หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย อาการที่ไม่ควรมองข้าม
หายใจไม่อิ่ม รู้สึกหายใจได้ไม่เต็มปอด หมอเชื่อว่าเป็นปัญหาที่สร้างความน่ารำคาญใจในการใช้ชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อยครับ และยังอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคภัยบางอย่าง หมอจะมาอธิบายถึงสาเหตุของอาการหายใจไม่อิ่มในบทความนี้ รวมถึงวิธีรักษาและบรรเทาอาการหายใจไม่อิ่มดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง
สารบัญ หายใจไม่อิ่ม
หายใจไม่อิ่ม คืออะไร ? มีลักษณะอาการอย่างไร ?
หายใจไม่อิ่ม (Shortness of breath) หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Dyspnea คือ ภาวะที่ร่างกายหายใจได้เป็นช่วงถี่ ๆ สั้น ๆ หายใจเข้าปอดได้ไม่สุด ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอก หัวใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ
บางคนอาจรู้สึกอยากหาวอยู่ตลอดเวลา หรือต้องถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง เพราะร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ โดยอาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลันหรือเรื้อรังขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการครับ
อาการหายใจไม่อิ่มเป็นอย่างไร สามารถเช็กลักษณะอาการได้ดังนี้
สาเหตุของอาการหายใจไม่อิ่ม
อาการหายใจไม่อิ่มเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ทั้งจากสภาพแวดล้อม โรคประจำตัวภูมิแพ้ มีความเครียดสูง ล้วนสามารถส่งผลทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่มได้ หมอสรุปมาให้ดังนี้ครับ
- อาการภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้มาก ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้รู้สึกหายใจไม่อิ่มได้ ดังนี้
- เกิดการกระตุ้นต่อมทางเดินหายใจให้ผลิตเมือกหรือน้ำมูกมากผิดปกติ ทำให้หลอดลมอุดตัน จนเกิดอาการหายใจไม่อิ่ม
- การอุดตันของโพรงจมูก โพรงจมูกบวม ทำให้หายใจได้ลำบาก ต้องอาศัยปากแทน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกหายใจไม่อิ่ม อึดอัด เหมือนกรดไหลย้อน เพราะมีอากาศอยู่ในท้องมากเกินไปครับ
- หากมีอาการภูมิแพ้รุนแรงซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหอบหืด ทำให้หลอดลมบวมและตีบขึ้นจนอากาศไหลเวียนผ่านหลอดลมยากขึ้น ทำให้รู้สึกหายใจไม่อิ่ม
- โรคเกี่ยวกับหัวใจและปอด
อาการหายใจไม่อิ่มอาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจ ระบบทางเดินหายใจได้ครับ เช่น
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease) : ปอดได้รับสารพิษทำให้หลอดลมถูกอุดกั้น ส่งผลให้เกิดอาการไอเรื้อรัง รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่ หรือได้รับมลพิษอยู่เป็นประจำ
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ : ทำให้เลือดและออกซิเจนไหลเวียนได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้เหนื่อยง่ายและหายใจไม่อิ่ม
- ภาวะน้ำหนักเกิน
ในคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน นอกจากเสี่ยงภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดไขมันสะสมในปอดเบียดทางเดินหายใจ ทำให้ระบบหายใจทำงานได้ไม่เต็มที่ หายใจได้ไม่เต็มอิ่ม และอาจทำให้เกิดโรคหอบหืดตามมา
- ภาวะลองโควิด
ภาวะลองโควิด คือ ภาวะที่ผู้ป่วยยังมีอาการหลงเหลือหลังจากหายเป็นโควิดแล้ว ซึ่งอาการหายใจไม่อิ่มเป็นหนึ่งในอาการที่พบได้ครับ เนื่องจากเชื้อโควิดมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และการทำงานของปอดโดยตรง โดยบางคนอาจมีอาการเป็นสัปดาห์หรือหลายเดือน
- ความเครียดและภาวะวิตกกังวล
คนที่ตกอยู่ในภาวะวิตกกังวล มีความเครียดสูง หรือมีอาการแพนิค ส่งผลให้จังหวะการเต้นของหัวใจไม่ปกติ อยู่ในภาวะหายใจเร็วเกินไป (Hyperventilation Syndrome) ทำให้รู้สึกอากาศไม่เพียงพอ หายใจไม่อิ่ม แน่นหน้าอก
- สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่น ๆ
- การสูดดมสารเคมีและควันมาก ๆ ทำให้ระบบทางเดินหายใจตีบชั่วคราว หากได้รับต่อเนื่องอาจเกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ครับ
- อยู่ในสถานที่ที่มีความกดอากาศต่ำเกินไป เช่น บนยอดเขาสูง การนั่งเครื่องบิน
- การออกกำลังกายโดยใช้แรงมากเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการหายใจไม่ทัน
หายใจไม่อิ่มส่งผลเสียอย่างไร ? อันตรายไหม ?
แม้ว่าอาการหายใจไม่อิ่ม ดูเป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ แต่ถ้าเกิดบ่อยครั้งหรือเรื้อรัง สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ครับ บางคนที่ตอนนอนมีอาการหายใจไม่อิ่ม ทำให้สะดุ้งตื่นกลางดึก ส่งผลให้คุณภาพของการนอนไม่เต็มประสิทธิภาพ จนกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ได้
นอกจากนี้หายใจไม่อิ่มยังเป็นอาการข้างเคียงที่สามารถพบในโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ครับ หากปล่อยไว้และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เกิดอันตรายได้ครับ
เช็กด่วน! ระดับความรุนแรงของอาการหายใจไม่อิ่ม เมื่อไหร่ที่ควรรีบพบแพทย์ ?
การประเมินความรุนแรงของอาการหายใจไม่อิ่ม รู้สึกลำบากเมื่อต้องหายใจ แพทย์จะประเมินตาม Dyspnea Scale หรือคะแนนความเหนื่อย โดยสังเกตอาการขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในใช้ชีวิตประจำวัน ตามตารางนี้ครับ
ระดับ | อาการที่เกิดขึ้นขณะทำกิจกรรม |
---|---|
ระดับ 0 | รู้สึกหายใจลำบากเมื่อต้องออกกำลังกายเท่านั้น |
ระดับ 1 | เริ่มหายใจลำบาก เมื่อต้องเดินขึ้นเนินหรือบันได |
ระดับ 2 | รู้สึกหายใจลำบากหรือต้องหยุดพักเป็นครั้งคราวเมื่อเดินบนพื้นราบ เดินช้าลงกว่าคนรุ่นเดียวกัน |
ระดับ 3 | รู้สึกหายใจลำบาก ต้องหยุดพักหลังเดินไปไม่กี่นาที หรือเพียง 100 เมตร |
ระดับ 4 | หายใจลำบากจนไม่สามารถออกจากบ้านได้ หายใจไม่อิ่มแม้ไม่ได้ทำอะไร |
Note. From “Evaluation of clinical methods for rating dyspnea” by Chest Mahler, D. A., & Wells, C. K. (1988)., Chest, 93(3), 580–586.
หากมีอาการหายใจไม่อิ่มจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือสังเกตได้ว่ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต้องหยุดการทำกิจกรรม ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างเหมาะสม
วิธีการรักษาอาการหายใจไม่อิ่ม
อาการหายใจไม่อิ่ม สามารถรักษาได้หลายวิธี อยู่ที่สาเหตุและระดับความรุนแรงของการอาการครับ ในส่วนนี้ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ และประเมินการรักษาตามอาการ เช่น หากไม่ได้รุนแรงมาก มีอาการหายไม่อิ่มที่ไม่ได้มีสาเหตุจากโรค แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการฝึกหายใจเข้าออก ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน
หรือการรักษาด้วยการรับประทานยา เช่น ยาขยายหลอดลมสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ยาลดความวิตกกังวลจากโรคแพนิค หรือการให้ออกซิเจนสำหรับผู้มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ
ส่วนในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ไม่แข็งแรง หมอแนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง เลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม เช่น รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ในปัจจุบันโปรแกรมวิตามินผิวเป็นทางเลือกใหม่ที่หลายคนให้ความสนใจครับ เพราะสะดวก เห็นผลได้เร็ว เหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่ม แต่ไม่มีเวลา โดยจะช่วยเสริมความแข็งแรงตามสูตรวิตามินที่เลือกใช้
โปรแกรมวิตามินผิวที่ V Square Wellness
วิตามินผิวสูตร Myer’s Cocktail ที่ V Sqaure Wellness จัดอยู่ในกลุ่ม Healthy Booster ประกอบไปด้วยวิตามิน B, C และสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นหวัดบ่อย แพ้อากาศที่เป็นสาเหตุทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้
ทั้งนี้อาจมีคนสงสัยว่าแล้วการทำโปรแกรมดริปวิตามินกับฉีดวิตามินต่างกันอย่างไร ? แบบไหนดีกว่า ? ทั้งสองมีข้อดีต่างกันครับ โดยข้อดีของการโปรแกรมดริปวิตามินผิวจะเห็นผลเร็วกว่า เพราะร่างกายนำไปใช้ได้ทันที ส่วนการรับประทานวิตามินถึงดูดซึมช้ากว่า แต่หากทานต่อเนื่อง ร่างกายได้รับวิตามินเต็มที่ จะเป็นการคงผลลัพธ์ในระยะยาว และหากทำโปรแกรมวิตามินเสริมด้วยการทาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินให้ดีขึ้นได้ครับ
ไม่ว่าจะวิธีไหนสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องได้รับวิตามินในปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย โดยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจระดับฮอร์โมน วิเคราะห์โภชนาการก่อน เพราะในแต่ละคนจะมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต่างกันครับ แพทย์จะช่วยแนะนำวางแผนปริมาณวิตามินที่ควรได้รับอย่างเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อให้คนไข้ได้รับวิตามินอย่างปลอดภัย เห็นผลคุ้มค่าครับ
เมื่อรู้สึกหายใจไม่อิ่ม มีวิธีบรรเทาอาการอย่างไร ?
หากเกิดอาการหายใจไม่อิ่ม สามารถบรรเทาด้วยวิธีปรับท่าทางการนอน และปรับการหายใจให้ถูกต้อง เพื่อลดความเครียด
- ปรับท่านอนบรรเทาอาการหายใจไม่อิ่ม
หากเกิดอาการหายใจไม่อิ่มตอนนอน การปรับท่านอนให้เหมาะสมด้วยการนอนตะแคง หรือนอนหนุนหมอนให้ศีรษะและลำตัวส่วนบนสูงขึ้นประมาณ 35-40 องศา เพื่อช่วยลดแรงกดดันปอดและกะบังลม สามารถช่วยลดอาการหายใจไม่อิ่มและทำให้หายใจสะดวกมากขึ้น
- ฝึกหายใจเข้า-ออก
การฝึกหายใจอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยบรรเทาอาการหายใจไม่อิ่ม หมอรวมเทคนิคการหายใจ ช่วยปรับให้หายใจได้สะดวกขึ้นที่ทุกคนสามารถปฏิบัติตามได้ง่ายครับ
- เทคนิคการหายใจแบบห่อปาก (Pursed-Lip Breathing) ช่วยควบคุมอัตราการหายใจ ลดความรู้สึกหายใจไม่อิ่ม
- หายใจเข้าทางจมูกช้า ๆ ประมาณ 2 วินาที เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเต็มที่
- หายใจออกทางปาก ห่อปากให้เหมือนเป่าเทียน ปล่อยลมหายใจออกช้า ๆ ประมาณ 4 วินาที
- ทำซ้ำ 5-10 นาทีจนกว่าอาการจะดีขึ้น
- เทคนิคการหายใจแบบกล่อง (Breath Boxing) ช่วยควบคุมการหายใจให้เป็นจังหวะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเครียดหรือหายใจไม่อิ่มจากอาการวิตกกังวล
- หายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ 4 วินาที ให้ปอดขยายตัวเต็มที่
- กลั้นลมหายใจไว้ 4 วินาที
- หายใจออกช้า ๆ ทางปาก 4 วินาที
- กลั้นหายใจอีกครั้งเป็นเวลา 4 วินาที
- ทำต่อเนื่องจนกว่าอาการจะดีขึ้น
- เทคนิคการหายใจโดยใช้ท้อง (Belly Breathing) เป็นการใช้กะบังลมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจ เพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจน ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น
- นั่งหลังตรง ผ่อนคลาย โดยเฉพาะไหล่และหน้าอก
- วางมือข้างหนึ่งบนหน้าอก อีกข้างวางบนหน้าท้อง
- หายใจเข้าลึก ๆ ให้ท้องพองขึ้น (โดยมือที่หน้าอกไม่ควรยกขึ้นตาม)
- หายใจออกทางปากช้า ๆ ให้ท้องยุบลง
วิธีป้องกันอาการหายใจไม่อิ่ม
การใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันสาเหตุของอาการหายใจไม่อิ่มได้ครับ
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และสารเคมีที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่นควันและบุหรี่
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- รักษาสภาพแวดล้อมในห้องให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- รักษาระดับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ครบ 5 หมู่
- ฝึกจัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิ หรือโยคะ
- ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจและปอด
สรุปหายใจไม่อิ่ม สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ต้องรีบรักษา
อาการหายใจไม่อิ่ม อาจเกิดขึ้นเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ขึ้นอยู่กับสาเหตุ วิธีป้องกันคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ปรับพฤติกรรมชีวิต เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
ทั้งนี้ไม่ควรปล่อยให้อาการหายใจไม่อิ่มกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งยังอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด ทางที่ดีควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสมครับ
อ้างอิง
- Mahler, D. A., & Wells, C. K. (1988). Evaluation of clinical methods for rating dyspnea. Chest, 93(3), 580–586. https://doi.org/10.1378/chest.93.3.580