Whole Bikini
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจการดูแลตัวเองมากขึ้น การทำเลเซอร์ Whole Bikini จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในผู้หญิงที่ต้องการความสะอาด และความสวยงามในบริเวณบิกินี่ของตัวเอง ซึ่งการทำเลเซอร์กำจัดขนบริเวณนี้ ไม่เพียงช่วยลดจำนวนขนให้น้อยลง ลดกลิ่นอับชื้นเท่านั้น แต่การทำเลเซอร์ Whole Bikini ยังช่วยสร้างความมั่นใจและความสบายใจในทุก ๆ ช่วงเวลาที่สวมใส่เสื้อผ้าอีกด้วยครับ
บทความนี้หมอจะพาคนไข้ไปสำรวจข้อดีของการทำ Laser กำจัดขน Whole Bikini กันให้มากขึ้น Whole Bikini คืออะไร ? ต่างจาก Bikini Laser และ Brazilian Laser อย่างไร ? ทำ Whole Bikini Laser ครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ? ช่วยกำจัดขนได้ถาวรเลยไหม ? และสิ่งที่คนไข้คาดหวังได้จากการทำเลเซอร์ Whole Bikini เพื่อให้ได้มีข้อมูลเพียงพอก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการนี้ครับ
สารบัญ Whole Bikini
Whole Bikini คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร ?
เลเซอร์ Whole Bikini คือ กระบวนการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ที่เน้นเฉพาะบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นหลัก โดยจะครอบคลุมขนในบริเวณที่ลับทั้งหมด ทั้งบริเวณจุดซ่อนเร้นด้านหน้า ด้านหลัง และตรงกลาง
หลังทำผิวบริเวณนั้นจะมีความเรียบเนียน ขนอ่อนนุ่มลง หากทำเลเซอร์ต่อเนื่อง 5-8 ครั้งขึ้นไป จะช่วยทำให้ขนขึ้นลง เส้นขนที่เกิดใหม่บางลงไปเรื่อย ๆ จนสามารถลดขนลงได้อย่างถาวร ไม่ต้องกังวลเรื่องขนอีกต่อไปครับ
หลักการทำงานของ Whole Bikini Laser
หลักการทำงานของเลเซอร์ Whole Bikini จะใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มสูงยิงบริเวณที่ต้องการกำจัดขน แสงนี้จะถูกดูดซับโดยเม็ดสีในเส้นขนและเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งการเปลี่ยนแสงเป็นความร้อนนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยในการทำลายรากของเส้นขน
วิธีกำจัดขนด้วย Whole Bikini Laser VS Bikini Laser VS Brazilian Laser ต่างกันอย่างไร ?
การทำเลเซอร์ Whole Bikini, Bikini Laser และ Brazilian Laser เป็นการกำจัดขนในบริเวณบิกินีเหมือนกัน แต่อาจมีความแตกต่างในขอบเขตของการกำจัดขนดังนี้ครับ
- เลเซอร์บราซิลเลี่ยน (Brazilian Laser) : จะเป็นการกำจัดขนออกทั้งหมด ทั้งด้านหน้า ด้านใน แต่ไม่รวมขนบริเวณรูก้น (Anus)
- เลเซอร์บิกินี (Bikini Laser/Classic Bikini) : เป็นการกำจัดขนเฉพาะบริเวณขอบบิกินี (V Line) หรือขอบกางเกงใน และขาหนีบเท่านั้น
- เลเซอร์โฮลบิกินี (Whole Bikini/Hollywood) : เป็นการกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยจะครอบคลุมขนในบริเวณที่ลับทั้งหมด ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และตรงกลาง รวมถึงบริเวณขาหนีบ
ข้อควรรู้ : การทำเลเซอร์ Whole Bikini Laser, Bikini Laser และ Brazilian Laser อาจมีนิยามที่แตกต่างกันไปตามคลินิกหรือผู้ให้บริการนั้น ๆ ก่อนทำควรปรึกษากับผู้ให้บริการ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกันเกี่ยวกับบริเวณที่จะทำการกำจัดขนและความคาดหวังในการได้ผลลัพธ์
ข้อดี – ข้อควรระวังของการทำ Whole Bikini Laser
การทำ Whole Bikini Laser เป็นวิธีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมและมีข้อดีหลายประการ อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจทำ Whole Bikini Laser ต้องพิจารณาข้อดี และข้อควรระวังต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อเห็นที่ดี และปลอดภัยครับ ซึ่งหมอจะมาแนะนำข้อดี และข้อควรระวังของการทำ Whole Bikini Laser ดังนี้
ข้อดีของการทำ Whole Bikini Laser
- มีประสิทธิภาพสูง : การทำเลเซอร์ Whole Bikini เป็นวิธีกำจัดขนที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการลดจำนวนขน ทำให้ขนขึ้นช้าลง และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เข้าถึงทุกซอกทุกมุมในพื้นที่ที่ต้องการกำจัดขน สะดวกในการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้อย่างทั่วถึง
- ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน : หลังทำ Whole Bikini Laser ต่อเนื่องกัน 5-8 ครั้ง สามารถช่วยกำจัดขนได้ถาวร ซึ่งจะให้ผลลัพธ์นานกว่าวิธีกำจัดขนอื่น ๆ อย่างการโกน แว็กซ์ หรือใช้ครีมกำจัดขนที่ต้องกำจัดขนบ่อยครั้ง
- ลดปัญหาผิว : การทำเลเซอร์ Whole Bikini ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาขนคุด ตุ่มหนังไก่ ผิวแห้ง คัน ลดกลิ่นอับชื้น ผิวระคายเคืองที่เกิดจากการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น ๆ
- ประหยัดเวลา : การทำ Whole Bikini Laser เป็นกระบวนการกำจัดขนที่รวดเร็วและสะดวก ทำให้เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลา ไม่อยากเสียเวลาโกนขนบ่อย ๆ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย : ในระยะยาว การทำเลเซอร์กำจัดขนอาจเป็นทางเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้ออุปกรณ์หรือสารเคมีในการกำจัดขนแบบอื่น ๆ
- สะดวก ปลอดภัย : การทำ Whole Bikini Laser ที่คลินิก ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที (ขึ้นอยู่กับปริมาณขนของแต่ละคน) หากทำโดยนักกายภาพที่สามารถควบคุมระดับพลังงานและความถี่ได้อย่างเหมาะสม จะปลอดภัยต่อผิว
- เพิ่มความมั่นใจ : ช่วยให้สวมใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดที่เปิดเผยบริเวณบิกินีได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ข้อควรระวังของการทำ Whole Bikini Laser
- ควรปรึกษาหมอหรือนักกายภาพ : ก่อนทำ Whole Bikini Laser ควรปรึกษาหมอหรือนักกายภาพด้านเลเซอร์ เพื่อจะได้เลือกชนิดเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ลดการเกิดผลข้างเคียง
- เครื่องเลเซอร์ : ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองและมีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
- การดูแลตัวเองหลังทำ : ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอหรือนักกายภาพในการดูแลหลังการทำ อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการอักเสบของผิว และการติดเชื้อหากไม่ดูแลบริเวณที่ทำการรักษาอย่างเหมาะสม (ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน)
ทำ Whole Bikini Laser ครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ?
การเตรียมตัวก่อนการทำ Whole Bikini Laser ครั้งแรก เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามครับ เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งคนไข้สามารถทำตามขั้นตอนที่หมอแนะนำดังต่อไปนี้ครับ
ข้อควรรู้ก่อนทำ Whole Bikini Laser
- จำนวนครั้งที่ทำ : การทำ Whole Bikini Laser จำเป็นต้องมีการทำซ้ำหลายครั้งและทำอย่างสม่ำเสมอครับ โดยเฉลี่ยควรทำติดต่อกัน5-8 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
- ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ : หลังทำ Whole Bikini Laser จะไม่สามารถเห็นผลในทันที เพราะต้องรอให้รากขนฝ่อตัวลงและหยุดการเจริญเติบโต จากนั้นขนจะค่อย ๆ หลุดร่วงไปจนหมด จึงจำเป็นต้องใช้เวลาและความถี่ในการทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้น และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปริมาณขนและเครื่องมือที่ใช้ในการทำ
- ประสิทธิภาพของเลเซอร์ : เครื่องเลเซอร์กำจัดขนแต่ละประเภทจะมีลักษณะที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสีของขนที่แตกต่างกัน แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อเลือกเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ผลข้างเคียงหลังทำ : หลังทำ Whole Bikini Laser อาจมีอาการข้างเคียงชั่วคราว เช่น รอยแดง ตุ่มเหมอนยุงกัด หรือระคายเคือง แต่สามารถหายได้เองภายใน 1-2 วัน
- ประสบการณ์ของแพทย์ : ควรเลือกคลินิกหรือผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์และชำนาญในการทำ Whole Bikini Laser โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกมีใบอนุญาตและมีประสบการณ์ที่เพียงพอในการดูแลและใช้เลเซอร์ในบริเวณบิกินีหรือไม่
การเตรียมตัวสำหรับการ Whole Bikini Laser ครั้งแรก
- หลีกเลี่ยงการถอนหรือแว็กอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการบริการ
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว หรือการเข้าใช้บริการการขัดตัว อย่างน้อย 3 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นแผลถลอกซึ่งมีผลทำให้ผิวอ่อนแอ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีผลทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นกรดผลไม้ ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่มี AHA BHA รวมถึงสารชนิดต่าง ๆ ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับการบริการ
- หลีกเลี่ยงการอาบแดด ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่โดนแดดโดยตรงอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาอะไรอยู่ ควรรีบแจ้งให้แพทย์ได้ทราบก่อนเข้ารับบริการ
- เลี่ยงการทำ Whole Bikini Laser ขณะมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์
Whole Bikini Laser เหมาะกับใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดใด ?
การทำ Whole Bikini Laser สามารถใช้เครื่องเลเซอร์ได้หลายชนิดครับ หลัก ๆ จะเป็นเครื่องเลเซอร์แบบ Pulse (Pulse Laser) ที่ส่งแสงเลเซอร์ออกมาเป็นช่วง ๆ ไม่ต่อเนื่องกัน เพื่อให้ผิวหนังไม่สะสมความร้อนมากเกินไป ซึ่งจะช่วยลดอาการปวด หรือแสบร้อนผิวหนังขณะทำได้ดี คนไข้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายมากขึ้น
หมอจะยกตัวอย่างเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะกับการทำ Whole Bikini ดังนี้ครับ
- Whole Bikini Laser ด้วย Diode Laser : Diode Laser หรือเลเซอร์ไดโอด เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีคุณภาพสูง มีความยาวหลายช่วง ได้แก่ 800-810 นาโนเมตร (nm.) 940 นาโนเมตร (nm.) และ 1064-1350 นาโนเมตร (nm.) ซึ่งแต่ละความยาวคลื่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสีผิวของคนไข้แต่ละราย
Diode Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีความแม่นยำสูง มีประสิทธิภาพในการทำลายรากขนได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับผิวขาวถึงปานกลาง เส้นขนเข้ม นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการลดจุดด่างดำและฝ้า โดยช่วยลดเม็ดสีและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดปัญหาการเกิดตุ่มหนังไก่ ปัญหาขนคุดได้ - Whole Bikini Laser ด้วย IPL Laser : IPL Laser จริง ๆ ไม่ใช่เครื่องเลเซอร์ แต่เป็นการใช้ลำแสงเข้มข้นเพื่อกำจัดขน ทำให้เส้นขนมีสีอ่อน และบางลง เหมาะกับการใช้รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำมากกว่ากำจัดขน พลังงานไม่ลงลึกถึงรากขน ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล และไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำ เพราะอาจเกิดผิวไหม้ได้
- Whole Bikini Laser ด้วย Nd:YAG Laser : หรือ Yag เป็นเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่มีความยาวคลื่นสั้นและมีความแรงสูง โดยจะอยู่ที่ 1064 นาโนเมตร มีความสามารถในการจับกับเม็ดสีของเส้นขนที่มีสีเข้มได้ดีกว่าเครื่องเลเซอร์ขนชนิดอื่น ๆ เพราะพลังงานลงลึกไปในผิวหนัง 7 mm.
นอกจากจะช่วยกำจัดขนและเม็ดสีในขนแล้ว ยังช่วยรักษาเส้นเลือดขอด ลดเลือนจุดด่างดำหรือฝ้า ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ลดปัญหาตุ่มหนังไก่ ลดขนคุด และช่วยลบรอยสักได้ เหมาะกับคนเอเชียหรือคนที่มีผิวสีเข้มโดยเฉพาะ เพราะมีความเสี่ยงต่ำที่จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง มีผลข้างเคียงน้อย
เครื่องเลเซอร์แต่ละประเภทจะมีลักษณะที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสีของขนที่แตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจทำ Whole Bikini Laser หมอแนะนำให้คนไข้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อจะได้เลือกเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะสมกับผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
หลังเลเซอร์ Whole Bikini มีข้อควรรู้อะไรบ้าง ?
หลังเลเซอร์ Whole Bikini เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ควรให้ความสำคัญครับ ซึ่งมีหลายข้อควรรู้และปฏิบัติ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่
เลเซอร์ Whole Bikini ทำกี่ครั้งเห็นผล ?
การทำเลเซอร์ Whole Bikini เป็นกระบวนการที่ต้องทำซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรทำต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5-8 ครั้ง หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ พลังงานที่ใช้ และความหนาของเส้นขนแต่ละบุคคล
ทำไมถึงต้องทำเลเซอร์ขนหลายครั้ง ?
หมอต้องอธิบายอย่างนี้ครับว่า ขนแต่ละเส้นมีวัฏจักรการเติบโต 3 ระยะด้วยกัน ซึ่งเราจะเรียกว่า วงจรขน(Hair Growth Cycle) โดยจะมีระยะเติบโต (Anagen Phase) ระยะหยุดเติบโต และ ระยะเส้นขนหลุดร่วง (Telogen Phase) จากนั้นจะถูกแทนที่ด้วยเส้นขนใหม่ ซึ่งเลเซอร์กำจัดขนจะทำงานได้เฉพาะกับเส้นขนที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่จะต้องทำเลเซอร์หลายครั้งเพื่อเป้าหมายในการกำจัดขนอย่างมีประสิทธิภาพครับ
Whole Bikini Laser ครั้งถัดไปควรเว้นห่างจากครั้งแรกนานเท่าไร ?
การทำเลเซอร์บริเวณ Whole Bikini ครั้งถัดไป ควรเว้นระยะห่างจากครั้งแรกประมาณ 4-6 สัปดาห์ครับ ซึ่งระยะเวลานี้ขึ้นอยู่กับวัฏจักรการเติบโตของขนในแต่ละบุคคลและคำแนะนำของแพทย์
การเว้นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ขนที่อยู่ในช่วงเติบโตใหม่สามารถถูกกำจัดได้มากขึ้น และยังช่วยให้ผิวได้ฟื้นตัวจากการทำเลเซอร์ครั้งแรก ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวและลักษณะของขนของแต่ละบุคคลครับ
ข้อควรปฏิบัติ และการดูแลตัวเองหลังทำ Whole Bikini Laser
- หลังทำ 24 ชม. แรก อาจเกิดอาการแดงเล็กน้อย หรืออาจเกิดตุ่มแดงคล้ายยุงกัด แต่จะค่อย ๆ จางหายไปเอง
- กรณีรักแร้ งดการทาสารระงับกลิ่นเพื่อลดการระคายเคืองประมาณ 2-3 วัน
- แนะนำทามอยซ์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
- ควรทาครีมกันแดด และหลีกเลี่ยงแดดในบริเวณที่ทำอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หลังทำเลเซอร์อาจรู้สึกเจ็บหรือแสบเล็กน้อย สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้ แต่หากมีอาการแสบร้อนมากผิดปกติหรือมีตุ่มแดงพองบริเวณที่ทำควรรีบมาพบแพทย์
- งดกิจกรรมที่มีการใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า โยคะร้อน อบไอน้ำ อาบน้ำอุ่น เป็นเวลา 2-3 วัน
- งดสระว่ายน้ำ น้ำทะเล 5-7 วัน
- งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสม ของ AHA หรือ กรดผลไม้ หรือ whitening บริเวณที่ทำ 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่เหงื่อออกมาก ๆ 2-3 วัน เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง
- งดเกา หรือ ขัดสครับผิว บริเวณที่ทำ ในช่วงแรก 1 สัปดาห์
- สวมใส่เสื้อผ้าสบาย ไม่รัดแน่น
Whole Bikini Laser ที่ไหนดี ?
การเลือกคลินิกทำเลเซอร์ Whole Bikini ที่ไหนดี ? คนไข้ควรดูจากหลายปัจจัยประกอบกันครับ เช่น ชื่อเสียงของคลินิก, ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์, คุณภาพของเครื่องเลเซอร์ และรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ ต่อไปนี้คือคำแนะนำทั่วไปที่จะช่วยให้คนไข้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- คุณภาพของคลินิก : ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลไว้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนตามที่กฎหมายกำหนด มีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้ในการเข้ารับบริการ
- ประสบการณ์ของแพทย์ : ควรทำเลเซอร์กับแพทย์หรือนักกายภาพประจำคลินิกที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญในการใช้เครื่องเลเซอร์โดยเฉพาะ
- ประเภทของเลเซอร์ : ควรสอบถามว่าคลินิกนั้นใช้เลเซอร์ประเภทใด และควรเป็นเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ ผ่าน อย.ไทย และควรดูว่าคลินิกนั้นใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีความเหมาะสมกับสีผิวและสีของขนของเราหรือไม่
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ : อ่านรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการจากคลินิกนั้น ๆ ซึ่งควรเป็นรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีความเป็นกลาง โดยรีวิวนั้นเขียนโดยผู้ใช้บริการจริงและสามารถตรวจสอบได้
- การปรึกษาก่อนการทำเลเซอร์ : ควรมีการปรึกษากับนักกายภาพ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการ ผลลัพธ์ และการดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์
- พิจารณาเรื่องความสะดวกและงบประมาณ : พิจารณาคลินิกที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก และมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับงบประมาณของคนไข้เอง
- ปรึกษากับเพื่อนหรือครอบครัว : หากคนไข้รู้จักใครที่เคยทำเลเซอร์ Whole Bikini อาจขอคำแนะนำหรือฟังประสบการณ์จากคนรอบข้าง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
Q&A Whole Bikini
ทำเลเซอร์ Whole Bikini เจ็บไหม ? ต้องใช้ยาชาหรือไม่ ?
การทำเลเซอร์ Whole Bikini ระหว่างทำคนไข้อาจรู้สึกไม่สบายตัวหรือมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ โดยความรู้สึกเจ็บขณะทำเลเซอร์นั้นขึ้นอยู่กับระดับความไวต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล บางคนอาจรู้สึกเหมือนโดนยางดีด ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกเจ็บมากกว่านั้นเล็กน้อย
สำหรับใครที่กลัวเจ็บมากเกินไปไม่ต้องกังวลครับ เพราะคลินิกบางแห่งจะมีการทายาชาก่อนทำ เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวด นอกจากนี้การใช้เครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัยจะมีระบบระบายความร้อน จึงช่วยให้ขั้นตอนการทำเลเซอร์เป็นไปอย่างสบายมากขึ้น
ทำเลเซอร์ Whole Bikini ใช้เวลานานหรือไม่ ?
การทำเลเซอร์ Whole Bikini โดยทั่วไปใช้เวลาไม่นานมากครับ ประมาณ 30-45 นาที ต่อการทำแต่ละครั้ง ซึ่งระยะเวลาการทำอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความหนาแน่นของขน และประเภทของเครื่องเลเซอร์ที่ใช้
ทำเลเซอร์ Whole Bikini สามารถกำจัดขนได้ถาวรเลยไหม ?
การทำ Whole Bikini Laserช่วยกำจัดขนถาวรครับ โดยจะไปลดจำนวนขน และทำให้ขนบางลงอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากกว่าวิธีกำจัดขนอื่น ๆ
ทำเลเซอร์ Whole Bikini แล้วไปโกนหรือแว็กซ์ขน จะมีผลเสียไหม ?
หลังจากทำเลเซอร์ Whole Bikini แล้วไปโกนหรือแว็กซ์ขน สามารถส่งผลเสีย หมอไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะอาจทำให้ผิวที่อ่อนแอและบอบบางหลังจากทำเลเซอร์ได้รับการระคายเคืองมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบหรือการติดเชื้อได้ รวมถึงอาจไปกระตุ้นให้เส้นขนงอกใหม่ ซึ่งตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ของการทำเลเซอร์ที่ต้องการลดการงอกของขน
หากคนไข้ต้องการโกนหรือแว็กซ์ขนหลังการทำเลเซอร์ แนะนำให้รอจนกว่าผิวจะฟื้นตัวเต็มที่ (โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์) และควรปรึกษากับแพทย์ก่อนทำการโกนหรือแว็กซ์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการทำเลเซอร์ครับ
สรุป
การทำเลเซอร์ Whole Bikini เป็นวิธีลดหรือกำจัดขนในบริเวณบิกินีที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นการทำลายรากขนโดยตรง ช่วยลดจำนวนขนและทำให้ขนที่งอกขึ้นใหม่บางลง ให้ผลลัพธ์ยาวนานหลายเดือนหรือหลายปี เมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขนแบบอื่น
แม้ว่าการทำเลเซอร์อาจมีค่าใช้จ่ายสูงในตอนแรก แต่ก็สามารถช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการโกนหรือแว็กซ์ขนในระยะยาว ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาขนคุดตามมา แต่ก็ต้องเลือกประเภทของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสีขน ทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และคุ้มค่า คุ้มราคาครับ