ตามเทรนด์สร้างกรอบหน้าคมชัดด้วย Radiesse Plus
หมอจะพามาทำความรู้จักกับ Radiesse Plus หรือ RADIESSE(+) คือ โปรแกรมปรับกรอบหน้าให้คมชัด มีมิติ ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยเรื่องกระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวไปพร้อมกัน เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Radiesse Classic ในไทยนำเข้าโดย Merz Aesthetics บริษัทนวัตกรรมความงามระดับโลก
Radiesse Plus มีจุดเด่นอะไรบ้าง ? ต่างจากรุ่นเดิมอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ Radiesse Plus
Radiesse Plus คืออะไร ? มีคุณสมบัติต่างจากเดิมอย่างไร ?
Radiesse Plus (เรเดียส พลัส) คือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกระตุ้นคอลลาเจน (ฺBiostimulator) ที่มีสารประกอบหลัก คือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite Microsphere) และ CMC (Sodium Carboxymethyl Cellulose)
มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวที่จะเริ่มเสื่อมสภาพลงเมื่อมีอายุมากขึ้นช่วยเติมเต็มยกกระชับผิวไปด้วยในเวลาเดียวกัน
โดย Radiesse Plus เป็นรุ่นที่มีการพัฒนามาจากรุ่นเดิมด้วยการเพิ่มยาชา 0.3% (Lidocaine) ไม่ต้องผสมน้ำเกลือหรือยาชา ทำให้เนื้อเจลมีความคงตัวสูง เมื่อฉีดแล้วไม่เกิดกระจายตัวไปยังบริเวณอื่น คงรูป ชูผลลัพธ์เด่นถึง 3 ประการ ได้แก่ Lift & Contour Now & Long After
• Lifting ยกกระชับให้โครงหน้าชัด
• Contour สร้างกรอบหน้าให้พุ่ง มีมิติ
• Now & Long After กรอบหน้าคมชัด เป็นธรรมชาติ นานถึง 2 ปี
Radiesse กับ Radiesse Plus ต่างกันอย่างไร ?
Radiesse Plus ต่างจาก Radiesse (Classic) รุ่นเดิมที่มีการผสมยาชาเข้ามาในตัวครับ ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด ทำให้คนไข้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นในระหว่างการทำหัตถการ เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อนและกังวลเรื่องความเจ็บ
นอกจากนี้ตัวยาของ Radiesse Plus มีความหนืดสูง (High Viscosity) ฉีดลงไปบริเวณไหนก็จะไม่เกิดการกระจายตัว คงรูปและตั้งทรงได้ในระยะยาว สามารถพยุงผิวได้ดีกว่ารุ่น Radiesse Classic ที่ตัวยามีคุณสมบัติกระจายตัวได้ดีกว่า จึงเหมาะกับการฉีดที่ชั้นผิวหนังแท้ เน้นการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูคุณภาพผิว
ส่วน Radiesse Plus เหมาะฉีดที่ชั้นผิวหนังลึก เพื่อช่วยในเรื่องของ Lifting และ Contouring ปรับโครงสร้างใบหน้าให้ชัดเจน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
Radiesse Plus ทำร่วมกับ Radiesse ได้ไหม ?
ทั้งสองสามารถทำร่วมกันได้ เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านฟื้นฟูคุณภาพผิว และการปรับโครงสร้างใบหน้า เสริมกรอบหน้าชัด
สำหรับใครกังวลเรื่องความเจ็บขณะฉีด Radiesse รุ่นปกติ ว่าเจ็บมากไหม ? ขึ้นอยู่กับระดับความรู้สึกของแต่ละบุคคลครับ ทั้งนี้ก่อนทำหัตถการจะมีการแปะยาชา เพื่อช่วยลดความเจ็บขณะทำ
ฉีด Radiesse Plus ช่วยอะไรบ้าง ?
- ช่วยปรับกรอบหน้าสวยคมชัด ดูมีมิติ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ทำให้ผิวมีโครงสร้างแข็งแรง กระชับเต่งตึง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 3 ช่วยให้ผิวกระชับ ริ้วรอยลดลง มีวอลลุ่มมากขึ้น
- กระตุ้นการสร้างอิลาสติน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
- ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงผิวทำให้ผิวยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี
Radiesse Plus เหมาะกับใคร ?
โปรแกรม Radiesse Plus เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัยบนใบหน้า มีปัญหาผิวโทรม แห้งกร้าน สูญเสียคอลลาเจน ขาดความยืดหยุ่น รวมถึงโครงหน้าไม่ชัด กรอบหน้าหย่อนคล้อยดูเป็นทรง U-Shape ต้องการปรับกรอบหน้าสวย Jawline ให้คมชัดดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในผู้ชายและผู้หญิงครับ
- ฉีดโปรแกรม Radiesse Plus ในผู้ชาย ช่วยปรับสันกรามเด่นชัด กรอบหน้าคม เพิ่มความมั่นใจ
- ฉีดโปรแกรม Radiesse Plus ในผู้หญิง ช่วยสร้างกรอบหน้าคมชัด หน้ายก ดูมีมิติ
Radiesse Plus ฉีดตำแหน่งไหน ?
Radiesse Plus สามารถนำมาฉีดแก้ไขร่องลึก รอยพับบริเวณใบหน้า ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือฉีดในแนว Z line ตั้งแต่ใต้กระดูกโหนกแก้ม สันกราม และกรอบหน้า เพื่อยกกระชับกรอบหน้าให้คมชัด ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้นได้ทันที
ข้อควรรู้ : ไม่แนะนำให้ฉีด Radiesse Plus เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา ร่องระหว่างคิ้ว จมูก ปาก และรอบปาก
ฉีด Radiesse Plus กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
หลังฉีด Radiesse Plus จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำว่ากรอบหน้าดูชัดขึ้น และจะเริ่มการเห็นเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนขึ้นเมื่อ CaHA เริ่มกระบวนการทำงานดังนี้ครับ
- ใน 1 เดือนแรกจะเริ่มเห็นได้ว่าผิวกระชับ มีความยืดหยุ่นขึ้น ร่องลึกร่องตื้นจางลง
- หลังจากนั้น 3-4 สัปดาห์ CaHA เริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้คุณภาพผิวเริ่มดีขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น เห็นผลชัดเจนประมาณ 3-6 เดือน
ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีด และการดูแลผิว รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนครับ
หลังฉีด Radiesse Plus ดูแลตัวเองอย่างไร ?
หลังฉีด Radiesse Plus ดูแลตัวเองอย่างไรให้เห็นผลชัดเจน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน หมอแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อควรเหล่านี้ครับ
- หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะบริเวณฉีด
- ลดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือออกแรงมาก ๆ
- งดการแต่งหน้า 12 ชม. หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
- เลี่ยงแสงแดดและความร้อน 24 ชม.
- เลี่ยงการทำหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- เลี่ยงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ทั้งนี้หลังทำอาจมีรอยแดง รอยเขียวช้ำจากเข็ม หรืออาการบวมเล็กน้อย เกิดขึ้นได้เป็นปกติครับ สามารถหายได้เองใน 2-3 วัน บางคนอาจรู้สึกว่ามีก้อนใต้ผิวหนัง สามารถกดนวดบริเวณที่เป็นก้อนเพื่อลดอาการได้ครับ
Radiesse Plus ปลอดภัยไหม ?
Radiesse Plus ได้รับรองมาตรฐานระดับสากลทั้งจากยุโรป อเมริกา และไทย และได้รับการยอมรับกว่า 85 ประเทศ โดยสารประกอบหลักที่ใช้ใน Radiesse Plus คือ CaHA เป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกาย สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ
ดังนั้นการฉีด Radiesse Plus ปลอดภัยครับ หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และตัวยาที่ใช้เป็นของแท้ นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ก่อนฉีด Radiesse Plus ควรตรวจสอบคลินิกที่ใช้บริการว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องได้ที่เว็บไซต์ https://www.merzaesthetics.co.th/ ของทาง Merz Aesthetics เพื่อความปลอดภัยครับ
Radiesse Plus ราคาเท่าไร ?
Radiesse Plus Lift & Contour 1 หลอด บรรจุ 1.5 CC ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5x,xxx.- ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละคลินิก โดยทั่วไปถือว่าราคาค่อนข้างสูงกว่าตัว Radiesse รุ่นเดิมครับ
ที่ V Square Clinic Radiesse มีราคาโปรโมชัน ดังนี้
Radiesse Plus ต่างจากฟิลเลอร์ไหม ? อยากสร้างกรอบหน้าชัดเลือกวิธีไหนดี ?
Radiesse Plus จัดเป็นสารเติมเต็มเหมือนกับฟิลเลอร์ครับ แต่ต่างกันที่สารประกอบหลัก โดยฟิลเลอร์ทั่วไปจะประกอบด้วยสาร Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่หลากหลาย มีหลายยี่ห้อหลายรุ่นให้
สามารถนำมาใช้ฉีดกรอบหน้า (Jawline Filler) บริเวณแนวกราม ขากรรไกรล่าง ไปจนถึงคาง เพื่อปรับให้ใบหน้าส่วนล่างกระชับ และเห็นกรอบหน้าชัดขึ้นได้ทันที แต่จะไม่ได้ช่วยเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน
ส่วน Radiesse Plus มีสารประกอบหลักคือ CaHA สามารถฉีดที่บริเวณ Z Line เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าได้ และยังช่วยฟิ้นฟูโครงสร้างผิวด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า แต่ไม่ได้เพิ่มวอลลุ่มได้เท่ากับการฉีดฟิลเลอร์ครับ
อยากเสริมกรอบหน้าชัด เลือกวิธีไหนดี ? ควรพิจารณาจากโครงสร้างใบหน้าเดิมและความต้องการของแต่ละคน เพราะนอกจากสองวิธีนี้แล้ว วิธีสร้างกรอบหน้าชัดยังสามารถทำได้อีกหลายวิธี เช่น Hifu, Ulthera หรือการร้อยไหมยกกระชับ สามารถทักเข้าปรึกษาหมอก่อนได้ครับว่าปัญหาที่คนไข้กังวลเหมาะกับวิธีไหน เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาตรงกับความต้องการ
Radiesse Plus ต่างจาก Biostimulator ตัวอื่นอย่างไร ?
Radiesse Plus จัดอยู่ใน Collagen Biostimulator หรือสารกระตุ้นคอลลาเจน ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ ต่างกันในเรื่องสารประกอบและกระบวนการผลิตที่ทำให้มีคุณสมบัติและจุดเด่นที่เหมาะกับปัญหาผิวต่างกันไป เช่น
- Sculptra มีส่วนประกอบหลักคือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 ได้ถึง 66.5% ฟื้นฟูผิว คืนความอ่อนเยาว์ และยกกระชับผิวหย่อนคล้อย
- Gouri เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักคือ Polycaprolactone (PCL) หรือไหมน้ำ ช่วยให้ผิวแน่นอิ่มฟู เรียบเนียน
- Ultracol 200 มีส่วนประกอบหลักคือ PDO Microspere มีลักษณะเป็นอนุภาคระดับเล็กขนาดนาโน ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เติมเต็มดูเป็นธรรมชาติ
- HArmonyCA เป็นฟิลเลอร์ Hybrid ประกอบไปด้วย Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์
Radiesse Plus ต่างจาก Biostimulator ตัวอื่น ๆ ที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะจุดเนื่องจากคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ Contour & Lifting กรอบหน้าโดยเฉพาะ โดยมีแรงยกผิวได้มากที่สุดในบรรดา Biostimulator ครับ
สรุปข้อดี ข้อเสีย Radiesse Plus ฉีดดีไหม ?
สรุปแล้วฉีด Radiesse Plus ดีไหม ? หมอสรุปข้อดีมาให้ดังนี้ครับ
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Type 1, 3 และอิลาสติน ผิวแน่นกระชับ อิ่มฟู
- ปรับปรุงคุณภาพผิวในระยะยาว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- ช่วยปรับกรอบหน้าคมชัด ดูมีมิติ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
- มียาชาผสมในตัว ช่วยลดความเจ็บขณะทำหัตถการ
- สามารถทำร่วมกับหัตถการความงามอื่น ๆ เพื่อเสริมให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นได้ เช่น ฟิลเลอร์, Hifu, Ulthera หรือ Theramge
ส่วนข้อจำกัดคือ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร และ Radiesse Plus สามารถฉีดได้หลายเทคนิค ถ้าหากฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดหวังครับ
อ้างอิง
- https://radiesse.com/instructions-for-use/
- https://radiesse.com/app/uploads/2022/01/IN00179-00_Rad__Lido_patient_Guide.pdf
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
มือสั่น บ่อย ๆ ขาดวิตามินอะไร เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขอย่างไรดี ?
Reading Time: 3 minutes- รู้จักภาวะอาการ “มือสั่น” - สาเหตุของภาวะมือสั่น เกิดจากอะไรได้บ้าง ? - มือสั่น เพราะขาดวิตามินจริงไหม วิตามินอะไร ? - มือสั่น เสริมวิตามินดีไหม ? - มือสั่น เพราะเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เสริมวิตามินสูตรไหนดี ?
Monopolar RF (Radio-Frequency) คืออะไร ? ยกกระชับได้แค่ไห...
Reading Time: 3 minutes- Monopolar RF คืออะไร ? - หลักการทำงานของ Monopolar RF - ประโยชน์ของ Monopolar RF - Monopolar RF มีข้อดีอย่างไรเมื่อเทียบกับ Bipolar RF - Monopolar RF พบได้ในเครื่องยี่ห้อไหนบ้าง ?
ฟิลเลอร์เกาหลี ดีอย่างไร ? มียี่ห้อไหนบ้าง ? รวมฟิลเลอร์เ...
Reading Time: 5 minutesฟิลเลอร์ Hyabell จากเยอรมนี เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังถูกพูดถึงมากขึ้นครับ ด้วยจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย จนได้รับการยอมรับในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ไม่เพียงแค่เรื่องคุณภาพเท่านั้น แต่ Hyabell ยังมีจุดเด่นที่หลายคนให้ความสนใจ เช่น
ฟิลเลอร์เกาหลี ดีอย่างไร ? มียี่ห้อไหนบ้าง ? รวมฟิลเลอร์เ...
Reading Time: 6 minutesเจาะลึกเกี่ยวกับฟิลเลอร์เกาหลี มียี่ห้อไหนบ้างที่ผ่าน อย. ? เปรียบเทียบฟิลเลอร์เกาหลี แตกต่างจากฟิลเลอร์อเมริกา-ยุโรปอย่างไร ? ฉีด Filler เกาหลี ดีไหม ? พร้อมแนะนำวิธีสังเกตฟิลเลอร์เกาหลีของแท้
รู้จัก HarmonyCa นวัตกรรมฟิลเลอร์ใหม่ คืนความอ่อนเยาว์ กร...
Reading Time: 3 minutes- HarmonyCa คืออะไร ? - จุดเด่นของ HarmonyCa ที่ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป - รวมประโยชน์ของ HarmonyCa ทั้งในระยะสั้นและยาว - HarmonyCa ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? - HarmonyCa เหมาะกับใครบ้าง ใครบ้างที่ควรใช้ ?
