Thermage FLX
Thermage FLX เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับ มีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณใบหน้า แก้ม คาง เหนียง ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเทอร์มาจสามารถช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ โดยปราศจากบาดแผล
ราคา Thermage ในปัจจุบันถือว่าค่อนข้างสูงกว่าเครื่องยกกระชับในกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน ก่อนตัดสินใจทำหมออยากให้คนไข้เข้าใจถึงหลักการทำงานและประโยชน์ของ Thermage คืออะไร ? เทอร์มาจ ราคาเท่าไหร่ มีข้อดีอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ? ใช้แก้ปัญหาแบบไหน ? เพื่อให้ทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด สามารถศึกษาข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกตัดสินใจได้เลยครับ
สารบัญ Thermage
- Thermage คืออะไร ?
- หลักการทำงานของ Thermage FLX
- Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
- ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ RF ทั่วไป
- เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น ?
- Thermage FLX กับ CPT ต่างกันอย่างไร ?
- วิธีตรวจสอบเครื่อง Thermage แท้ ปลอม
- ข้อดี Thermage FLX
- Thermage เห็นผลเมื่อไหร่ ?
- ใครบ้างที่เหมาะทำ Thermage ?
- Thermage ไม่เหมาะกับใคร ?
- ไขมันน้อย หน้าตอบ ทำ Thermage ได้ไหม ?
- การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage
- ขั้นตอนการทำ Thermage
- หลังทำ Thermage ดูแลอย่างไร ?
- รีวิวการทำ Thermage
- ข้อควรระวัง หลังทำ Thermage ควรดูแลอย่างไร ?
- Thermage อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
- Thermage / Hifu / Ulthera SPT ต่างกันอย่างไร ?
- อยากยกกระชับหน้า ร้อยไหม โบท็อก เลือกแบบไหนดี
- เลือกทำ Thermage ที่ไหนดี 2024
- Thermage ราคาเท่าไหร่ ?
- Thermage เจ็บไหม ?
- ผลลัพธ์ของ Thermage อยู่ได้นานแค่ไหน ?
- ควรทำ Thermage กี่ครั้งถึงจะดี ?
- Thermage ควรใช้พลังงานเท่าไหร่ดี
Thermage (เทอร์มาจ) คือ นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิว และกระตุ้นคอลลาเจน เป็นเทคโนโลยีความงามที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US-FDA และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย เรียบร้อยแล้ว จึงรับรองได้ว่าเป็นเครื่องมือยกกระชับที่มีความปลอดภัย
เครื่อง Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีความงามที่ใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ ยิงลงไปในชั้นผิวหนัง โดยสามารถส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งอยู่ลึกสุดของโครงสร้างผิว รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) จึงสามารถยกกระชับหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อธิบายง่าย ๆ คือโครงสร้างผิวของคนเราประกอบชั้นผิวต่าง ๆ 3 ชั้นครับ คือ
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องผิว
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีองค์ประกอบหลัก คอลลาเจน และ อิลาสติน เปรียบเสมือนเสาหลักที่คอยรักษาความยืนหยุ่นของผิว
- ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก ความหนาขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล
ด้วยคุณสมบัติพลังความร้อนของ Thermage ที่สามารถยิงลงได้ลึกถึง 3 ชั้นผิว ผลลัพธ์ที่ได้จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมทั้งสลายไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้าได้ด้วย ทำให้ผิวแน่น กระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ก็ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นหนังกำพร้าด้านบนสุดให้เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลงได้ ในขณะที่เครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้ครับ
เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงจะลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย
เครื่อง Thermage ทำงานด้วยการส่งพลังงานความร้อน โดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ยิงลงในผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน พลังงานความร้อนจาก Thermage ที่ส่งผ่านเข้าไปจะทำการแยกโมเลกุลของน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจนทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวมีความกระชับขึ้น
โดยในช่วงเดือนถัดไปหลังทำ Thermage จะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มและทำการจัดเรียงตัวใหม่ช่วยให้ผิวแน่น กระชับขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ Thermage มีระบบสั่นเพื่อช่วยลดความเจ็บ ในขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิว Burn รวมทั้งมีระบบสั่น Vibration ที่ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้นขณะทำ
หลังทำ Thermage ผิวจะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวตึงขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวเรียบเนียนและยกกระชับหลังการทำเพียงครั้งเดียว และจะเห็นผลดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ยกกระชับได้ดีที่สุดภายในเดือนที่ 6
- ใบหน้า สามารถยกกระชับได้ทั่วหน้าและลำคอ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวใบหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีแก้มห้อย มีเหนียง ผิวใต้คางหย่อนคล้อย ให้มีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น และใบหน้าเรียวกระชับ
- รอบดวงตา หรือ Thermage ตา เหมาะกับผู้ที่มีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้ได้รูป แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
- ลำตัว สามารถทำได้ทั้งต้นแขน, หลังมือ, หน้าท้อง, สะโพก หรือบริเวณต้นขาที่หย่อนคล้อย ให้กระชับเรียบเนียนขึ้น รอยย่นลดลง
ในกรณีที่มีปัญหาผิวแห้ง รอบดวงตาคล้ำ หรือตาลึกตาโหล ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะแก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่าครับ สามารถศึกษาข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์ใต้ได้ที่ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรได้บ้าง เหมาะกับใคร ?
โดย Thermage จะปล่อยพลังงานออกมาเป็น Volumatic ส่งไปยังผิวชั้นลึก สามารถสร้างความร้อนใต้ผิวหนังได้ดีและทั่วถึงมากกว่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไขมันเกิดการย่อยสลาย และช่วยแก้ไขความหย่อนคล้อยได้ดีกว่า
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ เช่น Ulthera และ Hifu Ultraformer ที่ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ แตกต่างกับ Thermage ตรงที่เป็นเครื่องยกกระชับที่ส่งพลังงานไปที่ผิวชั้น smas (Superficial Musculo Aponeurotic system) ที่ปกติจะใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า หมอจะพิจารณาปัญหาผิวของคนไข้และแนะนำเครื่องที่เหมาะกับแต่ละคนครับ
เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น ?
Thermage ถูกผลิตออกมาหลายรุ่นครับ นับตั้งแต่มีปี 2003 และได้มีการพัฒนามาต่ออย่างเนื่อง อาทิ
- Thermage TC (2003)
- Thermage NXT (2007)
- Thermage CPT (2009)
- Thermage FLX (2018)
โดยเครื่อง Thermage ที่นิยมใช้ในประเทศไทย คือ Thermage CPT และ Thermage FLX ซึ่งเครื่องที่ถูกพัฒนาล่าสุดคือ Thermage รุ่น FLX ในปี 2018 ครับ
Thermage FLX กับ CPT ต่างกันอย่างไร ?
Thermage FLX กับ CPT เป็นเครื่องยกกระชับเหมือนกันครับ เพียงแต่คนละรุ่น Thermage FLX เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนาการใช้งานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยผลิตห่างจากรุ่นเดิมถึง 9 ปี ส่งผลให้ทั้งหัวทิป การปล่อยพลังงานโฟกัสของ Thermage FLX ทำได้อย่างตรงจุดมากกว่า ใช้จำนวน Shot น้อยกว่า แต่ประสิทธิภาพดีกว่า ลดความเจ็บขณะทำ รวมทั้งลดระยะเวลาในการทำให้น้อยลงด้วยครับ
- Thermage CPT เป็นเครื่องรุ่นเก่า ผลิตในปี 2009 ขณะทำจะรู้สึกเจ็บ และเป็นระบบที่ไม่มีการคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิว ดังนั้นในขั้นตอนการทำต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูงในการทำ
- Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด (ผลิตปี 2018) ช่วยทำให้เจ็บน้อยกว่ารุ่นเก่า เพราะที่หัวจะมี Integated cooling แบบใหม่ ช่วยปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา ก็จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส burn รวมทั้งมีระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น อีกทั้งยังหัวยิงมีขนาดใหญ่กว่า ใช้เวลาในการทำน้อยกว่ารุ่นเก่าอย่าง Thermage CPT ประมาณ 25%
วิธีตรวจสอบเครื่อง Thermage แท้ ปลอม
ราคาการทำ Thermage ค่อนข้างสูง ทำให้มีการทำเครื่อง Thermage ปลอมออกมา ทำโปรโมชั่น ราคาถูก ๆ เพื่อเรียกลูกค้า เท่าที่หมอทราบการปลอมมีหลายลักษณะครับ ทั้งเครื่องปลอมที่อุปโลกน์ขึ้นมาว่าเป็นเครื่อง Thermage หรือปลอมด้วยการทำเครื่องที่มีรูปลักษณ์หน้าเหมือนกับเครื่อง Thermage ของจริง
นอกจากนี้ยังมีการปลอมในรูปแบบเครื่อง Thermage จริง แต่ใช้หัวปลอม หรือหัวจริงที่ใช้ไปแล้ว หมอต้องอธิบายก่อนว่า หัวยิง Thermage FLX จะใช้แล้วทิ้งครับ คือ 1 หัวจะยิงได้ 900 shot เท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ว่าที่จะทำ Thermage ราคาถูกมาก ๆ แบบไม่จำกัด shot เพราะมีเรื่องของต้นทุนครับ
วิธีตรวจสอบเครื่อง Thermage ของแท้ มีข้อสังเกต ดังนี้
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ติดอยู่หน้าคลินิก
- มีโล่ และประกาศนียบัตร ที่ออกโดย SOLTA MEDICAL
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ ติดไว้ด้านหน้าตัวเครื่อง
หากมองผิวเผินหรือไม่ได้ตรวจสอบให้ดี อาจสังเกตได้ยากครับ วิธีที่ดีสุดคือควรเลือกทำ Thermage กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ก่อนทำให้แพทย์แกะกล่องหัวยิงให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นหัวของแท้และหัวใหม่ครับ
ข้อดี Thermage FLX
สำหรับ Thermage รุ่น FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด มีข้อดีดังนี้
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หน้าไม่เพี้ยน หลังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- เห็นผลหลังทำ 20 % และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ 2-3 เดือน
- ใช้เวลาทำไม่นาน เพียง 40-90 นาที
- ครอบคลุมทุกชั้นผิวและชั้นไขมัน
- ทำได้ทั้งหน้าและตัว
- เห็นผลยาวนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงผิวแต่ละบุคคล
Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น FLX หมายถึง
- F FASTER : Thermage เปิดตัวหัว New Total Tip 4.0 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะช่วยให้ปล่อยพลังงานความร้อนได้ครอคลุมพื้นที่มากขึ้นถึง 33% และเร็วกว่ารุ่นเดิม 25%
- L ALGORITHM : เครื่องสามารถตรวจวัดความต้านทานผิวได้อัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี AccuREPTM Technology แบบ Real-time ทำให้ทุก ๆ Shot พลังงานที่ยิงลงไปมีความเหมาะสมกับพื้นที่ผิวแต่ละบริเวณ มีความสม่ำเสมอ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
- X EXPERIENCE : Thermage FLX จะช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายมากกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วย Advanced Comfort Pulse Technology มีระบบ Cooling effect และพลังงานสั่น (Multi-Directional Vibration) เพื่อป้องกันผิวไหม้และลดความเจ็บขณะทำ
หลังทำ Thermage เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันทีว่าผิวยกกระชับมากขึ้น ริ้วรอยลดลง ประมาณ 20% และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือน
โดยหลังทำผิวจะเกิดการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องได้เรื่อย ๆ จนถึงเดือนที่ 6 และอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี (ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล) และสามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยจากอายุที่มากขึ้น เกิดจากเส้นใยคอลลาเจนสูญเสียความยืดหยุ่น และปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวลดน้อยลง การดูแลผิวด้วยการทาครีมบำรุงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ เพราะไม่สามารถฟื้นฟูผิวได้จากชั้นลึก ยิ่งอายุมากขึ้นปัญหาก็ยิ่งชัดเจนขึ้น การใช้ Thermage จะเป็นการแก้ปัญหาจากต้นเหตุ สามารถยกกระชับผิว และทำให้ผิวเรียบเนียนได้ เห็นผลหลังทำตั้งแต่ครั้งแรกครับ
ใครบ้างที่เหมาะทำ Thermage ?
ประโยชน์หลัก ๆ ของการทำเทอร์มาจ คือช่วยลด volume ของใบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น จึงเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ ยิ้มแล้วมีความรู้สึกหน้าอูม ๆ ซึ่งคนเอเชียส่วนใหญ่จะมีเหนียง หรือคนที่อายุมาก มีหนังห้อยย้อย ผิวที่มีริ้วรอยย่นมาก ๆ ขาดคอลลาเจน หรือไขมันกองในบริเวณคาง ก็จะเหมาะกับการทำเทอร์มาจ นอกจากนี้ยังรวมถึง
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก กรอบหน้าชัดขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง เหนียง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย บริเวณใบหน้า คอ หน้าท้อง ต้นแขน หลังมือ
- ผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์บริเวณต้นขาและก้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
บทความแนะนำ
ขั้นตอนการทำ Thermage
ขั้นตอนการทำ Thermage ค่อนข้างสะดวก และใช้เวลาไม่นาน หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติครับ
- ก่อนทำ Thermage จะมีการทำความสะอาดบริเวณผิวที่ต้องการทำ
- แปะยาชาก่อนทำประมาณ 30 นาที
- แพทย์จะนำหัวของเครื่องมือ Thermage มาแนบชิดกับผิวและยิงกระตุ้นตามจำนวน shot ที่ประเมินในแต่เคสอย่างเหมาะสม โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 45-90 นาที (ระยะเวลาการรักษา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังและตำแหน่งที่ต้องกระตุ้น)
ทั้งนี้ในขั้นตอนระหว่างทำ คนไข้จะรู้สึก Warm But Tolerate คือมีความอุ่นที่ผิว แต่ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว เนื่องจากพลังงานจะส่งเข้าไปในทุกชั้นของผิว การทำ Thermage ให้ได้ผลดี จะต้องทนเจ็บได้ระดับหนึ่งครับถึงจะได้ผลชัดเจนและคุ้มค่า
ข้อควรระวังหลังทำ Thermage ควรดูแลอย่างไร ?
สำหรับข้อควรระวังในการดูแลหลัง Thermage จริง ๆ แล้วไม่มีข้อระวังอะไรเป็นพิเศษครับ หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยควรดูแลตัวเองดังนี้
- งดการทำทรีทเมนท์ ขัดผิว หรือทำเลเซอร์อื่น ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำให้ผิวกลับมาหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้อีก เช่น แสงแดด การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
- ควรดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำครับ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวกระชับเรียบเนียนยาวนานขึ้น
Thermage อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
การทำ Thermage เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เนื่องจากความถี่ของคลื่นวิทยุจะไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ ต่อผิวหนัง ในกรณีเกิดรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย เป็นอาการปกติจากความร้อนครับ เกิดขึ้นได้ชั่วคราวหลังการรักษา แต่มักจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง
- อาการบวมแดง พบได้ปกติ ไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ
- ระบมใต้ผิว หลังทำอาจรู้สึกเสียว ๆ ใต้ผิว พบได้ทั่วไป สามารถหายได้เองภายใน 3-10 วัน
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อันตรายจะมาจากการใช้เครื่องปลอมครับ ตัวเครื่องไม่ใช่เครื่อง Thermage แท้ ที่ได้มาตรฐาน ทำแล้วไม่เห็นผล แต่ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เกิดความเสียหายกับผิวหน้า เช่น พื้นผิวใบหน้าเกิดรอยบุ๋ม ขรุขระ ผิวหน้าไหม้ เกิดรอยดำ อักเสบ หรือใบหน้าเสียทรงได้ครับ
เพราะฉะนั้นก่อนทำ Thermage ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และต้องมั่นใจก่อนว่าคลินิกนั้น ๆ ใช้เครื่องแท้ ที่ได้มาตรฐานหรือไม่
Thermage / Hifu / Ulthera SPT ต่างกันอย่างไร ?
Thermage FLX , Hifu และ Ulthera จะแตกต่างกันที่รูปแบบพลังงานที่ใช้ และชั้นผิวที่ยิงลงไป เทอร์มาจจะออกฤทธิ์ในผิวทุกชั้นใต้ผิวหนังรวมถึงชั้นไขมัน ให้ประสิทธิภาพดีในแง่ของการทำให้ผิวแน่นขึ้น เนียนขึ้น (ผิวเด็ก)
ส่วน Ulthera กับ Hifu จะค่อนข้างคล้ายกันเพราะใช้พลังงานแบบเดียวกัน เน้นส่งพลังงานลงไปในผิวชั้น smas เพื่อยกกระชับหน้าโดยตรง ประสิทธิภาพและความแม่นยำของ Ulthera จะดีกว่า Hifu แต่ก็มีราคาสูงกว่าครับ ทั้งสองเครื่องมีหัวยิงหลายระดับ ความลึกตั้งแต่ 2, 3, 4.5 mm แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเท่า Thermage ที่จะยิงทุกอณูในชั้นผิวตั้งแต่ 0-4.3 mm
สำหรับคนที่ต้องการกระชับเหนียง ผิวบริเวณใต้คอ หรือบางคนหน้าอ้วน มีไขมันบริเวณแก้ม การทำ Thermage สามารถเก็บตรงนี้ได้ดีกว่า Hifu หรือ Ulthera หลังทำ Thermage จะให้ผลลัพธ์ในการกระชับโครงสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแน่นขึ้น
ทั้งนี้ สามารถทำ Thermage และ Ulthera / Hifu ด้วยกันได้ โดย Thermage เหมาะกับคนที่มีไขมันมาก จึงทำ Thermage เพื่อลดไขมันหน้าก่อน แล้วทำ Ulthera / Hifu เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยกกระชับหน้าให้มากขึ้น แต่ควรเว้นระยะการทำครับ สามารถเข้ามาปรึกษาหมอเพื่อให้ประเมินผิว และแนะนำหัตถการให้ตามความเหมาะสมในแต่ละเคส
ด้านความคุ้มค่า การทำ Thermage ให้ได้ผลดีคุ้มค่านั้นจะต้องทนเจ็บได้ในระดับนึง เนื่องจากพลังงานส่งเข้าไปในทุกชั้นของผิวจึงเจ็บมากกว่า Hifu ในคนที่ทนเจ็บไม่ไหวหรือยังไม่มั่นใจแนะนำให้ลองทำ Hifu ก่อนครับ เพราะถ้าทำ Thermage แล้วใช้พลังงานต่ำก็จะได้ผลไม่คุ้มค่าเงินที่จ่าย
อ่านบทความเพิ่มเติม : Ulthera SPT vs Hifu ยี่ห้อต่างๆ กับ Thermage เลือกทำอะไรดี?
อยากยกกระชับหน้า ร้อยไหม โบท็อก เลือกแบบไหนดี ?
วิธีการยกกระชับหน้า สามารถทำได้หลายหัตถการ ตามความเหมาะสม จะอยู่ที่ลักษณะปัญหาของคนไข้ครับ ซึ่งทั้ง ร้อยไหม ฉีดโบท็อก Ulthera Hifu หรือ Thermage ล้วนมีข้อดีแตกต่างกัน แนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอเพื่อประเมินใบหน้าและวางแผนการรักษาที่ตรงจุด จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะกับแต่ละคนที่สุดครับ
เลือกทำ Thermage ที่ไหนดี 2024
เมื่อตัดสินใจทำเทอร์มาจ (Thermage FLX) ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ เพราะหากคลินิกใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องจะให้พลังงานไม่สม่ำเสมอ ผลข้างเคียงน้อยที่สุดคือทำแล้วไม่ได้ผล แต่หากร้ายแรงกว่านั้นอาจทำให้ผิวไม่สม่ำเสมอ ยุบเป็นบางที่ หรืออาจทำให้ผิวไหม้ได้ครับ
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- ตรวจสอบว่าเครื่อง Thermage ที่ใช้เป็นของแท้ ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ แพทย์แกะหัวใหม่ให้ดูก่อนทำ
- ทำ Thermage กับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น ผ่านการอบรมการใช้เครื่องมือ สามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับปัญหาของคนไข้และแก้ไขได้อย่างตรงจุด
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นแพทย์จริง โดยนำชื่อ-นามสกุล เช็กได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา (https://checkmd.tmc.or.th/)
- คลินิกมีรีวิวทำ Thermage ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ ทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ
ราคาThermage FLX แต่ละตำแหน่ง
ตำแหน่ง | จำนวน shot | ราคา |
---|---|---|
รอบดวงตา | 450 shot | 29,999.- |
แก้ม+เหนียง | 450 shot | 30,000.- |
ทั่วหน้า | 900 shot | 60,000.- |
ทั่วหน้า | 1,800 shot | 110,000.- |
ลำตัว | 2,000 shot | 90,000.- |
หมายเหตุ
- ตำแหน่งทั่วหน้า 900 shot รับ Hifu Ultraformer III 200 line ฟรี
- ตำแหน่งทั่วหน้า 1,800 shot รับ Hifu Ultraformer III 400 line ฟรี
ราคาโปรโมชั่น Thermage FLX
Thermage เจ็บไหม ?
ความเจ็บของแต่ละบุคคลไม่เท่ากันครับ แต่ข้อดีของ Thermage FLX มีคุณสมบัติเด่นระบบ Cooling effect เพื่อป้องกันผิวไหม้ ทำให้เจ็บน้อยลง และเพิ่มความผ่อนคลายสบายให้กับผิวในขณะทำได้ดีขึ้น
และก่อนทำมีการแปะยาชาให้ครับ จึงช่วยลดความเจ็บได้มาก จากที่เคยสอบถามคนไข้บางเคสก็บอกว่าไม่เจ็บครับ แต่บางเคสก็บอกว่าเจ็บ แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ครับ
Thermage ควรใช้พลังงานเท่าไหร่ ?
ค่าพลังงานหมอจะปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยจะแบ่งเป็น 0-4 ระดับ ระดับ ดังนี้
- ระดับ 0-1 คนไข้จะรู้สึกผิวสั่นอย่างเดียว แต่ยังไม่รู้สึกอุ่น ผลการรักษาน้อยครับ
- ระดับ 2-2.5 ในค่าพลังงานนี้จะรู้สึกร้อนในระดับที่ทนได้ ผลลัพธ์ที่ได้หลังการรักษาเป็นไปตามที่ต้องการ
- ระดับ 3-4 ร้อน ในบางเคสจะร้อนเกินไปครับ แม้จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่าระดับอื่น แต่อาจทำให้บาดเจ็บได้ครับ และยังไม่เหมาะกับเคสที่ผิวแพ้ง่าย
โดยทั่วไปแล้วหมอจะถามคนไข้ถึงความรู้สึกร้อนเป็นระยะ ๆ ครับ และปรับค่าตามความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดครับ
สรุป
- Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Thermage (เทอร์มาจ) สามารถช่วยยกกระชับผิวได้ดี ปลอดภัย ช่วยปรับสภาพผิวที่หย่อนคล้อยให้แน่นกระชับ ใบหน้าเล็กลง และผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นผล หลังทำยังคงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- ค่าใช้จ่ายในทำ Thermage FLX ยกกระชับผิวด้วยขึ้นอยู่กับจำนวน shot ที่ทำ เริ่มตั้งแต่ 450-900 shot ที่ 450 shot ราคาประมาณ 30,000 บาท
- การทำ Thermage FLX ที่เห็นผลปลอดภัย ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส