เข้าใจโครงสร้างของผิวหนัง ดูแลอย่างตรงจุด
โครงสร้างของผิวหนังมีส่วนสำคัญในการปกป้องร่างกายและรักษาความชุ่มชื้น แต่การดูแลผิวอย่างผิดวิธี หรือเจอกับมลภาวะ ก็มีผลทำให้ผิวเสียและเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา โดยเฉพาะผิวหน้าซึ่งเป็นจุดที่หลายคนกังวล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ สิว หรือผิวแห้งหยาบกร้าน
บทความนี้หมอจะมาอธิบายถึงโครงสร้างของผิวหนังและความสำคัญของผิวแต่ละชั้น เพื่อให้สามารถดูแลและแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดมากขึ้นครับ
สารบัญ โครงสร้างของผิวหนัง
หน้าที่ของผิวหนัง
- ปกป้องร่างกายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น แบคทีเรีย มลภาวะ สารเคมีต่าง ๆ
- ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
- เก็บสะสมไขมันและน้ำเพื่อใช้ในยามจำเป็น
- รับรู้สัมผัสและความเจ็บปวดผ่านเส้นประสาท
โครงสร้างของผิวหนังใบหน้า ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
โครงสร้างของผิวหนังใบหน้า ประกอบไปด้วย 3 ชั้นหลัก ๆ หมอจะอธิบายหน้าที่และความสำคัญเป็นข้อ ๆ ไปครับ
ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวหนังที่อยู่นอกสุดครับ ประกอบด้วยเซลล์หลายชั้นที่ช่วยป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยชั้นหนังกำพร้าจะมีการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างต่อเนื่องและสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียน
ชั้นหนังแท้ (Dermis)
ชั้นหนังแท้ (Dermis) จะอยู่ใต้ชั้นหนังกำพร้า ประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงครับ การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ส่งผลโดยตรงต่อความกระชับของผิวหน้า
ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Layer)
ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Layer) เป็นชั้นลึกสุดของผิวหนัง ประกอบด้วยไขมันและเนื้อเยื่อที่ช่วยป้องกันการกระแทกและรักษาความอบอุ่นของร่างกาย นอกจากนี้ไขมันจะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและเรียบเนียน หากมีการสูญเสียไขมันในชั้นนี้ไป จะทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อยและมีริ้วรอย
ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย
- ปัญหาสิวและสิวอุดตัน
- ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ปัญหาผิวแห้งและลอกเป็นขุย
- ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก
- ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
อ่านบทความเพิ่มเติม : รวมวิธีลดริ้วรอย แต่ละจุดแก้ไขอย่างไรดี เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า
ผิวหนังแบบไหนดีหรือไม่ดี
ผิวหนังที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร ?
สำหรับหมอผิวหนังที่ดีควรเป็นผิวที่มีการดูแลอย่างถูกต้อง มีความสะอาด ชุ่มชื้นและได้รับการปกป้องจากแสงแดดหรือมลภาวะ จะส่งผลให้ผิวเรียบเนียน ลดการเกิดสิวหรือผื่นคัน รวมถึงชะลอการเกิดริ้วรอยและปัญหาผิวอื่น ๆ
ส่วนลักษณะผิวที่ไม่ดี อันเกิดจากการดูแลไม่ถูกต้อง หรือขาดการบำรุงรักษาอย่างเพียงพอ จะทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้แก่
- ผิวแห้งและหยาบกร้าน เป็นขุย ขาดความชุ่มชื้น
- ผิวมันและสิวง่าย เนื่องจากการผลิตน้ำมันในผิวหนังมากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตัน
- ผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ จากการสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป
- ผิวขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอย เนื่องจากผิวขาดคอลลาเจนและอีลาสติน
เกิดอะไรขึ้นกับโครงสร้างของผิวหนัง เมื่อผิวไม่ดี ?
- โครงสร้างผิวชั้นหนังกำพร้า มีการผลิตเซลล์ใหม่ช้าลง ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำและหยาบกร้าน นอกจากนี้ยังอาจมีการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วมากขึ้น ทำให้ผิวหนังอุดตันและเกิดสิว
- โครงสร้างผิวชั้นหนังแท้ คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและเต่งตึง รวมถึงมีการเสื่อมสภาพของเส้นเลือดและเส้นประสาท ทำให้ผิวหนังดูเหี่ยวย่นและไม่สดใส
- โครงสร้างผิวชั้นใต้ผิวหนัง มีการสูญเสียไขมันและน้ำ ทำให้ผิวหนังดูแห้งและหย่อนคล้อย
คอลลาเจนและบทบาทสำคัญในโครงสร้างของผิวหนัง
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายและเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนังครับ มีบทบาทและความสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้ผิว แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะมีการสูญเสียคอลลาเจนไปเรื่อย ๆ และผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา
จะเห็นได้ในท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นครีมหรือหัตถการความงามต่าง ๆ ก็จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มคอลลาเจนและความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะการเสริมคอลลาเจนสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ รวมถึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาผิวแทบจะทั้งหมดเลยครับ
วิธีดูแลรักษาผิวหนังจากปัญหาต่าง ๆ
- ฉีดสกินบูสเตอร์ (Skin Booster)
การทำ Skin Booster เป็นหัตถการที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน โดยฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้มากขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และลดเลือนริ้วรอย
ปัจจุบันสกินบูสเตอร์กำลังได้รับความนิยมและมีหลายยี่ห้อครับ แนะนำให้ศึกษาและปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน
สำหรับ Filler Skin Booster จะไม่ใช่การฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน แต่จะใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่มีเนื้อละเอียด ฉีดให้เบลนไปกับผิว จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูฉ่ำ อิ่มน้ำ และเนียนละเอียดมากขึ้นครับ
- เครื่องยกกระชับ (Hifu/Ulthera/Thermage)
การใช้เครื่องยกกระชับอย่าง Hifu/Ulthera/Thermage จะส่งพลังงานที่ทำให้เกิดความร้อนเข้าไปในชั้นโครงสร้างผิว ทำให้เนื้อเยื่อหดตัวและยกกระชับขึ้นจากภายใน รวมถึงช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ข้อดีคือไม่ต้องฉีด ไม่มีแผล แต่ก็ต้องเลือกว่าปัญหาของแต่ละคน เหมาะกับเครื่องยกกระชับเครื่องไหนครับ
ในผิวของเราจะมีชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) เป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนังและชั้นไขมัน มีบทบาทสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหน้า การใช้เครื่องยกกระชับสามารถส่งพลังงานไปถึงชั้น SMAS ช่วยกระชับโครงสร้างผิวให้ยกขึ้นมาจากชั้นลึกที่สุด
- ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่ช่วยเสริมและปรับโครงสร้างของผิวหนังได้ ใช้ในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้าได้ ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือคนไข้เห็นผลผลลัพธ์หลังฉีดทันที ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงขึ้น ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
อ่านบทความเพิ่มเติม : รวมข้อที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก
- ฉีดโบท็อก (Botox)
โบท็อก หรือ Botulinum Toxin Type A เป็นการฉีดสารลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อครับ เวลาเราแสดงสีหน้ากล้ามเนื้อจะหดตัวเพื่อให้เป็นสีหน้า เช่น ขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก ยิ้ม เมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะทิ้งริ้วรอยเอาไว้ หลังฉีดโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผิวกลับมาเรียบเนียน เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-4 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม : มีข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก
- ทำทรีทเมนต์ผิวหน้า
การทำทรีทเมนต์ผิวหน้า เป็นวิธีที่ช่วยบำรุงผิวและฟื้นฟูสภาพผิวได้ในเบื้องต้นครับ ได้ผลในเรื่องทำให้ผิวดูสดใสขึ้น แต่จะให้เห็นผลชัดเจนควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น การผลัดเซลล์ผิว การนวดหน้า มาส์กบำรุงผิว
- เลเซอร์ผิวหนัง
การทำเลเซอร์เป็นการใช้แสงเลเซอร์เพื่อแก้ไขปัญหาผิว โดยเลเซอร์สามารถเจาะลึกลงไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ช่วยรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็นได้ครับ
ข้อควรรู้ : การดูแลรักษาโครงสร้างของผิวหนัง ด้วยหัตถการความงามเป็นวิธีที่เห็นผลได้ชัดเจน แต่การเลือกใช้หัตถการต่าง ๆ ควรคำนึงถึงปัญหาผิวหนังและความต้องการของแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อให้ได้คำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสมครับ
สรุป ความสำคัญของโครงสร้างผิวหนัง
การที่เราเข้าใจความสำคัญในโครงสร้างของผิวหนังแต่ละชั้น จะช่วยให้สามารถเลือกวิธีดูแลผิวได้อย่างตรงจุดกับปัญหาที่เป็นมากขึ้นครับ นอกจากหัตถการความงามที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว การดูแลตัวเองง่าย ๆ อย่างรักษาความสะอาด ป้องกันแสงแดด และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยรักษาผิวให้สุขภาพดี และคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานครับ