ฉีดผิวขาวจริงไหม ?
ในปัจจุบันปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลภาวะมีมากขึ้น รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องโดนแดดอยู่เป็นประจำ ทำให้การฉีดผิว เพื่อบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส กำลังเป็นที่นิยมโดยเฉพาะผู้ที่อยากจะมีผิวขาว พร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรง และสุขภาพดี
การฉีดผิว ขาวจริงไหม ? ปลอดภัยแค่ไหน หมอมีข้อมูลมาแนะนำ อะไรที่ต้องรู้ อะไรบ้างที่ต้องระวัง เพื่อให้สามารถเลือกใช้บริการคลินิกฉีดผิวขาวได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งวิธีการช่วยให้ผิวขาวขึ้นในแบบต่าง ๆ วิธีไหนเห็นผลเร็ว และปลอดภัย
สารบัญ ฉีดผิวขาวจริงไหม
- การฉีดผิวขาว คืออะไร ?
- วิธีเช็กเฉดสีผิวของตัวเอง
- ฉีดวิตามินผิวขาว
- ฉีดผิว ขาวจริงไหม ?
- ฉีดผิวขาว ต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
- ฉีดผิวขาว เจ็บไหม ?
- ฉีดผิวขาว อันตรายไหม ?
- ผลข้างเคียงจากการฉีดผิวขาว
- ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีดผิวขาว
- เลือกคลินิกฉีดผิวขาว อย่างไรให้ปลอดภัย
- วิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้ขาวขึ้น
- ฉีดผิวขาวราคาเท่าไร ?
- รีวิวฉีดผิวขาว
- ข้อห้ามหลังฉีดผิวขาว
การฉีดผิวขาว คืออะไร ?
การฉีดผิวขาว คือ การฉีดวิตามินเข้าสู่เส้นเลือด เพื่อให้วิตามินต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ผิวกายกระจ่างใสขึ้น เห็นผลเร็วกว่าการทาครีม หรือการทานวิตามินทั่วไป นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการเห็นผลแบบเร่งด่วน หรือคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง การฉีดวิตามินผิวจึงเป็นหัตถการที่หลายคนเลือกเพื่อชดเชยวิตามินให้ร่างกาย
ทั้งนี้การฉีดวิตามินผิว จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ตามเฉดสีผิวตามธรรมชาติของแต่ละคนครับ ไม่ใช่ทุกคนที่ฉีดแล้วจะมีสีผิวขาวอมชมพู เหมือนในโฆษณาชวนเชื่อต่าง ๆ
วิธีเช็ก Skin Tone ด้วยตัวเอง
- ดูสีของเส้นเลือดบริเวณหลังข้อมือ
- เส้นเลือดเป็นสีม่วง/น้ำเงิน Cool Tone
- เส้นเลือดเป็นสีเขียว Warm Tone
- เส้นเลือดสีผสมกัน ดูออกยาก อาจเป็น Neutral
- การตอบสนองของผิวกับแสงแดด
- เป็นคนผิวไหม้ง่าย มีเม็ดสีเมลานินน้อย Cool Tone
- เป็นคนผิวคล้ำง่าย แต่ไม่ไหม้ Warm Tone
- เช็คจากสีหลังใบหู จะทำให้เห็นสีผิวที่แท้จริงมากที่สุด เพราะเป็นจุดที่สัมผัสแสงแดดน้อย
“
"ผิวขาวใสขึ้น หลังการฉีดวิตามินซีเข้าไป สามารถเป็นไปได้จริงครับ"
“
ฉีดผิว ขาวจริงไหม ? ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การฉีดวิตามินในที่นี้เป็นการช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน
ซึ่งคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนังจึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ป้องกันหวัด ป้องกันแสงแดด
หลังการฉีดวิตามินซี ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้ครับ เพราะหลักการทำงานของวิตามินซี คือมีส่วนช่วยลดการเกิดขึ้นของเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ เมื่อได้รับวิตามินอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ผิวดูขาวมากขึ้นกว่าผิวเดิม
แต่ระดับความขาวและระยะเวลาที่เห็นผล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะเห็นผลไว บางคนอาจจะเห็นผลช้า เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น การทาครีมกันแดด การทำงานกลางแจ้ง ที่ส่งผลต่อสีผิวได้
โดยสูตรวิตามินผิวที่ทาง V square clinic ใช้เป็นตัวยาล้วน ๆ ไม่ผสมน้ำเกลือครับ
- สูตร Skin Glow ขาวใส แบบธรรมชาติ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันแสงแดด ลดความหมองคล้ำ มีส่วนผสม Glutamine
- สูตร White Rediance ขาวใส +10-20% ลดการทำงานเม็ดสี ป้องกันฝ้า มีส่วนผสม Glutamine, NAC
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดวิตามินผิวขาว อันตรายไหม? ฉีดวิตามินผิวที่ไหนดี? ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
ฉีดผิวขาว ต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
ในการฉีดวิตามินผิวให้เห็นผลดี ต้องฉีดอย่างต่อเนื่องครับ โดยปกติหลังฉีดครั้งแรกจะเริ่มเห็นผลใน 3 วันหลังฉีด หลังจากนั้น 7-14 วันจะเห็นผลได้ชัดเจน ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้น ในช่วงแรกอาจต้องฉีดสัปดาห์ละครั้ง หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ เว้นระยะเวลาออกไปให้นานขึ้นเป็น 2 สัปดาห์/ 1 ครั้ง
ฉีดผิวขาว อันตรายไหม ?
การฉีดผิวขาว ที่อันตราย มักเป็นการฉีดกลูตาไธโอน (glutathione) เข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงครับ เมื่อฉีดไปบ่อย ๆ และนานเข้า จะเกิดการสะสมของยาในร่างกาย และทำให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้
นอกจากนี้ยังมีอันตรายที่เกิดจากการฉีดกับหมอกระเป๋า หมอเถื่อน ซึ่งถึงแม้จะใช้วิตามินแท้ที่ได้มาตรฐาน ก็อาจทำให้เกิดอันตรายจากการฉีดยาในอัตราที่เร็วเกินไป การติดเชื้อจากเครื่องมือ/อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด หรือเกิดฟองอากาศอุดตันในเส้นหลอดเลือด ซึ่งสามารถส่งผลรุนแรงถึงชีวิตได้
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรฉีดผิวขาว ฉีดวิตามินในคลินิกที่น่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดวิตามินผิว
- คนที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตต่ำ โรคหัวใจ
- มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ
- โรคมะเร็ง
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
- มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency)
- มีภาวะเหล็กเกิน
- มีประวัติแพ้ยา หรือวิตามินที่เป็นรูปแบบการฉีด
ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อห้ามชัดเจนครับ ขึ้นกับภาวะต่าง ๆ ในแต่ละเคส ก่อนฉีดควรปรึกษาหมอเพื่อให้ประเมินตามความเหมาะสม
ผลข้างเคียงจากการฉีดผิวขาว
หลังฉีดผิวขาว จะมีรอยเข็มบริเวณที่ฉีด แต่ก็สังเกตได้ยากและจะค่อย ๆ หายไปเอง ระหว่างฉีดคนไข้บางคนอาจรู้สึกถึงรสและกลิ่นของวิตามินในคอเป็นอาการปกติครับ การฉีดวิตามินผิวขาวในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาแท้ในปริมาณที่เหมาะสม ระหว่างฉีดค่อย ๆ ดันยาเข้าไป จะไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายหลังฉีด แต่หากฉีดผิวขาวกับหมอกระเป๋า ใช้ตัวยาที่สั่งเองจากออนไลน์ ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ อาจมีอันตรายร้ายแรง ได้แก่
- แพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของตัวยาหลังฉีดผิว
- เกิดฟองอากาศอุดตันในเส้นหลอดเลือด
- คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ
- หลอดเลือดดำได้รับสารที่ฉีดเร็วเกินไป
- แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
- มีผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง
- ผิวบาง ไวต่อแสงแดด
นอกจากนี้หากได้รับตัวยาที่เป็นสารอันตรายเป็นปริมาณมาก หรือได้รับต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ไตทำงานหนักและได้รับความเสียหาย เกิดอาการช็อก หรืออันตรายถึงชีวิตได้
- หลีกเลี่ยงการกด เกา บีบนวดในจุดที่ฉีดผิวมา
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน (2-3 ลิตร)
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- เลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะแดดจัด ๆ ทาครีมกันแดด และสวมเสื้อคลุม
- หากมีอาการบวม แดง คัน บริเวณที่ทำการฉีดผิวขาว ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
ก่อนตัดสินใจฉีดผิวขาวควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ดำเนินงานโดยแพทย์ ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ ราคาสมเหตุสมผล มีวิธีสังเกตดังนี้
- มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ ไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน
- มีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผยและผู้ทำการรักษาต้องเป็นคนเดียวกับป้ายที่ติดไว้
- มีแพทย์ Full Time ประจำคลินิก
- บรรยากาศโดยรวมของคลินิกสะอาด ถูกหลักอนามัย
-
สถานที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่ปลอดภัย มองเห็นได้ง่าย ไม่แออัดหลบมุม ควรอยู่ในย่านธุรกิจและอาคารสำนักงาน ห้าง
สรรพสินค้า หรือบริเวณที่มีคนผ่านเยอะในแต่ละวัน - หมอและเจ้าหน้าที่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างชัดเจน
นอกจากการฉีดผิวขาว ที่หวังผลรวดเร็วแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยให้ผิวขาว ผิวสุขภาพดีขึ้นครับ ใครที่ต้องการให้ผิวขาวสดใส สุขภาพดี สามารถนำไปใช้ได้ หรือทำควบคู่ไปกับการฉีดวิตามิน เพื่อให้ผิวขาวไวขึ้น และคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นได้ดังนี้
1. ทาครีมบำรุง และปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
ครีมกันแดดคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะสามารถช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ไม่ให้คล้ำเสียได้ครับ
แต่ถ้าต้องการให้ผิวขาวขึ้น ผิวเนียนสม่ำเสมอ จำเป็นต้องบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ควรทาครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมที่ช่วยปรับสีผิว ลดเลือนจุดด่างดำ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี หรือครีมที่มีไวท์เทนนิ่ง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เพื่อให้ผิวค่อย ๆ ปรับสีครับ
ต้องระวังครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่มีรีวิวหรือโฆษณาเกินจริงว่าช่วยให้ผิวขาวเร็ว อาจจะมีสารบางชนิดเช่น อาร์บูติน กรดโคจิค ซึ่งอาจจะเหมาะกับใช้ชั่วคราวเท่านั้น หรือกลุ่มสารปรอท ที่เป็นอันตราย แนะนำควรเลือกครีมบำรุงและครีมกันแดดที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องครับ
2. สปาผิว ขัดผิวขาว
การขัดผิวหรือสปาผิว ช่วยให้ผิวขาวใสได้ครับ เพราะผิวหนังของเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำทุก 21 วัน การขัดผิวช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออก เพื่อลดการสะสมจนกลายเป็นความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวสดใส ผิวสะอาด ลดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน สูตรขัดผิวที่นิยม เช่น ขัดผิวด้วยมะขามเปียก, ขัดผิวด้วยขมิ้น, ขัดผิวด้วยเกลือสปา, ขัดผิวด้วยกากกาแฟ
ข้อดี คือ ช่วยทำให้การทาครีมบำรุงทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียดได้ ซึ่งความเครียด หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้ผิวหมองคล้ำได้ด้วยครับ แต่ก็มีข้อควรระวังโดยเฉพาะคนที่ผิวแห้งมาก ๆ การทำสปาขัดผิวอาจเป็นการซ้ำเติมทำร้ายผิวครับ
3. วิตามินอาหารเสริมผิวขาว
การรับประทานอาหารเสริมผิวขาว อาจมีผลช่วยให้ผิวดูขาวใสได้ครับ ใครที่เลือกวิธีนี้หมอแนะนำให้เลือกเฉพาะที่มี อย. และสามารถตรวจสอบได้ และควรรู้ข้อควรระวังอื่น ๆ ประกอบด้วย เพราะสารบางอย่างอาจมีผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลร่วมด้วย
สำหรับวิตามินที่ได้รับความนิยม เช่น วิตามินซี, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape seed extract) คอลลาเจน (collagen)
โคเอนไซม์คิวเทน (coenzyme q 10) เป็นต้น
4. ผิวขาวใส ด้วยการเลือกรับประทานอาหาร ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง นอกจากช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดี สดใสขึ้นได้ ใครที่ต้องการให้ผิวขาวขึ้น สุขภาพดีขึ้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
สามารถช่วยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระได้ เช่น ปลาที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 อย่างปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลา
ซาดีน ปลาทูน่า หรือ ผักผลไม้แหล่งรวมวิตามินซี และอี เช่น ส้ม บลูเบอร์รี ทับทิม มะเขือเทศ อะโวคาโด ถั่ว เป็นต้น
สำหรับคนที่อยากเติมวิตามินผิว ฉีดวิตามิน ขาวใส ผิวนุ่ม ราคาในการฉีดวิตามิน ขาวใส ผิวนุ่ม สูตร Skin Glow ขาวใส แบบธรรมชาติ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันแสงแดด ลดความหมองคล้ำ มีส่วนผสม Glutamine สูตร White Rediance ขาวใส +10-20% ลดการทำงานเม็ดสี ป้องกันฝ้า มีส่วนผสม Glutamine, NAC ที่ V Square Clinic มีราคาโปรโมชั่น ดังนี้
ราคาวิตามินฉีดผิว ขาวใส ผิวนุ่ม
- ครั้งละ 1,500.-
- คอร์ส 5 ครั้ง 6,000.- จาก 7,500.-
- เฉลี่ย 1,200.-/ครั้ง
- ครั้งละ 2,500.-
- คอร์ส 6 ครั้ง 9,900.- จาก 15,000.-
- เฉลี่ย 1,650.-/ครั้ง
โปร วิตามินผิว ขาวใส ผิวนุ่ม
สูตร Skin Glow
สูตร White Rediance
ราคาวิตามินฉีดหน้าใส (เมโสหน้าใส)
-
มาเด้ (made collagen)
1 ครั้ง ราคา 2,500.- / คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 9,900.-
-
Filorga (Fillmed)
1 ครั้ง ราคา 9,000.- / คอร์ส 5 ครั้งเหลือเพียง 39,000.-
-
Revs
1 ครั้ง ราคา 6,000.- / คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 25,000.-
-
Neo Glutanex Glow / Tensonez / Alpha arbutin
1 ครั้ง ราคา 3,500.- คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 15,000.-
โปรโมชั่นแนะนำ
โปรแกรม เมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน
Mobile
รีวิวฉีดผิวขาว
การดูรีวิวจากเคสที่เคยเข้าใช้บริการ ฉีดผิวขาว ฉีดหน้าใส ควรเป็นรีวิวจากคนไข้ที่มาทำจริงที่คลินิกนั้น ๆ และรีวิวฉีดผิวขาวควรมีความเป็นปัจจุบัน แนะนำพิจารณาจากรีวิวในแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ โดยที่รีวิวเหล่านั้นจะไม่โดนลบออก ซึ่งในต่างประเทศรีวิวประเภทนี้คนไข้จะเชื่อถือมากที่สุดครับ
ตัวอย่างรีวิวฉีดผิวขาว ฉีดหน้าใส
สรุป
ใครที่อยากมีผิวขาว สุขภาพดี การฉีดผิวขาว เป็นอีกทางเลือกครับ ส่วนใครที่สงสัยว่าฉีดผิว ขาวจริงไหม? การฉีดวิตามินผิวช่วยให้สุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และขาวขึ้นได้ครับ
แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดผิวขาวที่ไหนควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes- ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ ...
Reading Time: 5 minutes- Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ? - อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ? - ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ - Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ? - Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?
โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? อันตรายไหม ? เหมาะกับใครบ้...
Reading Time: 4 minutes- ภาวะยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก คืออะไร ? แก้ยิ้มเห็นเหงือกได้อย่างไร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ช่วยเรื่องใดบ้าง ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก เหมาะกับใคร ? - โบท็อกยิ้มเห็นเหงือก ข้อดี และข้อเสีย
ฟิลเลอร์สะโพก เสริมก้น เติมเต็มส่วนที่เว้า บุ๋ม ต้องใช้ฟิ...
Reading Time: 3 minutes- ฟิลเลอร์สะโพกคืออะไร ? - ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? มีอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ - ฟิลเลอร์สะโพกช่วยปรับรูปทรงสะโพกให้โค้งสวยได้จริงหรือไม่ ? - แก้ปัญหา Hip Dip ด้วยฟิลเลอร์สะโพก เคล็ดลับเพื่อสะโพกสวยเนียน - ปัญหาสะโพกที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้ มีอะไรบ้าง ?
[เจาะลึก] ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเ...
Reading Time: 3 minutes- ทำไม ? ฉีดฟิลเลอร์คาง มาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ - ฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัด ดีอย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ? - ฟิลเลอร์คาง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ? - ฟิลเลอร์คาง ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่าง...
Reading Time: 3 minutesฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก ด้วยเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างในแต่ละเคส