หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม เกิดจากอะไร ? รู้สาเหตุ  อาการ และวิธีแก้ไขที่ปลอดภัย

Reading Time: 5 minutes
หายใจไม่สะดวก

หายใจไม่สะดวก ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

“หายใจไม่สะดวก ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่มันเป็นอาการที่ทำให้รู้สึกกังวล อึดอัด สมองล้า และใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่”

ภาวะหายใจติดขัด หายใจตื้น อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางคนเป็นแค่ชั่วคราว แต่บางคนอาจรู้สึกอึดอัดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามครับ ไม่ว่าจะเกิดจากโรคปอด โรคหัวใจ หรือแม้แต่ภาวะเครียดครับ

แล้วสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ? อาการหายใจไม่สะดวกแบบไหนที่ควรกังวล ? และมีวิธีแก้ไขอย่างไรที่ปลอดภัย ? บทความหมอจะมาให้คำตอบ พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขที่ปลอดภัยครับ

สรุป Key Takeaway

หายใจไม่สะดวก

  • หายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด คือ อาการที่รู้สึกว่าหายใจติดขัด หายใจเข้าไม่สุด หรืออากาศเข้าไม่พอ เกิดได้ทั้งจากความเครียด แพนิค หรือมาจากปัญหาทางร่างกาย
  • อาการที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ แน่นหน้าอก ตัวบวม เป็นลม ริมฝีปาก เล็บ หรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือเขียว ไม่สามารถพูดได้เป็นประโยค เพราะต้องหยุดหายใจบ่อย
  • หายใจไม่สะดวก ไม่ได้เกิดจากปัญหาของปอดหรือหัวใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากสมองของเราได้รับผลกระทบจากภาวะนี้โดยตรงด้วย
  • วิธีแก้อาการหายใจไม่สะดวก มีหลายวิธี แต่หากอ่อนล้า อ่อนเพลีย สมองตื้อ ง่วงนอนตลอดเวลา คิดอะไรไม่ออก การทำ IV Drip สามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

สารบัญ หายใจไม่สะดวก


หายใจไม่สะดวก คืออะไร ? ทำไมต้องใส่ใจอาการนี้

หายใจไม่สะดวก คืออะไร

หายใจไม่สะดวก (Dyspnea) คือ อาการที่รู้สึกว่าการหายใจเข้าออกไม่เป็นไปตามปกติ เช่น หายใจไม่อิ่ม หายใจเข้าไม่สุด หายใจสั้น รู้สึกเหมือนอากาศไม่เพียงพอหรือมีแรงกดทับบริเวณหน้าอก

อาการนี้สามารถเกิดขึ้นชั่วคราว เช่น เวลาที่ออกกำลังกายหนัก ๆ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนต่ำ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยหรือเป็นต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมครับ


หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม มีลักษณะอาการอะไรบ้าง ?

หายใจไม่สะดวก มีอาการอย่างไร

อาการหายใจไม่สะดวก ขึ้นอยู่กับสาเหตุต่าง ๆ บางคนอาจมีอาการเฉพาะเวลาที่ออกแรงมาก ๆ ขณะที่บางคนอาจเป็นแม้ในขณะพักผ่อน โดยอาการที่พบบ่อยของภาวะหายใจไม่สะดวกมีดังนี้ครับ

  • รู้สึกหายใจติดขัด เหมือนมีอะไรมากดทับที่หน้าอก
  • หายใจตื้นหรือสั้น ต้องออกแรงในการหายใจมากกว่าปกติ
  • มีความรู้สึกเหมือนอากาศที่หายใจเข้าไป ไม่เพียงพอ
  • หายใจเร็วผิดปกติ หรือรู้สึกเหมือนต้องหายใจแรงขึ้น
  • มีเสียงวี้ด (Wheezing) ขณะหายใจ หรือมีอาการไอร่วมด้วย
  • บางรายอาจมีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ หรือรู้สึกอ่อนเพลีย

สาเหตุของอาการหายใจไม่สะดวก เกิดจากอะไร ?

อาการหายใจไม่สะดวกหรือหายใจติดขัด เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ มีทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง เช่น

สาเหตุของอาการหายใจไม่สะดวกแบบเฉียบพลัน

  • การใช้ร่างกายหนัก ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อระบบควบคุมการหายใจและความดันโลหิต
  • ความเครียดและวิตกกังวล ทำให้เกิดภาวะหายใจเร็ว (Hyperventilation)
  • ภาวะโรคภูมิแพ้จากอากาศเปลี่ยนแปลง เป็นภูมิแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น ความชื้น ทำให้หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม
  • อยู่ในที่ที่มีออกซิเจนน้อย เช่น บนที่สูง หรือที่ที่มีอากาศร้อนจัด

สาเหตุของอาการหายใจไม่สะดวกแบบเรื้อรัง

  • โรคหัวใจ หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  • โรคปอด ถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบ วัณโรค
  • โรคโลหิตจาง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
  • ผลกระทบหลังการติดเชื้อโควิด-19
  • โรคกรดไหลย้อน (GERD) ส่งผลให้รู้สึกจุกคอและหายใจลำบาก
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มักพบในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน
VSqare Tips (VSQ Tips)

ข้อควรรู้ : หากคนไข้มีปัญหาการหายใจเป็นประจำ ควรสังเกตอาการร่วมด้วย และหากอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงครับ


เช็กด่วน! ระดับความรุนแรงของอาการหายใจไม่สะดวก คุณอยู่ระดับไหน ?

ระดับความรุนแรง หายใจไม่สะดวก

ระดับความรุนแรงของอาการหายใจไม่สะดวก ถูกกำหนดขึ้นเพื่อช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความรุนแรงของอาการและวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระดับความรุนแรงของ Dyspnea Scale มีดังนี้ครับ

  • ระดับ 0 : หายใจไม่สะดวกเฉพาะเวลาทำกิจกรรมหนักมาก เช่น วิ่งขึ้นบันไดหลายขั้น หรือออกกำลังกายหนัก
  • ระดับ 1 : หายใจไม่สะดวกเมื่อเดินเร็ว หรือเดินขึ้นเนินที่มีความชันปานกลาง
  • ระดับ 2 : เดินช้ากว่าคนในวัยเดียวกัน เพราะต้องหยุดพักเป็นระยะเนื่องจากหายใจไม่สะดวก
  • ระดับ 3 : เดินได้เพียง 90 เมตร หรือไม่กี่นาทีแล้วต้องหยุดพัก
  • ระดับ 4 : หายใจไม่สะดวกแม้จะอยู่เฉย ๆ หรือรู้สึกเหนื่อยหอบเมื่อต้องออกแรงเพียงเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนอิริยาบถ

การประเมินระดับ Dyspnea Scale นี้ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคและตัดสินใจเรื่องการรักษาได้แม่นยำมากขึ้น หากมีอาการอยู่ในระดับ 2 ขึ้นไป แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียดครับ


หายใจไม่สะดวก อันตรายไหม ? เสี่ยงอะไรบ้าง ?

หากคนไข้หายใจไม่สะดวกเฉพาะเวลาที่กำลังกายหนัก ทำกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ นั่งพักแล้วหาย อาการลักษณะนี้ถือว่าไม่อันตรายครับ

แต่หากออกแรงเพียงเล็กน้อยแล้วรู้สึกเหนื่อยเป็นระยะเวลานาน อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของสุขภาพ และหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้ครับ เช่น

  • เสี่ยงขาดออกซิเจนเรื้อรัง (Chronic Hypoxia) : ทำให้สมอง หัวใจ และอวัยวะสำคัญทำงานผิดปกติ
  • เสี่ยงภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) : เนื่องจากหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย
  • เสี่ยงโรคปอดเรื้อรัง (Chronic Respiratory Diseases) : เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือภาวะปอดแข็งตัว
  • เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA) : อาจนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง และเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • เสี่ยงหมดสติจากการหายใจมากเกิน (Hyperventilation) : ทำให้หายใจเร็วเกินไป หัวใจเต้นเร็ว เนื่องจากคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดต่ำลงจนเกิดอาการชา เวียนศีรษะ และหมดสติได้
  • เสี่ยงต่อการเสียชีวิตฉับพลัน : หากเกิดจากภาวะปอดล้มเหลว หรือหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

หายใจไม่สะดวก เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์ ?

  • หายใจลำบากแม้ไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก
  • ไม่สามารถพูดได้เป็นประโยค เพราะต้องหยุดหายใจบ่อย
  • หายใจมีเสียง หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรขวางในลำคอ
  • มีอาการร่วม เช่น แน่นหน้าอก ตัวบวม เป็นลม
  • ออกซิเจนในเลือดต่ำ (ต่ำกว่า 94% SpO2)
  • ริมฝีปาก เล็บ หรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือเขียว
  • สับสน มึนงง หรือหมดสติ

รู้หรือไม่ ? หายใจไม่สะดวก เกี่ยวข้องกับสมองและระบบประสาทด้วยนะ!

หายใจไม่สะดวก อาการ

หลายคนอาจคิดว่าอาการหายใจไม่สะดวก เป็นเพียงปัญหาของปอดหรือหัวใจ แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วสมองของเราก็ได้รับผลกระทบจากภาวะนี้โดยตรงด้วยครับ

ทำไมการหายใจไม่สะดวกถึงกระทบต่อสมอง ?

สมองเป็นอวัยวะที่ต้องการออกซิเจนมากที่สุดในร่างกาย! กว่า 20% ของออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปถูกใช้โดยสมอง เพื่อให้ระบบประสาททำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าหากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจากการหายใจติดขัด อาจส่งผลต่อสมองโดยตรง เช่น

  • สมองล้า หมดพลังงาน → ออกซิเจนในเลือดต่ำ ทำให้สมองคิดช้า ประมวลผลข้อมูลไม่ดี
  • เวียนศีรษะ มึนงง → การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง ทำให้รู้สึกเหมือน “Brain Fog”
  • โฟกัสไม่ได้ ขี้ลืมง่าย → เซลล์สมองขาดออกซิเจน ทำให้สมาธิสั้นลง
  • เสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมในระยะยาว → ถ้าออกซิเจนไปเลี้ยงสมองต่ำเป็นเวลานาน

วิธีแก้อาการหายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม มีอะไรบ้าง ?

หากคนไข้มีอาการหายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด หรือรู้สึกเหมือนอากาศเข้าไม่เต็มปอด อย่าปล่อยไว้นาน! เพราะอาการนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้ ซึ่งวิธีแก้หมอแนะนำดังนี้ครับ

1. ฝึกเทคนิคการหายใจให้ถูกต้อง

การฝึกหายใจ จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ แก้ปัญหาภาวะหายใจติดขัด การทำงานของปอดดีขึ้น ซึ่งเทคนิคการหายใจสามารถทำตามคำแนะนำได้ดังนี้ครับ

  • นั่งหรือนอนราบให้สบาย
  • วางมือหนึ่งไว้ที่หน้าอก อีกมือไว้ที่หน้าท้อง
  • หายใจเข้าลึก ๆ ทางจมูก ให้หน้าท้องขยายออก (หน้าอกควรขยับน้อยที่สุด)
  • ค่อย ๆ หายใจออกช้า ๆ ผ่านปาก ทำซ้ำ 5-10 นาทีต่อวัน

2. ปรับท่านอน เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

อาการหายใจไม่สะดวก มักแย่ลงตอนนอน โดยเฉพาะถ้าคนไข้มีภาวะกรดไหลย้อนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ สำหรับท่านอนที่ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น หมอแนะนำตามนี้ครับ

  • นอนตะแคง ช่วยให้ปอดขยายตัวได้เต็มที่
  • ใช้หมอนรองศีรษะให้สูงขึ้น ลดแรงกดทับที่ปอด
  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เพราะอาจกดทับทางเดินหายใจ

3. ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

อากาศที่มีฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ หรือความชื้นต่ำ อาจทำให้หายใจลำบากขึ้น ซึ่งวิธีทำให้สภาพแวดล้อมช่วยให้หายใจโล่งขึ้น มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  • ใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อลดฝุ่นละอองและมลพิษ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีควันบุหรี่ หรือกลิ่นสารเคมีแรง ๆ
  • ใช้เครื่องทำความชื้น (Humidifier) ช่วยให้ทางเดินหายใจไม่แห้ง

4. ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงของปอด

ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานดีขึ้น ลดภาวะหายใจไม่สะดวก หายใจลำบาก วิธีออกกำลังกายที่แนะนำ เช่น

  • คาร์ดิโอเบา ๆ เช่น เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ → ช่วยเพิ่มความจุของปอด
  • โยคะและการฝึกหายใจ → กระตุ้นการหายใจลึก ลดอาการแน่นหน้าอก
  • เวทเทรนนิ่งเบา ๆ → กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและการเผาผลาญ

5. ทำ IV Drip เพื่อฟื้นฟูระบบประสาท ลดอาการสมองล้า

IV Drip สูตร Brain Flow No Brain Fog

หากคนไข้มีอาการหายใจไม่สะดวก อ่อนล้า อ่อนเพลีย สมองตื้อ ง่วงนอนตลอดเวลา คิดอะไรไม่ออก นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือระบบประสาททำงานหนักเกินไปครับ

ซึ่งการทำ IV Drip เป็นวิธีที่สามารถช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ครับ เพราะเป็นการนำสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นมาฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเต็มที่

สำหรับสูตร IV Drip Vitamin ยอดนิยม คือ Brain Flow No Brain Fog ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ทำให้สมองสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น เพิ่มความสดชื่น มีสมาธิที่ดีขึ้น เหมาะกับคนที่เน้นป้องกันไม่ให้เกิดอาการหายใจไม่สะดวก หรือรู้สึกสมองล้าจากภาวะ Brain Fog บ่อยครับ


IV Drip “Brain Flow No Brain Fog” ช่วยลดปัญหาหายใจไม่สะดวกได้อย่างไร ?

IV Drip สูตร Brain Flow No Brain Fog

“Brain Flow No Brain Fog” เป็น IV Drip สูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงสมอง เสริมสมาธิ และลดอาการสมองล้า (Brain Fog) โดยช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังสมองดีขึ้น เพื่อให้สมองทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้หรือการประมวลผล ลดอาการหายใจไม่สะดวก เพิ่มความสดชื่นให้กับสมอง และช่วยให้มีสมาธิที่ดีขึ้นครับ

ส่วนประกอบสำคัญ และคุณประโยชน์

  • Peptide → ช่วยฟื้นฟูระบบประสาท เพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณของสมอง ช่วยให้คิดไวขึ้น
  • Vitamin B Complex → เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • Vitamin B1 (Thiamine) → เพิ่มพลังงานให้สมอง ลดความเหนื่อยล้าทางจิตใจ
  • Vitamin B12 → ช่วยลดความเครียด บำรุงเซลล์สมองให้แข็งแรง
  • Antioxidant → ลดความเสื่อมของเซลล์สมอง และป้องกันภาวะสมองเสื่อม

IV Drip สูตร Brain Flow No Brain Fog เหมาะกับใคร ?

  • คนที่รู้สึกเหนื่อยล้าทางสมอง สมาธิสั้น คิดอะไรไม่ออก หรือรู้สึกว่าไม่สามารถโฟกัสได้
  • คนที่มีอาการ Brain Fog หรือสมองตื้อ จากความเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • คนที่มีอาการเบลอ คิดช้า หลงลืมง่าย
  • คนที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และความจำ
  • คนที่มีภาวะออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จากภาวะเครียดหรือปัญหาหายใจไม่สะดวก
  • คนที่ต้องการตัวช่วยเพิ่มสมาธิ เช่น สำหรับการทำงาน การเรียน หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดและสมาธิ

*หมายเหตุ : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งครรภ์


ทำ IV Drip ที่ไหนดี ? แชร์วิธีเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย

ทำ IV Drip ที่ไหนดี(1)
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข
  • ควรทำโดยแพทย์หรือพยาบาลวิชาชีพที่ผ่านการฝึกอบรม เพราะ IV Drip เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยผู้มีความรู้ความสามารถ
  • สถานที่ต้องสะอาด ปลอดเชื้อ และมีอุปกรณ์ครบครัน มีการใช้เข็มและอุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียว (Sterile Equipment)
  • สูตร IV Drip ต้องปลอดภัย ไม่มีสารเจือปน หรือส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้
  • ควรมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น การวัดความดันโลหิต หรือการสอบถามประวัติการแพ้ยา
  • ควรอ่านรีวิวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น Google Reviews, Facebook หรือ Pantip ต้องมีรีวิวดี และไม่มีประวัติเสียเกี่ยวกับคุณภาพของ IV Drip

ข้อควรระวัง ก่อนตัดสินใจทำ IV Drip

❌ อย่าทำ IV Drip กับคลินิกเถื่อน หรือบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาต
❌ อย่าฉีดสารที่ไม่มีการรับรองความปลอดภัย
❌ หลีกเลี่ยง IV Drip ที่มีสารออกฤทธิ์แรงโดยไม่มีแพทย์ดูแล

ทำ IV Drip ที่ V Square Wellness ดีอย่างไร ?

ทำ IV Drip ที่ไหนดี

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีป้องกันและบรรเทาอาการหายใจไม่สะดวก สมองล้า ต้องการฟื้นฟูร่างกายแบบเร่งด่วน และได้ผลลัพธ์ชัดเจน

V Square Wellness เราให้บริการดริปวิตามินโดยแพทย์ ผสานกับโปรแกรม Wellness ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลสุขภาพในทุกมิติที่เน้นการป้องกันมากกว่ารักษาครับ

  • ซักประวัติสุขภาพ

ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาพ (Lifestyle & Nutritional Consultations) เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงจากภายใน ทุกขั้นตอนดำเนินการโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต

  • ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพที่ยังไม่เป็นโรค

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ยังไม่มีภาวะรุนแรง เช่น อาการอ่อนเพลีย สมองล้า ระบบเผาผลาญผิดปกติ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

  • ตรวจสุขภาพเบื้องต้น

ช่วยประเมินภาวะสุขภาพโดยรวม บริการแบบ 1:1 Consultation ให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เพื่อตรวจหาปัจจัยเสี่ยงของโรคและหาแนวทางป้องกัน

  • วางแผนและรับประทานวิตามินเฉพาะบุคคล (Personalized Vitamin Supplements)

ออกแบบวิตามินตามความต้องการเฉพาะบุคคล มีสูตรดริปวิตามินผิวหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะบุคคล เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย

  • ให้วิตามินทางเส้นเลือด (Vitamin IV Drip)

ใช้วิตามินและสารอาหารเกรดพรีเมียม ผ่านการรับรองจาก อย. ไร้สารอันตราย ช่วยเติมสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นให้ร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  • ให้การดูแลแบบ VIP ใส่ใจทุกรายละเอียด

มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดการรับบริการภายในห้อง Private Room สะดวก สะอาด และผ่อนคลาย เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด One-Stop Service ครบจบในที่เดียว

โปรแกรมตรวจสุขภาพ V Square Wellness

โปรแกรมทำ IV Drip ราคาเท่าไหร่ ?

โปรแกรมทำ IV Drip ราคาจะต่างกันไปในแต่ละสูตรครับ ที่ V Square Wellness ทำ IV Drip ราคาจะเริ่มต้นที่ 1,500.-

IV Drip ราคาเท่าไหร่(1)
IV Drip ราคาเท่าไหร่

คำถามที่พบบ่อย

หายใจไม่สะดวกตอนนอน เกิดจากอะไร ?

หากคนไข้มีอาการหายใจติดขัดขณะนอนหลับ อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้

  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) → มักมีอาการกรนและสะดุ้งตื่นบ่อย
  • กรดไหลย้อน (GERD) → ทำให้รู้สึกแน่นหน้าอกหรือมีเสมหะตอนกลางคืน
  • หัวใจล้มเหลว (Heart Failure) → มีอาการบวมที่ขาและเหนื่อยง่าย

วิธีแก้ไข ให้นอนตะแคงแทนการนอนหงาย ใช้หมอนรองศีรษะให้สูงขึ้น และหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักก่อนนอนครับ

หายใจไม่สะดวกกับโรคแพนิค (Panic Attack) ต่างกันอย่างไร ?

  • หายใจไม่สะดวกจากโรคแพนิค (Panic Attack) มักเกิดแบบเฉียบพลัน มีอาการ ใจสั่น, มือเท้าชา, เวียนหัว ร่วมด้วย เกิดจาก ความเครียดหรือภาวะวิตกกังวล
  • หายใจไม่สะดวกจากสาเหตุทางร่างกาย มักมีอาการเรื้อรัง เช่น เหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงหวีด หรือเจ็บหน้าอก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ โรคปอด, โรคหัวใจ หรือภาวะโลหิตจาง

หายใจไม่สะดวกตอนออกกำลังกาย ถือว่าอันตรายไหม ?

หากเป็นแค่เหนื่อยจากการออกกำลังกายปกติ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่อันตรายครับ แต่ถ้ามีอาการแน่นหน้าอก เวียนหัว หรือเป็นลม อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะหัวใจหรือโรคปอดได้ครับ

หายใจไม่สะดวกตอนเช้า เกิดจากอะไร ?

อาจเกิดจาก ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หรืออากาศเย็นจัด ทำให้หลอดลมหดตัว

หายใจไม่สะดวกแต่ไม่มีอาการอื่น อันตรายไหม ?

หากเป็นชั่วคราว ไม่อันตรายครับ อาจเกิดจากการใช้กำลังมาก ความเครียดหรืออากาศเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเป็นเรื้อรังควรพบแพทย์

หายใจไม่สะดวกเวลาขึ้นที่สูง เช่น บนดอยหรือเครื่องบิน เกิดจากอะไร ?

หายใจไม่สะดวกบนที่สูง เกิดจากออกซิเจนในอากาศเบาบาง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง หรือคนที่ไม่คุ้นชินกับที่สูง อาจมีอาการแพ้ความสูง (Altitude Sickness) ทำให้หายใจเร็วขึ้น วิงเวียนศีรษะ และอ่อนเพลีย ควรปรับตัวให้ช้า ๆ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และหายใจลึก ๆ

แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น ปวดหัวหนัก อาเจียน หรือสับสน อาจเป็นสัญญาณของภาวะสมองบวมจากที่สูง (High Altitude Cerebral Edema – HACE) ควรรีบลงสู่ระดับที่ต่ำลงทันที

IV Drip ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นได้จริงไหม ?

การทำ IV Drip สูตร Brain Flow No Brain Fog สามารถช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นได้จริงครับ โดยจะไปเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนในเลือด ลดอาการสมองล้า และช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะออกซิเจนต่ำ


สรุป หายใจไม่สะดวก = สมองทำงานช้าลง!

หากคนไข้รู้สึกว่า โฟกัสไม่ดี คิดช้า สมองล้า มึนหัวง่าย ลองเช็กดูครับว่ามีปัญหาการหายใจไม่สะดวกหรือไม่ ?

หากต้องการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ การทำ IV Drip “Brain Flow No Brain Fog” สามารถช่วยลดอาการสมองล้า การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น กลับมา คิดเร็ว คิดไว สมองโล่ง ไม่มี Brain Fog!

อย่าปล่อยให้การหายใจไม่สะดวก หายใจติดขัดทำให้สมองเฉื่อยชา ลองปรับวิธีดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ หรือสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ V Square Wellness เพื่อตรวจสอบระดับวิตามิน และหาแนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอาการหายใจไม่สะดวกในระยะยาวครับ


อ้างอิง


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
ปรึกษาหมอ
บทความแนะนำ

รู้จัก HarmonyCa นวัตกรรมฟิลเลอร์ใหม่ คืนความอ่อนเยาว์ กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวจากภายใน

Reading Time: 3 minutes- HarmonyCa คืออะไร ? - จุดเด่นของ HarmonyCa ที่ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป - รวมประโยชน์ของ HarmonyCa ทั้งในระยะสั้นและยาว - HarmonyCa ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? - HarmonyCa เหมาะกับใครบ้าง ใครบ้างที่ควรใช้ ?

Jawline ผู้ชาย ควรเป็นแบบไหน ? รวมวิธีสร้างกรอบหน้า ให้เห...

Reading Time: 4 minutes- ลักษณะของ jawline ผู้ชายที่ได้รับความนิยม เป็นแบบใด ? - Jawline ผู้ชาย VS Jawline ผู้หญิง แตกต่างกันอย่างไร ? - Jawline ไม่ชัด เกิดจากอะไร ? - 10 วิธีสร้าง jawline ผู้ชาย ให้คมชัดแบบเร่งด่วน

หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น อาการแบบไหนอันตราย ? ฟื้นฟูร่างกายแล...

Reading Time: 5 minutes- หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น คืออะไร ? ทำไมต้องใส่ใจอาการนี้ ? - หัวใจของเราทำงานอย่างไร ? อัตราการเต้นของหัวใจ โดยทั่วไปเป็นแบบไหน ? - สาเหตุของอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น - หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น มีอาการอะไรบ้าง? - อาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น แบบไหนที่ควรพบแพทย์ ?

ง่วงนอนตลอดเวลา สมองล้า (Brain Fog) อ่อนเพลีย รับมืออย่าง...

Reading Time: 5 minutes- ง่วงนอนตลอดเวลาเกิดจากสาเหตุใด ผิดปกติหรือไม่ ? - รวมรายละเอียดสาเหตุอาการง่วงนอนตลอดเวลาที่พบได้บ่อย ๆ - ง่วงนอนตลอดเวลา อันตรายไหม ผิดปกติหรือไม่ ?

อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร ? รวมวิธีบูสต์พล...

Reading Time: 3 minutes- 10 สาเหตุของอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย - ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ V Square Wellness - บูสต์พลัง บำรุงสมอง เสริมความจำ ด้วย Vitamin IV Drip - IV Drip สูตร Brain Flow No Brain Fog - เปปไทด์ และวิตามินบี สำคัญต่อร่างกายอย่างไร ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า