ฟิลเลอร์ Revanesse
ฟิลเลอร์ Revanesse เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่ใช้สำหรับปรับรูปหน้า คืนความอ่อนเยาว์ ปัจจุบันเริ่มถูกนำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามมากขึ้น เนื่องจากมีบางรุ่นที่ผ่านอย.ไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมีหลาย ๆ คลินิกเริ่มมีการโฆษณาทำราคาการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse ให้เห็นบ้างแล้ว
Revanesse filler แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร ? มีจุดเด่นด้านใด ? มีรุ่นไหนที่ผ่านอย.บ้าง ? เหมาะกับการฉีดแก้ปัญหาใด ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? เราจะมาอัปเดตข้อมูลฟิลเลอร์น้องใหม่ตัวนี้กันครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ Revanesse
ฟิลเลอร์ Revanesse คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ Revanesse คือ ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) สัญชาติแคนาดา ความพิเศษของการผลิตฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ อยู่ที่เทคโนโลยีการผลิต Thixofix cross-linking technology ที่ทำให้ได้สาร HA สังเคราะห์สามารถเข้ากับร่างกายได้อย่างปลอดภัย มีความยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน
Revanesse filler ผลิตโดย Prollenium Medical Technologies Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในแคนาดาที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีประสบการณ์ในการผลิต ผลิตภัณฑ์เวชสำอางโดยเน้นด้านความสวยงามมาตั้งแต่ปี 2002
ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Revanesse ได้รับความนิยมทั้งในประเทศฝั่งยุโรปและประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชีย สำหรับประเทศไทย ฟิลเลอร์ Revanesse เพิ่งเข้ามาได้ไม่นานครับ จึงยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก นำเข้าโดย บริษัท AESLA ผู้นำเข้าเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอางชั้นนำ
บทความแนะนำ
ฟิลเลอร์ Revanesse อันตรายไหม ?
ในด้านความปลอดภัย ฟิลเลอร์ Revanesse ผ่านมาตรฐาน FDA มีหลายรุ่นให้เลือก เหมาะกับปัญหาผิวที่หลากหลาย โดยได้มีการวิจัยและทดลองการใช้งานกว่า 300 รายในหลาย ๆ สภาพผิว พบว่าไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และยังช่วยเพิ่มปริมาตรเพื่อให้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น พร้อมทั้งช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างสวยงาม
สำหรับในประเทศไทย ฟิลเลอร์ Revanesse ที่องค์การอาหารและยา (อย.)ในประเทศไทยได้อนุญาตให้สามารถใช้ในการฉีดได้ มี 2 รุ่น คือ Revanesse รุ่น Ultra และ Revanesse รุ่น shape
กระบวนการทำงานของฟิลเลอร์ Revanesse
การทำงานของฟิลเลอร์ Revanesse ที่มีอนุภาคของ HA ที่มีลักษณะเป็นทรงกลมและผิวเรียบเนียน หลังฉีดจะทำหน้าที่เติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยต่าง ๆ โดยการดูดซับน้ำเข้ามาในบริเวณที่ฉีด ทำให้เกิดการยกตัวของผิวหนังและเติมเต็มปริมาตรในส่วนที่ต้อง โดยสามารถลดโอกาสการเกิดปฏิกิริยาการอักเสบที่มักเกิดจากอนุภาคที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ จึงสามารถลดอาการบวม หลังฉีดได้มาก สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ได้เร็ว
นอกจากนี้ Revanesse Filler ยังมี innovation ของการเชื่อมโมเลกุล HA ซึ่งทำให้ Revanesse มีความยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม ฉีดแล้วไม่จับตัวกันเป็นก้อน ลดปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องกลับมาฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อปรับแก้ครับ
ฟิลเลอร์ Revanesse แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ใช้ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้หรือไม่ ?
แม้ฟิลเลอร์จะเป็นสารไฮยาลูรอนเหมือนกัน แต่มีจุดเด่นที่แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อครับ หลัก ๆ คือเทคโนโลยีการผลิตที่เลือกนำมาใช้ เพื่อให้คุณสมบัติของฟิลเลอร์เหมาะกับนำมาใช้งานในแต่ละเป้าหมาย ยกตัวอย่าง
- ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) : ผลิตด้วย NASHA และ OBT Technology ที่ทำเนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดีแต่มีความคงตัว สามารถผลิตเนื้อฟิลเลอร์ได้หลายโมเลกุล จึงมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ แพทย์สามารถเลือกแต่ละรุ่นมาให้เหมาะสมกับปัญหา สภาพผิว และบริเวณที่ต้องฉีดได้เป็นอย่างดี
- ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) : ใช้เทคโนโลยี Vycross และ Hylacross เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นสูง เติมเต็มร่องลึกและปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีให้เลือกใช้หลายรุ่นเช่นกัน ล่าสุดคือ Skinvive ที่พัฒนาต่อยอด ออกแบบมาเพื่องานผิวโดยเฉพาะ
- ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) : ใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียนและกระจายตัวได้ดี
- ฟิลเลอร์ Teoxane (สวิตเซอร์แลนด์) : ผลิตด้วย Preserved Network Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์กลืนเข้ากับผิวได้ดี ดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) : ผลิตโดยใช้ในการผลิต XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่โมเลกุลสานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ Perfectha (ฝรั่งเศส) : ผลิตด้วยนวัตกรรมการเติมเต็มแบบ E-Brid Technology ทำให้ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปทรงได้ดี และช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า สามารถฉีดได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า เนื่องจากมีหลายรุ่นให้เลือกใช้
- ฟิลเลอร์ Biohyalux (จีน) :เป็นฟิลเลอร์ที่มีกระบวนการผลิตและใช้เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่าBiobalance Technology (BioBTTM) เป็นเทคนิคการ Crosslink 1 Step แบบพิเศษ ที่ทำให้ตัว HA มีโครงสร้างเป็น 3D Network ที่มีความสามารถในการสลายตัวช้าลง และคงรูปได้นานขึ้น ปรับรูปหน้าได้อย่างแม่นยำครับ
- ฟิลเลอร์ Flore (เกาหลี) : ใช้เทคโนโลยี HCCL เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นคงตัว มีโครงสร้างเป็น 3D matrix ปั้นทรงได้ง่าย ฉีดแล้วเนียนสวย รุ่นที่ได้รับความนิยม คือ ฟิลเลอร์ Flore Max
- ฟิลเลอร์ Neuramis (เกาหลี) : ผลิตด้วย SHAPE Technology เนื้อฟิลเลอร์คงตัวสูง เหมาะใช้ปรับโครงสร้างใบหน้า คาง ขมับ แก้มตอบ
- ฟิลเลอร์ Revolax (เกาหลี) : ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะแบรนด์ที่ชื่อว่า HEXALink โครงสร้างโมเลกุลเฉพาะ (Unique Cross-linking structure) ลักษณะเชื่อมกันเป็นร่างแห ทำให้ได้ฟิลเลอร์เนื้อเจลเนียน เกลี่ยง่าย มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ไหลออกจากจุดที่ฉีด อยู่ได้นาน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
สำหรับฟิลเลอร์เกาหลี ยังมีฟิลเลอร์อีกหลายยี่ห้อที่ผ่าน อย. ครับ แม้จะผลิตในเกาหลี แต่จะใช้ เทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกันออกไป เช่น e.p.t.q. filler , ฟิลเลอร์ yvoire หรือ ฟิลเลอร์ Revolax ซึ่งฟิลเลอร์เหล่านี้ค่อนข้างเป็นที่สนใจ เนื่องจากราคาไม่สูงมากนัก
ส่วนฟิลเลอร์ Revanesse จะใช้ Thixofix Technology ตามที่หมออธิบายไว้ข้างต้นครับ คำถามต่อมา แล้วจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? คำตอบคือขึ้นอยู่กับตำแหน่งฉีดและปัญหาครับ แพทย์ผู้ประเมินสภาพผิว แล้วจะเลือกยี่ห้อ/รุ่น ที่เหมาะสมให้ครับ
กรณีต้องการทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ สามารถทำได้ครับ เช่น โบท็อก, ร้อยไหม, เครื่องมือยกกระชับ Hifu, Ulthera และ Thermage รวมถึงหัตถการในกลุ่มสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น Sculptra , Radiesse filler หรือ Gouri ก็สามารถทำร่วมกัน แต่ต้องเรียงลำดับก่อนหลังตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ
ฟิลเลอร์ Revanesse มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอย่างไร ?
ในกลุ่มของ ฟิลเลอร์ Revanesse Family จากบริษัทผู้ผลิตจะมีทั้งหมด 6 รุ่นครับ แต่ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย มีเพียง 2 รุ่น คือ Revanesse Ultra และ Revanesse shape
Revanesse Ultra
Revanesse Ultra เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อสร้างวอลลุ่มในส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า มักใช้ฉีดเข้าสู่ชั้นหนังแท้ชั้นลึก บริเวณกึ่งกลางใบหน้า mid-face แก้ม โหนกแก้ม เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รวมถึงใช้ฉีดบริเวณขมับได้ สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 9-12 เดือน
Revanesse shape
Revanesse shape เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มักใช้บนเนื้อเยื่อหุ้มกระดูก เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า เช่นบริเวณ กรอบหน้า, คาง, ขมับ, ร่องแก้ม หลังฉีดอยู่ได้นาน 18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ Revanesse ราคาเท่าไหร่ ?
ในส่วนของราคาฟิลเลอร์ Revanesse จะขึ้นอยู่กับรุ่นและปริมาณที่ใช้ โดยทั่วไปมักเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 1X,XXX บาท / CC ครับ ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละคลินิก
สำหรับที่ V square Clinic จะมีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ เพื่อใช้ฉีดในตำแหน่งที่มาเหมาะสม โดยแต่ละตำแหน่งมี ราคาเริ่มต้น ดังนี้
ฟิลเลอร์ Revanesse ฉีดตำแหน่งไหนบนในหน้าได้บ้าง ?
Revanesse filler รุ่นที่ผ่านอย. สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า คล้ายกับฟิลเลอร์ยี่ห้อ/รุ่นอื่น ๆ ซึ่งการนำฟิลเลอร์ Revanesse มาใช้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก : ฟิลเลอร์ Revanesse รุ่น Ultra สามารถฉีดบริเวณปากได้ครับ เพื่อเพิ่มวอลลุ่ม และความอวบอิ่ม ความฟู แบบสายปากสายฝอ ให้ผลลัพธ์คล้าย ฟิลเลอร์ Restylane Kysse หรือ ฟิลเลอร์ Belotero Lips ที่ออกแบบมาเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะครับ
นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ Restylane Vital Light, ฟิลเลอร์ Belotero revive และ ฟิลเลอร์ juvederm volite ที่สามารถนำมาใช้ฉีดปากได้เช่นกัน โดยเน้นฉีดเพิ่มความชุ่มชื่น ต้องการความอวบอิ่มเล็กน้อย แบบสาวเกาหลี
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : การฉีดเติมขมับ ต้องเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการฉีดขมับชั้นลึก เนื้อฟูและทนต่อแรงขยับได้ดี ซึ่งฟิลเลอร์ Revanesse ทั้ง 2 รุ่น ที่ผ่านอย.สามารถฉีดได้ครับ แต่การเลือกใช้รุ่นไหนจะขึ้นอยู่ลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล แพทย์จะประเมินก่อนแล้วแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์คาง : สามารถใช้ Revanesse shape ฉีดเสริมคาง แก้ปัญหาคางสั้น หรือฉีดปรับหน้าเรียววีเชฟได้ครับ เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลใหญ่ จึงคงรูปได้ดี ให้ผลลัพธ์คล้ายฟิลเลอร์ Juvederm Volux ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม : สามารถใช้ฟิลเลอร์ Revanesse shape ฉีดเติมได้เช่นกัน แก้ปัญหาร่องแก้มลึก หรือมีร่องน้ำหมาก ตัวการทำให้หน้าดูแก่ ดูโทรม ไม่สดใส
ในส่วนของการฉีดในจุดอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล หรือการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อปรับรูปทรงให้โหนกนูน ต้องอาศัยฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลเรียบเนียน ซึ่งฟิลเลอร์ Revanesse รุ่นที่ผ่านอย. อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ครับ
ฟิลเลอร์ Revanesse เหมาะกับใครบ้าง ?
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ Revanesse จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า และคืนความอ่อนเยาว์
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- ผู้ที่มีปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน
- ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบ หน้าดูเด็กลง
- ผู้ที่มีคางสั้น คางตัด คางถอย ต้องการเสริมคางให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า แต่ไม่ต้องการศัลยกรรม ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse ควรทำอย่างไร ?
การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ Revanesse รวมถึงฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น สิ่งควรให้ความสำคัญคือ การศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า
ในส่วนของเตรียมพร้อมร่างกาย มีข้อควรปฏิบัติดังนี้
- งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
- งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
- สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse
การฉีดฟิลเลอร์มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากครับ มีขั้นตอนการฉีดดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- แพทย์แนะนำยี่ห้อ/ รุ่น ฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีดร่วมกับคนไข้
- ทำความสะอาดใบหน้า หากแต่งหน้ามาก็จะมีการเช็คเครื่องสำอางในจุดที่ฉีดออก
- สำหรับที่ V square Clinic ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถข้อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้
- ก่อนฉีดจะมีประคบน้ำแข็งช่วยเพื่อลดความเจ็บจากการลงเข็ม นอกจากนี้ส่วนในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บ
- เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว หมอจะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ Revanesse
ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ Revanesse Ultra ฉีดแก้ไขปัญหาร่องแก้ม
ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ Revanesse shape ฉีดแก้ไขปรับรูปหน้า
ฉีดฟิลเลอร์ Revanesse ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกและแพทย์สำหรับการฉีด
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยม จึงมีคลินิกเสริมความงามเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีทั้งคลินิกที่ได้มาตรฐาน และคลินิกที่ตั้งมาเพื่อหากำไร ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ Revanesse หรือฉีดฟิลเลอร์ อื่น ๆ ควรพิจารณาเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้นครับ โดยมีหลักการพิจารณาเลือกดังนี้
- ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีหลักฐานยืนยันชัดเจน
- แพทย์มีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือ ข้อนี้สำคัญมาก การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะฉีดกับใครก็ได้ การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า แพทย์ต้องรู้กายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี มีศิลปะการปรับรูปหน้า ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงตามมา
- ฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ราคาสมเหตุสมผล
- ดูรีวิวของลูกค้าที่เคยมาใช้บริการ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้
- คลินิกต้องมีการติดตามผลหลังฉีดทุกครั้ง
- สถานที่ การเดินทาง ที่จอดรถมีความสะดวก สามารถนัดคิวล่วงหน้าได้
ที่ V Square Clinic ให้บริการฉีดฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้าดูแลและให้การรักษาโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ สามารถออกแบบใบหน้า พร้อมนำใช้ศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) มาใช้ แก้ปัญหาตรงจุด ผลลัพธ์สวยงามดูเป็นธรรมชาติ
คนไข้สามารถปรึกษาปัญหากับหมอโดยตรง ไม่ผ่านเซลส์ โดยหมอประเมินปัญหาเป็นรายบุคคล เพราะแต่ละคนจะมีระดับปัญหา และความต้องการที่ต่างกันไปครับ หมอจะแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับคนไข้
- มั่นใจ ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก ที่ V Sqauare Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้แบรนด์ระดับโลก มีให้เลือกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ก่อนฉีดหมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ตรวจสอบได้ทุกกล่อง และสามารถนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้
- ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคพิเศษของ V Square Clinic มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ หมอมือเบา บวมช้ำน้อย
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse มีอะไรบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ครับ
ด้านผลข้างเคียง หลังฉีดฟิลเลอร์ ที่อาจเกิดขึ้นได้ มีเพียงรอยแดงจากเข็ม ซึ่งสามารถหายไปเองได้ใน 2-3 วัน และอาการบวมหลังฉีด ซึ่งบวมจากการมีเนื้อฟิลเลอร์แทรกอยู่ในผิว แต่เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่เช็ตตัว ก็สามารถหายบวมไปเองได้ ประมาณ 7-14 วัน
การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse มีอะไรบ้าง?
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
- หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วยครับ
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ครับ
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
- อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยครับ
ข้อควรระวังและข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาชา เพราะฟิลเลอร์บางรุ่นมียาชาผสมในตัวครับ
- สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย
- คนที่มีการอักเสบของผิวหนังหรือการติดเชื้อใกล้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Revanesse
ฉีดฟิลเลอร์ Revanesse กี่ครั้ง ฉีดบ่อย ๆ ได้ไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ Revanesse ในปริมาณที่เหมาะสม 1 ครั้งจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 6 -18 เดือน หากต้องการคงผลลัพธ์ได้ต่อเนื่องก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ฉีดกี่วันเห็นผล และควรดูแลตัวเองอย่างไร?
ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ Revanesse อยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ Revanesse จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ครับ โดยเฉลี่ยคือ 6- 18 เดือน นอกจากนี้การคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวหลังฉีดตามหมอให้ข้อมูลไว้ข้างต้นร่วมด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร แบบไหนอยู่ได้นานที่สุด ?
สรุป ฟิลเลอร์ Revanesse น่าใช้หรือไม่ ?
ฟิลเลอร์ Revanese ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งครับ ส่วนความเหมาะสมจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งฉีด และปัญหา ซึ่งก็ต้องมาดูว่า รุ่นที่ผ่านอย. เหมาะกับตำแหน่งฉีด ปัญหาและสภาพผิวของเราหรือไม่ ?
ในด้านความคุ้มค่าของราคา ฟิลเลอร์ Revanesse ราคาจะสูงกว่าฟิลเลอร์ฝั่งเกาหลีครับ แต่ก็คงผลลัพธ์ได้นานกว่า แต่หากเทียบกับฟิลเลอร์ฝั่งอเมริกา ยุโรป อย่าง Restylane ,Juvederm และ Belotero ราคาไม่ต่างกันมากครับ แต่ข้อเปรียบคือมี ทั้ง 3 ยี่ห้อ มีรุ่นให้เลือกใช้มากกว่าฟิลเลอร์ Revanesse ครับ