรุนแรงกว่าสิวประเภทอื่น ๆ สัมผัสแล้วเป็นก้อนไตแข็ง ๆ กดแล้วเจ็บ เกิดจากการอักเสบบริเวณกว้างลึกลงไปในชั้นผิว อาจจะมีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้
สิวเสี้ยน (Small Pimple)
สิวเสี้ยน ลักษณะคล้ายสิวอุดตัน จริง ๆ แล้วไม่ใช่สิว แต่เป็นขนและรากที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน เกิดจากรูขุมขนและต่อมไขมันสร้างเส้นขนออกมามากกว่าปกติ ทำให้มองเห็นเป็นเสี้ยนโผล่ขึ้นมาจากผิวหนัง
สิวเทียม สิวผด สิวหิน (Acne Aestivale)
สิวผด หรือสิวเทียม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สิวหิน มีลักษณะเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ ไม่มีหัวสิว กระจายอยู่ทั่วผิวแก้ม มักเกิดจากมลภาวะหรือพฤติกรรมที่ทำให้ผิวอ่อนแอลง อาจคันร่วมด้วย ไม่สามารถบีบออกได้
วิธีการรักษาสิวที่แก้ม
วิธีรักษาสิวที่แก้ม มีหลายวิธีครับ แต่ละวิธีก็จะเหมาะกับสภาพผิวและสิวแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน หมอแนะนำ 5 วิธีรักษาสิวที่เห็นผลดี ดังนี้
- แปะแผ่นดูดสิว
แผ่นแปะสิว มีส่วนผสมหลักของไฮโดรคอลลอยด์ (Hydrocolloid) ทำหน้าที่ดูดซับของเหลวหรือหนองออก ทำให้สิวแห้งไวขึ้น ลดการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อ เหมาะกับการรักษาสิวหัวหนองหรือหัวสิวที่อยู่ไม่ลึกมาก หากเป็นสิวอุดตันหรือสิวไม่มีหัวที่อักเสบลึกใต้ผิววิธีนี้จะไม่ได้ผลครับ
- กดสิว
การกดสิวโดยใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อเปิดรูขุมขนจะทำให้สิวหลุดออกจากชั้นผิวหนังได้ง่ายและเร็วขึ้น ช่วยป้องกันสิวอุดตันพัฒนากลายไปเป็นสิวอักเสบ ควรทำโดยแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากกดไม่ถูกวิธี หรือกดเอาสิ่งอุดตันออกมาไม่หมดอาจเสี่ยงติดเชื้อ เป็นรอยดำและหลุมสิวได้
- ฉีดสิว
การฉีดสิว เป็นวิธีที่ช่วยให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็วด้วยการฉีดสเตียรอยด์ ระงับความรุนแรงของสิวอักเสบ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดแผลเป็นหรือหลุมสิว เหมาะกับการฉีดสิวอักเสบลึก สิวไม่มีหัว เป็นไตแข็งนูน หลังฉีดสิวจะยุบลงได้จริง แต่หัวสิวยังคงอยู่ ทำให้มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำที่เดิมได้ ไม่หายขาดครับ
- เลเซอร์สิว
เลเซอร์รักษาสิวที่นิยม คือ เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 Laser มักใช้ในการกำจัดสิวหิน สิวอุดตันที่แข็งและฝังลึกมานาน และยังสามารถช่วยลดรอยสิวได้ หลังทำจะมีอาการบวมแดง เป็นแผลตกสะเก็ด ต้องพักฟื้นและหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการใช้หน้าเร่งด่วน
- ใช้ยารักษาสิว
ยารักษาสิว มีทั้งยาทาฆ่าเชื้อลดการอักเสบ ยาละลายหัวสิว และยาป้องกันการอักเสบของสิว ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบเยอะหรือมีสิวอุดตันจำนวนมากการใช้ยาทาเพียงอย่างเดียวจะเห็นผลช้า อาจต้องรับประทานยาหรือฉีดสิวร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาครับ
วิธีดูแลตัวเองไม่ให้มีสิวที่แก้ม
ดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้มีสิวที่แก้ม ควรเริ่มต้นจากการสร้างเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง สามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือใช้หัตถการทางการแพทย์ช่วยชะลอและลดโอกาสเกิดสิวที่แก้ม ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว หมอรวบรวมวิธีทำให้หน้าใสมาแนะนำ ดังนี้ครับ
วิธีป้องกันสิวที่แก้มด้วยตัวเอง
- ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อขจัดความมัน เหงื่อและสิ่งสกปรกออกให้หมดจด
- เลือกใช้สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูหรือสวมแมสก์เป็นเวลานาน ๆ ลดการเสียดสีบริเวณแก้ม
- หลีกเลี่ยงการนำมือมาจับ ลูบ นวด เกา หรือสัมผัสแก้ม หากจำเป็นจริง ๆ ควรล้างมือก่อนทุกครั้ง
- รักษาความสะอาดโดยการเปลี่ยนปลอกหมอนบ่อย ๆ และล้างแปรงแต่งหน้าหลังใช้เสร็จ ป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก
วิธีป้องกันสิวที่แก้มด้วยหัตถการ
- ฉีดเมโสหน้าใส : ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ และบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ปรับสภาพผิวชุ่มชื้น ลดรอยดำรอยแดงจากสิวให้ดูจางลง
- ฉีดมาเด้คอลลาเจน : มีจุดเด่นด้านการขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดสิว ลดผื่น หลังฉีดมาเด้ ผิวจะเรียบเนียนขึ้น สิวที่แก้มลดลง ช่วยป้องกันการเกิดสิวในอนาคตได้
- ฉีดวิตามินผิว : มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- ฉีด Rejuran : ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง ซ่อมแซมผิวจากภายใน แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง เสริมสร้าง Skin Barrier ต้านการอักเสบ
- ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว : เป็นวิธีรักษาหลุมสิวเร่งด่วนที่เห็นผลดีและปลอดภัย ช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น กระชับรูขุมขนเล็กลง ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
เป็นสิวที่แก้มไม่หายสักที ทำอย่างไร ?
เป็นสิวที่แก้มไม่หายสักที ทำไงดี ? สิวบางชนิดแม้จะรักษาหายแล้ว แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก มักมีสาเหตุมาจากการรักษาไม่ถูกวิธี หรือดูแลผิวไม่ต่อเนื่อง หมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง วินิจฉัยประเภทของสิว และเลือกวิธีรักษาให้เหมาะสม แก้ปัญหาอย่างตรงจุด
เป็นสิวที่แก้มมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?
คนที่เป็นสิวที่แก้ม ต้องระวังในเรื่องของความสะอาด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดสิว หากเป็นแล้วควรรีบรักษา ไม่ควรปล่อยไว้จนสิวอักเสบเรื้อรัง ลุกลามและทิ้งรอยแผลเป็นจะยิ่งรักษาได้ยากขึ้น ที่สำคัญคือต้องเลือกรักษาให้ถูกวิธี เพราะแต่ละวิธีไม่ได้เหมาะกับทุกคนหรือทุกประเภทของสิวครับ
รักษาสิวที่แก้ม ที่ไหนดี ?
รักษาสิวที่แก้ม ที่ไหนดี คนไข้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน ทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถตรวจประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม มีการนัดติดตามผล พร้อมทั้งแนะนำวิธีปฏิบัติตัวหลังทำอย่างใกล้ชิด
สรุป
สิวที่แก้ม แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ควรรีบรักษาครับ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสิวที่แก้มในระดับอักเสบรุนแรง รู้สึกเจ็บปวด เป็นมาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แนะนำให้เข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษา แก้ปัญหาสิวอย่างตรงจุด ทั้งนี้คนไข้ควรดูแลตัวเองร่วมด้วย เพื่อป้องกันการเกิดสิวซ้ำในจุดเดิมครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ