เสริมจมูกโด่ง ทรงสวย ทำจมูกวิธีไหนดี มีกี่แบบ ราคาเท่าไหร่ อันตรายไหม มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

Reading Time: 6 minutes

เสริมจมูก

ข้อควรรู้-ก่อนเสริมจมูก

ข้อควรรู้ ก่อนเสริมจมูก ควรระวังอะไรบ้าง ? เสริมจมูกอย่างไร ไม่ต้องกลับมาแก้ซ้ำ

การเสริมจมูก เป็นการศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย หลายคนเลือกทำจมูกเป็นอันดับแรก ๆ เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางใบหน้า หลังทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าโดยรวมได้อย่างชัดเจน บางคนทำจมูกมาแล้วใบหน้ามีมิติมากขึ้น สวยขึ้น แต่บางคนกลับเจอปัญหาที่ต้องแก้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งจมูกเอียง จมูกทะลุ ซิลิโคนลอย รูจมูกผิดรูป 

เพื่อให้คนไข้มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับการเสริมจมูก ในบทความนี้หมอได้รวบรวมขั้นตอน และข้อควรรู้ทั้งหมดจาก Masterpiece Hospital ว่าการเสริมจมูกมีกี่แบบ ? ราคาเท่าไหร่ ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ? รวมถึงรีวิวทำจมูกแบบต่าง ๆ เพราะการเสริมจมูก คนไข้ควรหาข้อมูล และเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ใช้วัสดุที่ปลอดภัย มีคุณภาพ จึงเป็นข้อสำคัญที่หลังทำจมูกแล้วไม่มีปัญหาตามมา เจ็บตัวครั้งเดียว ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าครับ

สารบัญ เสริมจมูก


เสริมจมูก คืออะไร ?

Rhinoplasty หรือ การเสริมจมูก คือการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อตกแต่งรูปทรงจมูกให้โด่งขึ้น สวยงามขึ้น ด้วยการเสริมวัสดุ เช่น ซิลิโคน (Silicone), กอร์เท็กซ์ (Gore-tex), เม็ดพอร์ (Medpor) หรือกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในด้านการเสริมความงาม การเสริมโหงวเฮ้ง รวมไปถึงสามารถแก้ไขรูปจมูกที่ผิดปกติ จมูกไม่ได้สัดส่วน ช่วยแก้ไขโครงสร้างจมูกที่มีปัญหาทั้งจากความบกพร่องแต่กำเนิดและอุบัติเหตุได้

การเสริมจมูกช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น

การเสริมจมูกช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น


ใครที่เหมาะสำหรับการเสริมจมูก

ก่อนทำจมูกเพื่อปรับรูปทรงให้โด่งขึ้น สวยขึ้น หรือเก็บปีกจมูกให้แคบลง ควรสังเกตตัวเองว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำจมูกได้หรือไม่ ดังนี้

  1. คนไข้ควรมีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป เพราะในช่วงนี้จมูกใบหน้าจะเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
  2. ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  3. ไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือโรคหลอดเลือดผิดปกติต่าง ๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
  4. ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
  5. หากเป็นหวัด หรือมีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนเสริมจมูก

ทั้งนี้จะทำจมูกได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคสด้วยครับ ทางที่ดีก่อนทำคือควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินและขอคำแนะนำที่เหมาะสม ที่ Masterpiece Hospital จะมีการประเมินและออกแบบการผ่าตัดเสริมจมูกให้เข้ากับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาเบี้ยว เอียง ฯลฯ


รีวิวเสริมจมูก

รีวิวก่อน-หลัง เสริมจมูก จากเคสที่ใช้บริการจริง หลังทำจะเห็นได้ว่าใบหน้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

รีวิวเสริมจมูก ด้วยซิลิโคนเก­าหลี

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน


เสริมจมูก อันตรายไหม ?

การเสริมจมูก เป็นการผ่าตัดศัลยกรรม ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความเสี่ยง รวมไปถึงผลข้างเคียงต่าง ๆ อยู่แล้วครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นก่อนตัดสินใจเสริมจมูก จึงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมิน ออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับใบหน้าแต่ละบุคคล จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับใบหน้า ตรงกับความต้องการ รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุซิลิโคนที่มีคุณภาพ เพื่อให้การเสริมจมูกเป็นไปได้ด้วยดีและปลอดภัย


เสริมจมูก ราคาเท่าไหร่ ?

จากราคาเสริมจมูกในปัจจุบัน จะเห็นว่ามีทั้งราคาถูกหลักหมื่น ไปจนถึงราคาแพงมาก ๆ หลักแสน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาเสริมจมูกในแต่ละคลินิกแตกต่างกัน ได้แก่ ชื่อเสียงของคลินิก/โรงพยาบาล ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ประสบการณ์ของแพทย์ เทคนิคพิเศษในการเสริมจมูก และคุณภาพของซิลิโคนที่ใช้

ราคาเสริมจมูก Masterpiece Hospital

เทคนิคเสริมจมูก ราคาเสริมจมูก
ศัลยกรรม เสริมจมูกซิลิโคน USA ราคาเริ่มต้น 15,900.-
ศัลยกรรม เสริมจมูกซิลิโคน KR ราคาเริ่มต้น 22,000.-
Optional ศัลยกรรม เสริมจมูกซิลิโคน ค่าใช้กระดูกอ่อนหลังหู ราคาเริ่มต้น 28,000.-
Optional ศัลยกรรม เสริมจมูกซิลิโคน ค่าเนื้อเยื่อเทียม ราคาเริ่มต้น 20,000.-
ศัลยกรรม เสริมจมูก Open Rhinoplasty ราคาเริ่มต้น 69,500.-
ศัลยกรรม ตัดปีกจมูก ราคาเริ่มต้น 10,000.-

*ราคาเสริมจมูกในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์และความต้องการของคนไข้ เนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีปัญหาและความต้องการแตกต่างกันไป ควรปรึกษาและวางแผนการเสริมจมูกร่วมกับแพทย์

ปรึกษาแพทย์ก่อนเสริมจมูก

การเสริมจมูกราคาถูกหรือแพง ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าจะดีหรือไม่ดีเสมอไป คนไข้ควรพิจารณาว่าราคาที่ต้องจ่าย เหมาะสมกับคุณภาพและมีความคุ้มค่าหรือไม่ ก่อนตัดสินใจเสริมจมูกที่ไหนดี ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่

  1. คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง มีใบรับรองและใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. แพทย์ที่จะทำการผ่าตัด เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความชำนาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์การผ่าตัดเสริมจมูก
  3. วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก ต้องมีคุณภาพและปลอดภัย ไม่มีปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อ เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อนหลังใบหู
  4. เทคนิคการเสริมจมูกที่เลือกใช้ ซึ่งมีทั้งการเสริมแบบปิด และ การเสริมแบบเปิด ควรปรึกษาแพทย์ และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
  5. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่น่าเชื่อถือ โดยไม่ควรดูแต่รีวิวทำจมูกที่มาจากคลินิกเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวในเว็บไซต์ที่คลินิกไม่สามารถลบ หรือแก้ไขได้ เช่น Facebook Review, Pantip, Wongnai และไม่ควรดูรีวิวที่เป็นรูปภาพเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวเสริมจมูกที่เป็นคลิปประกอบกันด้วย เนื่องจากตกแต่งแก้ไขได้ยากกว่า
  6. คลินิกมีการติดตามผลหลังทำ ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และควรมีช่องทางในการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง

เสริมจมูกมีกี่แบบ ?

การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique)

เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เป็นการเปิดจมูกเข้าไปเพื่อปรับโครงสร้างจมูกโดยตรง ข้อดีคือศัลยแพทย์จะเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนทั้งหมด มองเห็นแนวสันจมูกได้ชัดเจน ปรับแต่งได้สะดวก และทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ซิลิโคนที่ไม่จำเป็น ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงสามารถใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก ตอกฐานจมูก และบีบเข้ามาเพื่อให้สันจมูกดูเล็กลงได้

การเสริมจมูกแบบเปิด

แผลผ่าตัดของเทคนิคแบบเปิด จะมีอยู่ทั้งในและนอกจมูก โดยแผลด้านนอกจะอยู่บริเวณกลางจมูกด้านล่าง ตรงระหว่างรูจมูก หลังทำจะเห็นเป็นรอยขีดเล็ก ๆ ส่วนแผลด้านในจะอยู่บริเวณเยื่อบุด้านในโพรงจมูก ซึ่งจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของแผลแรก เมื่อเวลาผ่านไปรอยแผลจะค่อย ๆ จางลงจนไม่เห็นเลย

การผ่าตัดแบบ Open Technique

ทั้งนี้การผ่าตัดแบบ Open Technique จะใช้ระยะเวลาทำนานกว่าการเสริมจมูกแบบปิด และศัลยแพทย์ต้องมีความชำนาญในการผ่าตัดแบบโอเพ่น

เสริมจมูกแบบโอเพ่น เหมาะสำหรับใคร ?

การเสริมจมูกแบบเปิด เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างสันจมูกนูน ฮัมพ์สูง จมูกกว้าง ฐานจมูกใหญ่ ไม่ได้สัดส่วน   ต้องการเสริมจมูกเป็นทรงหยดน้ำ หรือจมูกสโลปปลายพุ่ง และสามารถใช้ในกรณีที่มีความผิดปกติของจมูกร่วมด้วย เช่น จมูกสั้นเกินไป จมูกงุ้ม ดั้งจมูกโค้ง โก่ง งอ

Vsquare tips

หากคนไข้มีปัญหาจมูกทะลุ ซิลิโคนเอียง เบี้ยว การผ่าตัดแบบ Open ในเคสที่ไม่ได้มีการติดเชื้อ หมอสามารถแก้ไขได้ในครั้งเดียว โดยการผ่าตัดปรับโครงสร้างจากภายใน และจะไม่มีปัญหาจมูกทะลุซ้ำ

การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)

เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นการเสริมดั้งให้โด่งขึ้นด้วยการเสริมซิลิโคนหรือวัสดุอื่น ๆ ที่คล้ายกัน โดยไม่ต้องการปรับโครงสร้างกระดูกอ่อนของจมูก จึงซับซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด แต่จะได้ทรงจมูกไม่พุ่งเท่า ส่วนมากนิยมใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูหรือเนื้อเยื่อไขมัน มารองบริเวณปลายจมูก เพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อ ลดปัญหาปลายจมูกทะลุ

การเสริมจมูกแบบปิด

แผลผ่าตัดของเทคนิคแบบปิดจะอยู่ในโพรงจมูก ใช้ในกรณีที่ไม่มีความผิดปกติอื่น ๆ นอกจากดั้งจมูกแบนเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด เนื่องจากการผ่าตัดรบกวนเนื้อเยื่อน้อย และหลังทำจะมองไม่เห็นแผลเป็นจากการผ่าตัด

การผ่าตัดแบบ Closed Technique

เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด หากคนไข้ที่ไม่มีปัญหาโครงสร้างจมูก สามารถทำการเสริมด้วยซิลิโคนได้เลย และเป็นการผ่าตัดเล็กที่ใช้การฉีดยาชาเฉพาะบริเวณจมูกเท่านั้น

เสริมจมูกแบบปิดเหมาะสำหรับใคร ?

การเสริมจมูกแบบปิด เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรากฐานจมูกมาก มีโครงสร้างเดิมดีอยู่แล้ว ปลายจมูกไม่สั้น และมีเนื้อหุ้มหนาดีพอควร ต้องการเพิ่มความโด่งหรือยืดส่วนปลายยาวขึ้น แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดในเรื่องการลดส่วนเกิน เช่น ดั้งจมูกโค้ง โก่ง งอ จมูกใหญ่ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทำให้เนื้อเยื่อบางและทะลุได้ ควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ และให้คำแนะนำที่เหมาะสม


สรุปข้อดี – ข้อเสีย ของการเสริมจมูกแบบเปิดและแบบปิด

การเสริมจมูกแบบปิด การเสริมจมูกแบบเปิด

ข้อดี

  • เหมาะกับเคสเสริมใหม่หรือเสริมจมูกครั้งแรก และไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก
  • ไม่ต้องวางยาสลบ พักฟื้นน้อย หลังทำสามารถตรวจเช็กทรงจมูกได้ทันที
  • ซ่อนแผลในรูจมูก ไม่เห็นรอยแผล
  • ใช้เวลาน้อย เน้นทำดั้งให้โด่งขึ้น
  • ราคาถูก

ข้อดี

  • เหมาะกับการเสริมจมูกทุกเคส
  • หมอสามารถเปิดแผลและเห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด 
  • สามารถแก้ไขตกแต่งจมูกของคนไข้ได้ดีกว่า แก้ไขความผิดปกติจากโครงสร้างจมูกได้
  • ตกแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนกลางจมูก ให้มีลักษณะเป็นหยดน้ำ โดยไม่ต้องใช้การเสริมซิลิโคน
  • ลดโอกาสซิลิโคนทะลุ หรือจมูกเบี้ยวในอนาคต

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน หรือปัญหาจากโครงสร้างจมูกได้ เช่น จมูกสั้นเชิด จมูกงุ้มมาก
  • ไม่สามารถทำทรงให้โด่งพุ่งมาก ๆ ได้ (ขึ้นอยู่กับกำลังของเนื้อเยื่อจมูก)
  • ไม่สามารถลดขนาดจมูก สันจมูก ให้เล็กลงได้
  • เมื่อเวลาผ่านไป จะมีความเสี่ยงเรื่องจมูกทะลุ เอียง เบี้ยว ได้มากกว่า

ข้อเสีย

  • มีแผลเพิ่มใต้จมูก และอาจมีแผลบริเวณที่เอากระดูกอ่อนมาเพิ่มเช่น ใบหู, ใต้ราวนม, ก้นกบ
  • การผ่าตัดซับซ้อนขึ้น หากมีผลแทรกซ้อนการแก้ไขก็จะยุ่งยากขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายสูง
  • ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าเทคนิคการเสริม
    แบบปิด

สำหรับที่ Masterpiece Hospital เทคนิคการเสริมจมูกที่คนไข้ส่วนใหญ่สนใจทำในปัจจุบัน คือการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ที่สามารถเพิ่มความโด่งของจมูกได้มาก ตรงกับความต้องการของคนไข้ และมีปัญหาเรื่องเบี้ยวเอียงได้น้อยกว่า ในระหว่างการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะใช้ยานอนหลับ หรือ การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที


เสริมจมูกผู้ชาย เสริมจมูกผู้หญิง แตกต่างกันไหม ?

ปัจจุบันการศัลยกรรมจมูกเป็นที่นิยมทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่นอกจากต้องการแก้ไขทรงจมูก หรือเพิ่มความโด่งแล้ว ลักษณะและความต้องการของแต่ละกลุ่มก็จะต่างกันไปครับ

  • เสริมจมูกผู้ชาย จะเน้นเรื่องการทำดั้งโด่งมาก ๆ มีสันจมูกตรงสวยตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อเพิ่มความคมให้ใบหน้า
  • เสริมจมูกผู้หญิง นิยมทำทรงให้อ่อนช้อย โค้ง สันจมูกสโลปลง ทำแล้วหน้าดูหวาน หรือโฉบเฉี่ยวมากขึ้น 

ทั้งนี้ไม่ได้จำกัดว่าถ้าเป็นผู้ชายต้องทำทรงแบบนี้ ผู้หญิงต้องแบบนี้ ขึ้นอยู่กับความพอใจ และลักษณะใบหน้าของแต่ละคนครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อควรรู้ เสริมจมูกผู้ชาย แก้ปัญหาจมูก เสริมดั้งโด่ง เพิ่มมิติใบหน้า


ทรงจมูกที่นิยม ที่ทำออกมาแล้วสวยเป็นธรรมชาติ 2023

ทรงจมูกที่นิยม 2023

ในกลุ่มคนเอเชีย รวมไปถึงคนไทยเอง ลักษณะทางพันธุกรรมมักจะมีฐานจมูกเตี้ยและปีกจมูกกว้าง ทรงจมูกที่ได้รับความนิยมคือ การศัลยกรรมจมูกให้โด่งขึ้น และตัดปีกจมูกให้แคบลง 

ทรงจมูกยอดนิยม
  • จมูกทรงหยดน้ำ เป็นการเสริมปลายจมูกให้ยาวขึ้น และคล้อยลงมาเล็กน้อยคล้ายมีหยดน้ำที่ปลายจมูก เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกพอสมควร 
  • จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง มีลักษณะสโลปตั้งแต่บริเวณหัวตาลงมาที่สันจมูก และทำให้ปลายเชิดขึ้น หน้าจะดูคมเฉี่ยว ดูเด็กลง
  • จมูกทรงสโลปปลายหยดน้ำ เป็นการทำทรงสโลปแต่กดปลายให้เป็นหยดน้ำลงมา ทำให้จมูกยาวขึ้น ช่วยเสริมให้หน้าดูหวานขึ้น เหมาะกับคนที่ไม่มีปลายจมูก
  • จมูกทรงบาร์บี้ไลน์ เป็นทรงที่นิยมมากในเกาหลี มีลักษณะสันจมูกยกสูงขึ้น และบีบปลายจมูกให้เล็กลง เพิ่มความละมุนให้ใบหน้า
  • ทรงจมูกสันสูง ปลายเชิด ทรงนี้เหมาะกับคนที่ต้องการให้สันจมูกโดนเด่น เหมาะกับคนไม่มีดั้ง หรือจมูกแบนมาก ๆ หรือต้องการเสริมโหงวเฮ้ง

นอกจากทรงที่ยกตัวอย่างมา ยังมีทรงจมูกอื่น ๆ เช่น ทรงตั๊กแตน ทรงฮันบก ฯลฯ ทั้งนี้รูปจมูกเดิมและปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ออกแบบทรงจมูกที่เหมาะสม และเข้ากับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาที่ต้องตามแก้ภายหลังครับ


เลือกทรงจมูกอย่างไร ? ให้เหมาะกับใบหน้า

เลือกทรงจมูกให้เหมาะกับใบหน้า

‘สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องเลือกทรงจมูก คือการทำให้จมูกมีความสมดุลกับใบหน้ามากที่สุด’

ดังนั้นนอกจากเทคนิค ประสบการณ์ ความชำนาญของแพทย์ในการผ่าตัด สิ่งทำคัญไม่แพ้กันคือความสามารถในการดีไซน์ทรงจมูกของแพทย์ ที่ควรออกแบบทรงจมูกให้รับกับโครงสร้างใบหน้า

  • จมูกควรรับกับหน้าผาก คนที่มีหน้าผากสูงจะสามารถเสริมซิลิโคนสูงได้ จะดูไม่หลอกตา 
  • จมูกควรรับกับโครงหน้าด้านกว้าง คนที่โหนกแก้มใหญ่ ไม่ควรเสริมซิลิโคนบริเวณกลางจมูกให้สูงมาก เพราะจะไม่รับกับความกว้างของใบหน้า
  • จมูกควรรับความยาวของใบหน้า ไรผม-สันจมูก/ สันจมูก-ปลายจมูก/ ปลายจมูก-คาง เป็น 3 ส่วนที่ควรมีความยาวสมดุลกัน เช่น คนไข้ที่มีคางยาว ก็ควรเสริมจมูกให้ยาวรับกัน หรือถ้าคนไข้ที่หน้ากลม สั้น อาจไม่เหมาะกับการทำทรงหยดน้ำให้จมูกยาวขึ้น

นอกจากนี้ก่อนเสริมจมูกควรคำนึงถึง Lifestyle ของคนไข้ เนื่องจากเมื่อทำจมูกไปแล้วใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ซึ่งหลายคนไม่ค่อยแต่งหน้า หรืออยากให้ดูเป็นธรรมชาติ ควรปรึกษารายละเอียดและพูดคุยกับหมอก่อนเพื่อให้เข้าใจความต้องการตรงกันครับ


เสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร ?

จมูกฮัมพ์ หรือ Hump Nose คือ ลักษณะสันจมูกที่ไม่เรียบ เป็นคลื่น นูนเป็นหลังเต่าขึ้นมา คนที่มีลักษณะจมูกแบบนี้มักมีปลายจมูกงุ้ม ซึ่งในบางเคสที่มีฮัมพ์สูงมาก ๆ อาจทำให้จมูกดูคด เอียง ทำให้หน้าดูดุ 

การตะไบฮัมพ์ จะช่วยทำให้สันจมูกเรียบขึ้น

การตะไบฮัมพ์ จะช่วยทำให้สันจมูกเรียบขึ้น

ปัญหานี้สามารถแก้ไขด้วยการตะไบฮัมพ์ให้เรียบขึ้น หรือในเคสที่ฐานจมูกใหญ่ กว้าง สามารถใช้เทคนิคตอกฐานจมูก (Humpectomy) ตัดแต่งกระดูกส่วนนูนให้เรียบขึ้น ร่วมกับการเสริมซิลิโคนเพื่อปิดความไม่เรียบของกระดูกได้ หลังทำสันจมูกดูเรียบขึ้น ไม่โก่งนูน และช่วยให้ใบหน้าดูหวาน ละมุนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ

รีวิว เสริมจมูกมีฮัมพ์


เสริมจมูก เนื้อน้อยทำได้ไหม ?

กรณีเสริมจมูกเนื้อน้อย สามารถทำได้ครับ เพียงแต่มีข้อจำกัดและความเสี่ยงบางอย่าง เช่น มีโอกาสจมูกทะลุมากกว่าคนทั่วไป ทำความโด่ง หรือความเชิดขึ้นได้จำกัด และแพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีความชำนาญสูง เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้จมูกทะลุ 

โดยเทคนิคที่ควรใช้คือการผ่าตัดเสริมจมูกแบบ OPEN เพื่อปรับโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูก และรองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู จะทำให้จมูกยาวขึ้นกว่าเดิมโดยไม่รั้งปลาย เหมาะกับทั้งคนที่มีจมูกเนื้อน้อย และจมูกสั้นครับ


วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

1. ซิลิโคน

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบซิลิโคน คือ ได้รูปทรงที่แน่นอน สามารถปรับให้เข้ากับจมูกได้ทุกรูปแบบ ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ราคาไม่สูงมาก

การแบ่งประเภทของซิลิโคน

  • ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป จะขึ้นเป็นทรงมาให้แล้ว มีโอกาสเบี้ยวหรือเอียงน้อย เรียกชื่อตามลักษณะทรงจมูก แต่อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน เช่น ซิลิโคนแมนทิส, ซิลิโคนบาร์บี้, ซิลิโคนซินเดอเรลล่า, ซิลิโคนแบบ L-shape
  • ซิลิโคนแบบเหลาเอง จะมาเป็นแท่งหรือบล็อกสี่เหลี่ยม แพทย์จะเป็นคนดีไซน์และเหลาทรงให้เข้ากับรูปจมูกแต่ละเคส ต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญและความแม่นยำ ตัวซิลิโคนมีลักษณะเรียบลื่น ไม่เป็นขุย และสามารถแบ่งย่อยออกไปอีก 4 ชนิด ตามลักษณะความอ่อน-แข็งของซิลิโคน ได้แก่ แข็ง, แข็งปานกลาง, นุ่ม และนุ่มมาก
Vsquare tips

วัสดุซิลิโคนที่นำมาเสริมจมูกที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ ซิลิโคนอเมริกา ซิลิโคนเกาหลี ซิลิโคนญี่ปุ่น ซึ่งต้องผ่าน FDA หรือ อย. ของประเทศผู้ผลิต มีความปลอดภัย ไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน (Biocompatibility) ซึ่งรูปแบบการเลือกใช้จะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมและงบประมาณครับ

2. กระดูกอ่อน

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบกระดูกอ่อน คือ ช่วยลดความเสี่ยงที่ปลายจมูกจะทะลุในระยะยาว เพราะเป็นการเพิ่มความหนาของผิวหนังบริเวณปลายจมูก ป้องกันไม่ให้ซิลิโคนกระทบกับผิวหนังปลายจมูกโดยตรง ลดการเสียดสี และเป็นวิธีที่ทำให้ปลายจมูกดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังใบหู

ใช้กระดูกอ่อน จากจุดไหนมาเสริมจมูก

  • กระดูกอ่อนหลังใบหู นิยมใช้มากที่สุด ตัวกระดูกอ่อนจะมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย หลังจากนำกระดูกอ่อนออกมาจากเบ้าในใบหู จะไม่ทำให้ใบหูเปลี่ยนรูป แต่อาจต้องดูแลแผลหลังใบหูเพิ่มขึ้น และต้องงดสระผม 1-2 สัปดาห์
  • กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septum) เป็นการใช้เทคนิคผ่าตัดแบบเปิดยืดผนังกั้นจมูก นำกระดูกอ่อน Septum ที่อยู่บริเวณกึ่งกลางรูจมูกออกมาบางส่วน เพื่อปรับตำแหน่งและต่อเสริมจมูกจริงให้ยาวขึ้น วิธีนี้จะทำให้ได้ปลายจมูกพุ่งสวย โดยไม่ต้องมีแผลแบบการใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู
  • กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นวิธีที่แพทย์จะต้องเปิดเอากระดูกซี่โครงอ่อนขนาด 2-5 cm ออกมา 1-2 ซี่ โดยจะมีแผลบริเวณใต้ราวนม ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน และต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง

เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก

อย่างที่หมอบอกไปในตอนต้นว่า ด้วยลักษณะทางพันธุกรรมทำให้คนเอเชียมีฐานจมูกเตี้ยและปีกจมูกกว้าง จึงนิยมเสริมดั้งไปพร้อมกับการตัดปีกจมูกกว้าง จมูกบานให้แคบลงในการผ่าตัดครั้งเดียว

การลดขนาดปีกจมูกโดยส่วนมากจะแก้ไขเฉพาะส่วนปีกด้านข้าง ซึ่งมีผิวหนังและกล้ามเนื้อเท่านั้น และซ่อนแผลไว้บริเวณขอบของปีกจมูก ซึ่งในการตัดปีกจมูกจะต้องคำนึงถึงความสมดุลกับจมูกส่วนบน และสันจมูก หลังทำจะช่วยให้รูจมูกเล็กลงด้วยครับ

เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูกบาน

ขั้นตอนการตัดปีกจมูก

  1. ปรึกษาแพทย์และวางแผนการผ่าตัดร่วมกัน
  2. ทำความสะอาดโพรงจมูก และบริเวณที่จะผ่าตัด
  3. ฉีดยาชา หรือวางยาสลบ (กรณีใช้เทคนิคผ่าตัดแบบเปิดเพื่อเสริมจมูกด้วย)
  4. เริ่มผ่าตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินที่กางออก และจัดโครงสร้างฐานจมูกใหม่ ใช้เวลาในการผ่าตัด 30-45 นาที (เฉพาะการตัดปีกจมูก)
  5. เย็บปิดแผล และนอนพักฟื้นประมาณ 1 ชั่วโมง
  6. กลับมาติดตามผลและตัดไหมหลังจาก 1 สัปดาห์
Vsquare tips

ในบางเคสที่มีปัญหาจมูกบาน ปีกจมูกกว้าง อาจทำหัตถการผ่าตัดเสริมจมูกร่วมกับการร้อยไหมเก็บปีกจมูกได้ครับ


การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

  1. ปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด เช่น โรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ ปัญหาเกี่ยวกับฟัน การแพ้ยา แพ้อาหาร
  2. งดการใช้ยาสมุนไพร ยาบำรุง และวิตามินทุกชนิดก่อนการผ่าตัด อย่างน้อย 7 วัน เช่น ยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินซี วิตามินดี น้ำมันปลา
  3. งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือ 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  5. งดรับประทานทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล เพราะจะส่งผลต่อการอักเสบของแผล
  6. งดแต่งหน้า งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกาย และควรสระผมก่อนให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
  7. งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
  8. งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง ในกรณีผ่าตัดโดยฉีดยาชาเฉพาะจุด ไม่ต้องงดครับ

ขั้นตอนการเสริมจมูก

  1. ให้ยาชาหรือยานอนหลับ จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าจะใช้ยาชาหรือยาชาร่วมกับยากล่อมประสาท เช่น หากใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดจะต้องใช้การวางยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์ ส่วนการผ่าตัดแบบปิดจะเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด
  2. ในกระบวนการผ่าตัดเสริมจมูก แพทย์จะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปเพื่อแก้ไขตามปัญหาของแต่ละเคส ตั้งแต่การเหลาซิลิโคน การเปิดแผล ปรับโครงสร้าง ตกแต่ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง 
  3. เย็บปิดแผลผ่าตัด หรือในบางกรณีแพทย์อาจให้เข้าเฝือกที่จมูกด้วยครับ ใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วัน ระหว่างนี้คนไข้สามารถดูแลทำความสะอาดแผลได้ด้วยตัวเอง ก่อนนัดมาติดตามผลและตัดไหม

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

หลังทำจมูกอาจมีอาการข้างเคียง เช่น ใต้ตาบวม เขียวช้ำ มีเลือดออก บ้วนปากแล้วมีเลือดลงคอ อึดอัดจมูก ตึงบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งควรดูแลตัวเองย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม และคุ้มค่ากับที่เจ็บตัวไปครับ หมอมีคำแนะนำ ดังนี้

  1. ใน 72 ชั่วโมง หลังผ่าตัด ควรประคบเย็นด้วยคูลแพ็คบริเวณหน้า โดยเว้นตรงแผลเอาไว้ (สันจมูกด้านซ้ายและขวา สันจมูกตรงกลางด้านบน ระหว่างคิ้ว) เพื่อช่วยเพื่อให้เลือดหยุดไหล และยุบบวมไวขึ้น 
  2. หลัง 72 ชั่วโมง แผลจะเริ่มสนิทกัน ให้เปลี่ยนมาใช้การประคบอุ่นเพื่อลดรอยเขียว ช้ำ ม่วง
  3. ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก
  4. ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอ ให้ศีรษะสูง เพื่อให้เลือดไม่คั่งในโพรงจมูก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
  5. หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ ป้องกันการไอหรือจาม
  6. ควรรับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็ง เหนียว
  7. งดล้างหน้า เพื่อไม่ให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นล้างหน้าได้ตามปกติ
  8. งดรับประทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัด ที่ส่งผลต่อการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายช้า
  9. งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหยุดการสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือน หลังทำจมูก เนื่องจากมีผลต่อการสมานแผล 
  10. หากรู้สึกคันบริเวณจมูกให้ใช้คอตตอนบัดหรือสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดอย่างเบามือ
  11. หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหนัก ๆ การวิ่ง, การว่ายน้ำ, การมีเพศสัมพันธ์, การสั่งน้ำมูก, การขยี้จมูก, ก้มหน้านาน ๆ และยกของหนัก เนื่องจากเนื้อจมูกยังไม่เข้าที่ดี
  12. หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

เสริมจมูกที่ Masterpiece Hospital ดีอย่างไร ?

  • Certified Board of Plastic Surgery ศัลยแพทย์ตกแต่งได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย และมีประสบการณ์ผ่าตัดมากกว่า 10 ปี 
  • Sterile Equipment and Operating Room อุปกรณ์เครื่องมือปลอดเชื้อ และได้มาตรฐาน มีระบบห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลที่ทันสมัย และมีทีมแพทย์-พยาบาล ซึ่งผ่านการอบรมตามมาตรฐาน 
  • Wound Care มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลคอยให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด ทั้งก่อนและหลังผ่าตัดศัลยกรรมจมูก 24 ชม. 
  • Premium Service บริการระดับพรีเมียม มีห้องพักฟื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบถ้วน เพื่อให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายหลังผ่าตัด 

สรุป

การผ่าตัดเสริมจมูก เป็นหัตถการที่มีคลินิกหรือโรงพยาบาลรับทำเป็นจำนวนมาก แต่การที่จะคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งโครงสร้างเดิมของจมูก ความต้องการ การดูแลตัวเอง หรือบางคนมีโอกาสเป็นแผลคีลอยด์ (Keloid) ได้ง่ายกว่าคนอื่น และในการผ่าตัดก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีผลข้างเคียงครับ ทั้งความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ 

ดังนั้น การเสริมจมูกจึงต้องพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกคลินิก เลือกหมอ ดูรีวิวเสริมจมูก และศึกษาข้อมูลเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และคุ้มค่ามากที่สุด


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมจมูก

Q : เสริมจมูกเจ็บไหม ?

A :

ในระหว่างการผ่าตัดจะมีการใช้ยานอนหลับหรือยาชา ซึ่งคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำครับ แต่หลังจากนั้นต้องกลับไปพักฟื้นอาจมีอาการช้ำ ระบม เป็นเรื่องปกติ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ


Q : เสริมจมูกใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน ?

A :

หลังเสริมจมูก จะใช้เวลาในการพักฟื้น 5-7 วัน และต้องเข้ามาฉีดยาปฏิชีวนะ รวมไปถึงนัดติดตามผลและตัดไหม รวม ๆ แล้วอาจจะใช้เวลาพักฟื้นให้รอยช้ำต่าง ๆ จางหายไป ประมาณ 7-14 วัน ทั้งนี้อาจใช้เวลาพักฟื้นนานมากขึ้นตามสภาพร่างกายของแต่ละเคส


Q : ฉีดฟิลเลอร์จมูก แล้วมาเสริมจมูกได้ไหม ?

A :

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก สามารถเสริมจมูกได้ครับ แต่แพทย์จะต้องทำการขูดฟิลเลอร์เดิมออกก่อน เพื่อให้ซิลิโคนที่จะใส่เข้าไปมีการยึดเกาะที่ดียิ่งขึ้น


Q : แผลเสริมจมูกกี่วันเข้าที่ กี่วันหายบวม ?

A :

หลังเสริมจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งใน 1 สัปดาห์จะยุบบวมประมาณ 60%, 1 เดือนยุบบวม 80%, ยุบบวมและเข้าที่ 90-100% ใน 3-6 เดือน


Q : เสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง ?

A :

มีอาหารหลายชนิดที่กินแล้วจะช่วยให้แผลสมานเร็ว ลดการบวมช้ำหรืออักเสบของแผลได้ เช่น ไข่ไก่ หมู เนื้อ ปลาน้ำจืด ไก่ ผลไม้สีเข้ม (เชอร์รี บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี) สาหร่าย น้ำมะพร้าว ฯลฯ ส่วนใหญ่ก็จะทานได้หมดครับ ยกเว้นอาหารแสลงบางชนิด


Q : หลังเสริมจมูกห้ามกินอะไร หลัง 1 เดือนกินอะไรได้บ้าง ?

A :

หมอจะแนะนำให้โฟกัสอาหารที่ควรหลักเลี่ยง เช่น ของหมักดอง ของสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล ที่ส่งผลต่อการอักเสบ และทำให้แหลหายช้าครับ หลังจากแผลเข้าที่ หายดีแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมจมูกหรือศัลยกรรม สามารถปรึกษาทีมแพทย์ Masterpiece Hospital ทาง facebook หรือ Line ได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

บทความแนะนำ

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีอาหารอะไรที่ควรระวัง ควรกิน ควรเลี่ยง

Reading Time: 3 minutes- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? - หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไรบ้าง ? - ถ้าเผลอกินอาหาร เครื่องดื่มที่หมอห้าม จะมีผลข้างเคียงไหม ? - คำถามที่พบบ่อย

December 18, 2024 อ่านต่อ

ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง คืออะไร ? - สาเหตุที่ทำให้ติ่งหูยาน - สาเหตุที่ทำให้หูกาง - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? - เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง VS ศัลยกรรมตกแต่งใบหู - ฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ยี่ห้อไหนดี ? - ฉีดฟิลเลอร์ติ่งหู หูกาง ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสียอย่า...

Reading Time: 6 minutes- ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร ? - ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?

ไขมันช่องท้อง อันตราย! แนะนำวิธีลดไขมันช่องท้อง เพื่อหุ่น...

Reading Time: 4 minutes- ไขมันช่องท้อง เกิดจากอะไร? - การวัดค่าไขมันในช่องท้อง - ไขมันในช่องท้องเยอะ อันตรายไหม? - วิธีลดไขมันในช่องท้องด้วยตัวเอง - วิธีลดไขมันในช่องท้อง เร่งด่วน

ulthera prime รุ่นใหม่ เทียบกับรุ่นเก่าต่างกันอย่างไร ? เ...

Reading Time: 3 minutes- ulthera prime คืออะไร ? - ulthera prime ช่วยอะไรได้บ้าง ? - ulthera prime ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - ขั้นตอนการทำ ulthera prime - ulthera prime กี่วันเห็นผล ?

5 อาการหลังทำ HIFU ผลข้างเคียง เจ็บ บวม ช้ำ ปกติหรือไม่ ด...

Reading Time: 2 minutes- หลัง HIFU ผลข้างเคียง มีอะไรบ้าง? - วิธีดูแลตัวเองหลังทำ hifu เพื่อคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น - เลือกคลินิกทำ hifu ที่ไหนปลอดภัย เห็นผล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า